Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 48 ศึกตัดสินที่อาคารเรียนหลักมัธยมต้น 1

ในสภาพที่ล้มอยู่นั้น ผมยันร่างกายส่วนบนขึ้นมา มองไปยังGeneral・Orc  ออร์คขนาดใหญ่ผิวสีดำ กับดาบสีเงินแวววับที่ถูกปักไว้ที่พื้น ท่าทางของมันราวกับเป็นรูปปั้นนักรบหล่อโลหะที่เฝ้าหน้าประตูวัด  มองผมลงมาจากด้านบน ยิ้มราวกับตัวเองอยู่เหนือกว่า  แย่แล้ว  เจ้านี่มัน อันตรายของจริง  ความน่ากลัวของมันน่ะเหรอ หากสมมติให้มันเป็นElite・Orcที่ผมต่อสู้ด้วยเมื่อวานล่ะก็ ผมคงตัดสินใจหนีในทันทีแน่นอน  ถึงกระนั้น ในตอนนี้ผมสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังที่รุนแรงกว่าเมื่อตอนนั้นอย่างเทียบไม่ติด  เมื่อวานนี้ ถึงแม้ว่าทั้งผมทั้งอริสจะเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก  แต่จากการที่ผมกับอริสเลเวลอัพ ก็ทำให้สามารถวางมาตรการที่เหมาะสมขึ้นมาได้  ตัวตัวหมากทุกตัวมาเรียงกันครบพอดี ทุกอย่างลงล็อค ทำให้สามารถคว้าชัยชนะมาได้  ครั้งนี้ ผมเพิ่งจะเลเวลอัพมา  ต่อให้จัดการHellhoundได้ กว่าจะเลเวลอัพครั้งต่อไปก็อีกไกลเลยจริงมั้ย  ไม่สิ มีค่าประสบการณ์จากHellhoundอยู่เหมือนกัน อาจจะพอให้อริสเลเวลอัพได้อยู่มั้ง  ถ้าเป็นอย่างนั้น จะให้อริสอัพการใช้หอกเป็นแรงค์5งั้นเหรอ  ……ทำอย่างนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อ จะสามารถทำอะไรได้ล่ะ นึกไม่ออกเลย ความกลัวที่ได้เผชิญกับGeneralตรงหน้านี้มันส่งผลระดับนั้นเลยล่ะ  เสียงคำรามที่รุนแรงขนาดทำลายSilent・Fieldไปได้น่ะ ไม่ใช้เรื่องล้อเล่น  นิยามของเวทมนตร์ไม่ใช่ทุกอย่างงั้นเหรอ  ก็หมายความว่า มันสามารถเป่าเวทมนตร์หรืออะไรทำนองนั้นจนกระเด็นไปงั้นเหรอ?  ถ้าเป็นอย่างนั้น เวทมนตร์อย่างอื่นของมือะ อย่างHeat・Metalล่ะจะใช้ได้ผลมั้ย?  ยังไงดาบเล่มนั้น มันก็มีแสงสีเงินแวววับอยู่แล้ว อาจจะเคลือบด้วยเวทมนตร์หรืออะไรทำนองนี้อยู่มั้ง  จะใช่ดาบเวทมนตร์ที่เห็นบ่อยๆในแฟนตาซีรึเปล่า  ความคมของดาบ จะคมแค่ไหนกัน  แล้วเอฟเฟคท์เสริมล่ะ?  ดาบเวท  สิ่งที่คิดขึ้นมาได้หลังจากได้ยินคำนี้ในทันทีก็คือ ดาบที่กัดกินวิญญาณของคู่ต่อสู้ และมีฤทธิ์ขนาดทำให้โลกล่มสลายที่เคยเจอในนิยายอะไรสักเรื่องล่ะมั้ง……  ไม่สิ ไม่น่าจะถึงขั้นนั้นมั้ง แต่ยังไงเอฟเฟคท์เสริมก็……มีเหรอ?  