Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 13 ผู้รอดชีวิต

ผมและอริสที่เลเวลอัพมาเป็นเลเวล4ด้วยกันแล้ว ทำการรักษาบาดแผลของอริสก่อนเป็นอันดับแรก  บาดแผลที่ไหล่นั้น ต้องใช้เวทรักษา3ครั้งจึงจะหายไปอย่างสมบูรณ์  จากนั้นก็ทำการสอดส่องบริเวณรอบๆอย่างระมัดระวัง พลางเข้าตรวจค้นห้องของชั้น2ทีละห้อง  มีกลิ่นเน่าเหม็นที่แตกต่างไปจากปกติ โชยออกมาจากห้องหนึ่งที่ประตูห้องเปิดอยู่  เป็นกลิ่นตัวและกลิ่นแยมขาวของออร์คที่ผสมกันอยู่น่ะ  ผมบอกให้อริสที่มีทีท่าลังเลรออยู่ข้างนอก ส่วนตัวเองชะเง้อมองเข้าไปข้างใน  แล้วก็พบกับ เด็กสาว3คนที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่านอนกองอยู่ โดยมีแยมขาวเคลือบอยู่  มือของเด็กสาวคนหนึ่งใน3คนนั่นกระตุก เปลือกตาที่อยู่ภายใต้เส้นผมหน้าอันยุ่งเหยิงก็ยังคงลืมอยู่ 「ยังมีชีวิตอยู่! มีคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่!」  เมื่อได้ยินเสียงของผม อริสก็รีบวิ่งเข้ามาในห้อง  ขยับเข้าไปหาหญิงสาวที่ยังมีชีวิตอยู่ ประคองตัวขึ้นมา เมื่อพบว่ายังมีการตอบสนองอยู่ก็รู้สึกสบายใจ……  หลังจากที่อริสปัดผมของเธอออก ผมก็เพิ่งจะรู้สึก 「ชิคิซัง……งั้นเหรอ」 「คายะ……คุง?」  ชิคิ ยูคาริโกะ  หญิงสาวที่อยู่ในคลาสเดียวกับผม รองหัวหน้าห้องน่ะ  ความรู้สึกของผมที่มีต่อนักเรียนส่วนใหญ่ในระดับมัธยมปลายก็คือ ตายๆไปซะได้ก็ดีไอ้พวกสวะ  ความรู้สึกที่มีต่อเธอ ก็เหมือนกัน จนถึงเมื่อกี้นะ  เธอไม่ได้เข้าร่วมการกลั่นแกล้งผม  แต่ว่า เรื่องที่เธอเพียงยืนดูเฉยๆก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้  ยังไงๆ หากไปขัดขืนเจ้านั่นล่ะก็ สุดท้ายแล้วก็ต้องตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกับผมไม่ผิดแน่นอน  เพราะแบบนั้นแหละ เธอจึงมีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่ยื่นมือเข้ามา  เธอเพียงแค่อยู่เงียบๆ มองมาด้วยสายตาเย็นชาว่าอย่าเข้ามาใกล้นะไอ้กับระเบิดเท่านั้นเอง  ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้ผมเกลียดชังเธอจริงมั้ย 「เหรอ ชั้น ถูกคายะคุงช่วยเอาไว้งั้นเหรอ」 「คำขอบคุณน่ะเอาไว้ให้อริสเถอะ ที่ผมจะเข้ามาจัดการที่นี่ก็เป็นเพราะคำขอร้องของเธอ อีกอย่าง……」 「เดี๋ยวสิ คาซึซัง!」  อริส หันขวับมามองผม 「อะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!」 