Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 25 เวทดินและเวทลม

ที่ห้องสีขาว  มิอะหน้าแดงสดใส พยายามเอามือปิดบังช่องว่างระหว่างขาเอาไว้สุดชีวิต  ฮะฮะฮะ บากะจริงๆเลย  ถ้าทำแบบนั้นล่ะก็ จะทำให้เป็นจุดสนใจมากกว่าเดิมไม่ใช่รึไงกัน 「ค่อยยังชั่วนะ ทามากิ ได้เพื่อนแล้ว」 「ไม่ดีใจเลยสักนิด! คาซึซัง เฮนไต!」  ผมแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย เกะเฮะเฮะ  มองไปทางมิอะอีกครั้งหนึ่ง  ยกสองมือขึ้นมาทำท่าขย้ำ กำๆแบๆ ค่อยๆก้าวทีละก้าว เข้าหามิอะ  มิอะเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา ก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัว 「คาซึซัง งานอดิเรกแย่เกินไปแล้วนะคะ!」  อริส ทำแก้มป่อง แทรกเข้ามาระหว่างผมกับมิอะ  จ้องตาผม สีหน้าเศร้าๆ 「คาซึซังแบบนั้นน่ะ เกลียดที่สุดเลยค่ะ」 「ขอโทษฮับ ไม่ทำแล้วฮับ ดีกันนะฮับ」  ผมก้มหัวลงไปอย่างแรงเลย  อริสตอนโกรธแก้มป่องก็น่ารัก น่ารักสุดยอด  แต่ว่า ผมไม่อยากทำให้หัวใจของเธอเจ็บปวดหรอก 「เข้าใจแล้ว จุดอ่อนของคาซึซังก็คืออริสนี่เอง!」 「จุดอ่อนของเธอก็อริสเหมือนกันไม่ใช่เรอะ?」 「ฮิฮิ สำเร็จ! พวกเรา เหมือนกันเลยนะ」  ทามากิยิ้มอย่างพึงพอใจ  ยัยนี่ ตรงหว่างขายังสกปรกอยู่เลยแท้ๆยังจะร่าเริงได้อีก  ไม่สิ สีแดงขึ้นไปถึงใบหูแล้วด้วยนี่ แถมยังไม่ยอมสบตากับผมอีก พยายามอดทนกับความอายอยู่งั้นเหรอ  อยากจะ  อยากจะทำให้ยัยนี่อายกว่านี้  แต่ว่า เพียงแค่พริบตาเดียว ความต้องการที่ลุกโชนขึ้นมาก็ดับวูบลง  ทำไมน่ะเหรอ ก็อริสจ้องมองผมอยู่น่ะสิ 「เอโต อริส ครั้งนี้เธอเองก็เลเวลอัพสินะ」 「……ค่ะ ชั้น แล้วก็คนอื่นนอกจากคาซึซัง ทั้ง3คนอัพด้วยกันหมด」  เปลี่ยนเรื่องได้สำเร็จ  ค่าประสบการณ์ที่จำเป็นเพื่อเลเวลอัพนั้น ทามากิกับมิอะเท่ากัน ส่วนอริสน่าจะเยอะกว่านั้นเล็กน้อย  ถ้าพูดแบบคำนวณจากออร์ค ก็ประมาณ4ตัวครึ่ง  ……คำนวณแบบนี้นี่ น่ารำคาญจังนะ  เอาเป็นว่า ให้ค่าประสบการณ์ของออร์คเป็น60ก็แล้วกัน  ทำไมถึง60น่ะเหรอ เป็นค.ร.น.ของ2 3 4 5 6 ไงล่ะ  ปาร์ตี้จะ2คน 3คน 4คน 5คน 6คน ก็สามารถคำนวณได้อย่างลงตัวไม่ต้องปัดเศษไงล่ะ  ตัวผมในตอนนี้ มีเลเวล6  สรุปก็คือ ค่าประสบการณ์สำหรับเลเวลอัพครั้งหน้าก็คือ420  ตอนนี้เป็นปาร์ตี้4คน ดังนั้นเมื่อจัดการออร์คได้1ตัว ค่าประสบการณ์ที่ได้ก็คือ15แต้ม  หลังจากที่เลเวลอัพครั้งที่แล้ว พวกผมก็จัดการElite・Orc1ตัว แล้วก็ออร์คลูกกระจ๊อกอีก3ตัว……  ค่าประสบการณ์ในปัจจุบันจึงเป็น120แต้ม  