Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 22 เรื่องราวของทามากิ

พวกผม4คน วาร์ปมายังห้องสีขาว  ค่อยยังชั่ว ช่วยได้พอดี อาจจะนะ  ว่ากันตามตรง จะให้ไปสู้กับElite・Orcในสภาพนี้น่ะ ขอทีเถอะ  ไม่คิดว่าจะชนะเลย  ในสถานการณ์นี้ ต้องมาพิจารณากันแล้วว่าทำยังไงถึงจะสามารถหลบหนีออกไปจากที่นั่นได้  เวทมนตร์ของมิอะมีอันไหนที่พอจะเอามาใช้ได้รึเปล่า  หรือว่าจะต้องหยุดการเคลื่อนไหวพวกมันด้วยอสูรรับใช้……  ว่าแต่ว่า  ออร์คที่จัดการไปในการต่อสู้นี้มีทั้งหมด4ตัว  พอลองเอามารวมกับที่เคยจัดการไปแล้วก็ ……  อย่างนี้นี่เอง Elite・Orcที่จัดการไปเมื่อวานนี้ ให้ค่าประสบการณ์เท่ากับออร์ค5ตัวอย่างนั้นสินะ  ……แบบนี้ ก็หมายความว่าพวกออร์คเองก็มีเลเวล และมันก็ส่งผลต่อค่าประสบการณ์ไม่ใช่เหรอ??  สรุปก็คือ Elite・Orcคือออร์คเลเวล5 ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะมีสกิลพอยท์10 แปลว่ามีสกิลอะไรสักอย่างอยู่ที่แรงค์4……?……?  สกิลการใช้ดาบของElite・Orcอยู่ที่แรงค์4งั้นเหรอ  หรือว่าเป็นทักษะการระดมออร์คเข้าต่อสู้ มียูนิคสกิลแรงค์4เหรอ…………  ไม่รู้แฮะ  ถ้าฝ่ายนู้นเองก็มีระบบสกิลอยู่ล่ะก็ บางทีน่าจะเป็นกรณีหลังมากกว่า  พลังช้างสารนั่น ไม่น่าจะเป็นประเภทที่ได้มาจากการเพิ่มแรงค์การใช้ดาบไปอีกระดับแค่นั้นอยู่แล้ว  หากโลกแห่งนี้ถูกควบคุมด้วยระบบเลเวลและสกิลล่ะก็ สกิล【ออร์ค】ที่ช่วยเพิ่มพละกำลังสำหรับใช้อาวุธ และความน่าเกรงขามอะไรพวกนั้นก็น่าจะมีด้วย  อุหวา แบบนี้ มนุษย์ก็เสียเปรียบสุดๆเลยน่ะสิ……  ไม่สิ จะฟันธงไปแบบนั้นเลยไม่ได้  ยังไง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็พอจะตัดสินได้ว่าพวกออร์คน่ะ โง่  เป็นก้อนเนื้อที่ชอบความรุนแรง  ขนาดเห็นหลุมกับดักอยู่ชัดๆมันก็ยังตกลงไปอย่างเต็มใจ ไม่มีท่าทีจะเรียกเพื่อนมาช่วยดึงขึ้นด้วย  ยกตัวอย่างเช่น ถ้าถามว่าเลเวล0อย่างผมสามารถเอาชนะอริสที่มีเลเวล1ได้รึเปล่าล่ะล่ะก็ ต่อให้ใช้หลุมกับดักก็ยากอยู่ดีจริงมั้ย  เธอน่ะ มีความสามารถในการตัดสินใจอยู่ในระดับสูง  บางที คงจะสังเกตเห็นหลุมกับดักที่ถูกอำพรางเอาไว้น่ะแหละ  แต่ว่า ถ้าออร์คลูกกระจ๊อกเป็นคู่มือและฝ่ายผมมีการเตรียมการที่ดีกับอุปกรณ์เหมาะสมล่ะก็ ผมคิดว่าพอจะเอาชนะได้อยู่  ในความเป็นจริง ต่อให้มาค่อนขอดว่าผมเป็นคนที่ลัคกี้โคตรๆยังไงก็เถอะ ยังไงผมก็เคยเอาชนะพวกมันมาแล้ว  ว่าก็ว่าเถอนะ การมอบหมายงานให้เหมาะกับนิสัยและความสามารถของคนคือจุดเด่นของผมล่ะ……  ได้แค่พูดเท่านั้นแหละ เอามาเป็นข้ออ้างสำหรับหนีความจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้หรอก  ทามากิน่ะยังคง ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่อกของผมไม่เปลี่ยนแปลง  ผมไม่คิดว่าเธอผิด  ถ้าลองทบทวนดูดีๆ ก็จะสังเกตได้ว่าอริสน่ะสุดยอดเกินไป  ผมน่ะ สูญเสียสำนึกพื้นฐานของคนทั่วไปไปแล้ว  ตัวผมเอง ก็เคยเข้าไปต่อสู้ระยะประชิดกับออร์ค แล้วเคยคิดว่าไอ้แบบนั้นน่ะไม่เอาอีกแล้วมาก่อนไม่ใช่รึไง  ถึงอย่างนั้นก็เถอะ……  ผมก้มลงมองทามากิที่กอดผม ร้องฟูมฟายซ้ำไปซ้ำมา「ขอโทษ อย่าทิ้งนะ ขอร้องล่ะ」  ลำบากใจจังแฮะ ผมเงยหน้าขึ้นมามองอริสกับมิอะ  ทั้ง2คน มีใบหน้าที่แทบจะร้องไห้แล้วหมือนกัน  ไม่นะ คือ  ฝ่ายผมต่างหากที่อยากจะร้องไห้……  ทามากิ ดันตัวเข้ามาชิดผมมากขึ้นอีก  พยายามกอดผมสุดชีวิต  ผมลูบหลังเธอ เหมือนกับการปลอบประโลมเด็กๆ 「ใจเย็นๆนะ ที่นี่ปลอดภัยจะตาย นะ」  ค่อยๆหย่อนตัวลงไปนั่งลงบนพื้นพร้อมกับทามากิ  ไม่สิ ต้องบอกว่าดึงเธอจนเสื้อแทบจะยืดกว่าจะเอาลงพื้นได้สิถึงจะถูก  ยัยนี่ มีสกิลร่างกายแรงค์1  แรงวัวแรงควายจริงๆ  จะว่าไป ผมคิดในใจ  ถึงจะมีสกิลร่างกายหรือพวกออกกำลังอะไรพวกนี้ แต่ก็ไม่มีสกิลเกี่ยวกับจิตใจเลยนะเนี่ย ผมเพิ่งจะสังเกตได้ตอนนี้เอง  ถึงจะมีสกิลอาวุธ ถึงจะมีสกิลร่างกาย หัวใจของทามากิก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นนักรบได้อยู่ดี  จะให้ไปต่อสู้กับออร์คน่ะเหรอ จบตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย  ปัญหาคือ เรื่องหลังจากนั้นล่ะ…… 「อริส คือว่านะ ทำไมเด็กคนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ รู้มั้ย」 「……ส่วนใหญ่ค่ะ」 「ช่วยบอกได้มั้ย」 「ค่ะ แต่ว่า ก่อนอื่น……」  นั่นสินะ ถ้าไม่ทำให้เธอสงบลงล่ะก็  ผมลูบศีรษะของทามากิ  ลูบคลำเส้นผมของเธอ  ผมของเธอมีกลิ่นCitrus Fruitsไม่เหมือนกับอริส  ใช้น้ำหอมมาก่อนหน้านี้งั้นเหรอ 「ไม่ต้องกังวลหรอก