Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 26 ตรวจค้นหอพักหญิง

อริสใช้เวทรักษากับเหล่าหญิงสาวที่ยังมีชีวิตอยู่แต่นอนอย่างไร้เรี่ยวแรงที่ข้างผนัง  หลังจากใช้Healแล้ว ก็ตามด้วยCure・Mindทันที  ใบหน้าของหญิงสาวเหล่านั้นที่ดูคล้ายกับลาตาย เริ่มมีประกายขึ้นมาในแววตา  ต้องสูญเสียMPไปเยอะเหมือนกัน แต่จะมางกกับสถานการณ์นี้ก็ใช่ที่จริงมั้ย 「ทามากิ มิอะ!」  ผมจับไหล่ของทั้ง2คนที่พูดอะไรไม่ออก และยืนอย่างไร้เรี่ยวแรง  ในสถานการณ์แบบนี้ อะไรก็ได้ทั้งนั้น ต้องให้งานกับพวกเธอ 「ตอนนี้แหละ รีบไปตรวจสอบด้านโน้นที」  Elite・Orcน่าจะไม่เหลืออยู่ที่นี่แล้วล่ะ  ออร์คเอง ก็น่าจะถูกกำจัดไปหมดแล้ว  แต่ยังไงก็ไม่สามารถประมาทได้อยู่ดี  ผมฝากงานด้านนี้ให้อริส พาทามากิกับมิอะแล้วก็หมาป่าไปทำการสำรวจ เริ่มจากชั้น1ก่อน  บริเวณทางเดินนั้นเงียบเชียบเอามากๆ  พวกผมเปิดดูห้อง ทีละห้อง  มีหลายห้องเหมือนกันที่ถูกล็อคกุญแจไว้  แต่ในตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเกรงใจแล้ว ผมเลยให้ทามากิใช้ขวานยักษ์พังประตู แล้วเข้าไปตรวจสอบในห้องซะเลย 「อ้าー จะว่าไป ห้องของทั้งสองคนอยู่ไหนล่ะ」 「อ๊ะ ห้องของชั้นกับอริส อยู่ทางนั้น ข้างๆ」 「ห้องของชั้น ชั้น3」  ผมใช้เวลาคิดเล็กน้อย จากนั้นก็ให้ทามากิกลับไปที่ห้องของตนเอง เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า 「ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนมาให้อริสด้วยเลยแล้วกัน แล้วก็ หาห้องไหนๆก็ได้สักห้อง เอาเสื้อผ้ามาให้พวกผู้หญิงที่ห้องทานอาหารเปลี่ยนด้วย」 「เข้าใจแล้ว จะปล่อยให้อริสอยู่ตัวคนเดียวตลอดก็ไม่ได้ด้วยล่ะนะ ไว้ใจได้เลย」 「มิอะ เธอตามผมมา เราจะไปชั้น3กัน」  ผู้คุ้มกันของพวกผมน่ะ แค่อสูรรับใช้หมาป่าก็พอแล้ว  ต่อให้มีออร์คที่ยังมีชีวิตอยู่หลบซ่อนอยู่ในตึก หมาป่าที่มีจมูกไวต้องจับกลิ่นเหม็นของพวกมันได้แน่ๆ  ที่ทางเดินแคบๆแบบนี้ ออร์คจะเข้ามาทีละ2ตัวน่ะเป็นไปไม่ได้  ขอแค่ยื้อเวลาไว้ได้สักหน่อย ก็สามารถเอาเวลานั้นมาเรียกหมาป่าอีกตัวหนึ่งออกมาได้  ให้มิอะใช้เวทมนตร์ช่วยคุ้มกันก็ได้เหมือนกัน  แถมหน่อย บาดแผลของหมาป่าขนเทาตัวนี้ ผมใช้เวทอัญเชิญแรงค์3 Cure・Familiar ช่วยรักษาไปแล้ว  เวทอัญเชิญแรงค์3น่ะ ลบMPปัจจุบันไป9เมื่อเทียบกับMax MP  แทนที่จะเรียกใหม่อีกครั้ง รักษาบาดแผลให้แล้วใช้งานต่อจะสะดวกกว่า  ผมกับมิอะ แยกทางกับทามากิ เดินขึ้นบันไดไป  โชคดี ดูเหมือนว่าศัตรูจะออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว  ไม่เห็นวี่แววของออร์คเลยแม้แต่นิดเดียว  ทั้งชั้น2 ชั้น3 มีเพียงเสียงกระพือปีกของอีกาที่เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน  คงจะเจอศพ เลยลงมาล่ะสิ  ก่อนอื่นก็ไปห้องของมิอะที่ชั้น3 ให้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน 「เปลี่ยนเสื้อ แอบดู?」 「ไม่ดูหรอกเฟ้ย」  ผมยืนรอกับหมาป่าอยู่นอกห้อง  ผมนั่งยองๆลงไปกับพื้น  ส่วนอสูรรับใช้หมาป่าขนเทา นั่งลงด้วยท่าอันสง่างามอยู่ข้างๆผม  โอ้ ฉลาดดีนี่  พอยื่นมือไปลูบขนสีเทาของมัน มันก็หรี่ตาลงดูมีความสุขมาก  แย่แล้ว เจ้านี่ก็น่ารัก 「กกน.ที่เป็นคราบ เอามั้ย?」  เสียงดังออกมาจากในห้อง 「ไม่เอาเฟ้ย ทิ้งไปเลย」 「ถ้างั้น กางเกงที่เป็นคราบ」 「แค่กางเกงน่ะ แถวๆนั้นมีเยอะแยะแล้วเฟ้ย」  หลังจากนั้นสักพัก 「หืม นั่นสินะ ของของรูมเมท เอามาเลยก็ได้มั้ง」  เวรแล้ว หลุดปาก  ผมอยากจะสาปส่งให้แก่ความสะเพร่าของตัวเองจริงๆ  แบบนี้ล่ะก็ เหมือนกับประกาศออกไปว่าเพื่อนของเธอทุกคน ตายหมดแล้วน่ะสิ  ผมเอายกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองไว้เพื่อกลบเสียง 「ไม่ได้ใส่ใจหรอก」  ไม่รู้เหมือนกันล่ะว่ารู้ได้ไง แต่สิ่งที่ผมซ่อนไว้ถูกเธอล่วงรู้ไปแล้ว  มิอะเปิดประตูออกมา มีสีหน้าสบายๆ 「รู้อยู่แล้วล่ะ เพื่อน คลาสเมท คุณครู บางทีทุกคนคงจะตายไปแล้ว มีชั้นคนเดียวที่โชคดีรอดชีวิตอยู่」 「ยัง ไม่แน่เลยไม่ใช่เหรอ」 「เตรียมใจไว้แบบนั้นดีกว่า ไม่เป็นไร ร้องไห้ตอนกลางคืนไปก่อนแล้ว」  มิอะตบไหล่ผม ปั่บปั่บ เพื่อให้ผมสบายใจขึ้น 「ห้องของผู้หญิงน่ะนะ ตอนกลางคืนน่ะทุกคน ร้องไห้ด้วยกันล่ะ ชิคิซัง ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นน่ะ」 「ชิคิซังเหรอ……」  「อืม」มิอะพยักหน้า 「ถ้าจะร้องไห้ล่ะก็ ตอนนี้เลย ว่างั้นน่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าคาซึจิยังไม่ได้ร้องไห้ล่ะก็ จะให้ยืมอกก็ได้นะ」  มิอะพูดพลาง เชิดอกกระดานเรียบลื่นนั่นขึ้นมา 「ไม่มีอปไปขนาดจะให้ยืมได้ก็จริง แต่จะให้ยืม」 「ชอบล้อกันเล่นงั้นเหรอ?」 「ให้กกน.