อีก300แต้มจะได้เลเวลอัพแน่ๆ  ส่วนอริสที่เพิ่งเลเวลอัพมาก็มีค่าประสบการณ์ปัจจุบันเป็น0  สำหรับทามากิ ค่าประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับเลเวลอัพครั้งหน้าก็คือ240แต้ม ค่าประสบการณ์ปัจจุบันคือ30แต้ม  อืม หลังจากนี้ลองใช้วิธีคำนวณแบบนี้ก็แล้วกัน  จบเรืองนี้แค่นี้แล้วกัน 「สกิลพอยท์ของอริสคือ3แต้มเหรอ จะใช้เพื่ออัพสกิลแรงค์ของเวทรักษาดีมั้ย เอาล่ะ……」 「อะ อาโน ขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมคะ」  เป็นเรื่องน่าแปลกที่อริสจะเสนอความเห็นของตัวเองออกมา  สำหรับตัวเธอที่จนถึงตอนนี้ ฝากเรื่องการอัพสกิลเอาไว้ที่ผมแบบเบ็ดเสร็จ นับว่าน่าแปลกล่ะ  แต่ทว่า เหตุผลนั้นผมพอจะรู้อยู่  สำหรับเวทรักษาน่ะ ผมเองก็สืบค้นมาเยอะเหมือนกัน  เธอคาดหวังอะไรอยู่นั้น ผมคิดว่าผมพอจะรู้อยู่นะ 「เวทรักษาแรงค์3 มีเวทมนตร์ชื่อCure・Mindอยู่ค่ะ เมื่อใช้เวทนี้ ต่อให้โดนเสียงคำรามของElite・Orcเข้าไปก็ตาม จะสามารถฟื้นฟูสติกลับมาได้ทันทีค่ะ อะ อีกอย่าง……」 「ถ้ามีเด็กผู้หญิงที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ล่ะก็ อยากจะรักษาแผลใจของพวกเธอ ใช่มั้ย」 「……ค่ะ」  ก็นะ ให้ผมเป็นคนนำแหละ ที่ทำให้เธอทำอะไรได้ง่ายขึ้น  เธอน่ะกลัวว่าผมจะไม่เข้าใจ ก็เลยใส่เหตุผลนำมาก่อน  เป็นพวกกังวลเกินเหตุล่ะนะ  ในจุดนั้นก็น่ารักเหมือนกัน  อริสที่ถูกผมเดาใจออก หน้าแดงมองผมน่ะ น่ารักโคตรเลยล่ะ  นางฟ้าชัดๆ  ผมยกมือไปลูบหัวเธอโดยไม่ตั้งใจ ทำให้พวงแก้มของเธอยิ่งแดงกว่าเดิม  เอาล่ะ  ในส่วนแรกที่เธอพูดมา ผมเองก็คิดมาระยะหนึ่งแล้ว  ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือ จังหวะที่Elite・Orcปรากฏตัวออกมา อริสจะมีเวลาว่างพอที่จะร่ายCure・Mindให้คนอื่นๆรึเปล่า  ไม่สิ ผมส่ายหัว  ถ้ามีเวลาว่างขนาดนั้น อราก็น่าจะเข้าไปจัดการศัตรูไม่ใช่เหรอ  แน่นอนว่า ต้องหลังจากใช้Clear・Mindซึ่งเป็นเวทชนิดซัพพอร์ทนะ  ทามากิคงต้องเลี้ยงดูต่อไปอีกหน่อย หากเธอสามารถยืนเผชิญหน้ากับElite・Orcได้ล่ะก็ สถานการณ์คงจะแตกต่างไปจากนี้อยู่……  ถึงงั้นก็เถอะ ผมสบตากับอริส  เธอยกมือขึ้นมาประสานกันบริเวณอก ส่งสายตาโศกเศร้ามาทางผม เฝ้ารอการตัดสินใจของผม  เธอน่ะ เมื่อวาน ช่วยชิคิซังไป  ถึงจะรักษาบาดแผลตามร่างกายของเธอได้ แต่ไม่สามารถรักษาบาดแผลทางใจได้เลย ดังนั้นก็เลยเสียใจมาจนถึงตอนนี้สินะ  พอลองคิดดูแล้ว อริสได้รับภาระไปมากเหลือเกิน  เพราะว่าผมไม่รู้ว่าเธอต้องแบกรับความเจ็บปวดขนาดไหน