Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 19 แอบดูหอพักหญิง

ในส่วนของเวทมนตร์ที่มิอะได้รับมา ผมนับถือในการตัดสินใจของเธอเลย  ผมเอง ก็ได้บอกทิศทางเป้าหมายของปาร์ตี้ของผมให้เธอรับรู้ไปแล้ว  ตามที่เขียนไว้ด้านล่างนี่เลย ・เป็นเรื่องหลังจากนี้แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้หรอก เอสปาตี้ของพวกผมจะประกอบไปด้วยสมาชิก4คน ผม อริส ทามากิและมิอะ ・แถวหน้าคืออริสกับทามากิ แถวหลังคือผมกับมิอะ ・ไม่จำเป็นต้องมีเวทโจมตีโดยตรงก็ได้ แต่ถ้ามีก็จะดี ・ถ้ามีเวทมนตร์ที่สะดวกต่อการหลบหนีก็จะดีมาก  เวทดินและเวทลม การประสานกันของเวททั้ง2 อย่างน้อยที่สุดก็ตอนแรงค์1 ไม่มีเวทโจมตีที่หวังผลได้เลย  แต่จุดเด่นของมันน่ะ คือมีเวทประเภทซัพพอร์ทที่สะดวกๆอยู่หลายอย่าง  เพราะงั้นแค่นี้ก็ เพียงพอแล้ว  ต่อจากมิอะ คนต่อไปที่เลเวลอัพก็คือทามากิ  หลังจากนี้ ต้องใช้หลุมกับดักที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว  ถ้าทำหลุมกับดักเสร็จสักครั้งหนึ่ง หลังจากนี้ถ้าอำพรางดีๆล่ะก็ สามารถเอากลับมาใช้ใหม่ได้อยู่  ให้อริสออกไปล่อพวกออร์คมา แล้วให้มันตกลงไปหลุมซะ  จากนั้นก็ให้ทามากิแทงให้ดับ  ถัดจากทามากิ ก็เป็นชิคิซังที่เลเวลอัพ  สกิลที่ชิคิซังเลือกมาคือ สอดแนม1กับขว้าง1  ที่ชิคิซังเลือกสกิลสอดแนมมาก็เป็นเพระว่า เธอเชี่ยวชาญการปกปิดหลุมกับดักน่ะ  ถ้าเพิ่มแรงค์ของสกิลนี้ขึ้นไป ดูเหมือนว่าจะสามารถเพิ่มความสามารถของกับดักที่ใช้ล่าสัตว์ได้ด้วย  แต่สาเหตุจริงๆที่ชิคิซังเลือกสกิลสอดแนมมา ไม่ใข่เพราะเธออยากจะเป็นScoutชั้นยอดหรอก 「ให้ไปต่อสู้น่ะเหรอไม่เอาด้วยหรอก ชั้นจะหนีและหลบซ่อนด้วยทุกอย่างที่มี」  เธอบอก  พลางเชิดอกขึ้น  ใหญ่จังน๊า ผมคิด  ในส่วนของเหตุผลที่เธอเลือกสกิลขว้าง 「ถ้าเป็นมีดหรือมีดทำครัวล่ะก็ มีอยู่หลายอันเลย เชื่อถือได้มากกว่าอาวุธที่เอามาจากพวกออร์คอีก」  เธอว่างั้นน่ะ  อย่างนี้นี่เอง ก็มีเหตุผลอยู่นะ  เธอน่ะเป็นพวกตรรกวิทยา  เวทมนตร์ที่มิอะได้มา เป็นเวทมนตร์แบบยิงแม็พ  Earth・Bindที่เป็นเวทดินน่ะ มีประสิทธิภาพดีมาก  เพราะเป็นเวทมนตร์ที่ใช้ควบคุมต้นหญ้าบนพื้นให้ทำหน้าที่รัดขาของศัตรูเอาไว้  หยุดการเคลื่อนไหวของออร์ค ถ้าเป็นไปได้ก็ทำให้พวกมันล้มลงไป  หลังจากนั้นก็ให้อริสควงอาวุธเข้าไปจัดการมือข้างที่ถืออาวุธเอาไว้ ถ้าไปได้สวยไม่ว่าใครก็สามารถฆ่าออร์คได้โดยปลอดภัย100%  