Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 15 ทดลองเวทมนตร์หลายๆอย่าง ที่ห้องสีขาว

การต่อสู้กับElite・Orc โอกาสชนะน่ะริบหรี่มาก  ถึงอย่างนั้นผมก็ยัง ชนะ  เพราะอยากช่วยอริสยังไงล่ะ  ผมเคยคิดว่าการไม่เชื่อใครเลยคือสิ่งที่ถูกต้อง หวาดกลัวการถูกคนที่เชื่อใจหักหลังเป็นที่สุด  ทั้งๆอย่างนั้น  ปล่อยให้เธอต้องไปเผชิญกับสัตว์ประหลาดแบบนั้น ไม่ว่ามองยังไงก็ไม่สมควร  การกระทำที่โหดร้าย ไร้กฎเกณฑ์ ไม่สมเหตุสมผล  แต่ว่าไม่เสียใจเลย  ช่วยเหลือได้  สามารถช่วยอริสได้สำเร็จ  ผมดีใจ ดีใจ ดีใจสุดๆ หลังจากที่วาร์ปมายังห้องสีขาว ผมวิ่งเข้าไปกอดเธอทันที 「หวา、วะหวา、คาซึซัง……」  อริส「โธ่」ร้องเล็กน้อย ขัดขืนพอเป็นพิธี  ผมแยกตัวออกจากเธอเล็กน้อย มองหน้าของเธอ  อริสที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็มองผมกลับ 「ค่อยยังชั่ว ไปได้อย่างราบรื่น ค่อยยังชั่วจริงๆ」 「นะ นั่นน่ะ หมายถึงแผนการที่เหมาะสมเหรอคะ」  อริสมองมาด้วยแววตางอนๆ 「พูดตามตรง โอกาสชนะของพวกเราน่ะผมคิดว่ามีแค่30%เท่านั้น ทั้งนี้ต้องขอบคุณเธอเลยที่เชื่อในตัวผม」 「ถ้างั้น มันก็ต้องชนะอยู่ล้วสิคะ」  อริสตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มทั้งใบหน้า 「ถ้าต้องตายเพราะเชื่อในตัวคาซึซังล่ะก็ ชั้น มีความสุขค่ะ ชั้นคิดแบบนั้น」 「เธอ……ทำไม ถึงขนาดนั้น」 「เพราะคาซึซังไม่เคยทรยศต่อความคาดหวังของชั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวค่ะ」  นั่นก็เพราะเธอคือคนที่มีคุณค่าให้ใช้สอยยังไงล่ะ  ประโยคนั้น ผมกลืนลงไปในท้อง  เพราะเข้าใจแล้วว่ามันเป็นแค่คำโกหก เป็นแค่คำปลอบประโลมตนเองเท่านั้น  จริงอยู่ ก่อนหน้านี้อาจจะใช่ อาจจะเคยใช่มาก่อน  แต่ว่า ในตอนนี้ เหตุผลที่ผมช่วยเธอน่ะ ไม่ใช่เหตุผลนั่น  อริสมองผมด้วยดวงตาอันล้ำลึกของเธอ  ค่อยๆเปิดปากออกช้าๆ ด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่นราวกับตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว 「ขอให้ชั้นได้พูด อีกครั้งหนึ่งด้วยค่ะ ชอบค่ะ คาซึซัง」  แทนคำตอบนั้น ผมบรรจงจูบอริส  อริสคล้องมือขึ้นมาบนด้านหลังศีรษะผม ตอบรับอย่างร้อนแรง         ※  พวกเราแยกออกจากกัน ผมก้มลงมองอริส  พาร์ทเนอร์ของผมนั้น ทรุดลงไปกับพื้น แหงนหน้ามองผมพร้อมยิ้มเขินๆ 「จู่ๆก็หมดแรงค่ะ」  เมื่อมองดูดีๆแล้ว เธอดูอ่อนแรงยิ่งกว่าเมื่อกี้ซะอีก  เสื้อเชิ้ตที่ผมมอบให้มีรอยฉีกขาดขนาดใหญ่ เผยให้เห็นอปไปอยู่รำไร  กระโปรงเอง ก็ขาดวิ่นจนแทบจะกลายเป็นเศษผ้าอยู่แล้ว  