Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 36 อาคารเรียนหลักมัธยมต้น

 ผ่านช่วงเที่ยงวันมาแล้ว  พวกผมเข้าสู่ช่วงเบรค  การนอนกลางวัน เป็นคำที่ให้ความรู้สึกสบายๆ แต่ว่า ตอนนี้ทุกคนเหนื่อยล้ากันหมด  เด็กม.ต้นปี1 2คน พอกลับมายังอาคารเรียนศิลปะปุ๊บ ก็แทบจะล้มลงที่ล็อบบี้ทันที  ส่วน2คนที่เป็นแนวหน้าซึ่งยังรอดชีวิตอยู่ รับเสื้อพละและกางเกงจากคนที่รออยู่ แล้วตรงไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำ  มีทุกคนช่วยกันดูแลน่ะ  ใจดี  แถมหน่อย คนที่ช่วยดูแลพวกเธออยู่นั้นก็คือมิอะ  ยัยนี่เลเวลอัพแล้วค่าStaminaเพิ่มรึเปล่าก็ไม่รู้ ดูคึกคักกว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด  แต่ถึงอย่างนั้น เดินไปได้ไม่กี่ก้าว พวกเธอก็ทรุดลงแล้วน่ะ  ก็เจอมาหนักล่ะนะ 「เหม็น ทั้งสองคน เหม็นมาก」  ยัยนี่มันปีศาจตัวจริงเลยนะเนี่ย  หากให้พูดตามความรู้สึกส่วนตัวล่ะก็ได้เผชิญกับElite・Orcในระยะกระชั้นชิด เห็นเพื่อนพ้องที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาถูกผ่าเป็น2ซีก ในสถานการณ์แบบนั้นแค่ไม่สติหลุดจนเป็นบ้าไปก็ดีแค่ไหนแล้ว  เพราะClear・Mindรึเปล่านะ  ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ต้องนับว่าใช้MPที่ขาดแคลนอยู่ได้อย่างเหมาะสมทีเดียว  เพื่อนพ้องคนหนึ่ง ตายไปแล้ว  แต่ว่าทุกคน ดูสงบกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก  ไม่เชิงว่าเศร้าหรอก แต่คนที่กำลังซึมเพราะเพื่อนพ้องตายไป ดูเหมือนว่าจะมีแค่ผมคนเดียวเองอ่ะ  ถ้าลองคิดดูก็น่าจะเป็นอย่างนั้น  กลุ่มคนที่ไปหอพักหญิงด้วยกัน ต่างได้เห็นสภาพศพอันโหดร้ายของเพื่อนๆกันมาแล้ว  ถึงไม่มีเรื่องนี้ ก็ยังมีเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกอยู่ดี  น้ำตาคงจะเหือดแห้งไปแล้วล่ะมั้ง  หรือบางที อาจจะเคยชินกับความตายของคนไปแล้วล่ะ  ไม่ว่ายังไง หากการที่จิตใจด้านชาช่วยให้สามารถมีชีวิตต่อไปได้ก็นับว่าเป็นเรื่องดี  การที่จิตใจทุกคน ไม่ถูกทำร้ายเนื่องจากความตายของเพื่อนพ้องคนหนึ่งหรืออาจจะหลายคน ผมว่าเป็นเรื่องดี  ถ้าไม่อย่างนั้น ไม่นานหัวใจก็คงจะแหลกสลายจริงมั้ย  ในตอนนี้รอบๆพวกผม เอ่อล้นไปด้วยความตาย         ※  ผมเอง ก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน  จริงๆแล้วจำเป็นต้องทำการสำรวจหรือไม่ก็เฝ้าสังเกตการณ์ แต่ผมไม่มีอารมณ์จะไปทำน่ะ 