Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 30 ศึกป้องกันอาคารเรียนศิลปะครั้งที่ 2 ช่วง1

หลังจากกลับมายังจุดเดิม ผมจัดการอัญเชิญอีกาเพิ่มอีก3ตัวในทันที แล้วสั่งให้พวกมันออกไปสอดแนม  หลังจาดนั้น ก็กลับไปยังอาคารเรียนศิลปะด้วยกันกับชิคิซัง  พวกอริสออกมารอรับด้วยสีหน้าเป็นกังวล  ผมกับชิคิซังพยายามทำสีหน้าให้ดูสดใสที่สุด โบกไม้โบกมือให้พวกเธอ 「ทุกคน โทษทีที่ให้รอ พูดคุยกับคาซึคุงเสร็จแล้วล่ะ เดี๋ยวจะอธิบายแผนการให้ฟัง เรียนทุกคนมารวมตัวกันที」  ทุกคนพอจะสังเกตได้ถึงวิธีการเรียกชื่อผมที่เปลี่ยนไปของชิคิ ยูคาริโกะ  อริสหรี่ตามองมาด้วยสายตาคาดคั้น  ผมเข้าไปตบจับไหล่เธอเพื่อให้เธอสบายใจ จากนั้นก็กระซิบข้างหูเธอ「ไปคืนดีกันมาน่ะ」 「คืนดีกันนี่ หมายถึง คืนดีแบบไหนเหรอคะ」  ทำไมต้องจ้องมาเหมือนผมเป็นคนผิดอย่างนั้นล่ะ  ผมน่ะ อาเร๊ะー? ไม่เข้าใจเลย  ชิคิซังที่เห็นดังนั้น ประสานมือที่ด้านหน้าหน้าอก แสดงสีหน้าฟินสุดชีวิต 「คาซึคุง ใหญ่จังนะ」 「ได้ยินเหมือนกำลังล้อกันเล่นอยู่เลยนะเว้ยเฮ้ย」 「บอกไปแล้วไง ไม่ต้องเป็นห่วงก็ได้ อริสจัง แค่ไปสะสางเรื่องราวระหว่างลีดเดอร์เท่านั้นแหละจ๊ะ」  หลังจากที่แววตาของอริสมีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมา ในที่สุดเธอก็เข้าใจ พยักหน้าพลางพึมพำว่า อย่างนี้นี่เอง  จะว่าไป คนที่รู้เรื่องราวนอกจากพวกผม ก็มีแค่อริสคนเดียวนี่นะ 「คาซึซัง พยายามได้ดีมากเลยค่ะ」 「เพราะอริสแล้วก็ทุกคนน่ะแหละ แล้วก็ คนที่พยายามมากที่สุดก็คือชิคิซังล่ะนะ」 「ค่ะ แต่ว่า ชั้น ดีใจค่ะ」  อริสยิ้มหวาน  จนทำให้ผมต้องยกมือไปลูบหัวเธออย่างไม่รู้ตัว  อริสหลับตาลงดูท่าจะมีความสุขมาก  นี่มันนางฟ้าชัดๆ 「ค่าค่า ตรงนั้นน่ะ อย่ามาพลอดรักกันตรงนี้สิ เริ่มอธิบายได้แล้ว」  ชิคิซังตบมือ ส่งสัญญาณให้ผมเริ่มพูด และคนอื่นฟังอย่างสงบ         ※  ปัจจุบัน นักเรียนที่อยู่ที่อาคารเรียนศิลปะและมีเลเวล1ขึ้นไป รวมผมด้วยมีทั้งสิ้น11คน  ระบบปาร์ตี้นั้น 1ปาร์ตี้มีสมาชิกได้6คน  จากการปรึกษากับชิคิซัง พวกผมต้องแบ่งกันไปเป็นปาร์ตี้4คน 6คน 1คน ทั้งหมด3ปาร์ตี้ด้วยกัน  ปาร์ตี้4คน แน่นนอนว่าต้องมีผม ทามากิ มิอะเป็นตัวหลัก  คนที่เหลืออีก7คน ถอดชิคิซังออกมาก็จะเป็นปาร์ตี้6คน  ชิคิซังจะเป็นโซโล่น่ะ นี่คือข้อเสนอของเธอเอง 「เพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินไง ตอนที่ต้องการเวลาสำหรับวางแผนล่ะนะ」  ถ้าเป็นโซโล่ล่ะก็ ตัวเองจะเป็นคนตัดสินใจช่วงเวลาในการเลเวลอัพของตัวเอง  