「อ๊ะ งั้นเหรอ」  อาจจะเป็นเพราะภาพอันน่าสยดสยองทำให้ความรู้สึกของผมถูกกดทับเอาไว้ก็เป็นได้  ผมเพิ่งจะหันสายตาออกไปจากร่างเปลือยเปล่าของคลาสเมทตอนนี้เอง  อ้า เธอ อปไปใหญ่จริงน๊า อยากซบจังเลยน๊า พอรู้สึกตัวผมก็หันมาคิดอะไรหื่นๆซะแล้ว 「ไปดูห้องอื่นนะ」  หันหลังกลับ พูดทิ้งไว้ แล้วออกไปจากห้อง  ในตอนนั้นผมก็มองเห็นป้ายชื่อหน้าห้อง มันเขียนว่า ชมรมชงชา  อย่างนี้นี่เอง เธอเป็นสมาชิกชมรมชงชาอย่างนั้นสินะ  จะว่าไป ผมก็จำได้ว่าเธอบอกว่าจะไปทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกชมรมชงชาด้วยนี่นะ  อาคารมัธยมปลายไม่มีห้องที่กว้างพอสำหรับทำกิจกรรมชงชา ดังนั้นทุกๆครั้งจึงต้องมาทำกิจกรรมชมรมที่อาคารมัธยมต้น  ถ้างั้นอีก2คนที่ไม่ขยับแล้วคือ สมาชิกของชมรมชงชาอย่างนั้นเหรอ  เอาเถอะ มารู้เอาตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ……  วิธีการต่อจากเมื่อกี้เลย ให้Puppet・Golemเดินนำหน้าในการออกสำรวจ  ที่ห้องอื่นๆนั้น พบศพนักเรียนมัธยมต้นชายหญิง2ศพ  หัวแบะออกเพราะโดนดาบฟัน  ดูท่าแล้วคงจะหนีจากข้างนอกเข้ามายังอาคารเรียนศิลปะนี่ เพราะทั้งคู่ยังใส่รองเท้าอยู่เลย  คงจะหนีเข้ามาจนเจอทางตัน ไปต่อไม่ได้ล่ะมั้งนะ  คนหนึ่ง น่าจะพยายามเปิดหน้าต่างอยู่ เพราะมือยังถือกุญแจหน้าต่างเอาไว้อยู่เลย  ผมไปเปิดหน้าต่างออก สานต่อความตั้งใจของเขา  อากาศสดชื่น ลมเย็นเล็กน้อยพัดโชยเข้ามา  ใกล้จะค่ำแล้ว  ต้องรีบ ก่อนที่พระอาทิตย์จะลับสายตาไปโดยสมบูรณ์ จะต้องจบเรื่องที่ต้องทำให้ได้  ผมเดินผ่านเฉลียง วนไปยังห้องคนละฝั่งกับที่พวกอริสอยู่  มีประตูบานหนึ่งที่ถูกปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา บันไดไปสู่ชั้น3 น่าจะอยู่ที่ปลายทางนี้  ผมลองบิดๆกุญแจดู ดูเหมือนว่าจะถูกล็อคเอาไว้ 「ตามข้อมูลเลยสินะ」  พอผมพึมพำคนเดียวจบ ก็ได้ยินสียงจากอีกฟากหนึ่ง 「โอ้ย มีใครอยู่งั้นเหรอ?」  ผมตกใจ รีบสงบสติใช้ความคิด  ออร์คงั้นเหรอ  ไม่สิ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ออร์คไม่มีทางทำเรื่องยุ่งยากอย่างการปิดประตูที่เปิดออกครั้งหนึ่งแล้วหรอก  ก็หมายความว่า 「ผู้รอดชีวิตเหรอ? ที่นี่ไม่มีพวกออร์คเหลือแล้ว จัดการไปหมดแล้วล่ะ ที่นี่น่ะ ปลอดภัยแล้ว」 「จริง……เหรอคะ」  เสียงสั่นเครือของหญิงสาวตอบกลับมา  ผมคิดว่าจะอธิบายความเป็นมาอยู่ แต่มันยาวไป「เจอเรื่องราวต่างๆเยอะแยะน่ะ ผมมาที่นี่กับเด็กที่ชื่อชิโมโซโนะ อะริสึ เพื่อช่วยเหลือคนๆหนึ่งน่ะ」จึงอธิบายไปแค่นี้ 「อริส!」  เสียงจากอีกฟากของประตูดังขึ้นมา 「อริสปลอดภัยดีเหรอ?」 