Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 17 ย่ำรุ่ง

ฝัน  ภายในความฝัน เจ้านั่นกำลังมองลงมาหาผมที่ถูกกดอยู่บนพื้นอย่างเหยียดหยาม พร้อมกับหัวเราะอย่างน่าเกลียด 「ไอ้บ้าเอ๊ย」  เจ้านั่นพูด 「ปกป้องผู้หญิงที่รักไม่ได้เนี่ยนะ」  เจ้านั่น มองมาที่ด้านข้างของผม  ทันใดนั้น ผมก็ค่อยๆหันไปมองข้างๆ  ผู้หญิงล้มลงนอนอยู่  หอกขนาดใหญ่เสียบอยู่ที่ลำตัว ปักเธอไว้กับพื้นดินราวเสียบลูกชิ้น  ผู้หญิงคนนั้นคือ อริส  ดวงตาไร้ประกายของอริสที่ถูกชโลมไปด้วยเลือด มองมาทางผม 「พลาดแล้ว」  อริสซึ่งใบหน้าไร้สีเลือดขยับปาก 「พลาดแล้วที่ติดตามคาซึซังมา เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของคุณ ชั้นถึงต้อง」  อ้า งั้นเหรอ  ผมเข้าใจแล้วว่ามันเรื่องอะไร  ผมเงยหน้ามองรอยยิ้มอันชั่วร้ายของเจ้านั่นอย่างงงงัน  ผมยังคง แพ้มันอีกงั้นเหรอ 「ไม่ว่าจะไปที่ไหน เอ็งมันก็แค่สวะเท่านั้นแหละ เพราะเอ็งล้วนๆเลย ที่ทำให้เธอต้องตาย」  ใช่ เพราะผม อริสถึงต้องตาย  เพราะความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวของผม ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างพังหมด  แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผมกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด พยายามพยุงตัวขึ้น 「ถึงอย่างนั้น ผมก็ยัง ตัดสินใจไปแล้ว จะไม่หนี ครั้งนี้แหละ ผมจะ」  จ้องมองไปยังเจ้านั่นที่กำลังยิ้มอย่างผู้ชนะ……         ※  ในอดีตอันไกลโพ้นในสมัยที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ผู้คนใช้ชีวิตโดยการนอนหลับพร้อมกับพระอาทิตย์ที่ร่วงหล่น และตื่นพร้อมกับพระอาทิตย์ฉายแสง  เมื่อคืนนอนเร็วเกินไปงั้นเหรอ วันนี้ผมตื่นขึ้นมาก่อนช่วงย่ำรุ่งเสียอีก  ผมสูดลมหายใจเข้า ลุกขึ้นจากเตียง  เหงื่อไหลออกมามากมาย  รู้สึกว่าฝันเห็นอะไรสักอย่าง คิดว่าน่าจะเป็นฝันร้าย 「ฝันร้าย สินะ」  พึมพำ  ยังไงเมื่อวานก็ โหดเอาเรื่องล่ะ  ชีวิตประจำวันได้จบลงไปแล้ว  เพียงแค่1วันเท่านั้น ทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไป  และมันก็จะ ต่อเนื่องในวันนี้ด้วย  ฝันร้ายยังไม่จบ  ผมออกมาจากเตียง  อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไม่ได้แสดงผลอะไรเท่าไหร่  อาจจะเป็นเพราะร่างกายของผมผ่านการฝึกฝนจากการขุดหลุมมาก็เป็นได้นะ  ส่วนอริสท่าจะแย่พอดูเลย  ที่ด้านล่าง มีวงเม้าส์มอยชองเหล่าสตรีตั้งอยู่ก่อนแล้ว  