ผมไม่เกลียดเธอด้วยเรื่องแค่นี้หรอกน่า ไม่ทิ้งด้วย」  ใช่แล้วล่ะ ผมไม่คิดจะเป็นฝ่ายหักหลังคนอื่นหรอกนะ  ตราบใดที่เธอยังเชื่อในตัวผม ผมก็จะเชื่อในตัวเธอ  อยากจะ ให้เธอเชื่อในเรื่องนี้  ผมคิดในใจพลางลูบเส้นผมที่ราวกับรวงข้าวในฤดูใบไม้ร่วงของเธอ  แต่ว่าทามากินั้น ไม่มีทีท่าจะหยุดร้องไห้เลย  มาถึงตรงนี้แล้ว ก็พอจะรู้อะไรขึ้นมาบ้างเหมือนกัน  เธอมีปมอะไรสักอย่างในใจที่รุนแรงพอตัว  มีอะไรสักอย่างที่มีแข็งแกร่งจนทำให้การยกโทษให้ของผมที่เป็นลีดเดอร์คนปัจจุบันไม่สามารถแทรกเข้าไปในใจเธอได้  อดีต ที่เคยถูกข่มเหงมาก่อน  น่ารำคาญจริง ผมไม่มีทางคิดแบบนี้หรอก  ตัวผมเอง ก็มีปมเหมือนกันกับเธอ  เราเป็นคนประเภทเดียวกันน่ะ  ถ้ามีเวลาล่ะก็ อยากจะชำระบาดแผลในใจของเธอ อยากจะช่วยเยียวยาเธอให้หาย  ไม่นาน ทามากิก็ผล็อยหลับไปบนอกของผม คงจะเหนื่อยมากล่ะมั้ง  ผมเปลี่ยนเป็นนั่งขัดสมาธิ ประคองศีรษะของเธอมาไว้บนตัก  แบบนี้อาจจะทำให้ขาเป็นเหน็บชาก็ได้ แต่ถ้าถึงตอนนั้นไว้ค่อยขอให้อริสช่วยใช้Remove・Painให้ก็ได้  ทามากิหดตัวราวกับลูกแมวที่โดนหยอกล้อ นอนหลับไปทั้งๆที่แขนยังคล้องเอวของผมเอาไว้อยู่  บางครั้ง เธอก็ส่งเสียงร้องอย่างทรมาน  ฝันร้ายงั้นเหรอ  จะว่าไป เมื่อเช้านี้ ผมก็คิดว่าผมฝันร้ายเหมือนกันนะ  ตอนตื่นมาอยู่ในสภาพที่แย่มากๆไงล่ะ  จากประสบการณ์เก่าก่อน เรื่องราวต่างๆที่ทับถมมาจนถึงตอนนี้ คงจะเข้าจู่โจมหัวใจของผมให้เจ็บปวด  คิดว่าเธอเอง ก็คงไม่ต่างกัน  ผมลูบเส้นผมสีบรอนด์อีกครั้ง  ทามากิส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจออกมาทั้งๆที่ยังหลับอยู่ 「อริส มิอะ นั่งลงก่อน」 「ค่ะ」 「อืม」  ทั้งสองคน นั่งในท่าทับขาด้านหน้าผม  หรือก็คือท่านั่งแบบนาเดชิโกะนั่นเอง 「เอาล่ะ บอกมาได้แล้วมั้ง……ทำไมทามากิถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้」 「เอโต คือว่า」  หลังจากลังเลเล็กน้อย อริสก็เริ่มเล่าออกมา 「ก่อนอื่น ช่วยฟังคำขอร้องเพียงอย่างเดียวจากชั้นก่อนได้ไหมคะ」 「ว่ามาได้เลย ถ้าเป็นคำขอร้องจากเธอล่ะก็ อะไรก็ได้ทั้งนั้น ถ้าสามารถทำได้ล่ะก็นะ」 「ถ้างั้นก็ คือ」  อริสกลืนน้ำลายลงไป อื้ม กำหมัดแน่นพยักหน้า  หลังจากนั้นก็ส่ายหัวอีกที……  ท้ายที่สุดก็ยอมมองหน้าผมตรงๆ 「คาซึซัง ชั้นขอร้องล่ะค่ะ ถ้าทามากิจังโอเคล่ะก็ ช่วยโอบกอดเธอด้วยนะคะ」 「หา?」  