「พวกชั้นจะคอยเฝ้ายามให้สักระยะหนึ่งเองค่ะ กรุณาพักผ่อนด้วยค่ะ」  หญิงสาวผมโพนีเทล มีชื่อว่านากาสึคิ ซากุระ 「แต่ว่า พวกเธอเหนื่อยกันอยู่ไม่ใช่เหรอ」 「ตอนที่โดนพวกออร์คย่ำยี ครึ่งหนึ่ง หมดสติไปค่ะ」  เธอ พูดออกมาโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลย  เป็นความจริงรึเปล่า หรือแค่ล้อเล่น ผมไม่รู้หรอก  แต่ว่าในตอนนี้ ต้องตอบรับความหวังดีของพวกเธอ  ถึงจะว่าอย่างนั้น จากการต่อสู้แรกเมื่อกี้ สมาชิกซับปาร์ตี้ส่วนใหญ่ ใช้พลังกายไปเกินขีดจำกัดแล้ว  เหล่าหญิงสาวที่ล้มตัวลงนอนโดยไม่สนอะไรเลยที่ล็อบบี้  ตัวผมที่มองพวกเธอลงมาจากเฉลียงที่ชั้น2 คิดในใจ  คนที่ใช้งานพวกเธออย่างหนัก ก็คือผมเอง  สุดท้าย ก็มีคนตาย  ชิโมยามาดะ อาคาเนะซัง  การตายของเธอ คือความรับผิดชอบของผม  ผมจะต้อง รับมือกับมันให้ได้  ในอนาคตก็ต้องมีคนตายอีก  ทั้งหมดนั่น คือความรับผิดชอบของผม  เพียงแต่ว่า ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอก  ยังมีอริส ทามากิ มิอะอยู่ด้วย  ชิคิซังเองก็ จะช่วยแบ่งความรับผิดชอบนั้นไป  ผมจะต้องกลายเป็นคนใจกว้างให้ได้  จะต้องเรียนรู้การแบ่งหน้าที่กับทุกคนให้ได้  จะต้องเรียนรู้การมีชีวิตร่วมกับทุกคนให้ได้  นั่นก็เพื่อ ชดเชยต่อความตายของชิโมยามาดะ อาคาเนะซัง  ผมน่ะ จะต้องทำในสิ่งที่สามารถทำได้  โชคดี จากการต่อสู้เมื่อกี้ทำให้ผมได้เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งมาครอบครอง  เวทซัพพอร์ทแรงค์4 Hard・WeaponและHard・Armorน่ะ  เป็นเวทที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้อาวุธและเครื่องป้องกันของทุกคน  ถ้าเป็นไปได้ก็เสื้อและกางเกงพละของทุกคน แล้วถ้ายังไปต่อได้อยู่ก็อยากจะเสริมความแข็งแกร่งให้หมวกและของอย่างอื่นด้วย  พอเอาไปพูดกับชิคิซัง ก็โดนเธอปฏิเสธทันที  เธอลากผมไปยังห้องๆหนึ่งบนชั้น3 ห้องที่สามารถล็อคกุญแจได้  เหลือกันอยู่กัน2คน  ชิคิซังบอกให้ผมไปนั่งบนเตียง  ส่วนตัวเองนั่งบนเก้าอี้ นั่งไขว่ห้าง เชิดคางขึ้น 「จะEnchantทั้งหมดเนี่ยนะ คิดว่าต้องใช้เวลาแค่ไหนกัน รวม3คนที่เพิ่งอัพเป็นเลเวล1 แนวหน้ามีทั้งหมด7คน ในส่วนนี้เอาแค่อริสจังกับทามากิจังก็พอ ไปเสริมความแข็งแกร่งให้เสื้อ กางเกง และหมวกของพวกเธอซะ แล้วก็ถุงมือด้วยนะ ส่วนคนอื่นๆแค่เสื้อพละก็พอแล้ว สำหรับแนวหลังไม่ต้องก็ได้ ยกเว้นนายกับมิอะจังนะ」  แต่ว่า ผมพยายามจะคัดค้าน  