กลิ่นของปลาโอลอยเข้าจมูกหอมหวนทีเดียว  พอถามดู แม้จะมีความเสี่ยงจากการที่ออร์คจะสังเกตเห็น แต่การเพิ่มพลังกายจากอาหารเช้าก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ดี ดูเหมือนจะเป็นข้อเสนอจากชิคิซังน่ะ  ถึงแม้เตาของห้องครัวจะไม่มีแก๊สเหลือแล้ว แต่ดูเหมือนพวกเธอจะค้นพบเตาแก๊สแบบพกพาอยู่ จึงใช้มันในการทำอาหารขึ้นมา  ในสถานการณ์แบบนี้ การที่มีสมาชิกชมรมทำอาหารอยู่ด้วย ผมคิดว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากเลยนะ  อาหารที่ทำออกมาก็คือซุบมิโสะ ข้าว และคาเร  มื้ออาหารเช้าอย่างง่ายๆน่ะ  แต่ว่าแค่นี้ก็พอแล้ว คาเรคืออาหารของคนญี่ปุ่นนะ  เพราะท้องว่างมานาน เมื่อเห็นอาหารอยู่ตรงหน้า พวกผมจึงลงมือซัดเข้าไปอย่างหิวโหย  ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว เริ่มจากอริส ทุกคนพากันขอเติมกันทั้งนั้น 「วันนี้คือวันตัดสิน ถ้าไม่เตรียมStaminaให้พร้อมล่ะก็แย่แน่!」  ทามากิพูด  อย่างนี้นี่เอง พวกผู้หญิงทุกคน รู้แล้วสินะ  ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ไหน ความจริงที่พวกตนเองต้องออกไปเผชิญคืออะไร  ด้วยความอบอุ่นจากข้าวสวยที่หล่นลงไปจนแน่นกระเพาะ ทำให้รู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมา  หลังจากอาหารเช้า ระหว่างที่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเต็มที่ ก่อนอื่นต้องขอเปิดประชุมเกี่ยวกับข้อมูลที่มีอยู่และแนวทางการเคลื่อนไหวต่อจากนี้  สถานที่ก็คือห้องประชุมที่ชั้น3  ชั้น1และชั้น2ถูกออร์คบุกรุกเข้ามาแล้ว จนกว่าจะทำความสะอาดให้เรียบร้อยผมไม่มีความคิดจะใช้งานหรอก เพราะงั้น พวกผมทั้งหมดจึงรวมตัวกันที่ชั้น3  นั่งลงบนเก้าอี้ที่วางไว้รอบโต๊ะของห้องประชุม กวาดสายตาไปรอบๆ  สบสายตากับอริส  ผมยิ้มให้เธอ หลังจากที่อริสลังเลเล็กน้อย เธอก็ยิ้มแบบไม่เป็นธรรมชาติกลับมา  อาเร๊ะー? ทำไมล่ะ อย่างกับระยะห่างระหว่างเรามันกว้างขึ้นยังไงไม่รู้สิเนี่ย……  ไม่สิ คิดไปเองรึเปล่า  ใช่แล้ว เพราะมีคนอื่นอยู่ด้วย ก็เลยต้องทำเป็นห่างเหินกันหน่อยสินะ  แน่นอนอยู่แล้ว สถานการณ์มันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงนี่  การต่อสู้ที่มีแค่ผมกับอริสแค่2คนน่ะมันจบไปแล้ว  เพื่อที่จะมีชีวิตรอดในวันนี้ แค่2คนน่ะมันไม่ไหว ยืนยันที่ห้องสีขาวมาแล้วด้วย  ไม่สิ ถ้าผมกับอริสเคลื่อนไหวกัน2คนต่อไปล่ะก็ อย่างน้อยน่าจะเอาชีวิตรอดได้อยู่ล่ะมั้ง  แต่ถ้าทำแบบนั้น จะไม่สามารถปกป้องทามากิซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของอริสได้  เมื่อวานนี้ทามากิ ไม่สามารถช่วยเหลือเด็กมัธยมต้นปี1 2คนซึ่งเป็นผู้ช่วยชีวิตตัวเองได้เลย  ผมตั้งสติใหม่ กวาดตาไปรอบๆอีกครั้งหนึ่งแล้วเปิดปากพูด 「ขอยืนยันก่อนนะ ได้ฟังเรื่องทิวทัศน์ด้านนอกภูเขามาจากอริส แล้วสินะ」 「ไปดูมาด้วยตาคู่นี้แล้ว」  ทามากิเป็นคนพูด  ผมถามกลับไป หมายความว่ายังไง 「มองเห็นน่ะ จากดาดฟ้า」 「อะไรล่ะ」 「ทุ่งหญ้า」  อ๊ะ งั้นเหรอ ผมส่งเสียงแทนคำตอบ  ดาดฟ้าของอาคารหลังนี้ สูงกว่าต้นไม้นิดหน่อย  อีกฟากหนึ่งของภูเขาเองก็ น่าจะเห็นได้ไม่ยาก 「ตอนที่หลบหนีมา มันว่างน่ะ ก็เลยไปดาดฟ้า มองดูรอบๆ ตกใจเลยล่ะ เป็นทิวทัศน์ที่ต่างกับปกติโดยสิ้นเชิงเลย」 「คิดว่ายังไงล่ะ」 「อ้าー、มาโลกของเกมซะแล้วเหรอเนี่ยーประมาณนี้มั้ง」  วิธีการพูดของทามากิ ตรงไปตรงมายิ่งกว่าผมซะอีก  โลกของเกม  อื้ม มีออร์ค ทุ่งหญ้ากว้างขนาดนั้น นกยักษ์ที่จับช้างตัวใหญ่บินขึ้นไป  ได้เห็นอะไรแบบนั้นจะบอกว่าเป็นโลกของเกมก็คงเกินไปหรอก  พวกเธอทุกคน รับรู้แล้วว่าพวกเราตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนในตอนนี้  ที่นี่ไม่ใช่โลก  เป็นต่างโลก 「อีกอย่าง โฮร่า ตอนกลางคืนถ้าแหงนมองบนฟ้า ก็เห็นพระจันทร์2ดวงด้วยสิ」 「อ้า มีจริงๆด้วยนะ」 「ดวงดาวเองก็แตกต่างเหมือนกัน」 「ถนัดเรื่อง ดวงดาวเหรอ」 「อริสน่ะ」  ผมมองไปทางอริส  อริสพยักหน้าเขินๆ 「ชอบพวก เทพนิยายอะไรพวกนั้นน่ะค่ะ」 「ประมาณจูนิเบียวเหรอ?」 「จูーนิเบียー、เหรอคะ?」  อริสเอียงคองงๆ  ซวยแล้ว พูดอะไรที่มันดูโอตาคุไปซะแล้วสิ แต่พอมองดูรอบๆแล้ว มีเด็กสาวบางคนที่แสยะยิ้มนิดๆอยู่เหมือนกัน  ทามากิเองก็ยิ้มด้วย ผมทวินเทลสีบรินด์ของเธอ สั่นนิดๆ  อ๋าーบ้าเอ๊ยยยย  ช่างแม่ม  กลับมาคุยต่อ 「เอโต ถ้างั้นก็ ทุกคน เข้าใจกันแล้วนะว่าที่นี่ไม่ใช่โลกที่พวกเราเคยอยู่」  เด็กผู้หญิงทั้งหลาย พากันพยักหน้า  มีบางคนที่เริ่มมีน้ำตาซึมแล้วด้วย  ไม่ต้องฝืนหรอก ผมเองถ้าเป็นพวกขี้แยล่ะก็ อยากจะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน  ว่ากันตามตรง ทำไมผมถึงต้องมาเป็นตัวหลักในการประชุมด้วยล่ะ  ไม่สิ ช่วยไม่ได้ไม่ใช่รึไง  ที่นี่ตอนนี้ มีเด็กมัธยมปลายแค่2คนเท่านั้นเอง  ผมกับชิคิซังไงล่ะ  ซึ่งชิคิซังก็เกรงใจผม จึงมอบตำแหน่งผู้นำการประชุมให้  ผมเองก็ยังไม่สามารถคบกับชิคิซังได้โดยสนิทใจเท่าไหร่  จะให้เธอเป็นผู้นำงั้นเหรอ ผมไม่เอาด้วยหรอก  