ผมตกใจจนต้องร้องเสียงหลงออกมา         ※  ริวคิ ทามากิ เป็นเด็กที่ขอมาเลี้ยง  นี่คือเรื่องที่ได้ยินมาจากตัวของทามากิเองก่อนหน้านี้ 「ทามากิจังเป็นเด็กกำพร้าค่ะ」  ไม่รู้จักพ่อแม่  ก่อนที่จะจำความได้ก็ถูกทอดทิ้งไปแล้ว  ในช่วงเวลาหนึ่ง ภายในกลุ่มผู้มีอันจะกินได้มีการเริ่มกิจกรรมรับตัวเด็กกำพร้ามาเลี้ยง พร้อมทั้งให้การอบรมสั่งสอนขึ้น  ในตอนนั้น ทามากิก็ได้ถูกบ้านของผู้ดีแห่งหนึ่งรับตัวไป  เพียงแต่ เจ้าบ้านของตระกูลริวคินั้น เป็นคนที่โมโหร้ายเอามากๆ  ตามปกติแล้วก็จะอ่อนโยนอยู่หรอก แต่ถ้าไปทำอะไรให้ไม่พอใจสักหน่อยล่ะก็ จะโกรธจัดจนแทบจะลุกเป็นไฟเลยทีเดียว  ในเวลานั้น เค้าก็จะด่าทอทามากิ ราวกับว่าเธอทำผิดอย่างรุนแรง  ไอ้เด็กที่ไม่มีความสำคัญ ไอ้เด็กที่ไม่มีใครต้องการ  น่าจะรับเด็กที่หัวดีกว่านี้เข้ามา ประมาณนั้น 「คนแบบนั้นน่ะ ไม่น่าจะผ่านการพิจารณาให้เป็นคนรับดูแลเด็กกำพร้าไม่ใช่เหรอ」 「ตามปกติแล้ว จะเป็นคนที่อ่อนโยน ……รูปร่างหน้าตาก็ดีด้วยค่ะ」  อ้าー เป็นพวกสร้างภาพลักษณ์เก่งอะไรแบบนั้นสิน๊าー、ผมคิดราวกับเป็นเรื่องของคนอื่น 「ถึงอย่างนั้นทามากิจังก็ยังพยายามสุดชีวิตในการเรียนค่ะ กดดันตัวเอง กดดันตัวเองในระดับที่เราจินตนาการไม่ถึง……กดดันตัวเองมากเกินไปค่ะ ทามากิจังน่ะ เป็นคนซื่อตรง เป็นคนมุ่งมั่น ดังนั้นจึงพยายามจนเกินตัวไป ……」  โดยไม่รู้ตัว ใช่แล้ว  หัวใจของเธอแตกสลายไป  ผลสุดท้าย ความคาดหวังของพ่อแม่ ก็เป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับเธอ  การเรียนอย่างหนักนั่นเอง ทำให้เธอเคยความจำเสื่อมชั่วคราวมาแล้ว  ดังนั้นทามากิจังก็เลย ถูกตระกูลริวคิถีบส่งเข้ามายังโรงเรียนนี้  ถูกทิ้ง อริสเป็นคนพูด 「คาซึซังเพิ่งจะย้ายมาในชั้นมัธยมปลายดังนั้นจึงอาจจะไม่รู้เรื่องก็เป็นได้ โรงเรียนแห่งนี้น่ะ คือสถานที่ที่พวกคนมีเงิน……นั่นสินะคะ เป็นเหมือนกับภูเขากองขยะของพวกนั้นน่ะค่ะ」  อย่างนี้นี่เอง โรงเรียนแห่งนี้มีมัธยมต้นและมัธยมปลาย ซึ่งตั้งอยู่ในภูเขาลูกเดียว เป็นโลกที่ถูกตัดขาดจากภายนอกโดยสิ้นเชิง  ใช้เงินในระดับพอดีๆ ถีบส่งเด็กๆออกมาจากบ้าน นับว่าเป็นสถานที่ที่สะดวกดีเหมือนกันนะ เหอะๆ 「ก็หมายความว่า มีคนแบบนั้นอยู่เยอะเลยงั้นเหรอ?」 