ว่าไงนะ เหมือนรังแกคนอ่อนแอที่ไร้ทางสู้เลยงั้นเหรอ บ้าน่า ถ้าคิดถึงเรื่องที่พวกนี้กระทำมาจนถึงตอนนี้ แค่นี้มันขี้ผงมากเลยนะ  ถ้าเลเวล1ได้สัก3คนแล้วล่ะก็ ต่อให้ไม่มีผมก็ไม่มีปัญหาแล้ว  เพราะงั้นแหละ ผมจึงมอบหมายให้ทามากิออกไปสอดแนมข้างนอก  ตามที่อริสรายงานมา ช่วงเช้าตรู่นั้นพวกออร์คไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวกัน  แต่ถ้าไม่ลองเข้าไปให้ใกล้กว่านี้ก็ไม่รู้แบบละเอียด เพราะงั้น ก็เลยอยากจะให้เข้าไปในตึกโดยตรงอยู่เหมือนกัน……  ผมปฏิเสธเธอตรงนั้นเลย  และบอกไปว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นผมจะไปสำรวจด้วยตัวเอง  อย่างที่ว่ามา จุดแรกที่ไปก็คือ จุดที่ใกล้กับอาคารเรียนศิลปะที่สุด……ถึงจะว่างั้นก็เถอะ มันมีต้นไม้ขึ้นหนาทึบเพราะงั้นจึงต้องเดินประมาณ10นาทีถึง เป็นหอพักหญิงน่ะ  หอพักหญิงซึ่งเป็นอาคาร3ชั้น ก็อย่างที่ชื่อบอกอยู่ นักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้นทุกคน จะต้องนอนอยู่ที่อาคารนั้นกัน  อาคารเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมขนาด60เมตร  โรงเรียนของผม ถ้าจำไม่ผิดนักเรียนมัธยมปลายมี1300คน ส่วนนักเรียนมัธยมต้นมี700คน  ก็หมายความว่ามีนักเรียนหญิงอยู่ประมาณ350คนงั้นเหรอ?  เอาเถอะ ถ้าไม่ใช่จำนวนระดับนี้ก็คงไม่พอค่าบำรุงล่ะนะ  แต่ว่าก็ว่าเถอะ……  หอพักหญิง เหรอ  ไม่ๆ ผมไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงนะ  หอพักหญิง ความรู้สึกที่ได้ยินคำนี้ ไม่มีเป็นพิเศษหรอก  ไม่มีจริงๆนา  ก็แค่ หากจะเปิดฉากจู่โจม ก่อนอื่นก็ต้องเริ่มจากจุดที่อยู่ใกล้ก่อน ก็เท่านั้นเอง  จู่โจมหอพักหญิง  ……เป็นคำพูดที่ทำให้รู้สึกดีจริงๆ อุฮิ  ชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากพุ่มไม้ใกล้หอพักหญิง สอดส่องภายในนั้นด้วยกล้องส่องทางไกล  หรือก็คือผมนั่นเอง  ถ้าเป็นเวลาปกติล่ะก็ นี่คือคนวิตถารไม่ผิดแน่  แต่ว่าตอนนี้คือเวลาฉุกเฉิน 「คาซึซัง เหมือนคนวิตถารเลยค่ะ」 「ฟังนะ ทามากิ นี่ก็แค่ส่วนหนึ่งของแผนการเท่านั้นแหละ」  ถึงจะพูดแบบนั้นแต่หน้าต่างของหอพักหญิงไม่ว่าห้องไหนก็ติดผ้าม่านเอาไว้  ไม่เห็นข้างในเลยแฮะ อืーม  ไม่สิ หน้าต่างของห้องที่ชั้น3แตกอยู่นิ  ถ้าจากตรงนั้นล่ะก็ น่าจะบุกเข้าไปได้นะ  ผมสั่งให้อีกาบินเข้าไปสอดแนม  เสริมเวทมนตร์ใหม่เข้าไปด้วย  เวทซัพพอร์ทแรงค์3 Remote・Viewing  