「อะ อ้า ตอนนี้กำลังช่วยพยาบาลคนเจ็บอยู่ที่ด้านนู้นน่ะ……อ่ะ」  จะว่าไปอริสบอกว่าอยากกลับมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนสนิทนี่นา ใช่มั้ย  หญิงสาวที่ยอมเป็นเหยื่อล่อเพื่อช่วยเหลืออริส ทำไมถึงมาอยู่อีกฟากของประตูผมไม่รู้หรอกแต่ว่า…… 「ทามากิ……ซัง?」 「อื้ม ใช่แล้ว! ค่อยยังชั่ว อริสปลอดภัยสินะ!」  เสียงก๊อกแก๊กๆดังขึ้นมาจากลูกบิดประตู แต่ยังเปิดไม่ออก  ผมอาสัยจังหวะนี้ สั่งให้Puppet・Golemถอยไปหลบก่อน จะให้อธิบายมันยุ่งยากน่ะ ถ้าถูกกลัวก็ลำบากอีก 「อ๊าーอะไรเนี่ยー、ฮึ่ย、ฮึ่ย」  ใช้แรงเข้าว่าแบบนั้น ผมว่าประตูคงไม่เปิดให้หรอก  เด็กสาวอีกฟากของประตูนี่ ดูท่าจะเป็นคนเลือดร้อนพอตัวนะ เธอใช้แรงกับลูกบิดประตู จนในที่สุดก็เปิดออกมาได้สำเร็จ  เด็กสาวผมทองทรงทวินเทลโผออกมา  หัวของเธอชนเข้าที่ท้องของผม  ผมร้องเสียงหลงราวกับกบที่ถูกเหยียบขยี้ เจ็บปวด 「อ๊ะ、ขะ、ขอโทษค่ะ!」  เธอเงยหน้าขึ้นมา รีบโค้งตัวขอโทษผม  อายุเท่าๆกับอริส แต่ทางด้านอปไปที่พองตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนั้น ผมว่าเธอใหญ่กว่าอริสอยู่นิดหน่อย  ดวงตาสีจางดูลึกลับราวก้นทะเลลึก  จมูกที่มีปลายแหลมคมตั้งโด่ง กับผิวสีขาวบริสุทธิ์  อย่างกับพวกยุโรปแน่ะ  เอーโต ผมทองตาสีฟ้า? ดูยังไงก็ไม่ใช่คนญี่ปุ่น  ผมติดสตันท์ 「เธอคือ……ทามากิซัง?」 「อื้ม ใช่แล้ว อ๊ะ สนใจ หน้าตาของชั้นเหรอ? ไม่เคยเห็นเหรอ? ชั้นเป็นเด็กที่เค้าขอมาเลี้ยงน่ะ」  เด็กที่ขอมาเลี้ยง เธอเองก็เจออะไรๆมาเยอะสินะ รู้สึกว่าผมจะลุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่สมควรซะแล้วสิ 「แล้วก็ เรียกห้วนๆเลยก็ได้! เพื่อนของอริสก็เหมือนเพื่อนของชั้นนั่นแหละ!」  ไม่ได้เป็นเพื่อนกับอริสซะหน่อย อยากจะค้านกลับไปเหมือนกัน แต่ช่างมันเถอะ  ไม่ว่ายังไง ความสัมพันธ์ของอริสกับผมก็คือเพื่อนพ้องที่มีเป้าหมายเดียวกันอยู่แล้ว  ไม่สิ เพื่อนพ้องจริงๆ เรียกแบบนี้อาจจะดีกว่าก็ได้……  เมื่อใดก็ตามที่สามารถช่วยเหลือเพื่อนสนิทได้แล้ว วัตถุประสงค์ในการต่อสู้ของอริสก็จะหมดไป  ผมแนะนำตัวเอง และบอกให้เธอเรียกผมว่า「คาซึ」ก็ได้ 「อริสเองก็เรียกแบบนั้นเหมือนกันล่ะนะ」 「เข้าใจแล้ว คาซึซัง!」  ทามากิพูด「ฝากตัวด้วยนะ」พร้อมยิ้มหวานมาให้  ผมทวินเทลนั้น สั่นไปมาราวกับรวงข้าวในฤดูใบไม้ร่วง เป็นเด็กที่เจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์เลยน๊า ผมคิดในใจ  เจิดจ้าเกินไปจนผมเผลอหลบสายตาเลย 「อ๊ะ แล้ว อริสล่ะ?」 「เธออยู่ ทางโน้น……」  ผมชี้ไปที่ฝั่งตรงข้าม 「แต่ว่า ตอนนี้ช่วยรอก่อนได้รึเปล่า」 「ทำไมล่ะ?」 「คือ……เธอกำลังเยียวยาคนเจ็บอยู่น่ะ」  คนเจ็บ เมื่อได้ยินำคำนี้ ทามากิก็สะดุ้ง หน้าเปลี่ยนสี  แน่นอนอยู่แล้วล่ะ เธอน่ะ ซ่อนตัวอยู่ที่ฟากโน้นของประตูตลอดมา  มีอะไรเกิดขึ้นที่ชั้น2บ้าง แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอรู้ดี  ถึงอย่างนั้นเธอก็กลั้นใจซ่อนตัวอยู่เรื่อยมา  นั่นถือเป็นการกระทำที่ฉลาดมาก แต่ว่า ความฉลาดกับคุณธรรมใช่ว่าจะไปด้วยกันเสมอไป  คิดว่า ต้องอาศัยเวลาเท่านั้นแหละที่พอจะเยียวยาหัวใจเธอได้ 「อ๊ะ จริงสิ ต้องไปบอกให้คนอื่นรู้ด้วย」 「คนอื่น? ข้างบน ยังมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่อีกเหรอ」 「อื้ม ทุกคนซ่อนตัวกันอยู่เงียบๆน่ะ」  อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้น……  ผมบอกให้ทามากิไปเรียกทุกคนมาส่วนตัวเองจะไปด้านหลัง ในตอนนั้นเอง  เสียงคำรามดังสนั่น จนอาคารเรียนศิลปะทั้งหลังสั่นไหวก็ดังขึ้น  เสียงนั้นดังมาจากทางล็อบบี้ ทามากิตกใจจนขาพันกันล้มลงไปอย่างสวยงาม  อ๊ะ เห็นกกน.ด้วยล่ะ สีดำแหละ ผิดกฎโรงเรียนนะเนี่ย  เดี๋ยวๆ มันใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ที่ไหนเล่า  ตั้งสติดีๆ  เสียงคำราม เสียงของศัตรูที่ดุร้าย สัญชาตญาณของผมบอกอย่างนั้น 「ทามากิ ปิดประตูอีกครั้ง ซ่อนตัวไว้นะ」  ผมใช้น้ำเสียงที่ดุดันเป็นเชิงออกคำสั่ง 「อะ อื้ม แต่ว่า」 「ผมกับอริสจะทำอะไรสักอย่างเอง จนกว่าผมจะบอกว่าโอเค ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด」 「ขะ เข้าใจแล้ว!」  ผมหันหลังเดินแยกออกมาจากทามากิ  เสียงทามากิรีบปิดประตูดังขึ้น  เพื่อไม่ให้คนที่รอดชีวิตอยู่หวาดกลัว ผมพาPuppet・Golemที่สั่งให้ซ่อนตัวไว้ก่อน ไปยังเฉลียงด้วยกัน  ที่ฝั่งตรงข้ามของเฉลียง เห็นอริสพุ่งตัวออกมาพอดี  สบสายตากับเธอ พยักหน้าให้กัน  ผมชะโงกหัวออกไปนอกเฉลียง เพื่อมองดูด้านล่าง  สบสายตากับออร์คที่แหงนหน้ามองขึ้นมาพอดี  ดวงตาสีแดงชั่วร้ายมองมาทางผมราวกับจะส่องให้ทะลุ  เป็นออร์คที่มีผิวหนังสีทองสัมฤทธิ์  ถือขวานที่มีขนาดใหญ่กว่าตัว ทั้งๆที่ร่างกายก็ใหญ่กว่าออร์คตัวอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน  หรือว่าจะเป็น ตัวที่เรียกว่าElite・Orcงั้นเหรอ  ผมใช้ความคิด  ชนะไม่ได้ ตัดสินลงไปตรงนั้นเลย  นั่นมันตัวที่อยู่นอกเกณฑ์แล้ว  บางทีอาจจะเป็นลีดเดอร์ของฝูง  แถมยังมีออร์คลูกกระจ๊อกอีก6ตัว  จะไปสู้กับกลุ่มที่มีกำลังรบขนาดนั้น ด้วยตัวผมและอริสในตอนนี้มันก็……  Elite・Orcออกคำสั่ง ให้ออร์คขึ้นบันไดมา  บันได1อันต่อ2ตัว รวมทั้งหมดเป็น4ตัว  ผมรีบออกคำสั่งให้Puppet・Golem2ตัวไปเตรียมพร้อมที่ด้านบนบันไดฝั่งนี้ในทันที  