ถึงจะเป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยก็เถอะ  ตัวเองเป็นคนพูดเองก็ยังไงๆอยู่ ผมเป็นคนประเภทใจแคบน่ะ  ไม่สิ ช่างเถอะ  เรื่องใจแคบของผมเอาไว้ก่อน ตอนนี้คือการประชุม  เพื่อให้ทุกคนมีความคิดไปในแนวทางเดียวกัน 「ที่นี่คือต่างโลก หลังจากแผ่นดินไหวครั้งนั้น โรงเรียนของพวกเรา ภูเขาทั้งลูก ก็ได้มายังต่างโลก พวกเราคือผู้ที่ติดร่างแหมายังต่างโลกน่ะ」  ผมพูดออกไป 「แล้วพวกออร์คก็บุกรุกเข้ามาที่ภูเขาลูกนี้ ถ้าคำนวณเวลาดู คงไม่สามารถพูดได้ว่าหลังจากเกิดแผ่นดินไหวมันก็ปีนเขาขึ้นมา เจ้าพวกนั้นน่ะ มันมาจากด้านบนภูเขา คิดว่า คงจะมีอะไรสักอย่าง อย่างพวกประตูวาร์ปหรือประตูไปที่ไหนก็ได้พวกนั้นอยู่ล่ะมั้ง」  ถึงจะไม่รู้ว่ามันจะมีจริงๆรึเปล่า แต่คิดว่าพวกมันต้องมีวิธีการเคลื่อนย้ายแบบพิเศษอยู่ไม่ผิดแน่  โลกแห่งนี้มีแม้กระทั่งเวทมนตร์  ดังนั้นจะมีพวกวาร์ปอะไรพวกนั้นด้วยก็ไม่แปลกจริงมั้ย  ความเป็นไปได้ที่จะนั่งเรือเหาะอย่างAirshipอะไรแบบนี้มาก็มีเหมือนกัน 「เป้าหมายของพวกออร์คยังไม่ชัดเจน แต่ว่า เป็นศัตรูของพวกเราไม่ผิดแน่ ตึกทั้งหลายบนภูเขาแห่งนี้ พอจะคาดเดาได้ว่าพวกออร์คต้องการจะยึดครองเอาไว้ทั้งหมด พันธมิตร……ไม่มีหรอก คิดไว้แบบนี้จะดีกว่า ถึงบางทีอาจจะมีผู้ใหญ่หรือนักเรียนคนอื่นที่หนีไปซ่อนตัวอยู่ก็ตาม」  ถ้ามีผู้ใหญ่ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ล่ะก็ เขาอยู่ที่ไหนล่ะ หรือว่าหนีเข้าไปในป่าแล้ว  ถ้าต้องการจะสมทบกับคนอื่น คงต้องปลดปล่อยอาคารทีละหลังเท่านั้นล่ะ  แต่ว่า ขนาดอาคารเรียนศิลปะที่มีออร์คแค่ประมาณ10ตัว เมื่อวานยังแทบรากเลือดเลย  พวกนั้นเป็นกองกำลังหลักงั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก  แล้วยังมี ออร์คผิวสีทองสัมฤทธิ์ที่ตามมาทีหลัง  ถ้าเอาตามชื่อที่ผมตั้งให้เองล่ะก็ Elite・Orc  ถ้าเจ้านั่นเป็นตัวสุดท้าย จะดีแค่ไหนกันนะ  ความคิดเข้าข้างตัวเองแบบนั้น เลิกดีกว่า  ต้องคิดไว้ก่อนว่าศัตรูแข็งแกร่ง ต้องตั้งสมมติฐานไว้ว่า Elite・Orcเคลื่อนไหวกันเป็นกลุ่มด้วย  ส่วนพวกออร์คลูกกระจ๊อก อย่างน้อยก็น่าจะมี100 ไม่สิ น่าจะมีมากกว่านั้นอีก  อาจจะมีตัวที่แข็งแกร่งกว่านั้นอีกก็เป็นได้  ……ว่าแล้วว่า การไม่รู้ข้อมูลของศัตรูนี่มันน่ากลัว  ก่อนอื่นคงต้องสืบข่าวสินะ  แต่ว่า ก่อนหน้านั้น 「ผมน่ะ คิดว่าอยากจะให้คนที่อยู่ที่นี่ได้เลเวล1ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้」  ได้ยินเสียงกลืนน้ำลาย 