Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 8 ทิวทัศน์ฟากโน้น

 การตั้งปาร์ตี้น่ะ ง่ายมาก  ประสานมือซึ่งกันและกัน ตั้งสมาธิ เพียงเท่านั้นที่นิ้วก้อยข้างขวาของแต่ละคนก็จะเกิดห่วงสีแดงขึ้นมา  ห่วงสีแดงนั้นมีลักษณะคล้ายแหวน แต่มันไม่มีตัวตนอยู่ ไม่สามารถใช้มือสัมผัสได้  ว่าไงดีล่ะ เหมือนกับเทคโนโลยีARเลยนะ ผมคิดในใจ  เวทมนตร์ที่พัฒนาแล้วก็เหมือนกับวิทยาศาสตร์ น่าจะใช่ประโยคหนึ่งของผู้กำกับหนังSFที่โด่งดังสักคนนะ ……อาเร๊ะ ไม่ใช่เหรอ? 「……เป็นแหวนที่สวยมากเลย นะคะ」  อริสชำเลืองมองขึ้นมาทางผม ยิ้มหวานให้  รอยยิ้มนั้นราวกับจะทำให้ดอกไม้ผลิบาน  ผมถึงกับกลืนน้ำลายลงไปในปากโดยไม่รู้ตัว  เธอเพียงแค่ดีใจอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้นเอง  เอาเถอะ ช่างมัน  ตอนนี้ ผมได้พวกพ้องแล้ว  นี่คือ1ก้าวที่สำคัญมาก  เมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือ…… 「ตรวจสอบสถานการณ์ในตอนนี้ให้ชัดเจนก่อนดีกว่า」  ผมพึมพำ ก่อนจะหันไปบอกให้อริสเดินตามมา  คนละทิศกับทางที่มีถนนน่ะ  อริสรีบวิ่งเข้ามาหาทันที 「อาโน จะไปที่ไหนกันเหรอคะ」 「ปลายทางนี้มีหน้าผาอยู่ จากตรงนั้น น่าจะมองเห็นสถานีรถไฟได้」  ถึงจะพูดไปแบบนั้น อริสก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี  อืม ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ปกติแหละ  แต่ว่า ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ  อริสและผม จะต้องรู้สึกแบบนั้นให้ได้โดยเร็ว  เพื่อการนั้นจึงต้องพิสูจน์ด้วยตาของตัวเอง  ตอนนี้ ที่ภูเขาแห่งนี้เกิดอะไรขึ้น  ไม่สิ มันเกิดอะไรขึ้นต่างหาก ต้องตรวจสอบให้รู้ให้ได้  โรงเรียนของพวกผม โรงเรียนเอกชนคิตะยามะ ตั้งอยู่ในภูเขาที่คนท้องถิ่นเรียกว่าคิตะยามะ  ภูเขาทั้งลูกนี้น่ะ เป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัวของงโรงเรียนล่ะ  ถ้าเป็นรถยนต์ จากเมืองที่ใกล้ที่สุดมาถึงตีนเขา ต้องผ่านถนนระหว่างที่นาซึ่งเป็นพื้นโคลน โดยใช้เวลาประมาณ30นาที  จากตีนเขามาถึงอาคารเรียนแต่ละแห่ง ก็ประมาณ30นาที  เป็นระยะทางที่ไม่ค่อยเหมาะกับการเดินเท่าไหร่  อาคารเรียนระดับมัธยมต้นจะอยู่ที่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของภูเขา ส่วนอาคารเรียนมัธยมปลายจะอยู่ที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขา  ถนนที่เชื่อมต่อระหว่างอาคาร2หลังนั้นคือถนน2เส้น