「ถ้าให้พูดล่ะก็ ชั้นเองก็เหมือนกันค่ะ」  สีหน้าของอริสหมองลง ไหล่หดลงด้วย  เมื่อเห็นผมมองเธอด้วยความตกตะลึง เธอก็เผยรอยยิ้มเหมือนดูถูกตัวเองออกมา ไม่เหมือนกับรอยยิ้มนางฟ้าตามปกติ 「ชั้นเองก็ เคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อนค่ะ ถูกคาดหวังเหมือนกับทามากิจัง ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ ความรู้สึกที่ชั้นโดนก็ประมาณว่า ลองเอาไปไว้ที่โรงเรียนนี้ดูหน่อยเป็นไง เท่านั้นเอง ชั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับพ่อแม่ที่เลี้ยงมาน่ะค่ะ」 「อริส……」 「อ๊ะ ไม่ต้องใส่ใจก็ได้นะคะ พ่อแม่น่ะ บอกว่าจะออกค่าเล่าเรียนให้ถึงระดับมหาวิทยาลัยด้วยสิ……อีกอย่าง ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้แล้ว เรื่องนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกันแล้วล่ะค่ะ」  นั่นมันก็... เอาเถอะ  ผมถอนหายใจ แหงนหน้ามองเพดานสีขาว  ต่างโลกนี่เนอะ 「แล้ว มิอะ เธอล่ะ?」 「ครอบครัวธรรมดา พ่อกับแม่ก็ธรรมดา เพียงแต่ ลูก2คน เป็นพวกโอตาคุนิดหน่อย」 「อะไรน่ะ ยังกับละครต่างประเทศเลยนะนั่น」 「พ่อแม่ที่เป็นห่วงว่าลูกสาวจะเสียคน ตัดสินใจให้เธอเข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งบันเทิงอยู่น้อยมาก ……」  สายตาของมิอะราวกับมองไปยังสถานที่ห่างไกล เธอแหงนมองขึ้นไปบนเพดาน 「น่าเสียดาย กองภูเขามังงะ18+ที่ซ่อนไว้หลังตู้หนังสือถูกพบไปซะแล้ว」 「นั่นน่ะ สมัยประถมสินะ」  เอ๊ะ? มิอะตกใจ จ้องมองผม 「สมัยนี้ เป็นเรื่องปกติเหรอ?」 「อย่ามาหาแนวร่วมสิ ไม่สิ เอาเถอะ ก็เข้าใจอยู่ว่าอยู่ในวัยที่อยากรู้อยากเห็นไปหมด แต่กองเป็นภูเขานั่นไม่ธรรมดาแล้วล่ะ」  ครั้งนี้ มิอะมองไปทางอริส  อริสส่ายหัวไปมาด้วยใบหน้าที่กลายเป็นสีแดงไปแล้ว 「เอาเถอะๆ ว่าไงดีล่ะ ไอ้เรื่องกรรมตามสนองนี่พอจะเข้าใจอยู่ล่ะ」 「อืม ถึงชั้นจะพูดแบบนั้น แต่ก็เห็นด้วย」 「พี่ชายไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนนี้เหรอ」 「พี่ชายเอาเอโรเกะไปโรงเรียนประถม จนกลายเป็นปัญหา ……」  ใจกล้าไปแล้วเฮ้ย คุณพี่  ความบ้านั่น อาจจะทำให้ผมอยากเข้าไปคบหาก็เป็นได้  ไม่สิ ไม่อยากจะเข้าใกล้ต่างหาก  อืーม พี่น้องคู่นี้ สุโก้ยทั้งคู่เลยน๊า 「คาซึจิล่ะ?」 