ความคิดของเธอที่จะให้ใช้ห้องสีขาวเป็นจุดกำหนดความเป็นตาย จะบอกว่าอุ่นใจดี หรือจะบอกว่าน่ากลัวดี  ไม่สิถ้าเป็นตามปกติล่ะก็ คงอุ่นใจแหละ  กลยุทธ์พื้นฐานน่ะ ง่ายมาก 「อาคารเรียนศิลปะน่ะ เป็นอาคารที่ไม่เหมาะกับการตั้งรับ ถ้าผนังด้านข้างถูกทำลายและถูกบุกเข้ามาจากตรงนั้น เราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย พวกออร์คเมื่อกี้ไม่ได้บุกเข้ามาทางนั้นน่ะรู้อยู่ แต่ถ้าเป็นElite・Orcล่ะจะเป็นยังไง」  นี่คือจุดที่เป็นปัญหาอันดับหนึ่ง จากการถกกันระหว่างผมกับชิคิซัง  ผมเคยเห็นพลังของElite・Orcมาแล้ว แบบติดขอบสนามเลย  ตวัดขวานเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำลายบันไดให้เป็นจุลได้ แรงวัวแรงควายสุดๆ  กรณีที่ใช้แรงช้างสารนั่นกับผนังของอาคารเรียนศิลปะ คงไม่สามารถต้านทานได้หรอกจริงมั้ย  ชิคิซังบอกว่า「การปรับปรุงอาคารเรียนศิลปะน่ะไม่ได้ทำให้อาคารอ่อนแอขนาดนั้นหรอกนะ」  แต่ว่าผมน่ะ จะบอกว่าผมคิดว่าไม่ว่าอาคารไหนก็ไม่สามารถต้านรับการโจมตีของElite・Orcได้ก็ว่าได้  สุดท้าย ก็ทำตามความเห็นของผม  ชิคิซังเสนอความแผนการต่อสู้ที่คาดเดาถึงเรื่องนั้นด้วยออกมา 「ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ ออกไปข้างนอกกัน โชคดีที่เส้นทางมายังอาคารเรียนศิลปะนี่มีเพียงเส้นทางเดียว ความกว้างของถนนก็ประมาณ5เมตรเท่านั้น รอบๆเองก็มีต้นไม้ขึ้นอย่างหนาแน่น การต่อสู้แบบตะลุมบอนคงจะยาก จากจุดนั้น ต่อให้มีออร์คมาเป็นโขยง ยังไงก็เข้ามาได้เพียงแค่แถวแนวนอนเรียง3เท่านั้น รูปแบบการป้องกันที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นการป้องกันที่ด้านนอกแหละ」  กำลังรบหลักก็คือ เหล่าเด็กสาวที่เลือกสกิลอาวุธ การใช้หอกมา  นอกจากอริสแล้ว ยังมีนักเรียนหญิงอีก3คนที่มีสกิลการใช้หอก  2จาก3คนนั้น ได้เข้าร่วมป้องกันอาคารเรียนศิลปะเมื่อกี้ จึงกลายเป็นเลเวล2แล้ว  โดยทั้งคู่ก็อัพสกิลการใช้หอกเป็นแรงค์2เรียบร้อย  แผนการก็คือให้พวกเธอยืนแถวหน้ากระดาน เป็นเหมือนดั่งกำแพงบนถนนั่นเอง 「ที่หน้ากำแพงหอกเนี่ย น่าจะเป็นพื้นต่างระดับนะ อยากจะให้เริ่มงานนี้ด่วนที่สุดเลย เอาสัก2-3เซนติเมตรก็ไม่ว่าอะไร คาซึคุง รบกวนด้วย」  รับทราบ ผมตอบรับเธอ  จากนั้นผมก็ถือพลั่วเดินออกไปจากอาคารเรียนศิลปะ โดยไม่ได้อยู่ฟังการอธิบายจนจบ 「ในส่วนของออร์คที่จะอ้อมมาจากด้านซ้ายขวาของป่า ……」  การอธิบายของชิคิซังยังดำเนินต่อไป  สำหรับรายละเอียด ถึงตอนนี้แล้วผมไม่มีความจำเป็นต้องฟัง  ยังไง ก็เป็นแผนการที่ผ่านการคัดกรองมาโดยพวกผม2คนอยู่แล้ว         ※  