ก็เลยกลายเป็นฝากเรื่องไว้กับเธอมาตลอด  อาจจะดูไม่ดีเท่าไหร่ แต่ทามากิกับมิอะในตอนนี้ยังฝากฝังอะไรไว้ไม่ได้หรอก  หากอริสบอกว่าCure・Mindเป็นสิ่งจำเป็นล่ะก็ มันก็ต้องเป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆนั่นแหละจริงมั้ย  ผมสรุปไว้แบบนั้น  ท้ายที่สุด ผู้ชายอย่างผม ก็ไม่เข้าใจบาดแผลในใจของผู้หญิงอยู่แล้ว 「เข้าใจแล้ว อัพเวทรักษาได้เลย」 「ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ คาซึซัง!」  อริสยิ้มออกมาราวกับดอกไม้ที่กำลังแย้มบาน  เพียงแค่มองใบหน้านั้นของเธอ ก็ทำให้ผมรู้สึกราวกับจะลอยได้ รอยยิ้มของเธอช่างบริสุทธิ์เหลือเกิน  อ้า น่ารักจริงน๊า ผมเองก็ยิ้มออกมาโดยไม่ตั้งใจ  ทามากิกับมิอะกำลังมองอยู่ แต่มันใช่เวลาจะไปสนใจรึไงล่ะ  อ้าー、แต่ว่า  ตัวผมในตอนนี้ อาจจะกำลังไหลไปตามกระแส จนมาสามารถตัดสินใจอย่างสุขุมได้แล้วก็เป็นได้  แย่แฮะ  ที่แย่ที่สุดก็คือ มาสงสัยกับการตัดสินใจของตัวเองในภายหลังนี่แหละ  อืーม ว่าแล้วว่า ผมไม่ใช่คนที่เหมาะจะเป็นลีดเดอร์เลย  ไม่มีพลังในการชักนำผู้คนเลย  ในกลุ่มพวกผมตอนนี้ คนที่สามารถทำแบบนั้นได้ก็คือ……  ผมคิด  ไม่สิ ไม่ต้องคิดก็มีข้อสรุปรออยู่แล้ว  ชิคิ ยูคาริโกะไงล่ะ  ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องที่ว่าเธอมีพรสวรรค์ในการเป็นผู้นำรึเปล่าเลยแม้แต่น้อย  หากตัดความรู้สึกส่วนตัวของผมออกไปล่ะก็ การมอบหน้าที่นี้ให้เธอน่จะเป็นการกระทำที่ดีที่สุดแล้ว  แต่ว่า ถ้างั้น  ผมจะสามารถทำตามคำสั่งของเธอได้อย่างนั้นเหรอ?  ……ยากนะ  หัวใจของผมมันบิดเบี้ยว เรื่องนี้ผมรู้อยู่แล้ว  ตัวผมที่ไม่สามารถทำอะไรอย่างซื่อตรงได้ อาจจะเป็นสาเหตุของความกังวลในตอนนี้ก็เป็นได้  ปัญหาของหัวใจน่ะมันยาก  ถ้าเป็นหัวใจของตัวเองล่ะก็ ยิ่งยากขึ้นไปอีก  ตามปกติแล้ว กับอีกฝ่ายที่ไม่สามารถจับมือปรองดองกันได้แค่เลือกที่จะเมินก็จบแล้ว  แต่ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่สงบสุขแบบนั้น  ตอนนี้เป็นช่วงต่อสู้  บุคลากรมีจำกัด เพื่อนพ้องมีจำกัด วิธีการมีจำกัด  ในสถานการณ์แบบนี้ จะเอาความรู้สึกส่วนตัวของตนมาเลือกแต่สิ่งที่ชอบน่ะ มันใช้ได้ทีไหน 「ทามากิ มิอะ สกิลพอยท์จะเอาไง」 「ชั้นจะเก็บเอาไว้ก่อน อยากจะอัพการใช้ดาบเป็นแรงค์3」 「ชั้นก็……จะอัพเวทลมดี หรือจะเก็บไว้เพื่อรออัพเวทดินเป็นแรงค์3ดี อยากฟังความเห็นของคาซึซัง แล้วก็ ถ้าใช้Summon・Clothesเอาผ้าออกมาให้จะดีใจมาก」 「ผ้า?」 