「ให้ทุกคนฆ่าออร์คตามลำดับน่ะ ผมกับอริสจะทำอะไรสักอย่างให้ออร์คหมดฤทธิ์ จากนั้นทุกคนก็แค่ใช้หอกแทงมันเข้าไปเท่านั้นก็พอ หากได้เลเวล1แล้วได้รับสกิลมาล่ะก็ ต่อให้โดนออร์คจับตัวไป ก็ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองในระดับต่ำสุดได้อยู่ ผมจะไม่บังคับ จะไม่บอกด้วยว่าให้ต่อสู้ต่อไปอีก แต่ว่า ในสถานการณ์ตอนนี้ เลเวล0กับเลเวล1น่ะ มีความปลอดภัยแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว」  แน่นอนว่า หลังจากนั้นถ้าต้องการจะสู้ต่อล่ะก็ ผมจะช่วยซัพพอร์ทเอง  เพราะถ้าเป็นผมกับอริสแค่2คนล่ะก็ ไม่ช่าก็เร็ว จะต้องถึงทางตันแน่นอน  เรื่องนี้ชัดเจนตั้งแต่การต่อสู้เมื่อวานนี้แล้ว  การทำงานกลุ่มเล็กๆ จะให้ประสิทธิภาพด้านค่าประสบการณ์ที่ดี  แต่ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา ก็จะแก้ไขได้ยาก  กรณีของเมื่อวาน นั่นคือการเอาชีวิตของอริสเข้าไปเสี่ยง  ถ้ามองจากความเป็นจริง ตัวผมในตอนนั้นน่ะ ทอดทิ้งอริสให้ไปตายแล้ว  ยังโชคดี ที่สามรถเอาชนะได้  แต่ว่า การเอาชีวิตไปเสี่ยงกับขอบเหวแบบนั้นน่ะ ไม่อยากเจอเป็นครั้งที่2แล้ว  เพื่อการนั้น ต้องมีการรับประกัน  ไม่ต้องเป็นพาร์ทเนอร์ที่สามารถเชื่อใจได้จริงๆก็ได้  อยากได้สมาชิกที่สามารถซัพพอร์ทผมหรืออริสได้ตามสถานการณ์  นอกจากนี้ หากจะเอาอาคารเรียนศิลปะเป็นจุดยุทธศาสตร์ล่ะก็ จำเป็นต้องมีสมาชิกที่สามารถปกป้องจุดยุทธศาสตร์ได้อยู่ด้วย  พอคิดแบบนี้แล้ว ที่เมื่อคืนสามารถนอนหลับบนเตียงได้นี่นับว่าโชคดีแล้วนะ  หากได้นอนในที่โล่ง จะสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเพียงพอรึเปล่า  จะสามารถนอนได้อย่างปลอดภัยรึเปล่ายังไม่รู้เลยด้วย 「ชั้นจะ ท่ำ」  อย่างที่คิดไว้ คนที่ยกมือเป็นคนแรก ก็คือเพื่อนสนิทของอริส ทามากิ 「ไม่อยาก จะหนีไปตลอดแล้ว ให้อริสเป็นฝ่ายปกป้องฝ่ายเดียวก็ผิดวิสัยด้วยล่ะนะ」  เธอพูดล้อเล่น พร้อมกับส่งยิ้มให้อริส  อริสยิ้มแห้งๆ「ให้ปกป้อง ก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ」ตอบกลับไป 「ชั้นจะปกป้องอริสเอง! สลับกันไม่ได้นะ!」  พูดจบ ทามากิก็หันกลับมาทางผม 「เพราะอย่างนั้นแหละ ให้ชั้นเข้าร่วมปาร์ตี้ของนายด้วยนะ คาซึซัง」 「อ้าー、ปาร์ตี้ของผมยังไงก็คงต้องเป็นกำลังหลัก อันตรายมันก็……เอาเถอะ ก็ได้」  ถ้าเป็นเธอล่ะก็ คงจะสามารถปกป้องอริสเอาไว้ได้แม้ตัวเองจะต้องตายก็ตาม  ถึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะปล่อยมือจากผมไปก็เถอะ แต่ช่างมัน ตราบใดที่อริสยังชอบผมอยู่ ยังไงก็คงไม่มีทางหักหลังแน่ๆล่ะ คิดว่านะ  ไม่สิ เดี๋ยวก่อน? ถ้าทามากิ ชอบอริสล่ะ?  