อีกฝั่งหนึ่ง อริสที่ถือหอกไว้ในมือ ก็ตั้งท่าเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว  การต่อสู้ที่ชั้นบนของบันได เริ่มต้นขึ้นในเวลาเดียวกัน  เพราะว่าบันไดมันแคบ Puppet・Golemจึงสามารถต่อสู้กับออร์คได้แบบ2ต่อ1  สมรรถภาพของPuppet・Golemตัวเดียวนั้น แม้จะได้รับเวทซัพพอร์ทไป ก็ยังด้อยกว่าออร์คอยู่ดี  แต่ถ้าเป็นแบบ2ต่อ1เหมือนกับตอนนี้ล่ะก็ สามารถต่อสู้เอาชนะได้แน่นอน  ออร์คที่เดินนำขึ้นมาได้รับบาดแผลไปหลายแห่ง  ออร์คตัวด้านหลังก็ไม่สามารถออกมาข้างหน้าได้ อยู่ในสภาพไร้พลังอย่างสมบูรณ์  ทางด้านของอริส อาศัยความได้เปรียบจากสถานที่แทงหอกจากบนลงล่าง สามารถจัดการออร์ค2ตัวได้อย่างรวดเร็ว  จากนั้นเธอก็กระโดดลงไปด้านล่างในทันที  ……อะ เดี๋ยวสิ! 「ไม่ได้นะ อริส! จะลงไปตอนนี้……」  ช้าไปแล้ว ในจังหวะที่อริสลงไปถึงบันไดส่วนกลาง ออร์คผิวสีทองสัมฤทธิ์ก็เงื้อขวานฟันลงไปที่เสาค้ำ  พลังเหลือล้นจริงๆ ทั้งอาคารถึงกับสั่นไหว ผมเองก็เกือบจะร่วงลงจากเฉลียง  บันไดทิ่อริสใช้ลงไปนั้น พังทลาย  อริสส่งเสียงร้อง ส่วนร่างกายนั้นกลิ้งลงไปตามแรงโน้มถ่วง  โชคดีที่ออร์ค2ตัวที่กำลังวิ่งมาหาอริสเองก็เสียหลักเหมือนกัน พวกมันเองก็ล้มกลิ้งไปบนพื้นเช่นกัน  อริสที่ร่วงลงไปถึงชั้น1ดูเหมือนจะไม่เป็นไร ไม่นานก็ลุกขึ้นมาได้  แต่ว่าในตอนนั้น บันไดฝั่งเธอได้พังทลายลงโดยสมบูรณ์  Elite・Orcผิวสีทองสัมฤทธิ์ที่เป็นคนพังบันไดยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าเธอ 「อะ อะ อา……」  อริสหวาดกลัว พยายามตั้งหอกเอาไว้  Elite・Orcเงื้อขวานเข้าหาเธอทันที  อริสซึ่งร่างกายมีสมรรถภาพเพิ่มขึ้นจากเวทซัพพอร์ทรีบถอยหลังทันที เพื่อหลบการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั่น……  ร่างกายอ้อนแอ้นของเธอ ปลิวไปเพียงเพราะแรงลมอัด  อริสชนเข้ากับผนังอย่างแรง  Elite・Orcไล่ตามมาทันที  อริสล้มลงไปนอนอยู่บนพื้น  ดูท่าจะขยับไม่ได้ 「อริส กลิ้งเลย」  อริสกลิ้งไปตามคำสั่งของผม ทำให้สามารถหลบพ้นการโจมตีจากขวานนั่นได้  ขวานนั่นทำให้พื้นถึงกับเป็นรู เศษคอนกรีตกระเด็นไปทั่ว  แย่แล้ว แย่แล้ว แย่แล้ว  อะไรกันไอ้นี่  ระดับต่างกับออร์คที่เคยเจอมาโดยสิ้นเชิง  เลเวลของศัตรูจู่ๆก็พุ่งขึ้นไปซะสูงเลย  บ้าไปแล้ว  สิ่งที่ฝ่ายผมได้เปรียบนั้น มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  อริสที่ลุกขึ้นมาได้แล้ว อยู่หน้าล็อบบี้พอดี สรุปก็คืออยู่ตรงประตูเข้าออกพอดี  ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ เธอสามารถหนีได้  ผมชำเลืองมองไปห้องข้างๆ  หน้าต่างที่เปิดออกเพื่อเปลี่ยนถ่ายอากาศเมื่อกี้ ถ้าเป็นผมคนดียวล่ะก็ น่าจะพอทำอะไรได้อยู่ 「อริส! เดี๋ยวจะให้Puppet・Golemไปทางนู้น เพราะงั้นอาศัยช่องว่างนี้หนีไปซะ!」 