「คือ อาโน……แฉะ」  เสียงของมิอะ โดยเฉพาะช่วงท้าย เบาวะจนแทบจะไม่ได้ยิน  หญิงสาวโลลิ ก้มหน้าพร้อมดวงตาที่มีน้ำตาริ้นๆ  อ้า ผมพยักหน้าเข้าใจ  แทนเสื้อผ้าน่ะเหรอ  มันก็ จริงๆล่ะนะ ถ้าต้องอยู่ในห้องสีขาวอีกนาน อย่างน้อยก็อยากจะถอยส่วนล่างที่เปียกไปแล้วสินะ  ผมเสกผ้าผืนใหญ่ออกมาด้วยSummon・Clothes ยื่นให้ทั้งสองคน  ทั้งสองคนเอาผ้าไปคลุมตัว  ถอดกางเกงและกกน.ออก  ผมน่ะ กลัวอริสอยู่ก็เลยพยายามไม่มองไปทางนั้น แล้วก็คิดว่าต่อจากนี้จะเอาไงดี  ถึงเสียงเสียดสีของเสื้อผ้าจะรบกวนสมาธิก็เถอะ ข้อเสนอของมิอะก่อนหน้านี้มันคืออะไร นึกไม่ออกเลย  เอโต ใช่แล้ว เวทลมกับเวทดิน จะอัพอะไรดี สินะ 「มิอะน่ะ ในการต่อสู้นี้ ยังไม่ได้ใช้เวทลมสักครั้งเลยใช่มั้ย」 「ถ้าจะหนีล่ะก็ ว่าจะใช้Smokeสร้างควันขึ้นมาช่วย」  เวทลมแรงค์1 Smokeเป็นเวทที่จะสร้างหมอกหนาทึบขึ้นมาในบริเวณรอบๆนั้น  อย่างที่เธอพูดไว้ ถ้าถึงเวลาที่ต้องหนี จะได้เห็นความสามารถของเวทลมแน่ๆ  แต่ว่า ในทางกลับกัน นอกจากเวลาหลบหนีแล้ว ใช้ยาก  ถ้ามีกล้องอินฟราเรดแบบที่กองทัพใช้กันก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะก็ พวกผมเองก็จะมองไม่เห็นทางเหมือนกันจริงไหม  อุบัติเหตุมันน่ากลัวนะ 「ที่เหลือก็ ถ้าจะลอบจู่โจมก็มี Sleeping・Songช่วยทำให้ออร์คหลับอยู่อีก」 「ถ้าต้องใช้MPที่เหลืออยู่น้อยนิดของมิอะเพื่อมันล่ะก็ ให้อริสเข้าไปจู่โจมเลยในทันทีน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีกว่านะ……อยากจะให้ศัตรูกรูกันออกมาหลังจากได้ยินเสียงต่อสู้ด้วยสิ」 「ในอนาคต ถ้าเลเวลของชั้นอัพล่ะก็ น่าจะมีMPเหลือพอ Sleeping・Songแรงค์1ใข้ได้แน่」  ที่เธอพูดนั้นถูกต้อง เวทลมแรงค์1น่ะ ไม่มีเวทโจมตีที่แข็งแกร่งอยู่เลย  เวทมนตร์อีก2อย่างที่เหลือ ก็มีAir・Blastที่ใช้แรงกดอากาศดันศัตรูออกไป แล้วก็Soft・Landingที่ช่วยลดความเร็วในตอนร่วงหล่นเท่านั้นเอง  ไม่ว่าจะอันไหนถ้าเลือกใช้ให้ดีก็มีประโยชน์ทั้งนั้น แต่สำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้ เลือกเวทอื่นน่าจะดีกว่า  ถ้างั้นเวทลมแรงค์2ล่ะ จะว่าไป…… 「ครั้งต่อไป ถ้าจะให้โจมตีล่ะก็ Silent・Fieldน่าจะมีประโยชน์」  Silent・Fieldก็คือ เวทที่ใช้ร่ายใส่มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตน่ะ  สร้างช่องมิติที่จะไม่มีเสียงลอดผ่าน  กรณีที่เป้าหมายเคลื่อนที่ ฟิลด์ก็จะตามไปด้วย รัศมีประมาณ3เมตร  หากสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนเข้ามาอยู่ในฟิลด์แล้วเคลื่อนไหว