ซึ่งชิคิซังก็ส่ายหัวทันที 「อาโนเนะ คาซึคุง พวกเราน่ะ ไม่ได้เสมอภาคกันหรอกนะ มีคนที่ตายไปก็ไม่เป็นไร กับคนที่ห้ามตายเด็ดขาดอยู่ ทั้ง4คนของเอสปาร์ตี้น่ะ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามตายเด็ดขาด โดยเฉพาะนายล่ะนะ นายคือความหวังของทุกคนรู้มั้ย ไม่มีใครจะมาแทนที่นายได้หรอกนะ」 「……ถ้างั้น มีคนที่จะมาแทนชิโมยามาดะซังงั้นเหรอ」 「อื้ม ใช่แล้ว」  ชิคิซังพูด ยิ้มแบบฝืนๆ  ราวกับกำลังแสดงบทตัวร้าย เธอเล่นละครเป็นลาสบอสฝ่ายปีศาจที่แสนจะเย็นชา  แต่ว่ามือที่กำแน่นอยู่นั้น กำลังสั่นอยู่  ดวงตา ดูเศร้าเหลือเกิน มองมาทางผม ราวกับกำลังเหงา  เป็นคนที่ไม่เหมาะกับบทตัวร้ายเลยให้ตายสิ 「น่าเสียดายนะ ทั้งชั้นแล้วก็นาย เป็นคนพิเศษน่ะ ไม่เหมือนกับชิโมยามาดะซัง พวกเราน่ะ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามตายเด็ดขาด หากพวกเราคนใดคนหนึ่งตายไปล่ะก็ ทุกคนจะไม่รู้เลยว่าจะต้องทำยังไงต่อไป การชี้นำคนอื่นๆ ฉุดรั้งขึ้นไปจากบ่อโคลน ช่วยให้ทุกคนมีชีวิตต่อไปได้ ก็คืองานของผู้นำยังไงล่ะ 」  เธอพูดแต่เรื่องน่ารังเกียจ  พูดแต่เรื่องน่ากลัวๆ  พูดแต่เรื่องที่น่าสิ้นหวัง พยายามจะให้ผมสั่นกลัว  แต่ว่านั่นน่ะ คือความจริงใจของเธอ ถ้าเป็นตัวผมในตอนนี้ล่ะก็เข้าใจดี  ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว  ชิคิซังเองก็เตรียมใจแบกรับความตายของเพื่อนพ้องเอาไว้ด้วยเหมือนกัน เธอพยายามพูดอ้อมๆแต่จะสื่อถึงเรื่องนี้  เล่นละครไม่ได้เรื่องเลยนะ ผมคิดในใจ 「คาซึคุง ถ้าอริสจังเป็นคนที่สำคัญสำหรับนายจริงๆล่ะก็ ใช้ทรัพยากรที่มีเพื่อให้อริสจังมีชีวิตอยู่รอดต่อไปซะ จะลดทรัพยากรส่วนของพวกชั้นไปก็ได้」 「เธอน่ะ แบบนั้จะดีเหรอ」 「ดีแล้วล่ะ」  ชิคิซังหัวเราะ 「ชั้นน่ะ ตัดสินใจแล้ว จะไม่หนีอีกต่อไป ไม่ว่าจะเจอเรื่องลำบากแค่ไหนก็จะลุกขึ้นสู้ให้ดู ไม่ว่าจะเจอกับใคร หรือต้องพบกับความเจ็บแค้นแค่ไหนก็ตาม」 「กลัวผมรังเกียจรึไง」 「เกลี้ยกล่อมอยู่ต่างหาก」 「ถงึแม้ว่าผมจะยังไม่ไว้ใจเธอ ก็ยังคิดว่าจะเกลี้ยกล่อมได้งั้นเหรอ?」 