ถอดสดๆด้วยก็ได้」  นั่นน่ะอาจจะเป็นซุปเปอร์รางวัลสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง ไม่สิ หมีกลุ่มหนึ่ง แต่สำหรับผมแล้วไม่ค่อยจะดีใจเท่าไหร่นะ  อีกอย่าง เอาเถอะ  ผมน่ะ ไม่มีเพื่อนสนิทขนาดที่ต้องมานั่งเศร้าโศกเสียใจให้อยู่เลย แม้แต่คนเดียว  ทุกคนน่ะ ตายๆไปซะได้ก็ดี  อ้าー แต่ว่า ถ้ามาความแตกที่นี่ว่าผมมันตัวคนเดียวล่ะก็ ท่าจะแย่แฮะ  พุดอะไรที่มันดูดีเอาไว้หน่อยแล้วกัน  นั่นสินะ อืม 「ถ้าจะร้องไห้ล่ะก็ ต้องร้องที่อกอริสสิ」 「ว่าแล้ว ใหญ่ๆดีกว่า……」  อย่างน้อยก็ช่วยบอกว่า ของคนรักดีกว่าหน่อยได้มั้ย บ้าเอ๊ย  ก่อนที่มิอะจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและรวบรวมสัมภาระเสร็จ ผมได้ออกห่างจากห้องนั้นไปครั้งหนึ่ง มองขึ้นไปบนดาดฟ้า  ภาพที่เห็นนั้นไม่อยากจะให้มิอะดูเลย  อีกาจำนวนมากกับนกแร้ง กำลังรุมตอมศพบนดาดฟ้าทั้งหมด6ศพอยู่  ผมยืนยันแค่ไม่มีวี่แววของออร์คเท่านั้น ก็กลับเข้ามาด้านใน  พร้อมทั้งปิดประตูที่เชื่อมต่อกับดาดฟ้าด้วย  พอดีกับที่ มิอะออกมาจากห้องพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง 「ไปกันเถอะ คาซึจิ」  ใบหน้าของมิอะดูสดใส  ถึงจะรู้สึกว่าในดวงตามีแววเศร้าๆอยู่ แต่ตอนนี้มันมืดๆด้วยเลยไม่แน่ใจเท่าไหร่  อาจจะ ร้องไห้ไปครั้งหนึ่งก็เป็นได้  แต่อย่างที่เธอพูดไว้แหละ ตอนที่สามารถร้องไห้ได้ก็ร้องเอาไว้ดีกว่า  อย่างน้อยที่สุด ก็สำหรับตอนนี้ สำหรับสถานการณ์นี้  เปิดประตูห้องที่ชั้น3ทีละห้อง เข้าไปสำรวจ  ในห้องๆหนึ่ง พบศพทั้งหมด2ศพ  หลังจากที่มิอะจ้องมองที่ศพนั่นสักพัก「ขอโทษนะ ไว้จะ มาใหม่นะ」เธอพึมพำ 「คนรู้จักเหรอ」 「คลาสเมท」  สีหน้าของมิอะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่มือที่ถือกระเป๋าเดินทางอยู่นั้นกำลังสั่น เธอไม่สามารถปกปิดไปถึงตรงนั้นได้น่ะ  ค่อนข้างสนิทกันงั้นเหรอ ผมไม่ได้ถามออกไปหรอก  ไม่สิ ไม่สามารถถามได้ต่างหาก  พวกผม ตรวจสอบห้องที่ชั้น3ทั้งหมด  จากที่มิอะบอกมา เด็กที่พักอยู่ที่ชั้น3ทุกคน เป็นเด็กมัธยมต้นปี1  ไม่ค่อยได้ไปพูดคุยกับคนอื่นๆนอกจากคลาสตัวเอง เรื่องนี้เธอก็พูดเหมือนกัน  ผมมาเดินตรวจสอบเองคนเดียวน่าจะดีกว่าล่ะมั้ง  ไม่สิ มีเรื่องที่ต้องฟังจากมิอะที่เป็นผู้อาศัยอยู่ที่นี่ถึงจะรู้ด้วยไม่ใช่รึไง 「ต่อไป ชั้น2 ไปกันเถอะ ชั้น2เป็นห้องของพวกปี2 ชั้น ไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นั่น」  งั้นเหรอ ผมพูดพลางพยักหน้า  หลังจากที่พวกผมตรวจสอบชั้น3 ชั้น2ที่แทบจะไม่โดนออร์คสร้างความเสียหายเลยเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปที่ห้องทานอาหาร  