Remote・Viewingเป็นเวทที่จะทำให้เห็นภาพที่เป้าหมายของเวทมนตร์มองเห็นอยู่ หรือก็คือเวทมนตร์ที่จะทำให้ผมใช้ดวงตาร่วมกับอีกาได้นั่นเอง  เพียงแต่เวทมนตร์นี้ ตราบใดที่มันยังแสดงผลอยู่ สายตาของผมจะอยู่ที่เป้าหมายตลอด  หรือก็คือสูญเสียการมองเห็นจากทิศทางของตัวผมเอง  หากไม่มีใครช่วยคุ้มครองล่ะก็ จะไม่สามารถใช้ได้  เพราะงั้น จึงต้องให้ทามากิช่วยสังเกตการณ์ในบริเวณนี้  แถมหน่อย สกิลที่ทามากิได้มาคือการใช้ดาบ1กับร่างกาย1  โดยเธอนั้นอยากจะใช้ขวานยักษ์ของElite・Orcที่จัดการไปเมื่อวานนี้  ในความเป็นจริง หลังจากที่ได้สกิลมาก็ลองให้เธอยกดูแล้ว ผลก็คือสามารถยกได้แต่ไม่สามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่วในระดับที่จะเอาไปฟาดฟันกับใครได้น่ะ  พลังของสกิลนี่ สุดยอดไปเลย  ในช่วงเวลาของการสอดแนมนี้ ให้ถืออาวุธโคตรใหญ่แบบนั้นมามันก็เกะกะเกินไป  ในตอนนี้ เธอใช้ดาบเหล็กที่มีความเหมาะสมกับขนาดตัวเป็นอาวุธ  เป็นดาบขึ้นสนิมของออร์ค ที่ใช้Repair・Metalขัดให้ใหม่น่ะ  ทามากิดูเหมือนจะไม่พอใจอยู่เหมือนกัน แต่ในตอนนี้คงต้องขอให้เธอช่วยอดทนไปก่อน  ผมไม่มีความคิดที่จะให้คนอื่นนอกจากเธอและอริสมาเป็นบอดี้การ์ด  ถึงจะยังไม่รู้ลักษณะนิสัยของทามากิ แต่เธอคือคนที่เห็นอริสเป็นคนสำคัญ หรือก็คือเป็นคนประเภทที่ไม่น่าจะลอบทำร้ายผมนั่นเอง  เอาล่ะ ใช้Remote・Viewing ผมได้ความสามารถในการมองของอีกามาแล้ว  อสูรรับใช้อีกากระพือปีก บินขึ้นไปบนท้องฟ้า  โอ้ สุดยอดๆ  บินบนท้องฟ้านี่มันรู้สึกดีจริงๆ  ตอนที่มีเวลาว่าง อยากจะมาเล่นแบบนี้อีกเหมือนกันนา  ……เมื่อไหร่จะมีเวลาแบบนั้นนะ ไม่รู้เลย  อีการ่อนลงที่รั้วดาดฟ้าของหอพักหญิงซึ่งมี3ชั้น  พอลงไปปุ๊บ เหล่าอีกาที่รวมตัวกันอยู่บนดาดฟ้าก็พากันกระพือปีกบินหนีไป  คงจะรู้ว่าอีกาของผม ไม่ใช่อีกาธรรมดาๆสินะ  แต่จะว่าไป ถ้าลองคิดดูว่าอีกาเหล่านี้มันมาสนใจอะไรที่ดาดฟ้านี่ล่ะก็……  มีเงาคนนอนอยู่ที่ดาดฟ้า  ศพล่ะ  ศพผู้หญิง 6ศพแน่ะ  อีกามาขุมนุมกัน กัดกินศพ  ผมพยายามต้านทานของเหลวในกระเพาะที่กำลังจะย้อนขึ้นมาสุดชีวิต  โชคดี ไม่นานอีกาก็ออกบินอีกครั้ง  เวทมนตร์นี้ ถึงจะสามารถใช้สายตาร่วมกันได้ แต่ไม่สามารถออกคำสั่งได้  บุกเข้าไปภายในห้อง จากหน้าต่างที่แตกอยู่บนชั้น3  ด้านข้างหน้าต่าง มีศพของเด็กสาวกองอยู่  คอหมุนไปในทิศทางแปลกๆ  แล้วก็ ท่อนล่างที่เปลือยเปล่าเหมือนอย่างที่คิด  