「นั่นสินะ ถ้าโดยตรงลำบากล่ะก็ ให้อริสจังช่วยก็ได้ ถ้ายังไม่ไหวอีกล่ะก็ จะเริ่มจากทำให้ทามากิจังร้องไห้ก่อน ส่วนมิอะจังเป็นเด็กฉลาด คิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่องแน่ๆ……」  อ้า ยัยนี่อันตรายจริงๆล่ะ ผมคิดในใจ  ไม่สิ ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้หรอกเรื่องนี้น่ะ  เธอน่ะ เป็นผู้หญิงไม่ดี  คิดว่า เพื่อที่จะหลบหนีไปจากเธอให้พ้น คงมีแต่ต้องดับลมหายใจของเธอโดยตรงเท่านั้น  แต่ผู้หญิงที่ชื่อชิคิ ยูคาริโกะคนนี้ ก็รู้อยู่แล้วว่าตราบใดที่อริสยังอยู่ ผมจะไม่มีทางทำอะไรรุนแรงแบบนั้นแน่ๆ  ตราบใดที่ยังมีเซฟตี้อย่างอริสอยู่ เธอจะสามารถเปิดเผยความในใจแบบนี้ออกมาได้ 「เอาเถอะ ก็อย่างที่ว่ามาน่ะแหละ」  พูดจบชิคิซังก็ลุกขึ้น ชายตามองผม 「ห้ามตายนะ คาซึงคุง ห้ามแตกสลายด้วย หากรู้สึกขมขื่นล่ะก็ พึ่งอริสจังหรือไม่ก็ชั้นซะ จะเอาแต่ใจตัวเองขนาดไหนก็ได้ ถ้านายคิดว่าจำเป็นล่ะก็ บอกชั้นมาได้เลย ชั้นจะทำอะไรสักอย่างให้เอง」  ของที่จำเป็น สินะ  ผมยิ้มแห้งๆ  ผู้หญิง ถ้าพูดออกไปล่ะก็ คิดว่าเธอ คงจะมอบร่างกายของเธอมาให้ผมตรงนั้นเลย  เธอคิดว่าถ้าไม่เตรียมใจเอาไว้ขนาดนั้นคงจะไม่ได้ อย่างนั้นเหรอ  ถ้าบอกว่าอยากได้ร่างกายของเพื่อนพ้องสักคนหนึ่ง เธอจะไปเกลี้ยกล่อมมาให้งั้นเหรอ  อ๋าโธ่ ให้ตายสิยัยนี่……  ขี้โกงสุดๆ  อืม จะว่าไงดีล่ะ  จะอธิบายเกี่ยวกับตัวเธอแต่กลับหาคำเหมาะๆไม่ได้เลยซะงั้น 「เธอนี่ เป็นคนดีจังนะ」  ใบหน้าของชิคิซัง เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูละอายขึ้นมา  เยี่ยมมาก เอาคืนได้1ดอก  ผมกำหมัดแน่นสะใจ         ※  ตัวผมตอนนี้ เลเวล9แล้ว  ทุกๆ10นาที MPจะฟื้นฟูคืนมา9แต้ม  ต้องใช้เวลาทั้งหมด1ชั่วโมง40นาที กว่าจะเต็มถัง  ระหว่างที่รอMPฟื้นฟู ผมก็สั่งให้อีกาออกไปสำรวจ  ส่วนผมล้มตัวลงนอนบนเตียงของห้องๆหนึ่งในชั้น3  ชิคิซังนั่นงอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ กอดอกมองผม  MPที่ใช้ไปก็ เรียกอีกา1แต้ม Remote・Viewing3แต้ม  อาจจะมีคลาดเคลื่อนนิดหน่อยก็ช่างมัน ผมให้อีกาที่ร่ายRemote・Viewingใส่ไว้แล้วบินออกไป  ก่อนอื่นก็อาคารเรียนหลักของระดับมัธยมต้น  สำหรับตอนนี้ พวกผมตัดสินใจไว้ว่าที่นั่นคือจุดหลัก ที่พวกออกมารวมตัวกัน  ออร์คกลุ่มใหญ่ที่เคลื่อนพลมายังอาคารเรียนศิลปะเมื่อกี้ ก็น่าจะมาจากทางอาคารเรียนหลักด้วยเหมือนกัน  กำลังรบน่าจะลดไปพอสมควร ล่ะมั้งนะ……  ที่สนามโรงเรียนซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารเรียนหลัก มีออร์คอยู่ประมาณ30ตัว  ที่ศูนย์กลางของสนามนั้น พวกออร์คกังเล่นCamp・Fireกันอยู่  ที่พวกมันกำลังเผาอยู่ ก็คือมนุษย์  ว่าไงดีล่ะ ใช้มนุษย์ราวกับเป็นฟืน