ผมออกไปยังลานกว้างด้านหน้าอาคารเรียนศิลปะ  ที่ปลายทางของถนนนี้ อยู่ในระดับที่รถบรรทุก1คันพอจะวิ่งผ่านมาได้  จากจุดนั้นถอยมา5เมตร ผมเริ่มการขุดหลุมทันที  จะเรียกว่าขุดหลุมมันก็ยังไงๆอยู่ แค่การทำพื้นต่างระดับน่ะ  แซ่ก แซ่ก ขุดๆๆต่อไป  การที่สามารถขุด แซ่ก แซ่ก ได้เรื่อยๆทั้งๆที่นี่คือถนนที่ผ่านการอัดแน่นจากคนที่เดินสัญจรไปมาก็เป็นเพราะ ผมใช้Physical・Upล่ะนะ  ระหว่างที่กำลังขุดอยู่ อีกาก็บินกลับมาหลายครั้งอยู่เหมือนกัน  จากการรายงานของมัน ดูเหมือนพวกออร์คจะรวมตัวกันอยู่ที่ด้านหน้าอาคารเรียนหลัก  มีออร์คสีน้ำเงินด้วย หลายตัวด้วยสิ  Elite・Orcหลายตัวเหรอ……  การต่อสู้นี้ท่าจะลำบากแน่ๆ ผมคิดในใจ  แต่ว่า จำนวนแค่นี้มันก็อยู่ในการคาดการณ์ของชิคิซังอยู่ดี  ไม่สิ ไม่สิ ตรงเป๊ะเลยต่างหาก ถึงในตอนแรกผมจะคิดว่าข้อสันนิษฐานของเธอมันเหมือนกับมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไปก็เถอะ……  มองได้ทะลุปรุโปร่งเกินคาดเลยน๊า  อันตรายๆ ถ้ากำหนดการเคลื่อนไหวตามข้อสันนิษฐานแบบมองโลกในแง่ดีของผมล่ะก็ ตอนนี้คงไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว  ผมยังสั่งให้อีกากลับไปสอดแนมอีกหลายครั้ง เพื่อที่จะทำความเข้าใจกับสภาพการณ์ของศัตรู  ระหว่างนั้นก็ยังก้มหน้าก้มตาขุดต่อไปด้วย  รู้สึกตัวอีกที ก็ทำถนนที่มีสโลปเยอะมากๆเสร็จแล้ว 「ขอบคุณที่เหนื่อย」  เสียงดังขึ้นมาจากข้างหลัง  พอหันกลับไป ก็พบกับนักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้น1คน ยืนอยู่ใกล้ๆ  เป็นเด็กคนหนึ่งในกลุ่มที่ต้องอยู่เฝ้าอาคารเรียนศิลปะเมื่อกี้น่ะ  เธอถือจานสีขาวไว้ในมือ  ในนั้นมีข้าวปั้นห่อสาหร่าย4คน วางอยู่ 「วัตถุดิบมีแค่แซลมอนกระป๋องเท่านั้นเอง ต้องขอโทษด้วยค่ะ……」  เธอยิ้มแหะๆให้ผม 「อ๊ะ มือเปรอะอยู่สินะคะ เดี๋ยวจะเอาผ้าเช็ดหน้าให้」 「ไม่ๆ ไม่ต้องหรอก」  ผมใช้มือที่เปื้อนดินอยู่เอื้อมไปหยิบข้าวปั้น เอาเข้าปากเคี้ยวหงุบหงับๆ  ถึงตอนนี้แล้วผมไม่สนใจเรื่องสะอาดหรือสกปรกหรอก  อีกทั้ง เวลาที่ต้องเสียไปกับการเช็ดมือมันน่าเสียดาย  ตามการรายงานของอีกา อีกไม่นานพวกออร์คก็จะเคลื่อนไหวแล้ว  บางที ตอนนี้อาจจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้วก็เป็นได้  ข้าวปั้นผสมเกลือนิดๆนี่ เพราได้กินตอนเหนื่อยมากหลังทำงานหนักรึเปล่านะ อร่อยมากทีเดียว  ก็นะ ผมหิวมากๆด้วยแหละ ไม่นานข้าวปั้น4ก้อนก็อันตรธานหายไป สุดท้ายผมยังเลียนิ้วด้วย  จะว่าไปอาหารเช้านี่ได้กินก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นอีกนา  