จะสามารถเคลื่อนที่กันได้โดยไม่มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นเลย  Shut Downเสียงต่อสู้ เหมือนกับนักฆ่าไร้เสียงในหนังสมัยเก่า 「ที่เหลือก็เวทโจมตีโดยตรงอย่างSonic・Edgeงั้นเหรอ? แต่ถ้าเป็นเวทโจมตีโดยตรงใช้เวทดินก็ได้นี่นะ」 「กรณีที่เลือกเก็บพอยท์ไว้อัพเวทดิน เวทดินแรงค์3เป็นไง」 「มีเวทสำหรับคาซึจิอยู่อันหนึ่ง Earth・Pit เวทขุดหลุมกับดักน่ะ」 「นั่นแหละ!」  ผมชี้นิ้วไปหามิอะอย่างแข็งขัน  มิอะก้าวถอยหลังไปโดยไม่ตั้งใจ  ช่องว่างของผ้าสีขาวที่หุ้มส่วนล่างนั้นเปิดออกมานิดๆ 「……เมื่อกี้ แอบมองเข้าไปใช่มั้ย ลามก」 「นั่นมันก็ มัน คือ.. นะ」 「ลามก」  จี่ー、ทั้ง3คนจ้องมาทางผมอย่างเอาเป็นเอาตาย 「ขอโทษครับ」  ยอมแพ้ให้กับความกดดันที่ถาโถมเข้ามา ก้มหัวลงไปอย่างร้อนแรง 「ดีมาก」  มิอะตอบกลับมาในแบบตัวเองเหนือกว่า  บ้าเอ๊ย  เอาล่ะ ผมกระแอมก่อนทีนึง 「อริสให้อัพเวทรักษาเป็นแรงค์3 ที่เหลืออีก2พอยท์เก็บไว้ก่อน น่าจะโอเคนะ ในระหว่างที่เลเวลยังต่ำอยู่ 1แต้มผมก็อยากให้เก็บไว้ก่อน」  ไม่มีเสียงคัดค้าน  จากการต่อสู้นี้ ทามากิกับมิอะคงจะรู้ซึ้งแล้วว่าตนเองมีพลังไม่เพียงพอ  1วินาทีก็ยังดี อยากจะไล่ตามผมกับอริสให้ทัน  ทั้ง2คนนั้น คาดหวังอย่างแรงกล้า 「ถ้างั้นก็ ตกลงตามนี้」  พวกผม กลับมายังโลกแห่งเดิม  อริส:เลเวล6 การใช้หอก3/เวทรักษา2→3 สกิลพอยท์3→0  ทามากิ:เลเวล3 การใช้ดาบ2/ร่างกาย1 สกิลพอยท์2  มิอะ:เลเวล3 เวทดิน2/เวทลม1 สกิลพอยท์2         ※  อีกายังคงทำหน้าที่สอดแนมต่อไป ส่วนพวกผมก็ค่อยๆก้าวเข้าไปในหอพักหยิงอย่างระมัดระวัง  สิ่งแรกที่พบก็คือ ห้องทานอาหาร  กลิ่นเหม็นสาปโชยเข้าจมูก สีหน้าของพวกผมทุกคน ดูแย่ลงทันที  โต๊ะและเก้าอี้หักพัง ตรงกลางห้องถูกเปิดออกให้โล่ง  ที่นั่น มีผู้หญิงที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหลายคนนอนซ้อนกันอยู่  น่าจะมีประมาณ50คน  ไม่สิ……  50ศพน่ะ  หญิงสาวที่นอนกองกันอยู่ตรงนั้น ตายหมดแล้วทุกคน  อริสที่เดินนำหน้ากลืนน้ำลาย  ทามากิกับมิอะ เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าถึงกับพูดไม่ออก 「ทุกคน……ตายหมดแล้ว เหรอ?」  ทามากิพึมพำ 「ไม่หรอก」  ผมส่ายหน้า  ชี้ไปยังผนัง  ทางนั้น มีหญิงสาวประมาณ10คนนอนอย่างไร้เรี่ยวแรงในสภาพเปลือยเปล่า  บริเวณอกของทุกคน ยังขยับขึ้นลงอยู่แม้จะเล็กน้อยก็ตาม 「ยังมีชีวิตอยู่ค่ะ!」  อริสตะโกน แล้วรีบวิ่งเข้าไปหาพวกเธอ

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้