ทุบกระจกให้แตกเพื่อใช้สำหรับหนี แต่ถูกจับตรงนั้น ถูกข่มขืน แล้วก็ถูกฆ่าอย่างนั้นสินะ  หมดเวรหมดกรรมแล้วล่ะนะ ผมพนมมืออธิษฐานให้เด็กสาวที่ไม่รู้จักชื่อ  ทามากิที่อยู่ใกล้ๆผม เห็นผมพนมมือแน่นอนแหละ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา  อีกามุ่งหน้าสำรวจภายในหอพักหญิงตามคำสั่งของผมอย่างเคร่งครัด  วันนี้มีเวลา ไม่เหมือนเมื่อวาน  ต่อให้อีกาตัวนี้โดนฆ่า ผมก็ไม่ได้รับความเสียหายอะไร  อีกฝ่ายจะรู้รึเปล่าว่ามีอสูรรับใช้อยู่ ผมไม่รู้หรอก……  น่า ออร์คเองก็ดูโง่ด้วยสิ  อาจจะคิดไปเองก็ได้  Death Flag?  ไม่ ไม่หรอก คิดว่าไม่เป็นไรแน่ๆ  อีการ่อนลงบนพื้น เดินต้วมเตี้ยมๆไปบนทางเดินมืดๆ  อย่างที่เห็น ไม่มีวี่แววของสิ่งที่เคลื่อนไหวได้เลย  เวทมนตร์นี้ ไม่ได้มีผลถึงการได้ยิน ดังนั้นต่อให้มีเสียงอะไรดังขึ้นมา ผมก็ไม่มีทางได้ยิน  อีกาลงไปถึงชั้น1  เดินไปถึงหน้าประตูที่เปิดค้าง ชะเง้อมองเข้าไป  ดูเหมือนจะเป็นห้องทานอาหารน่ะ  เห็นขาอ้วนๆของออร์ค หลายคู่เลย  เห็นภาพของเหล่าเด็กผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้น บางที ก็ตัวสั่นขึ้นมาราวกับชักกระตุก 「มีคนที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ สินะ」  ทามากิพูดเบาๆขึ้น คงจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของผมล่ะมั้ง  ได้ยินเสียงถอนหายใจของเธอ  เธอเอื้อมมือนุ่มๆของเธอ มาสัมผัสกับมือของผมที่กำหมดแน่นอยู่ 「ทำไม ถึงรู้」 「ก็กัดฟันด้วยความเจ็บใจขนาดนั้น มันก็ต้องรู้อยู่แล้ว」 「……อ้า」 「พอจะไปช่วยได้ รึเปล่านะ」  ถ้าพวกเธอยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ ก็พอจะเข้าไปช่วยได้อยู่ ……  ปัญหามี อย่างเดียว  ภายในกลุ่มออร์ค มีอยู่1ตัวที่มีสีทองสัมฤทธิ์ 「มีElite・Orcอยู่ด้วย」  ผมครวญครางออกมา         ※  ผมกับทามากิกลับไปสมทบกับกลุ่มที่ทำการล่าออร์คอยู่  เพื่อปรึกษาเรื่องของหอพักหญิงน่ะ  พอดีกับที่เลเวลของทุกคนเป็น1กันหมดแล้ว  เท่านี้เลเวล1ก็มี9คน  ผมกับอริสเท่านั้นที่เลเวล5  เมื่อเป็นแบบนี้ ก็อยากจะให้ทุกคนเปลี่ยนเป็นเลเวล2ให้เร็วที่สุด  จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หากเลเวลการใช้อาวุธเปลี่ยนเป็น2แล้วล่ะก็ แค่ระดับออร์คน่ะไม่ใช่คู่มือหรอก  ถึงจะว่าแบบนั้น การบุกเข้าไปในหอพักหญิงเพื่อช่วยชีวิตคนที่ยังรอดอยู่ออกมาน่ะ ไม่สามารถเลื่อนเวลาออกไปได้  ตอนนี้ ใกล้จะ9โมงแล้ว  พวกออร์คใกล้จะเคลื่อนไหวกันแล้วแน่ๆ 「อาจจะดูใจดำไปหน่อย แต่ถ้าไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะจัดการElite・Orcได้ล่ะก็ ขอคัดค้านเรื่องไปหอพักหญิง」  คนที่พูดขึ้นมาคือชิคิซัง  คิดว่าเป็นความเห็นที่ถูกต้องแล้ว  ถึงจะไม่ค่อยพอใจความเห็นของเธอก็เถอะ  ไม่สิ ผมรู้อยู่แล้ว  ผมก็แค่ คนขี้ใจน้อยเท่านั้นแหละ  ตอนที่ผมไม่อยู่ ชิคิซังคือศูนย์รวมจิตใจของทุกคน  อริสเอง นอกจากการต่อสู้แล้ว ก็ฝากเรื่องไว้ที่เธอหมด  แต่เดิมแล้ว ผู้หญิงที่ชื่อชิคิ ยูคาริโกะ ก็เป็นคนประเภทที่มีความเป็นผู้นำอยู่แล้ว  ……ถึงเธอจะเลือกเมินผมตลอดเวลาที่ผมต้องเป็นทุกข์ก็เถอะ  อะไรเนี่ย มาบ่นอะไรตอนนี้  เรื่องนั้นช่างมันไป  ตอนนี้ ต้องวางไว้ข้างๆก่อน 「แน่นอนว่า นักเรียนที่นั่นที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ มีความเป็นไปได้ที่จะมีเพื่อนสนิทของพวกเธอเด็กมัธยมต้นอยู่ การที่ชั้นเลือกจะเมินพวกนั้นไป คงจะทำให้พวกเธอไม่ชอบ」  ที่นี่ นอกจากผมกับชิคิซังแล้ว ทุกคนเป็นเด็กมัธยมต้น  วันที่เกิดแผ่นดินไหวก็คือหลังเลิกเรียนของวันเสาร์ ช่วงเวลาที่คนที่ไม่มีกิจกรรมชมรมจะอยู่ที่หอพัก ความเป็นไปได้ที่เพื่อนร่วมห้อง รูมเมท เพื่อนสนิท รุ่นพี่ รุ่นน้อง ของทุกคนที่อยู่ที่นี่จะอยู่ที่หอพักหญิงน่ะมีสูงมาก  ถ้าหากมีชีวิตอยู่ล่ะก็ แต่ว่า……  งั้นเหรอ  ผมรู้สึกตัวโดยไม่ตั้งใจ  ชิคิซังออกหน้าแทนผม เพื่อเบนเป้าหมายของความเกลียดชังไปอย่างนั้นเหรอ  อาจจะไม่ใช่วิธีการแสดงความอ่อนโยนก็ได้  อาจจะคิดง่ายๆ ว่าสถานภาพของผมในตอนนี้จะให้คนอื่นเกลียดชังไม่ได้เท่านั้นก็เป็นได้  ไม่สิ คิดว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ  เธอน่ะ มีความสามารถในการชักจูงใจคนที่ยอดเยี่ยมกว่าผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  การที่ผมเป็นลีดเดอร์อยู่ในตอนนี้ ก็เป็นเพราะผมมีพลังที่เรียกว่าเลเวล5เท่านั้นเอง  ด้วยพลังที่มี สำหรับตอนนี้ ผมสามารถทำให้ทุกคนสบายใจได้มากกว่าใครทั้งหมด  เพราะอย่างนั้นเธอจึง ไม่สิทุกคนที่อยู่ที่นี่เข้าใจดีอยู่แล้ว  ผมมองไปที่อริส  หัวใจอันต่ำช้าของผมมันน่ารังเกียจขนาดไหนเหรอ ผมอยากจะถามเธอ อริสเดินเข้ามาหาผมช้า กุมมือของผมไว้ 「ชั้นจะทำตามความเห็นของคาซึซังค่ะ」 「โอ้ คู่รักนั่น ร้อนแรงจังน๊า」  ทามากิพูดแซวขึ้นมา ผมก็เลยเขกหัวของเธอซะเลย  หญิงสาวทวินเทลผมทอง เอามือไปลูบศีรษะตัวเอง 「อู อริส คาซึซังแกล้งชั้นอ่ะ」 「กรรมตามสนองแล้ว」  อริสพูดอย่างเย็นชา  เอาล่ะเลิกหยอกกันเล่นได้ละ ผมหันไปถามความเห็นคนอื่นต่อ  มิอะ มัธยมต้นปี1ยกมือขึ้น 「ไม่ใช่เรื่องแนวทางการเคลื่อนไหวตอนนี้นะ ได้มั้ย?」 「อ้า ว่ามาเลย」 「เวทดินแรงค์2มีเวทมนตร์ที่ชื่อHeat・Metal อยู่」  ในส่วนของเวทมนตร์นั้น ผมเคยตรวจสอบมาแล้วที่ห้องสีขาว ดังนั้นผมจึงรู้จัก  เวทมนตร์ที่จะเพิ่มความร้อนเข้าไปที่โลหะล่ะ  ถ้าร่ายใส่ดาบไปล่ะก็ ดาบจะร้อนขึ้นจนไม่สามารถถือได้ จนทำตกเลยทีเดียว 「อย่างนี้นี่เอง ต่อให้Elite・Orcแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าไม่มีอาวุธล่ะก็ อย่างนั้นสินะ」 「อืม」  ใช้เวทมนตร์ทำอะไรสักอย่าง มีวิธีนี้เพิ่มเข้ามาก็ดีเหมือนกันนะ  วางแผนได้กว้างขึ้นด้วย  จะว่าไป เด็กสาวที่ชื่อมิอะนี่ แม้จะอยู่มัธยมต้นปี1แต่สุขุมกว่าที่คิดนะเนี่ย  เธออาจจะเป็นแจ็คพอตของผมก็เป็นได้  ผมกอดอกใช้ความคิด  มิอะเองก็ใช้เวทดินได้อย่างคล่องแคล่ว ช่วยเหลือคนอื่นๆในการเลเวลอัพได้มาก  เป็นคนที่มีหัวคิดดีด้วยสิ 「เข้าใจแล้ว เธอกับทามากิไปอัพเป็นเลเวล2ก่อนก็แล้วกัน」  การจะฝืนบุกเข้าไปในหอพักหญิงน่ะมันยาก  คนที่มีพลังสู้รบพอที่จะนับได้มีเพียงผมกับอริสเท่านั้น  ถ้าทำอะไรผลีผลามล่ะก็ อาจจะเกิดฉากเหมือนเมื่อวานขึ้นมาอีกครั้ง  เมื่อวานน่ะเดิมพันด้วยอัตราเสี่ยงที่สูงมาก แต่ก็เอาตัวรอดมาได้  แต่ยังไง คงจะคาดหวังให้ผลออกมาสวยงามเป็นครั้งที่2ไม่ได้อยู่แล้ว  การเพิ่มกำลังรบคืองานเร่งด่วน  เร็วกว่ากำหนดการเล็กน้อย แต่ว่าเริ่มจากสมาชิกของเอสปาร์ตี้ก็แล้วกัน  จริงๆแล้ว ผมตั้งใจจะให้เฉลี่ยๆกันอัพเป็นเลเวล2นะ ……  แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเวลามากพอ 「อริส มีจุดไหนที่จะมีออร์ครวมตัวกันอยู่สัก4-5ตัวรึเปล่า」 「เมื่อกี้ แค่มองผ่านๆนะคะ แต่จุดแรกก็ที่คอร์ทเทนนิส มีออร์ค3-4ตัวกำลังนอนอยู่ แต่ตอนนี้คิดว่าคงจะตื่นกันหมดแล้ว……」  เป้าหมายแรกก็คงเป็น ตรงนั้นล่ะนะ 「ถ้างั้นก็ ไปPLกันเลยมั้ย」 「พีーเอรุ มันคืออะไรเหรอคะ」  อริสเอียงคอเล็กน้อย 「อ้าー、Power・Leveling ภาษาเกมน่ะ หมายถึงการที่คนที่แข็งแกร่งพาคนที่อ่อนแอไปด้วย และช่วยเลเวลอัพให้น่ะ」  ผมคิดว่าคำนั้นเหมาะสมกับสถานการณ์ตอนนี้สุดๆเลยนะ

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้