ทามากิที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว มาอยู่ที่ห้องอาหารก่อนแล้ว  คงจะเห็นศพของคนรู้จักหลายคนเลยล่ะมั้ง  เธอนั่งลงกับพื้น ร้องไห้อยู่  อริสเพียงคนเดียว ที่ยังคงรักษาผู้รอดชชีวิตต่อไปอย่างเงียบๆ 「ขอโทษ ขอโทษนะ อริส อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น ขอชั้นร้องไห้ก่อน」  ทามากิ เอาแขนเสื้อที่เพิ่งจะไปเปลี่ยนมา เช็ดน้ำหูน้ำตาของตัวเองจนเปียกชุ่ม  ส่วนอริสก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไร  ราวกับใส่หน้ากากละครโนที่ช่วยลบสีหน้าออกไป มุ่งมั่นอยู่กับการใช้HealและCure・Mind  ผมใช้Summon・Clothesเสกผ้าขาวออกมาให้หญิงสาวที่ยังรอดชีวิตซึ่งอริสช่วยรักษาให้แล้วเอาไปปิดบังร่างกายของตน  ทำแบบนี้ก่อนน่าจะดีกว่าเนอะ  คนที่อริสช่วยรักษาให้จนรอดชีวิตมาได้ มีทั้งหมด10คน  บาดแผลตามร่างกายหายไปหมดด้วยเวทมนตร์ ความกระทบกระเทือนที่จิตใจก็ได้เวทมนตร์ช่วยบรรเทาไปได้มากพอสมควร  ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีสักคนที่สามารถลุกขึ้นมายืนได้ในทันที  เอาเถอะ ก็พอจะคาดเดาเอาไว้อยู่แล้วด้วย  ผมออกคำสั่งให้ทามากิที่ในที่สุดก็ลุกขึ้นมายืนได้แล้ว กับมิอะที่ยืนถือกระเป๋าเดินทางรออยู่ที่ประตูทางเข้าห้องทานอาหาร 「ทั้งสองคนช่วยกลับไปที่อาคารเรียนศิลปะด่วนเลย แล้วพาคนมาสัก5คนที」 「เข้าใจแล้ว แต่ว่า ชั้นจะไปคนเดียว ช่วยรอหน่อยนะ จะกลับมาให้เร็วที่สุด……มิอะอยู่ที่นี่แหละ」  คนเดียวมันอันตรายเกินไป ก่อนที่ผมจะได้พูดออกไป ทามากิก็ถือขวานยักษ์ขึ้นมาแล้วพุ่งตัวออกไปแล้ว  ปัดโธ่เอ๊ย ยังบ้านี่!  ช่วยไม่ได้ ผมรีบออกคำสั่งให้อสูรรับใช้หมาป่าตามทามากิไปเพื่อช่วยคุ้มกัน  ให้อยู่ใกล้ๆทามากิแสมอ กรณีที่ออร์คเข้ามาก็ให้ช่วยสกัดเอาไว้ก่อน  สัตว์น้อยน่ารักแสนรู้ของผม ส่งเสียงหอนออกมาทีหนึ่งเพื่อบอกว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะวิ่งไล่ตามทามากิไป 「การฝังศพน่ะ เอาไว้วันหลัง ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ล่ะก็ หมายความว่าที่อาคารอื่นก็น่าจะมีผู้รอดชีวิตอยู่อีก ผมอยากให้เวลากับการค้นหาผู้รอดชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้」 「ค่ะ……นั่น สินะคะ」  ถึงแม้อริสจะยืนขึ้นมาแล้ว แต่สภาพของเธอก็ยังดูไร้เรี่ยวแรงและดูเหมือนจะทรุดลง  ผมรีบเข้าไปประคองเธอ 「ขอโทษค่ะ」 