ทางที่พวกผมใช้หนีการตามล่าของออร์คมาจนถึงตอนนี้ก็คือ ถนนทางใต้ ซึ่งเป็นทางอ้อมน่ะ  หากใช้ถนนฝั่งเหนือที่เชื่อมต่อโดยตรงกับอาคารเรียน2หลังนั้นล่ะก็ เดินประมาณ10นาทีเท่านั้นเอง  แต่ว่าจากปากคำของอริส หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว ถนนทางนั้นก็ถูกปิดด้วยกองดิน จนไม่สามารถเดินผ่านได้แล้ว  ตัวเธอที่ในตอนแรกหนีไปตามทางถนนเดินเล่นนั้น ถูกไล่ตามอยู่ประมาณ1ชั่วโมง จนต้องเข้ามาในถนนฝั่งนี้อย่างช่วยไม่ได้  ดังนั้นพื้นที่ที่พวกผมอยู่ในตอนนี้ จึงเป็นทางอ้อมที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารเรียน2หลัง ถนนฝั่งใต้ โดยอยู่ในจุดที่ต่ำลงมาจากจุดศูนย์กลางอีกหน่อย  จากจุดนั้นพวกผมเดินลงไปทิศใต้ต่อไปอีก  เพราะฉะนั้น เมื่อไปถึงปลายทางแล้วมองลงไปจากหน้าผา จะต้องมองเห็นสถานีรถไฟ แล้วก็ตัวเมืองบริเวณนั้นไม่ผิดแน่  อย่างที่คิดจริงๆ  พวกผมที่ยืนอยู่บนหน้าผา แล้วมองลงไปที่ฟากโน้น  เงียบฉี่ มองไปยังทุ่งหญ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา  ใช่ ทุ่งหญ้าล่ะ  ที่เส้นขอบฟ้าของฟากโน้นมองเห็นภูเขา นอกนั้นคือทุ่งหญ้า  เมืองงั้นเหรอ บ้านสักหลังยังไม่มีเลย  ที่นาสักผืนก็ไม่มี  คนสักคน ก็ไม่มี  บนท้องฟ้า มีนกบินไปมา  แต่ว่า หากมองดูดีๆ เจ้านั่นไม่เหมือนกับนกที่พวกผมรู้จัก  สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่านกซึ่งพวกผมเห็นกันอยู่เป็นประจำน่ะ ไม่มีทางตัวใหญ่ขนาดนั้น  นกที่พวกผมเห็นในตอนนี้ ขนาดใหญ่เทียบเท่ากับPteranodonเลยทีเดียว  นกตัวใหญ่นั่น ลงมายังทุ่งหญ้า  มีช้างอยุ่  นกตัวนั้น มีขนาดใหญ่กว่าช้างเสียอีก มันใช้กรงเล็บอันแหลมคมนั่นจับช้าง  จากนั้นก็พาช้างตัวใหญ่นั่นขึ้นไปบนฟ้าทั้งๆอย่างนั้น……  แล้วภาพของมัน ก็หายไปจากทุ่งหญ้าฟากโน้น 「อาโน ตอนนี้ ชั้นรู้สึกอยากจะถามคำถามโง่ๆมากเลยค่ะ」  อื้ม ผมเองก็เหมือนกัน  อยากจะพูดอะไรโง่ๆออกมา อยากจะพูดสุดๆจนหยุดไม่อยู่ 「สถานีรถไฟ อยู่ตรงไหนเหรอคะ」 「ไม่รู้เหมือนกัน คงจะอยู่ในที่ห่างไกลมากๆล่ะมั้ง」  นั่นสินะคะ อริสพึมพำ  ไม่สิ ไม่ใช่แบบนั้นเซ่  เรื่องที่อยากจะพูดน่ะ ไม่ใช่เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ  ผมชำเลืองมองเด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ  อริสมองกลับมาหาผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดี 「ขอโทษค่ะ ตอนนี้ ชั้นไม่รู้ว่าควรแสดงสีหน้ายังไง ไม่รู้จริงๆ」  