ส่วนพวกออร์คก็สนุกสนานเฮฮาราวกับอยู่ในงานเทศกาลรอบๆกองไฟนั่น  ผมกัดรืมฝีปาก ขณะมองดูภาพเหล่านั้น  อีกาน่ะ ไม่ได้รับรู้เลยว่าผมรู้สึกยังไงอยู่  หลังจากมองสนามโรงงานกับเปลวเพลิงจากด้านบน มันก็เข้าไปสำรวจภายในอาคารเรียนหลัก  อาคาเรียนหลักเป็นอาคาร3ชั้น  ชั้นที่1นั้น กระจกของห้องเรียนซีกหนึ่งแตกไปหมด  ถูกทำลายจากภายนอก  พวกออร์คคงจะทุบกระจกให้แตก แล้วบุกรุกเข้าไปล่ะมั้ง  ช่วงเวลาก็น่าจะเป็นหลังเลิกเรียน แต่นักเรียนที่ถูกฆ่าตายที่สนามโรงเรียนดูแล้วเยอะมาก  ศพของครูที่ถูกขวานฟันหัวแบะมีอยู่ไม่รู้กี่ศพ  ที่ข้างๆนั้นก็คือเหล่าเด็กผู้หญิงที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ไร้เรี่ยวแรง กำลังถูกพวกออร์คเย่ออยู่ โดยที่ส่วนใหญ่แล้ว ไม่ขยับกันเลย  อีกาบินวนดูชั้น2 ชั้น3ของอาคารเรียนหลัก  เห็นพวกออร์คลูกกระจ๊อก ส่วนออร์คที่มีผิวสีทองสัมฤทธิ์ก็มีให้เห็นบ้างเป็นคราว  Elite・Orcที่อยู่ที่อาคารเรียนหลัก น่าจะมีประมาณ7-8ตัวได้  ……เกือบ10ตัวเลยงั้นเหรอ เจ้านั่นน่ะ  เยอะเกินไป  ผมรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา  และ ชั้น3  ที่ห้องดนตรีซึ่งอยู่ด้านในสุด ประตูบานหนานั่นถูกเปิดออกมาค้างไว้  อีกาบินโฉบไปมองดูข้างใน  ด้านในนั้น มีออร์คผิวสีดำสนิทซึ่งมีขนาดใหญ่มากอยู่  ดาบสีเงินแวววับอยู่ที่มือ หย่อนตัวลงบนเปียโนที่ตั้งอยู่  สวมเสื้อคลุมสีทองอร่าม มองเหล่าลูกน้องด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม  General・Orc  ภายในหัวของผม มีคำศัพท์คำนั้นปรากฏขึ้นมา  ไม่สิ จะบอกว่าใช่ก็เหมือนกับมั่วไปหน่อย  ออร์คตัวนั้น มีบุคลิกราวกับเป็นนายพลที่ผ่านการสู้รบมาอย่างโชกโชน  ข้างๆของGeneral・Orcมีสัตว์ตัวหนึ่งซึ่งมีขนหนา ตัวสีดำนั่งอยู่  เชี่ยอะไรน่ะ  มันโดนเงาของเปียโนบดบัง ทำให้มองไม่ค่อยเห็น  เป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่าหมาป่าขนเทา อสูรรับใช้ของผมซะอีก  ดวงตาของมันสีแดงฉาน  และ  สัตว์ตัวนั้น ชำเลืองมองมาทางนี้  ไม่สิ สบตากับอีกาเต็มๆเลยต่างหาก  ตกใจ  สัญชาตญาณของผมบอกว่ามันกำลังจ้องมองตัวผมอยู่  พริบตาต่อมา  สัตว์ตัวนั้นแหงนหน้าขึ้น มองGeneral・Orc  แขนขวาของGeneral・Orcขยับ  ขว้างมาล่ะ  มีอะไรสักอย่างที่เป็นของแหลมคมพุ่งเข้ามา  ผมหลับตาลงทันที……  การเชื่อมต่อขาดลง  อีกาถูกฆ่าไปแล้ว

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้