แน่นอนว่าในความหมายของเรื่องเพศน่ะนะ  จะหึงอริสอย่างรุนแรงงั้นเหรอ……  มองหน้าทามากิ  หืม? ทามากิเอียงคออย่างใสซื่อ 「อะไรล่ะ มาจ้องกันแบบนั้น หลงรักชั้นแล้วรึไง?」 「หา?」  อริสสะดุ้งขึ้นมาทีนึง มองผมกับอริสสลับกันไปมา  หญิงสาวที่ประกาศตนว่าเป็นเพื่อนสนิทของอริส หัวเราะ นิฮิฮิ อยู่ 「อ้าー、ทามากิ อย่าพูดอะไรที่มันชวนเข้าใจผิดแบบนั้นสิ……」 「เอ๋ นี่คิดจะควบทั้งชั้นแล้วก็อริสเลยงั้นเหรอ?」 「โอ้ย เธอนี่」  ใบหน้าของอริสเปลี่ยนเป็นสีแดงและน้ำเงินสลับไปมา ดูยุ่งจังเลยเนอะ  ทามากิเองก็แกล้งล้อพวกผมแหละ แต่ก็อยู่ในระดับพอดีพอควร  อื้ม ปล่อยไปแล้วกัน  ความเป็นไปได้ที่ทามากิจะเป็นเลสเบี้ยนนี่ ปล่อยไว้ชั่วคราวน่าจะดีกว่านะ  บางทีเธออาจะไม่ใช่คนประเภทนั้นก็ได้  คิดว่า น่าจะเป็นพวกประเภทไม่คิดอะไรมากมายซะมากกว่า 「คนอื่นล่ะ?」 「ชั้นก็ จะทำ」  ชิคิซังพูด 「จะให้เจอกับเรื่องแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่2น่ะขอทีเถอะ……แต่ถึงอย่างนั้น จะให้เข้าร่วมปาร์ตี้ของคายะคุงด้วยก็ขอบาย ว่ากันตามตรง ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับออร์คแล้ว แต่ว่า จะให้อยู่แบบไร้พลังก็ไม่เอา เพราะงั้นนะคายะคุง รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน แต่ช่วยเตรียมออร์คไว้ให้ชั้นตัวหนึ่งทีนะ」  แน่นอนว่าผมรับได้  คนที่ยกมือเป็นคนต่อมาก็คือ 1ในนักเรียนมัธยมต้นปี1 2คนที่ช่วยทามากิเอาไว้เมื่อวาน 「ชั้น จะทำ」 「เธอคือ……」 「ทากามิยะ มิอะ ชั้นเองก็อยากขอเข้าร่วมปาร์ตี้ของรุ่นพี่คาซึด้วย」  ทากามิยะ มิอะ เป็นผู้หญิงตัวเล็กยิ่งกว่าอริสซะอีก  ตัวเพรียวบาง ส่วนสูงไม่ถึง150เซนติเมตรด้วยซ้ำไป  ลักษณะเฉพาะคือ ผมดำเงางามยาวถึงบ่า ดวงตาที่ทำให้ลุ่มหลง และใบหน้าโลลิ  ลักษณะคล้ายกับเด็กประถมซะหลายส่วน ไม่สิ เด็กมัธยมต้นปี1อย่างเธอน่ะ เมื่อครึ่งปีก่อนยังอยู่ชั้นประถมอยู่ เพราะงั้นอาจจะเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วก็ได้ 「อยากใช้ เวทมนตร์」 「อ้าー、นั่นสินะ ถ้าต่อสู้ด้วยเวทมนตร์ล่ะก็ ลักษณะรูปร่างจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยสิ แต่ว่า มิอะ ……เรียกแบบนี้ได้มั้ยนะ มิอะ ความเสี่ยงน่ะไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะ」 「รับทราบ รับทราบ」  ล้อกันเล่นอยู่รึเปล่า ผมมองไปยังดวงตาของมิอะ  ดวงตาอันล้ำลึกของเธอก็มองผมกลับมา  อืーม ไม่ค่อยเข้าใจเลย 「พี่ชาย อยู่ชั้นมัธยมปลาย」 「พี่ชาย?」 