คิดว่าแค่ยิ้มก็พอแล้ว อยากจะพูดออกไปหล่อๆ แต่ถ้าทำแบบนั้นเดี๋ยวความลับที่ผมเป็นโอตาคุจะแตก ก็เลยเงียบปากเอาไว้  ว่าไงดีล่ะ ถึงตอนี้แล้วแท้ๆยังจะมาใส่ใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก ตัวผมนี่มันบ้าจริงๆ……  สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ผมคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว  ผมน่ะ เริ่มระแคะระคายเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้อยู่แล้ว  ที่ห้องสีขาวนั่น ผมก็ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ผมคาดการณ์เอาไว้ไปหลายคำถาม  ถึงจะไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนมา แต่หากเอาคำตอบที่ได้มามาลองประกอบดูแล้วล่ะก็ จะทำให้เข้าใจเรื่องราวได้ในระดับหนึ่ง  เพราะงั้น ที่ผมต้องลงทุนมาถึงที่นี่น่ะ ก็เพื่อที่จะพิสูจน์ให้มันชัดเจนเท่านั้นแหละ  คิดว่า ตอนที่เกิดแผ่นดินไหว  ในตอนนั้น พวกผม……  ไม่สิ ภูเขาลูกนี้น่ะ ถูกดึงเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ผิดปกติครั้งใหญ่แล้ว  ผมเอื้อมมือไปจับมือของอริส  อุ่นมาก อริสกำมือตอบ ราวกับต้องการที่พักพิง 「อริส เลเวลอัพ แล้วไปถามคำถามกัน」 「ค่ะ คาซึซัง……เลเวลอัพ กันเถอะค่ะ」  ตอนนี้ จะมัวมาเสียเวลาอยู่ที่นี่เฉยๆไม่ได้  พวกผมน่ะ จะมาหยุดอยู่ที่นี่ไม่ได้  ดังนั้น พวกผม2คนจึงต้อง มองหาเป้าหมาย  เลเวลอัพ  เลเวลอัพแล้วไปห้องสีขาว มองหาคำอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์บ้าๆนี่  พวกผมจับมือกันเดินกลับไปยังทางที่ผ่านมา         ※  ใช้อีกาไปตรวจสอบบริเวณนี้ จนเจอกับออร์ค  ดูเหมือนว่าออร์คเหล่านั้น จะกำลังลงจากยอดเขา  เดินเลียบมาตามถนนเดินเล่น และในระหว่างที่ลงจากยอดเขานั้น พวกออร์คก็แยกออกเป็นซ้ายและขวา  ถ้าไปทางทิศตะวันออกก็คืออาคารเรียนมัธยมปลาย ถ้าไปทางทิศตะวันตกก็คืออาคารเรียนมัธยมต้น 「บนยอดเขานั่น มีอะไรกันนะ?」  ถึงจะมีคำถามอยู่ในหัว แต่ในตอนนี้ผมไม่คิดจะเข้าจู่โจมฝูงออร์คหรอก  ล่อออร์คทีละตัวมาทางป่าฝั่งใต้  ล่อเข้ามาให้ลึกจนแน่ใจว่าภายนอกจะไม่ได้ยินเสียงการต่อสู้ที่เกิดขึ้น เสร็จแล้วก็คอมโบกับอริสฆ่ามันซะ  ทักษะการใช้หอกของอริส สุดยอดมากๆ  ถ้าให้พูดให้ชัดเจนล่ะก็ พลังของสกิลการใช้หอกน่ะ สุดยอดมากๆ  อริสก่อนหน้านี้น่ะ ร่างกายเพรียวบาง ไม่มีแรงพอจะแทงได้แรงขนาดนั้น  แต่ว่าในตอนนี้ ตัวเธอที่มีสกิลการใช้หอกแรงค์1 