นอกจากนี้ก็ยังมีเสื้อผ้าส่วนอื่นๆที่ขาดจนเห็นผิวเนียนนุ่มของเธอได้ชัดถนัดตา  ในส่วนที่มีรอยขาดจะเต็มไปด้วยบาดแผล ทั้งแขนทั้งขาของเธอมีรอยแผลที่ผิวหนัง เลือดไหลซึมๆ  ผมนั่งลงที่ด้านหน้าอริส 「ไม่เป็นไร……ซะที่ไหนล่ะ นั่นน่ะ」  อริสยิ้มหวานออกมาเพื่อให้ผมสบายใจ  สีหน้าของผมดูเป็นกังวลขนาดนั้นเลยเหรอ  อาจจะเป็นก็ได้มั้ง 「แค่บาดแผลเอง ใช้เวทรักษาก็หายแล้วค่ะ」  พูดพลางใช้เวทฮีลกับแขนขาตัวเอง  ภายใต้แสงสีฟ้า บาดแผลของอริสค่อยๆหายไป  ฮีลทั้งหมด10ครั้ง บาดแผลของอริสก็หายไปจนหมด  เมื่อกี้ ตอนที่ได้แผลที่ไหล่ต้องใช้ฮีลไปทั้งหมด3ครั้งถึงหาย  พอคิดแบบนั้นแล้ว เป็นแผลที่หนักหนาสาหัสพอดูเลยนะ 「แค่นี้ก็เรียบร้อย ค่ะ」 「แต่ว่า ต่อให้รักษาที่ห้องนี้ไป พอกลับไปที่นู่นแล้วก็ยังมีบาดแผลเหมือนเดิมนะ」 「นั่นมันก็……จริงอยู่นะคะ」  น่า เอาเถอะ อยากจะปรึกษาเรื่องราวหลังจากนี้อยู่เหมือนกัน เพราะยังไงก็จำเป็นจะต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับสกิลของอริสดีอยู่แล้วด้วย  ใช่  การที่พวกผมมาอยู่ที่ห้องสีขาวได้ ก็เป็นเพราะอริสเลเวลอัพเท่านั้นแหละ  ผมน่ะเลเวลอัพไปก่อนที่จะสู้กับElite・Orcไม่นาน  ความแตกต่างของค่าประสบการณ์ระหว่างผมกับอริสคือ ออร์ค2ตัว  แล้วเพราะว่าเป็นปาร์ตี้2คน ดังนั้นค่าประสบการณ์ที่ได้จึงถูกแบ่งออกเป็นครึ่งหนึ่ง  สรุปก็คือค่าประสบการณ์ที่ได้จากElite・Orc อย่างน้อยที่สุดก็เท่ากับออร์ค4ตัว  ไม่สิ ถ้าคิดจากความแข็งแกร่งและโหดร้ายของมันแล้ว ให้เจออร์ค4ตัวยังจะดีซะกว่า  ว่ากันตามตรงเลย ผมคิดว่ามันแข็งแกร่งกว่าออร์ค4ตัวซะอีก  ถ้าให้พูดเสริมเข้าไปอีก ผมไม่อยากจะต่อสู้กับมันอีกเป้นครั้งที่2ด้วยซ้ำไป  เลเวลตอนนี้ของเธอคือ5 สกิลการใช้แรงค์แรงค์3 สกิลรักษาแรงค์1  สกิลพอยท์เหลืออยู่3  อริสพิสูจน์ให้เห็นมาไม่รู้กี่ครั้งต่อครั้งแล้วว่าเพียงแค่เพิ่มสกิลการใช้หอกขึ้นมา1แรงค์ ก็ทำพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นมาอย่างมากมาย  บางทีSkill Systemนี้ คงจะถูกตั้งค่าให้แข็งแกร่งขึ้นตามแรงค์อัพอย่างเหมาะสม    ตอนนี้พวกผม มีกันอยู่แค่2คน ต้องทำทุกอย่างด้วยคนแค่2คน  การเพิ่ม1แต้มก็หมายถึง การเพิ่มพลังต่อสู้ของพวกตน เพิ่มให้ทัดเทียมกับช่องว่างที่หายไป  อย่างไรก็ตาม ความสามารรถในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินน่ะต้องบอกว่าอ่อนแอมาก  การรับมือเหตุฉุกเฉินเช่นครั้งนี้ ย่ำแย่สุดๆ  ครั้งนี้ เพื่อรักษาบาดแผลของเธอที่ได้มาจากการต่อสู้อย่างเสียเปรียบกับElite・Orc