「เอ๊ะ แต่ว่า」 「ผมจะกระโดดออกทางหน้าต่าง! ถ้ายังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ ยังสามารถกลับมาช่วยได้อีก!」  ชิกิ ยูคาริโกะ ยังอยู่ที่ห้องนั้นใช่มั้ยล่ะ  ดังนั้นการหนีไปก็จะหมายความว่า ทอดทิ้งคนที่ได้ช่วยไปแล้ว  แต่ว่า มันใช่เรื่องที่ต้องคิดตอนนี้มั้ย  สิ่งที่สำคัญกว่านั้น ก็คือการที่ผมกับอริสยังมีชีวิตรอด  ทามากิเองก็ล็อคกุญแจซ่อนตัวอยู่ที่หน้าชั้น3  ถ้าไปได้สวยล่ะก็ คงสามารถซ่อนตัวอยู่แบบนั้นได้จนจบ  อริสเองก็ยังไม่ทันสังเกตเรื่องของทามากิ  ถ้ารู้เรื่องล่ะก็อาจจะอธิบายได้ยากก็เป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นตอนที่ยังไม่ทันสังเกตแบบตอนนี้ล่ะก็ ……  ผมเรียกPuppet・Golem1ตัวจาก2ตัวที่เพิ่วจะจัดการออร์คไปตัวหนึ่งกลับมา แล้วสั่งให้ลงบันไดไป  Puppet・Golemลอดผ่านออร์คที่ไม่ทันระวังไป พุ่งเข้าหาElite・Orcที่กำลังประมาทอยู่  แบบนี้แหละดี  สิ่งที่สำคัญที่สุดที่Puppet・Golemต้องทำก็คือ ซื้อเวลาหลบหนีให้ผมกับอริส 「ตอนนี้แหละ หนีไป! จุดรวมตัว เอาเป็นที่นั่นนะ!」  ผมชะเง้อมาทางด้านล่างเฉลียงแล้วตะโกนบอก จากนั้นก็วิ่งไปยังห้องข้างๆ  พุ่งตัวผ่านหน้าต่างที่เปิดทิ้งเอาไว้อยู่  อุ๊บ  กระโดดลงจากชั้น2มายังชั้น1  แรงกระแทกกับพื้นดิน ทำให้ขาสั่นไปหมด  เจ็บปวด  อาจจะขาหักไปแล้วก็ได้  แต่ว่า ตอนนี้ต้องรีบ  ผมกัดฟัน ลากขาเดินไปยังป่า――  เสียงประกาศดังขึ้นในหัว 「คุณเลเวลอัพแล้ว!」  เสียงนี้อีกแล้ว  ผมวาร์ปมาที่ห้องสีขาว 「ห๊ะ……เอ๊ะ?」  ชั่วขณะ ผมงุนงง ไม่เข้าใจสถานการณ์  กว่าจะเลเวลอัพ ถ้าจำไม่ผิด……  ใช่แล้ว ถ้าจัดการออร์คทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้นนอกจากตัวบอสได้ล่ะก็ จะเลเวลอัพได้พอดี  แต่ว่า อริสน่าจะหนีไปแล้วสิ ไม่น่าจะมีเวลามากพอที่จะไปจัดการออร์คได้แน่ๆ  ด้านหน้าของผมคืออริส  เธออยู่ในสภาพอ่อนเปลี้ย  มือและขามีแผลงั้นเหรอ เลือดไหลซึมออกมาเยอะแยะเลย  มือกดที่สีข้าง  เสื้อบริเวณนั้นก็มีคราบสีแดงชุ่มเชียว  อริสเงยหน้าขึ้นมาหาผม ยิ้มแหะๆ 「ไม่ได้หนีไปด้วยค่ะ ผิดสัญญา ขอโทษค่ะ」  อริสยิ้มอย่างไร้เรี่ยวแรง
◀ บทที่เเล้ว หน้าหลัก บทต่อไป ▶

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้