สามารถระดมแทงหอกออกไปได้ราวกับเป็นยอดฝีมือ หลอกล่อออร์คจนหัวหมุน  บางที ถ้านับกันแค่ฝีมืออย่างเดียวล่ะก็ คงจะพอๆกับออร์คเลยล่ะมั้ง  แต่ว่าอริสน่ะ ได้รับเวทซัพพอร์ทของผมเข้าไปด้วย  Keen・Weapon、Physical・Up、Mighty・Arm  เวทซัพพอร์ททั้ง3อันที่ได้ช่วยเหลือผมมาตั้งแต่แรงค์1 เติบโตขึ้นเป็นแรงค์2แล้ว ทำให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ช่วยซัพพอร์ทอริสได้มากขึ้น  เพราะอย่างนั้นแหละ ตัวเธอที่มีเรี่ยวแรงน้อยกว่าผมแน่ๆจึงสามารถจัดการออร์คที่มีกล้ามเนื้ออย่างหนาได้ โดยไม่เกี่ยวว่าเป็นการต่อสู้แบบ1ต่อ1  ออร์คกวัดแกว่งดาบไปมา พลางขยับเข้ามาหาพวกผม  อริสอาศัยสมรรถภาพที่ได้จากPhysical・Upช่วยในการรักษาระยะห่างเอาไว้ ปลดปล่อยพลังไปยังแขนที่ได้รับMighty・Armจนแข็งแกร่งขึ้น พร้อมระดมแทงหอกที่ใช้Keen・Weaponเคลือบไว้จนแหลมคมออกไป  การแทงนั้น สร้างบาดแผลฉกรรจ์ที่เท้าของออร์ค  ออร์คล้มกลิ้งลง ส่งเสียงกรีดร้อง  อริสเดินเข้าไป ทิ่มหอกออกไปอย่างเย็นชา  แทงลงไปถึงด้านหลังของออร์ค สัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์หัวหมูส่งเสียงโหยหวนพร้อมกับเลือดสีน้ำเงินที่พุ่งขึ้นมาราวน้ำพุ  ออร์คที่พยายามจะกลิ้งตัวหนีไปนั้น อริสไม่ยอมปล่อยให้ไป เธอไล่ตามไปอีก  ด้วยเวทPhysical・Upทำให้เธอวิ่งได้เร็วกว่าออร์ค  ไม่นาน ก็ไล่ทัน  เธอตะโกนดังลั่นขณะแทงหอกออกไป  เวลาในการต่อสู้นั้น ประมาณ1นาทีนิดๆเท่านั้น  ออร์คที่โดนอริสแทงหอกสุดท้ายเข้าที่คอหอย ร่างกายเปลี่ยนเป็นแสง ก่อนจะหายไป  พวกผมเอาชนะออร์คจากการต่อสู้ซึ่งๆหน้าได้แล้ว 「ทำได้แล้วค่ะ!」  อริสร้องดีใจ  ทั้งๆที่หลังการต่อสู้ถึงกับหอบแฮ่กๆแท้ๆ เธอกลับโยนหอกในมือทิ้งไป แล้วโผเข้ามากอดผม  อปไปนุ่มนิ่มสมบูรณ์นั้น กดเข้ามาที่หน้าอกของผมจนรู้สึกได้อย่างชัดเจน  เพียงแต่ในตอนนี้ เธอสวมเสื้อเชิ้ตของผม ขณะที่ส่วนล่างน่ะขาดรุ่งริ่ง ถ้าเอาตามจริงแล้ว เป็นชุดที่เซ็กซี่ยั่วยวนสุดๆ  ความรู้สึกนุ่มนิ่มและยดหยุ่นนี้ ทำให้สติของผมแตกกระเจิง ……  อริสที่รู้สึกตัวแล้ว เขินจนแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดง ขยับตาหลบสายตาของผม 「อะ อาโน ขอโทษค่ะ」  อริสผลักตัวออก แล้วหันไปด้านข้าง  มีแอบเหลียวมองมาเป็นระยะๆด้วย  อะไรกันเนี่ย เด็กคนนี้  ช่องว่างระหว่างท่าทีฉลาดหลักแหลมราวนักปราชญ์ที่แสดงให้เห็นเมื่อกี้ กับท่าทีใสซื้อไร้เดียงสาในตอนนี้มัน……  จู่ๆ สัญชาตญาณระวังตัวเองของผมก็ร้องขึ้นมา  