「……จะเรียกผม แบบนั้นเรอะ? ก็ได้อยู่หรอก เอาเถอะ ผมเข้าโรงเรียนนี้ด้วยการสอบธรรมดาๆ」  ผลก็คือ ไปเตะตาเจ้านั่นเข้า ความสามารถในการเหยียบกับระเบิดได้อย่างแม่นยำของตัวเองนี่ ไม่รู้จะบรรยายยังไงเลย  แต่จะว่าไป ผมก้มลงไปมองทามากิที่นอนหลับอยู่  พอลูบผมเธอไปเรื่อยๆ เหมือนเธอจะรู้สึกดีจนส่งเสียงครางออกมาอย่างพึงพอใจ 「อริส เธอพูดใช่มั้ย ว่าเป็นเพราะทามากิ ตัวเองจึงหาเพื่อนได้น่ะ」 「ค่ะ นั่นคือเรื่องจริงค่ะ ตอนที่ชั้นเข้ามาเรียนที่นี่ใหม่ๆ ชั้นไม่รู้เลยว่าทามากิจังกำลังฝืนตัวเองอยู่ แล้วในวันหนึ่ง ชั้นก็เผลอไปแสดงท่าทีเย็นชาใส่เธอ หลังจากนั้น……」 「ก็เลยเป็นแบบนี้?」  อริสพยักหน้า  ในตอนนั้น เธอเข้าไปถามเรื่องราวจากทามากิโดยตรง 「ตนเองนั้นทรยศต่อความคาดหวังของคนที่ตนเชื่อใจ พอคิดแบบนั้นแล้ว ก็ดูเหมือนจะไม่ไหวแล้วค่ะ ถึงภายนอกจะดูปกติดีก็เถอะ」 「แล้ว ผมเนี่ย……ถูกคาดหวังขนาดนั้นเลยเหรอ」  ผมกับทามากิ เพิ่งจะได้เจอกันเมื่อวานตอนเย็นแน่ๆ  ว่ากันตามตรง ความสัมพันธ์ของผมกับเธอน่ะ ผมคิดว่าเป็นความสัมพันธ์ที่มีอริสเป็นตัวเชื่อมนะ  ตัวเธอเอง จะมากับผม ว่าไงดีล่ะ จะมายึดติดกับผมขนาดนี้มัน 「ชั้นน่ะ……ไม่ดีเองค่ะ」  อริสก้มหน้า พูดด้วยเสียงสั่นเครือ 「ชั้นอธิบายให้ทุกคนฟังไปว่า หลังจากนี้พวกเรา จะต้องติดตามคาซึซังไป ถ้าไม่ทำอย่างนั้น ทุกคนต้องตายแน่ๆน่ะค่ะ」 「……เอーโต พูดแบบนั้นเพราะ อยากจะช่วยผมงั้นเหรอ」  อริสพยักหน้า  นี่เป็นเรื่องเมื่อคืนนี้น่ะ 「เพราะฉะนั้นทุกคน มาพยายามด้วยกัน พยายามเป็นประโยชน์ให้คาซึซังด้วยกันรนะ น่ะค่ะ……」 「……หรือว่า ที่ช่วยสนับสนุนให้ทุกคนอัพเป็นเลเวล1ก็ด้วย?」  อย่างนี้นี่เอง ตอนที่ผมนอนหลับที่ห้องส่วนตัว ห้องของพวกผู้หญิงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นงั้นเหรอ  เป็นการช่วยเหลือที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ  ดีใจเหมือนกันที่อริสเอาใจใส่ผม  ดีใจอยู่หรอก แต่ว่า อืーม ที่พวกผู้หญิงตั้งใจฟังผมอย่างจริงจังมากกว่าที่คิดเอาไว้เนี่ย เพราะแบบนั้นเองเหรอ 「อ๊ะ แต่ว่า ไม่ใช่แค่ชั้นน่ะค่ะ รุ่นพี่ชิคิก็ด้วย」 「คนคนนั้น?」 