「ชั้นปี3 ห้อง2」 「ผมไม่รู้จักคนที่มีนามสกุลทากามิยะหรอกนะ」 「……เหรอ」 「อยากเจองั้นเหรอ เพื่อการนั้นถึงต้องการพลังงั้นเหรอ」  มิอะพยักหน้ายอมรับ  อย่างนี้นี่เอง เป็นพวกบราคอนงั้นสินะ 「ถึงจะเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่อง แต่พี่ชายก็คือพี่ชาย ต้องปกป้อง」  ……เหมือนจะไม่ใช่ยังไงๆอยู่นะ  พูดตามตรง ผมคิดว่าพวกนักเรียนมัธยมปลายน่ะตายๆไปซะให้หมดก็ดี  พี่ชายของเธอเอง อาจจะรู้เรื่องของผมก็เป็นได้  พวกนั้น อาจจะมาบอกคนเหล่านี้ว่าก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่น่าสมเพชแค่ไหนก็เป็นได้  ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ในตอนนี้จะไปคิดถึงเรื่องนั้นก็ไม่ใช่ประเด็น  ได้เห็นเรื่องน่าสลดแบบเมื่อวานนี้ เธอเองก็คงจะถูกจุดไฟในการต่อสู้ขึ้นมาล่ะมั้ง  อย่างน้อยที่สุดวันนี้1วัน ลองดูท่าทีไปก่อนก็ได้  อะไร ต่อให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา ยังไงอริสกับทามากิก็อยู่ข้างผมอยู่แล้ว  แค่คิดแบบนั้น สมาชิกปาร์ตี้นอกจากอริสและทามากิน่ะ แค่มิอะคนเดียวก็พอแล้ว  ต่อให้มิอะเปลี่ยนใจทีหลัง หรือหักหลังก็ตาม การต่อสู้แบบ3ต่อ1ยังไงก็ต้องแพ้ 「อย่างน้อยที่สุด ในช่วงนี้คงจะไม่สามารถอนุญาตให้ไปยังอาคารเรียนมัธยมปลายได้ แต่ยังไงสักวัน ผมก็คิดว่าพวกเราจำเป็นจะต้องก้าวเท้าเข้าไปที่อาคารเรียนมัธยมปลายอยู่แล้ว ไว้ถึงตอนนั้นค่อยไปตามหาก็แล้วกันนะ」 「แค่นั้นก็พอแล้ว ให้รออยู่เงียบๆ ไม่เอา」  ผมบอกเธอไปว่า ผมคาดหวังกับเธออยู่นะ  ไม่ว่าทางไหน อันดับแรกเธอก็ต้องฆ่าออร์คให้ได้1ตัวก่อน  หลังจากผ่านขั้นตอนนั้นไป ค่อยถามอีกครั้งก็ได้ว่าจะเข้ามาเป็นสมาชิกปาร์ตี้ของผมจริงๆรึเปล่า  ผมน่ะ ไม่คิดว่าคนที่อยู่ที่นี่จะสามารถฆ่าออร์คได้ทุกคน  คิดว่าขอแค่ครึ่งหนึ่งก็พอแล้ว  ไม่สิ เคยคิดแบบนั้น  เริ่มจากมิอะ คนต่อๆไปก็ค่อยๆยกมือขึ้น สุดท้าย ทุกคนก็บอกว่าจะฆ่าออร์ค  ดูเหมือนว่า เหตุการณ์น่าสลดเมื่อวานนี้ จะทำให้พวกเธอตัดสินใจได้ยิ่งกว่าที่ผมคาดการณ์เอาไว้ซะอีก 「เข้าใจแล้ว ถ้างั้น ก่อนอื่น」  ผมประกาศต่อหน้าทุกคน 「ขุดหลุมกับดักกัน!」  ประกาศออกไปด้วยเสียงอันดัง  นอกจากอริสแล้ว ทุกคนถึงกับอึ้งไปเลย

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้