ต้องใช้Healถึง10ครั้ง  บาดแผลที่ไหล 3ครั้ง  ตอนที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ ผมจำได้แค่ว่าใช้แค่ทีเดียวเท่านั้นนะ  ประสิทธิภาพของHealไม่ได้แย่ลง  ถ้าพูดในทางเกมแล้ว HPของพวกผมเพิ่มขึ้นตามเลเวลที่มากขึ้นกว่าเดิม  นี่คือคำตอบที่ได้รับมาจากการถามตอบในครั้งแรก ในเมื่อMPยังเพิ่ม ดังนั้นHPจะเพิ่มด้วยก็คงไม่แปลกอะไร ตอนที่ได้เห็นในตอนนั้นก็คิดว่าคงเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอได้สัมผัสกับตัวเองจริงๆแล้ว รู้สึกว่ายังแปลกๆอยู่บ้าง  บางทีพวกผม อาจจะเริ่มเปลี่ยนความคิดจากการอ้างอิงพื้นฐานของมนุษย์ที่คิดว่าใช่ตลอดมา ไปบ้างแล้วก็เป็นได้  อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากากรรับรู้ถึงตัวตนของสัตว์ประหลาดก็เป็นได้  แน่นอนว่า การที่เธอยังปลอดภัยอยู่เป็นสิ่งที่น่ายินดี……  หลังจากนี้พวกผม จะกลายเป็นแบบไหนกันนะ 「คาซึซัง เป็นอะไรเหรอคะ」  ผมทำสีหน้าปั้นยากขนาดนั้นเลยเหรอ  อริสแหงนหน้ามองขึ้นมาด้วยสีหน้าสงสัย  ผมขับไล่ความกังวลในใจออกไป ยิ้มให้เธอ 「กำลังคิดว่า เธอเซ็กซี่จังน๊า น่ะ」 「เอ๊ะ? อ๊ะ คือ นี่มัน」  ในที่สุดก็สังเกตเห็นสภาพของตัวเองแล้วงั้นเหรอ อริสหน้าแดงขึ้นมา มือไม้ปั่นป่วนพยายามปิดส่วนสำคัญของตัวเอง  แต่ว่า อริส เธอรู้รึเปล่า  ผู้ชายน่ะ พอได้เห็นท่าทีเขินอายแบบนี้แล้ว จะเปลี่ยนเป็นสัตว์ป่าดุร้ายในทันทีเลยนา 「เอโต……คือ แต่ว่า อยากดูเหรอคะ」 「ก็、นะ」  ผมหัวเราะเขินๆ หลบสายตาไป  อยากกอดแน่นๆเลยครับ ผมต้องเตะความรู้สึกในใจออกไปด้วยคำว่าสุภาพบุรุษ  แต่อริสนั้น เหลือบตาขึ้นมองผม อ้าปากช้าๆ 「ถ้าเป็นคาซึซังล่ะก็……ได้、นะคะ」  น่าสมเพชโคตรๆ ผมเผลอกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเลย  เมื่อเห็นตัวผมที่เป็นแบบนั้น อริสก็หดตัวลง แต่แม้จะอยู่ในท่าทีเขินอาย เธอก็ยังคงไม่ละสายตาไปจากผม 「อาー、ได้เหรอ อริส ผู้ชายน่ะ ถ้าได้ยินแบบนี้แล้ว จะกลายเป็นคุณหมาป่าเลยนะ……」  อริสยื่นมืออกมา คว้ามือของผมไว้  ดึงมือของผมไป  รู้สึกตัวอีกที ใบหน้าของอริสก็บดบังทิวทัศน์ของผมไปหมดแล้ว  ริมฝีปสกสีซากุระนั้น ค่อยๆเขยิบเข้ามาจากด้านหน้าของผม  จูบ 「คุณหมาป่าน่ะ อยู่ไหนเหรอคะ」  ครับ ที่นี่ครับ         ※  หลังจากช่วงเวลาของการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  พวกผม2คน ได้ค้นพบเรื่องที่สำคัญมากเรื่องใหม่จากการทดลองจริง  หากมีเวทรักษาแรงค์1 Remove・Painอยู่ล่ะก็ แม้จะเป็นครั้งแรกก็สบายใจได้  ไม่สิ จริงๆแล้ว ตอนแรกอริสน่ะเจ็บมากๆ ระหว่างนั้นผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะหยุดเอาไว้  แต่ว่าอริสน่ะเป็นคนฉลาด เวทมนตร์ที่ตนเองมีทั้งหมด เธอได้ตรวจสอบมาก่อนแล้ว  เธอบอกว่าถ้ามีRemove・Painล่ะก็ ไม่เป็นไรแน่ๆ  ในความเป็นจริง ก็ไม่เป็นไรจริงๆน่ะแหละ  ผมคิดว่าพวกเราทำได้ค่อนข้างดี แลกเปลี่ยนครั้งแรกของกันและกัน มุ่งสู่สรวงสวรรค์ชั้นสุดยอด  แถมหน่อยRemove・Painน่ะเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า เพียงแค่ลบความรู้สึกเจ็บปวดออกไปเท่านั้น ความรู้สึกนอกเหนือจากนั้นยังอยู่ดีเหมือนเดิม  นอกจากนี้ ยังได้รู้ด้วยว่าหากอยู่ในห้องสีขาวนี้ไปนานๆล่ะก็ MPจะค่อยๆฟื้นฟูขึ้นทีละนิดๆ  ตัวผมที่คิดว่าใช้MPไปหมดแล้ว อยากจะล้างตัวเพราะร่างกายของพวกเราเต็มไปด้วยเหงื่อ ก็เลยลองใช้เวทอัญเชิญแรงค์1 Summon・Waterดู และก็มีน้ำออกมาจริงๆ  การใช้Summon・Waterหลายครั้งโดยไม่มีปัยหาก็หมายความว่า MPฟื้นฟูขึ้นมาแล้วนั่นเอง  จากประสบการณ์ที่ผ่านมา MPที่ฟื้นฟูที่นี่ พอกลับไปที่เดิมก็คงถูกรีเซ็ตล่ะมั้ง  แต่ว่าที่ห้องสีขาวนี่ สามารถใช้วทมนตร์ได้เท่าที่ต้องการ  การทดลองใช้เวทมนตร์จริงๆอาจจะมีประโยชน์ก็ได้  น้ำที่เรียกออกมาในตอนแรกตกลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว ไหลไปยังท่อระบายน้ำที่อยู่ที่ไหนสักที่ซะอย่างนั้น  หลังจากนั้นผมจึงใช้เวทอัญเชิญแรงค์1เหมือนกัน Summon・ Cauldronในการสร้างแทงค์ขนาดใหญ่ขึ้นมากักเก็บน้ำ และใช้มันสำหรับล้างตัว  พอได้มองดูอริสชำระล้างร่างกาย ความรู้สึกอยากทำสงครามอีกครั้งก็หลั่งไหลออกมาจากตัวผม ทำให้ความพยายามที่ผ่านมาเพื่อการล้างตัวกลายเป็นสูญเปล่าไป  เรื่องราวเหล่านั้นขอพักไว้แค่นี้ก็แล้วกัน  ผทกับอริสใช้ผ้าไหมสีขาวที่ได้มาจากเวทอัญเชิญแรงค์2 Summon・Clothesคลุมตัว นั่งพิงหลังกับผนังห้อง 「ขอถามเรื่องของคาซึซัง ได้ไหมคะ」 「มีแต่เรื่องน่าเบื่อ เท่านั้นนะ」 「เรื่องของรุ่นพี่ชิคิ เอโต ……เกิดอะไรขึ้น กับคนๆนั้นเหรอคะ」  อ้า อืม ว่าแล้วว่าต้องเป็นเรื่องนี้  ความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาภายในอก  อริส ซบลงมาบนไหล่ของผม 「ไม่ได้อยากให้ฝืนตัวเองนะคะ แต่ว่า ชั้นอยากรู้เรื่องของคาซึซังค่ะ」  พูดจบ เธอก็ใช้ดวงตาสีออบซิเดียนนั้นมองขึ้นมา  ……สายตานั้น ขี้โกงนิ 「เป็นเรื่องที่จะทำให้รู้สึกไม่ดีนะ」 「ค่ะ ถึงอย่างนั้นก็ ไม่เป็นไรค่ะ」  ผมพูดออกไป  เรื่องของเจ้านั่นที่ผมเกลียดชัง เรื่องของสิ่งที่ผมได้รับมาจากเจ้านั่น  