แค่ช่วงเช้าเท่านั้นยังเจอเรื่องราวเยอะแยะ จนลืมไปเลยว่าท้องหิว 「ขอบคุณสำหรับอาหาร อร่อยมากเลย」 「ไม่เป็นไรค่ะ อันนี้ชั้นทำขึ้นมาเองเลยนะ」  เธอพูดพร้อมรอยยิ้ม 「ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยชั้นเมื่อกี้ ชั้นน่ะ คิดว่าคงไม่รอดแล้วซะอีก」  ที่ไปทันเวลาก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ  อีกอย่าง การช่วยเธอก็เป็นเรื่องปกติออก  ที่สำคัญ ความผิดพลาดของผมในตอนนั้นก็คือการดึงคนออกไปจากการป้องกันอาคารเรียนศิลปะถึง5คน……  ก็นะ ผมไม่มีความจำเป็นจะต้องไปพูดถึงเรื่องนั้นซะหน่อยนี่เนอะ  ตัดสินใจรับคำขอบคุณนั้นอย่างตรงไปตรงมา 「ในการต่อสู้ครั้งต่อไป รุ่นพี่คาซึก็จะช่วยปกป้องชั้นสินะคะ!」 「เอโต……ใช้ซังแทนรุ่นพี่ได้มั้ย」 「ค่ะ คาซึซัง! ไหนๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว มุ่งหน้าไปให้สุดเลยนะคะ!」  งั้นเหรอ ผมมองไปที่มือของสาวน้อย。  จากการขุดหลุมเมื่อเช้านี้ ทำให้มือของเธอถลอกหมด  ใช้มือนั่นทำข้าวปั้นขึ้นมางั้นเหรอ พอคิดแบบนี้แล้ว รู้สึกผิดยังไงไม่รู้สิ  ไม่สิ ระหว่างที่เธอกำลังปั้นข้าวปั้น ผมก็ขุดหลุมอยู่ที่นี่มาตลอดเหมือนกันล่ะ  ให้ตายสิ การขุดหลุมมันกลายเป็นเรื่องปกติของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย จากเรื่องที่ได้ยินแล้วต้องถอนหายใจ กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสินะ เฮ้อ         ※  หลังจากนั้นประมาณ5นาที  หญิงสาว3คนที่ถือหอกก็ลงไปในร่องที่มีความกว้าง5เมตร สูง20-30เซนติเมตร ลึก3เมตร รอศัตรูที่กำลังจะมา  ที่ด้านหลังของพวกเธอ คือผมกับมิอะ  ด้านข้างของผม มีอสูรรับใช้หมาป่าสีเทาอยู่ตัวหนึ่ง  ส่วนสมาชิกที่เหลือแยกตัวกันอยู่ทางซ้ายและขวาของป่า  พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือน  มีฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นมาจากทางด้านอาคารเรียนหลัก  ออร์คกลุ่มใหญ่กำลังเคลื่อนพลมาทางพวกผมที่เตรียมพร้อมรอรับอยู่แล้ว  การที่พื้นดินสั่นไหวก็เป็นเพราะเสียงของการเคลื่อนที่ของพวกมัน  อุหวา แรงกดดันโคตรโหดเลย  หัวแถวของออร์ค กำลังอ้อมถนนมาในระยะห่างไปประมาณ50เมตร  เลี้ยวไปต่อๆกัน  เมื่อเห็นพวกผม พวกมันก็กู่ร้องขึ้น  พวกออร์คเพิ่มความรุนแรงในการเดินเข้าไป เหยียบพื้นดินถอนคันเร่ง เร่งสปีดเข้ามา  แรงกดดันนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ  หญิงสาวที่ถือหอกต่างพากันตัวสั่น ……  ยังไงล่ะ ถึงจะสั่นกลัวแต่ยังคงตั้งหลักได้มั่นอยู่  