「เพราะเธอถึงช่วยคนได้ถึง10คน พักผ่อนบ้างก็ได้」 「แต่ว่า……เพื่อนของชั้น หลายคน」  งั้นเหรอ ผมพยักหน้า  ก็นะ ก็จริงอยู่  มันน่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว  ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ วิงวอนออกมาสิ แสดงสีหน้าออกมาเลย ผมอยากจะพูดแบบนี้เหมือนกันแต่ว่า……  เธอเข้าใจเป็นอย่างดี  ต่อให้ลงมือทำอะไรตอนนี้ คนตายก็ไม่มีทางฟื้นกลับมา  ไปช่วยเหลือคนที่น่าจะยังมีชีวิตอยู่สิถึงจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ผมเชื่อเช่นนี้  ผมน่ะ ไม่ได้คิดว่าขอแค่มีคนรอดชีวิตเพิ่มขึ้นก็พอ หรอกนะ  คิดเหมือนกันว่าถ้าไม่เพิ่มจำนวนคนที่ต้องคอยปกป้องจุดยุทธศาสตร์อย่างอาคารเรียนศิลปะล่ะก็ การขยับขยายหลังจากนี้ลำบากแน่ๆ แต่ว่า ผมก็คิดเหมือนกันว่าถ้าเพิ่มจำนวนคนจนมากเกินไปล่ะก็มันจะไม่มีประโยชน์ อีกทั้งยังจะสร้างความขัดแย้งในกลุ่มกันเองอีก  เพียงแต่ในเวลาเดียวกันนี้ ผมก็อยากจะทำลายฐานของออร์คไปทีละอันๆด้วย ต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็วฉับไวจนศัตรูตั้งตัวไม่ทัน  หากออร์คที่ยังหลงเหลืออยู่มาบุกอาคารเรียนศิลปะด้วยกันในทีเดียวล่ะก็ ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถปกป้องเอาไว้ได้แน่ๆ  ไม่สิเอาเถอะ ยังไงก็ช่าง ตอนนี้ ผมไม่ค่อยมีMPเหลือแล้ว  MPของอริส ก็ใช้ไปกับการรักษาจนแทบจะหมดอยู่แล้ว  อริสอาจจะยกเอาไว้ก่อนได้ แต่สำหรับผมแล้วMPก็คือพลังต่อสู้  ตอนนี้คือเวลาที่ต้องพาพวกเธอทุกคนกลับไป เพื่อพักผ่อนกัน  มิอะเดินไปรอบๆห้องที่ชั้น1 จัดการยัดเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนหลายชุดลงในถุงอย่างคล่องแคล่ว 「ขอโทษนะ」 「อืม ได้ทำงานดีกว่า พักผ่อนจิตใจ」  นั่นมันก็อาจจะจริง ผมพยักหน้า 「ถ้างั้นก็ขอโทษที ช่วยไปรวบรวมพวกมีดปังตอ หรืออะไรพวกนี้จากห้องครัวให้ด้วยสิ」 「ไอ ไอ เซอร์ー」  มิอะวิ่งออกไปจากห้องทานอาหารราวกับจะหนีอะไรสักอย่าง  ประมาณ20นาที ทามากิก็กลับมา  อย่างที่ได้สั่งไว้ เธอพาหญิงสาวที่อาคารเรียนศิลปะมาด้วย 5คน  ในจำนวนนั้น มีชิคิซังด้วย  อีก4คนนอกจากชิคิซัง มองไปยังสถานที่เกิดเหตุอย่างกล้าหาญ แล้วก็ต้องกลืนน้ำลาย ร้องไห้ออกมา  ชิคิซังเข้าไปลูบแก้มของพวกเธอ 「เข้าใจอยู่นะว่าขมขื่น แต่การปกป้องคนที่รอดชีวิตอยู่น่ะ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่รู้ด้วยว่าอาคารเรียนศิลปะจะถูกบุกจู่โจมเมื่อไหร่ จะออกมานานๆน่ะคงไม่ได้หรอกนะจ๊ะ」  ชิคิซังปลอบพวกเธอได้เก่งมาก  ผมร่ายMigthy・Armให้พวกเธอทีละคน  หญิงสาวที่เดินทางมาจากอาคารเรียนศิลปะเพื่อช่วยเหลือ แบกหญิงสาวที่รอดชีวิตอยู่ที่หอพักหญิงขึ้นมาไว้บนหลัง  ดูหนักจริงๆน่ะแหละ  โชคยังดี ในกลุ่มของหญิงสาวที่ช่วยเหลือในครั้งนี้ มี4คนที่บอกว่าสามารถเดินด้วยตัวเองได้ พวกเธอค่อยๆลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล  ยกมือจับไหล่ของกันและกัน ประคองกันเดินออกไป 「สถานการณ์ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เลย」  เด็กสาวผมหางม้าคนหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นมา  ใช้ผ้าเช็ดผมที่เปียกไปด้วยของเหลวของออร์ค มีสีหน้าที่ดูไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่ มองผม 「ไม่มี เวลาว่างพอสินะ ถ้างั้น พวกชั้น จะพยายามไม่ให้เป็นตัวเกะกะก็แล้วกัน」  ผม「ไม่ต้องฝืนก็ได้」พูดไปได้แค่นั้น ที่เหลือต้องคาดหวังกับศักดิ์ศรีของพวกเธอแล้ว  จริงๆแล้วอยากจะใช้Summon・Waterเข้าช่วยเหมือนกัน แต่ในตอนนี้ถึงจะแค่1ผมก็อยากจะเก็บMPเอาไว้  น้ำประปาของหอพักหญิง ก็อย่างที่คาดเดาไว้ ไม่สามารถใช้ได้น่ะ  คงจะโดนแผ่นดินไหวทำให้ที่ไหนสักที่เกิดความผิดปกติล่ะมั้ง 「ถ้างั้นก็ คายะคุง ไปกันเลยมั้ย」  ชิคิซังโอบเด็กสาวไว้ซ้ายขวาข้างละคน  ดูเหมือนว่าจะหนักเหมือนกัน แต่พอผมบอกว่าเดี๋ยวช่วยช่วยแบกไป「นายน่ะ ห้ามเลย」ก็ถูกปฏิเสธมาทันที 「ตอนที่ถูกจู่โจมระหว่างทางกลับ นายมีหน้าที่ที่ต้องปกป้องพวกชั้น ใช่มั้ย」 「อะ อ้า」  ว่าไงล่ะ ตำแหน่งลีดเดอร์ถูกแย่งเอาไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้สิ  ถึงงั้นก็เถอะ คำสั่งของเธอเมื่อกี้น่ะถูกแล้ว ไม่จำเป็นต้องบ่นเลย  พวกผม เดินทางออกจากหอพักหญิง กลับไปยังอาคารเรียนศิลปะ  ในจุดที่เกือบจะถึงอาคารเรียนศิลปะอยู่แล้ว หูของอสูรรับใช้หมาป่าก็ตั้งขึ้นมา  ในเวลาเดียวกันนั้นเอง กลุ่มหญิงสาวที่เดินทางมาเพื่อช่วยพาตัวผู้รอดชีวิตไปด้วยซึ่งเดินนำหน้าผมก็หยุดเดิน ชิคิซังซึ่งเป็น1ในนั้นหันหน้ากลับมา  เธอน่าจะได้รับสกิลสอดแนมมาไม่ผิดแน่  ก็หมายความว่า 「คายะคุง ได้ยินเสียงต่อสู้มาจากด้านหน้า」  ชิคิซังตะโกนออกมาด้วยเสียงอันตึงเครียด 「อาคารเรียนศิลปะถูกออร์คจู่โจมแล้ว」

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้