เรื่องที่ผมหลบออกมาจากโลกแห่งความเป็นจริง เรื่องที่ผมกลายเป็นคนที่ไม่เชื่อใจคนอื่น เรื่องของหลุมกับดัก ที่ขุดขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับฆ่าเจ้านั่น  เรื่องที่ทั้งคลาส ไม่สิ ทั้งชั้นมัธยมปลายอยู่ข้างเจ้านั่นกันหมด  และ ชิคิ ยูคาริโกะ เรื่องที่เธอเองก็ถูกแรงกดดันนั่นโถมใส่เหมือนกัน 「ถ้าคิดดูดีๆแล้ว ผมไม่มีสิทธิที่จะไปโกรธเคืองเธอหรอก การกระทำของเธอน่ะ เป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำกัน เธอน่ะไม่มีพลังอะไรสักอย่าง ดังนั้นการหลิวลู่ตามลมก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว」  ผมพูดออกไปเนิบๆ  ระหว่างที่กำลังพูดอยู่ ในใจของผมก็ได้รับการสะสางไปด้วย  ใช่ ชิคิซังไม่ได้ทำอะไรผิด ถึงจะยอมรับไม่ได้ แต่ยังไงก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปตั้งแง่กับเธอ  ที่สำคัญ ตัวเธอในตอนนี้ ได้รับบาดแผลลึกมากในระดับที่ผมไม่ต้องไปทำอะไรเธอแล้ว  หลังจากที่อริสเข้าไปประคอง ตอนที่ได้สบตากับเธอ สีหน้าของเธอในตอนนั้นปรากฏขึ้นมาในหัว  ได้รับกรรมแล้ว ใบหน้าของเธอปรากฏแววดูถูกตัวเองขึ้นมาน่ะ  แน่นอนว่า สำหรับผมแล้ว มีสิทธิในการให้เธอได้ชดใช้กรรม วิธีการเองก็มีเหมือนกันด้วย  ใช่ ตัวผมในตอนนี้ มีพลังอยู่  ถ้าต้องการจริงๆล่ะก็ การกำจัดชิคิ ยูคาริโกะย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน 「ถ้าบอกว่าผมจะแก้แค้นชิคิซังล่ะก็ เธอจะดูถูกผมมั้ย?」 「ไม่ค่ะ ชั้นน่ะ ไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนั้นหรอกค่ะ」  อริสพูดออกมาด้วยสีหน้าอันแข็งกร้าว 「เธอเนี่ย คงจะเป็นเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ซะล่ะมั้ง」 「ได้ฟังเรื่องของคาซึซังแล้ว ชั้นรู้สึกอยากจะดูถูกพวกคนในชั้นมัธยมปลาย อยากจะทุบตี ชั้น……」  อริสกำหมัดแน่นที่บริเวณอก 「ชั้นเคยบอกว่าชั้นเป็นคนเรียบร้อย ใจเย็นใช่มั้ยคะ」 「คิดว่าเคยได้ยินมาก่อนนะ」 「นั่นน่ะ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะชั้นไม่เก่งการออกำลังกายค่ะ เพราะว่าชั้นอ่อนแอ จึงต้องสงบเสงี่ยมเข้าไว้ ไม่ให้ตัวเองเป็นที่สะดุดตา ไม่ว่าจะมีใครกลั่นแกล้งกัน ก็ทำเป้นมองไม่เห็นไป……ไม่ต่างกับ ชิคิซังเลย」  พูดจบ เธอก็มองมาทางผมราวกับขอให้ผมยกโทษให้ 「ดูถูกชั้น อย่างนั้น……สินะคะ」  แทนคำตอบนั้น ผมใช้สองแขนโอบกอดศีรษะของเธอ ดึงเธอเข้ามาซบที่อก 「อริสไม่ได้ทำอะไรผมซะหน่อย ไม่จำเป็นต้องคิดถึงส่วนที่มือของตัวเองยื่นไปไม่ถึงหรอก」 「ค่ะ」 