ผมพิจารณาตัวเองจากการต่อสู้ที่หอพักหญิง ดังนั้นในครั้งนี้ผมจึงใช้Clear・Mindซึ่งเป็นเวทซัพพอร์ทแรงค์1ให้กับทุกคน  ด้วยเวทมนตร์ที่ทำให้จิตใจแข็งแกร่งขึ้น ส่งผลให้พวกเธอไม่หนีไปเมื่อเห็นฝูงออร์ค  และเพราะการใช้เวทมนตร์นี้นี่เอง ทำให้MPของผมเหลือแค่30เท่านั้น……  ที่เหลือก็ ขอแค่พวกเธอใจเย็นๆทำตามแผนการที่วางเอาไว้  แต่ว่า ถึงอย่างนั้นก็เถอะ  จำนวนของออร์คมัน มากกว่า100ตัวซะอีกนะ  ผมพยายามทำตัวให้สุขุมสุดความสามารถ  แต่ในใจของผมจริงๆแล้ว กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าเลย มันจะไหวจริงๆเหรอฟะเนี่ย  ให้ผมเป็นคนสั่งการจะไม่เป็นจริงเหรอ  ผมสามารถปกป้องพวกอริสได้จริงๆเหรอ  ไม่ๆ ทำได้สิ  ผมกำหมัดแน่น  ไม่ใช่ว่าจะทำได้หรือไม่ได้  ต้องทำ  ออร์คหัวแถวก้าวเข้ามาในร่องที่ผมขุดเอาไว้แล้ว  ออร์คตัวที่2ก็ตามมาติดๆ  พวกออร์คเริ่มเงื้ออาวุธขึ้น…… 「ตอนนี้ล่ะ มิอะ!」 「อืม Earth・Pit」  มิอะสั่งให้เวททำงานด้วยเสียงอันไร้ความรู้สึก  เวทดินแรงค์3 Earth・Pit ก็คือเวทที่จะสร้างหลุมขึ้นมาบนพื้นดิน  ขอบเขตการแสดงผลก็คือวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง3เมตร ลึกมากสุด5เมตร  เพียงแต่ว่า ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำหลุมลึกขนาดนั้นขึ้นมาได้ในอึดใจเดียว ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปน่ะ  ถึงอย่างนั้น หากให้เวทนี้ทำงานผ่านร่องนี้ล่ะก็……  ออร์คที่เข้ามาจากทางซ้ายมือ รวมทั้งสิ้น3ตัว จู่ๆพื้นดินบริเวณเท้าของพวกมันก็ทรุดลงไป  พอดีกับที่พวกมันกำลังจะฟาดอาวุธเข้ามา เมื่อพื้นดินทรุดก็ทำให้สูญเสียบาลานซ์ไป  ในจังหวะนั้น กลุ่มหญิงสาวที่ใช้หอกก็ระดมแทงเข้าไปอย่างต่อเนื่อง  ออร์คที่ตามมาข้างหลังยังตั้งหลักได้ทัน แต่พอพื้นดินเริ่มยุบลงไปมากขึ้นมันก็ล้มลงไปผลักตัวที่อยู่ข้างหลัง  มนุษย์หมูเหล่านั้นล้มลงไปกองกับพื้นราวกับโดมิโนที่ถูกทำลาย  ค่อยๆร่วงลงไปในหลุมที่ลึกลงเรื่อยๆ  กลุ่มออร์คทางด้านขวาเองก็ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นพวกตัวเองหายไปจากสายตา  จนหยุดการเคลื่อนไหวไปซะดื้อๆ 「Earth・Pit」  หลุมที่2ถูกสร้างขึ้นมาอย่างไม่ปราณี ปรากฏขึ้นมาบนพื้นดินบริเวณเท้าของออร์คทางขวามือ  ทางนี้เอง ก็ค่อยๆล้มกันไปจากหน้าไปหลังเหมือนโดมิโน โดยออร์คที่ร่วงไปก็เรียงลำดับจากหน้าไปหลังเหมือนเดิม  เสียงร้องของออร์ค  เสียงครวญครางของการถูกเชือด  การตะโกนสุดเสียงก่อนวาระสุดท้ายจะมาเยือน

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้