「ค่ะ รุ่นพี่ชิคิน่ะ บอกว่าคาซึซังเป็นคนที่มีความอดทนมากและเป็นคนที่แข็งแกร่ง ในเวลานี้ถ้าจะเชื่อใจใครล่ะก็ ยังไงก็ต้องเป็นคนแบบนี้เท่านั้น……」  นั่นมัน อืーม  เป็นการชำระบาปตามแบบฉบับของเธอรึเปล่า  หรือว่าเธอจะ วางแผนอะไรอยู่รึเปล่า 「เอาเป็นว่า ทามากิน่ะ พยายามจะตอบรับความคาดหวังของผมให้ได้อย่างนั้นสินะ」  ถ้าไม่สามารถตอบรับความคาดหวังได้ก็จะถูกทอดทิ้ง  เพียงแค่คิดอย่างนี้สักครั้ง หากล้มเหลวขึ้นมา สภาพก็จะราวกับเขื่อนที่ทำนบแตก  แล้วจะต้องทำยังไงกับเธอที่อยู่ในสภาพนี้ดีล่ะ…… 「ต้องทำให้เธอสบายใจ ให้ได้ค่ะ จะต้องทำให้ทามากิจังเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะทำอะไรลงไปคาซึซังก็จะไม่ทอดทิ้งให้ได้ค่ะ」 「ถ้าแค่นั้นล่ะก็ ค่อยๆเกลี้ยกล่อมไปก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ โชคดี ตราบใดที่อยู่ในห้องนี้ มีเวลาเหลือเฟือเลยด้วย」 「ตอนที่ชั้นเกลี้ยกล่อมเธอก่อนหน้านี้ ชั้นยื่นมีดให้ทามากิจังค่ะ แล้วก็ใช้มันกรีดแขนของตัวเอง เพื่อให้เธอเข้าใจว่า ไม่ว่าเธอจะทำอะไรตัวชั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ」  ถึงตอนนี้จะไม่มีรอยแผลเหลือแล้วก็เถอะนะคะ อริสหัวเราะนิดๆ  อะไรกันเด็กคนนี้ เป็นพวกรุนแรงเหรอ  บ้าบิ่นกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะเนี่ย เด็กคนนี้…… 「หลังจากนั้น ทามากิจังก็บอกว่า อยากให้เอาคืน แล้วยื่นแขนออกมา……เพราะงั้นพวกชั้นน่ะ ต่างฝ่ายต่างสร้างบาดแผลให้กันและกันมาแล้วค่ะ」  ถึงบาดแผลนั่น จะหายไปจากเวทฮีลที่ใช้เมื่อวานแล้วก็ตามที อริสบอก 「ถ้าแค่สร้างบาดแผลให้กันล่ะก็ ผมเองก็น่าจะทำได้ไม่ใชเหรอ」 「ชั้นกับทามากิจัง ต่างฝ่ายต่างมีความทรงจำที่สะสมมานานค่ะเลยได้ผล」  อ้าー อย่างนี้นี่เอง ขนาดอริสที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ยังจำเป็นต้องลงทุนขนาดนั้นเลยอย่างนั้นสินะ  ดังนั้นในกรณีของผม ก็จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกว่านั้นขึ้นมา 「เพราะงั้นก็เลย ให้โอบกอดเธอ เหรอ?」 「ค่ะ」  อริสพยักหน้าแบบตื่นเต้นนิดๆ  กลายเป็นเรื่องยุ่งยากแล้วสิ  ผมถอนหายใจ

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้