「เธอไม่จำเป็นต้องไปเกลียดชังชิคิซังเลย」 「เข้าใจอยู่แล้วค่ะ」 「ผมเองก็ จะพยายามประนีประนอมเท่าที่ทำได้ ถ้าฝ่ายนั้นคิดเหมือนกัน ล่ะก็นะ……การประนีประนอมน่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าหากคิดถึงเรื่อง ราวในภายหลัง」 「ในภายหลัง……เหรอคะ」  ผมอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างง่ายๆให้เธอ  เรื่องที่คาดว่าที่นี่คือต่างโลก  พวกเราคือคนที่ถูกทิ้งเอาไว้ และเรื่องที่ออร์คน่าจะเป็นศัตรูที่อ่อนแอที่สุดที่มีในตอนนี้  สภาพในตอนนื้ คือถูกทอดทิ้งโดดเดี่ยว  หรือไม่ก็ คนที่พอจะเรียกว่าพวกเดียวกันได้เพียงหนึ่งเดียว ก็คือคนที่สร้างห้องสีขาวแห่งนี้เท่านั้น  ไม่สิ แม้แต่เจ้าของห้องสีขาวก็ตาม จะเป็นพวกเดียวกันจริงๆรึเปล่ายังไม่รู้เลย  ในตอนนี้ มีวิธีกลับบ้านรึเปล่าก็เป็นเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน  และถ้าหากนักเรียนที่ยังรอดชีวิตอยู่ไม่เกาะกลุ่มกันล่ะก็ ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายแน่ๆ 「เพื่อที่จะเลเวลอัพ เพื่อที่จะมายังห้องสีขาวนี่ จำเป้นต้องฆ่าออร์ค1ตัว」 「ตามปกติแล้วไม่ไหวหรอกค่ะ」 「เหมือนกับที่ผมทำให้เธอ ถ้าหากมีการซัพพอร์ทล่ะก็ มันก็ไม่แน่นอนแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้ ผมคิดว่าจะให้คนที่ต้องการจะมีชีวิตรอดได้เลเวลอัพเหมือนกับเธอ หากมีสกิลต่อสู้สัก1อย่างล่ะก็ จะทำให้อะไรๆง่ายขึ้นเยอะ」 「ถ้าหากชั้นต่อสู้ในส่วนของทุกคนล่ะก็……」 「ตัวของตัวเองน่ะ ให้ตัวเองเป็นคนปกป้องก็ดีแล้ว อีกอย่าง ผมคิดว่าจะให้พวกเราดำเนินการอย่างอื่นน่ะ」 「ชั้นกับคาซึซัง เหรอคะ」 「อื้ม ยกตัวอย่างเช่นผมกับอริสไปยังอาคารเรียนหลักของมัธยมต้น ในกรณีนั้น พวกคนที่ถูกทอดทิ้งไว้ที่นี่ก็……」  อย่างนี้นี่เอง อริสพยักหน้า 「เพื่อที่จะมีชีวิตรอด ไม่ต่อสู้ไม่ได้สินะคะ」 「อ้า ไม่บอกหรอกว่าต้องทุกคน ไม่กี่คนก็ยังดีล่ะนะ」  บางที อาคารเรียนศิลปะนี่อาจจะกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ของพวกเราก็เป็นได้  คนที่เหลือรอดอยู่ที่ทามากิพูดถึงน่ะ ไม่รู้หรอกว่ามีกี่คน แต่ถ้าผนึกพลังช่วยกันป้องกันล่ะก็ หลังจากพรุ่งนี้ไป ต้องสามารถช่วยสนับสนุนพวกผมได้แน่ๆจริงไหม  ใช่ พรุ่งนี้ไงล่ะ  วันนี้มืดแล้ว  การเคลื่อนไหวตอนกลางคืนมันอันตรายเกินไป  ที่สำคัญ ผมกับอริสเหนื่อยมากแล้ว  วันนี้ อยากจะพักผ่อนสบายๆแล้ว 「พรุ่งนี้ก่อนอื่นก็ ซัพพอร์ททุกคนสินะคะ……เมื่อตัดสินใจแบบนี้ อัพเวทรักษาเป็นแรงค์2น่าจะให้ประโยชน์มากกว่าสินะคะ」 「เวทรักษาแรงค์2……งั้นเหรอ Flower・Coatเหรอか」 「ค่ะ」  ผลจากการถามตอบกับNotebook Flower・Coatที่ถูกระบุไว้ว่าเป็นเวทรักษาแรงค์2 คือเวทมนตร์สำหรับเพิ่มHPของเป้าหมายในชั่วขณะหนึ่ง  ถึงในความเป็นจริงจะไม่รู้ว่าเวทมนตร์นั่นมีประสิทธิภาพขนาดไหน แต่อย่างน้อยก็ใช้รับประกันได้ แค่นั้นก็ทำให้คนเราสบายใจได้บ้างแล้วล่ะ 「จากนั้นก็สะสมกองกำลัง แล้วค่อยๆคืบไปยังอาคารเรียนมัธยมปลาย……เหรอคะ」 「ถึงจะไม่รู้ว่าพวกมัธยมปลายมีคนที่ยังรอดชีวิตอยู่กี่คนก็เถอะนะ ถ้าเจ้านั่นยังมีชีวิตรอดอยู่ล่ะก็ ……เจ้านั่นเท่านั้น ที่ยกโทษให้ไม่ได้」  ผมกำหมดแน่น 「คือ เจ้านั่น น่ะ……คือใครเหรอคะ」 「อ้าー、อืม ซาโซว ชิบะน่ะ พ่อของมันเป็นผู้บริหารของโรงเรียนนี้แล้วก็……」  ผมเล่าเกี่ยวกับความชั่วร้ายของเจ้านั่น 「เพราะงั้นแหละ อริส เธอไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจคนแบบเจ้านั่นก็……นี่ อริส?」  อริสที่รู้สึกตัว ก้มหน้าลงราวกับจะปิดบังอะไรสักอย่างในใจ 「เป็นอะไรรึเปล่า?」 「อะ ค่ะ」  เธอรีบเงยหน้าขึ้น สีหน้าดูเหนื่อยเล็กน้อย  ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลหรอก จนถึงเมื่อกี้ เธอใช้ร่างกายบอบบางนั่นต่อสู้เสี่ยงชีวิตเรื่อยมา จิตใจคงจะเหนื่อยล้าเต็มทีแล้วล่ะมั้ง 「ขอโทษนะ ให้ฟังเรื่องน่าเบื่อไร้สาระแบบนี้」 「มะ ไม่ค่ะ……ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ได้ เป็นอะไรเลย」  อริส ส่ายหัวอย่างเอาเป็นเอาตาย  คงจะไม่อยากให้ผมรู้สึกผิดล่ะมั้งน่ะ  ผิดแล้วล่ะ ตัวผมในตอนนี้น่ะ แค่ได้มองหน้าเธอก็มีความสุขแล้ว 「จะว่าไป อริส」 「คะ」 「ถ้าออกไปจากห้องสีขาวนี่แล้วล่ะก็ เธอจะกลับไปเป็นสาวพรมจรรย์อีกครั้งล่ะ สรุปก็คือ ตราบใดที่ยังสู้รบกันที่ห้องนี้ ผมก็สามารถเปิดซิงเธอได้……」 「……อาโน」  อริส หรี่ตาลง 「เห็นชั้นเจ็บปวดแล้ว มีความสุขเหรอคะ」 「เปล่าๆ คือ……อริสที่น้ำตาริ้นๆก็น่ารักเหมือนกัน แต่ความหมายของผมต่างไปนิดหน่อย น่ะนะ」 「ทำไมถึงใช้ภาษาสุภาพล่ะคะ」 「อ่าー、คือว่า、เอーโต」  อริสถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นตัวผมที่กำลังลุกลี้ลุกลน  แล้ว เธอก็แหงนหน้ามองขึ้นมาตรงๆ 「ถ้าคาซึซังต้องการจริงๆล่ะก็ ชั้นเองก็อยากจะให้คาซึซังมีความสุขค่ะ แต่ว่า」 「แต่ว่า?」 「ช่วยคิดถึงการคบกันหลังจากนี้ด้วยค่ะ」 「อ๊ะ、เอーโต ติดลมไปหน่อยน่ะ ขอโทษนะ」  ผมง้อเธอ  แต่ในใจน่ะ ยิ้มร่าอยู่ครับท่านผู้ชม ไม่ได้สำนึกเลยสักนิด อริส:เลเวล5 การใช้หอก3/เวทรักษา1→2 สกิลพอยท์3→1

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้