เธอกำลังหลอกลวงผมอย่างนั้นเหรอ  คิดจะหลอกใช้งานผมอย่างนั้นเหรอ  ไม่สิ มันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีอะไรหรอก  พวกเราในตอนนี้น่ะ อีกฝ่ายคือสิ่งจำเป็น  ถ้าหากไม่มีเวทซัพพอร์ทของผม อริสก็ต้องต่อสู้กับออร์คอย่างบากลำบากจริงมั้ย  ด้วยกำลังของเธอในตอนนี้ แม้จะมีMighty・Armก็ยังด้อยกว่าออร์ค  หากเข้าไปบวกตรงๆล่ะก็ ไม่นานคงโดนตบคว่ำไม่ผิดแน่  ในส่วนของการหลบหนีจากศัตรูเช่นนั้นความว่องไวที่จะได้จากPhysical・Upคือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้  ความแหลมคมของหอก ความแข็งแกร่งของหอก ก็เป็นสิ่งที่ได้มาจากเวทมนตร์ของผม  ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ผมยังสามารถใช้อีกาเข้าไปก่อกวนเพื่อคุ้มครองเธอได้อีก  ที่สำคัญ ผมเลเวล2แล้ว วิธีการน่ะมีมากมายให้เลือกใช้  เพราะงั้น อย่างน้อยๆก็ในช่วงนี้ ผมและเธอมีผลประโยชน์ร่วมกัน  ปัญหาก็คือ หลังจากนั้น  เธอเป็นคนพูดเอง ว่าพลังคือสิ่งจำเป็นสำหรับตนเอง  ต้องถามเธอว่าเป้าหมายของเธอคืออะไร  ต้องรีบ ถามให้เร็วที่สุด การที่ไม่รีบถามนี่แหละ คือความผิดพลาดของผม  อริสมองสังเกตตัวผมในท่าทีระแวดระวังเพราะผมก้มหน้าเงียบ  ผมเงยหน้าขึ้น ถามเธอ 「อริส ตอนนี้รู้แล้วว่าพวกเราสามารถต่อสู้ได้ มาระบุทิศทางหลังจากนี้กันเถอะ」  ผมพูดพลางประสานสายตากับเธอ  จ้องมองเข้าไปภายในดวงตาสีออบซิเดียนอันสวยงามนั่น 「เธอน่ะ หลังจากนี้อยากจะทำอะไร?」  อริสมีสีหน้าจริงจัง พร้อมพยักหน้า 「มีเรื่อง จะขอร้องค่ะ」  เธอพูดพลางหันหน้าไปมองด้านทิศตะวันตก  ทางด้านนั้นน่ะ มีอาคารเรียนของชั้นมัธยมต้นอยู่แน่ๆ  จะว่าไป เธอเองก็หนีออร์คที่ไล่ตามมาจากด้านนั้นเหมือนกัน  เห็นบอกว่าหลังจากที่วิ่งที่ที่ถนนทางเหนือครั้งหนึ่ง ถึงวกกลับมาทางนี้ แต่ว่าก่อนหน้านั้นล่ะเธออยู่ที่ไหน  เจอกับออร์คที่ไหนกัน 「อยากจะ ช่วยเหลือเพื่อนค่ะ คาซึซัง ช่วยไปอาคารเรียนมัธยมต้นกับชั้นได้มั้ยคะ」  เพื่อน ช่วย เพื่อนงั้นเหรอ 「ช่วยจากเงื้อมมือ ของออร์ค……เหรอ?」  อริสพยักหน้ารับคำ  หลังจากนั้นก็ก้มหน้า  ขณะที่ก้มหน้าอยู่ก็ทำปากหงุบหงับๆ  หลังจากนั้น เธอก็ตัดสินใจได้ ประสานมือ2ข้างขึ้นมาบริเวณอก มองมาทางผมตรงๆ  และ…… 「ชั้นน่ะ ทอดทิ้งเพื่อนที่ถูกออร์คจับตัวไว้ แล้วหนีมาค่ะ」  เธอประกาศ บาปของตัวเองออกมา
◀ บทที่เเล้ว หน้าหลัก บทต่อไป ▶

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้