อริสกับทามากิ ไม่ว่ายังไงก็ต้องสู้กับศัตรูที่ถือของแบบนั้นอยู่งั้นเหรอ  คนรักที่สำคัญที่สุดของผม อริส  รวมถึง คนที่ถึงจะไม่ใช่คนรัก แต่ก็เป็นเพื่อนพ้องคนสำคัญของผม ทามากิ  ผมจะต้องออกคำสั่งให้พวกเธอ โผเข้าไปจัดการเจ้านั่นอย่างนั้นเหรอ  ถึงจะล่วงเลยมาถึงตอนนี้แล้วก็เถอะ ผม รู้สึกเสียใจแล้วสิที่มาจู่โจมอาคารเรียนหลัก  ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วแท้ๆ ว่าหากพลาดพลั้งเพียงก้าวเดียวก็จะกลายมาเป็นแบบนี้  ไม่สิ ชิคิซังไม่ได้ผิดซะหน่อย  ชิคิซังแค่เสนอวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งผมก็ยินยอมที่จะลองเสี่ยงกับมันดู แต่ว่า ……  สมองของผมแล่นเร็วมาก  คิดแต่เรื่องราวไร้สาระด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ  ไม่ได้ๆ ตั้งสมาธิไว้สิ  สิ่งที่ผมต้องลงมือทำในตอนนี้ คืออะไร  ตอนนี้ไม่ว่ายังไง ก็ต้องจัดการเรื่องตรงหน้า…… 「Smoke」  มิอะใช้เวทมนตร์  เวทลมแรงค์1 Smoke เป็นเวทมนตร์ที่จะสร้างหมอกขึ้นมาปกคลุมในบริเวณเป้าหมายเพื่อบดบังวิสัยทัศน์  หมอกเวทมนตร์นี้จะกระจายไปทั่วบริเวณ ปิดวิสัยทัศน์ของทุกคน  จริงด้วย ตอนนี้จะรับมือทั้งHellhoundและGeneral・Orcพร้อมกันไม่ได้  สิ่งที่ต้องทำ มีเพียงอย่างเดียว  ถอนตัวไงล่ะ! 「ชิคิซัง หนีเร็ว!」  ชิคิซังที่หนีเข้าไปอยู่ในป่าอยู่แล้ว จะได้ยินเสียงรึเปล่านะ  อย่างไรก็ตาม ผมลุกขึ้น ออกวิ่งเข้าไปในป่าสุดชีวิต  อริสกับมิอะก็ไล่ตามผมมา  ทามากิที่รับมือกับHellhoundอยู่เมื่อกี้ ไปอยู่ในป่าก่อนแล้ว…… 「จะไปแล้วนะ ทามากิจัง ถอยห่างออกมา!」 「ไอเซอร์ー」  สัญญาณของชิคิซังปรากฏขึ้นมาจากในป่า  ทามากิ กระโดดถอยออกมารวดเดียว ออกห่างจากHellhound  หมาดำตัวยักษ์คุ้มตัวลง เตรียมที่จะไล่ตามทามากิ ……  ชิคิซังเปิดกระป๋อง แล้วโยนของที่อยู่ข้างในออกไป  ของที่อยู่ในกระป๋องกระแทกเข้าที่หัวของ Hellhound  Hellhoundส่งเสียงร้อง ทั้งเจ็บปวด และโกรธ ปะปนกันไป  มันสะบัดหัวซ้ายขวาอย่างรุนแรง  สายลมพัดมา กลิ่นนั้นลอยมาทางพวกผมด้วย  กลิ่นเหม็นเน่าราวไข่เน่าเลย จะพูดแบบนี้ก็คงไม่ผิดเท่าไหร่  ว่าไงดีล่ะ เป็นกลิ่นที่สุดยอดจริงๆ 「Surströmmingเนี่ย เหม็นโคตรเลยนะ……」  ชิคิซังพูดออกมา ราวกับเป็นเรื่องของคนอื่น  ส่งสัญญาณมาทางพวกผมที่กำลังอึ้งอยู่ ออกวิ่ง 「เอาล่ะ ทางนี้ๆ เด็กคนอื่นๆกลับไปที่อาคารเรียนศิลปะโดยตรงแล้วล่ะ」 「เด็กที่เธอพามาด้วยล่ะ」 「สึมิเระจังใช่มั้ย เด็กตัวอ้วนๆนั่นอ่ะนะ」  อ๋า พูดไปซะแล้ว  พูดว่ายัยอ้วนไปซะแล้ว  ผมอุตส่าห์ หลอกตัวเองมาตั้งนานแท้ๆ  อิย๊า ช่างมันๆ จะไปสนใจทำไมเนี่ย  เธอยังสามารถออกกำลังกายได้อยู่นี่ 「พวกเรา จะล่อมันไปที่หลุมกับดักนะ」 「ขะ เข้าใจแล้ว」  จะว่าไป ทำไมถึงได้มีกระป๋องที่บรรจุของแบบนั้นอยู่ด้วยล่ะ  คงต้องถามจากชิคิซังหลังจากนี้ล่ะ  ไม่สิ ไม่ค่อยอยากจะถามเท่าไหร่แฮะ  ก็คำถามน่ะ ยังไงก็ต้องออกมาว่า กระป๋องบรรจุของเน่าๆเนี่ย ทำไมถึงต้องเตรียมเอาไว้ด้วยล่ะ อยู่แล้วจริงมั้ย ……  เอาเป็นว่า พวกผมเอสปาร์ตี้ทั้ง4คนบวกกับชิคิซังอีกคนหนึ่ง วิ่งแถวตอนเรียงหนึ่งเข้าไปในป่า  เพื่อที่จะล่อศัตรูไปที่หลุมกับดัก ต้องพยายามสุดความสามารถรักษาระยะห่างที่พอดีๆกับศัตรูเอาไว้  ยังไงHellhoundน่ะ ไม่นานก็คงไล่ตามทันอยู่แล้ว  ลดความเร็วจนมากเกินควรน่ะ ไร้ประโยชน์  อย่างที่คิด……  เสียงเห่าดังขึ้นจากจุดที่ค่อนข้างห่าง  ป่าไม้ด้านหลังพวกผม ลุกเป็นไฟ  ไอ้เวรนี่ ทำอะไรบ้าๆ  ไฟจากเวทมนตร์น่ะ บางทีนะ คงจะดับได้ยากแหละ  เพราะเวทมนตร์ตามสามัญสำนึกแล้วก็ต้องจัดการด้วยเวทมนตร์ไง  หรือไม่ก็ ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งถึงจะดับ  จะว่าไป ถ้าเป็นไฟชนิดที่ลุกลามไปในบริเวณกว้างได้ล่ะ……  คิดจะทำให้เกิดเพลิงป่าครั้งใหญ่งั้นเหรอ  มันทำลายธรรมชาตินะว้อย ไอ้บ้าเอ๊ย  ไม่สิ ไปพูดเรื่องทำลายธรรมชาติกับสุนัขเนี่ย มันจะไปได้อะไรล่ะ  แต่ว่านะ การกระทำของสุนัขตัวนี้มันน่าสงสัย  โครม โครม เสียงมันปะทะเข้ากับกิ่งไม้ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง  อ๋าー นี่มัน การรับรู้ทางกลิ่นของมันผิดปกติงั้นเหรอ?  ก็เลยสุ่มๆเอางั้นเหรอ?  ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีGeneral・Orcอยู่  หันหลังกลับไปปะทะมันตอนนี้ ก็ยังเอาชนะได้ยากอยู่ดีจริงมั้ย  ตอนี้น่ะ ไม่ว่ายังไงการล่อมันไปที่หลุมกับดักนี่แหละคือทางเลือกที่ถูกต้อง  ขอแค่มีหลุมกับดัก จะต้องทำอะไรได้แน่  ใจเย็นๆ ยังไม่ใช่เวลาที่ต้องรีบเร่ง 「คาซึซัง」  อริสวิ่งตีคู่ขึ้นมากับผม ยกมือมาสัมผัสหัวไหล่ 「Heal」  จะว่าไป ผมมีบาดแผลตอนที่ถูกไฟไหม้นี่นา  หลังจากนั้นก็ยังถูกเสียงคำรามของGeneral・Orcเป่าซะกระเด็น รู้สึกว่าเศษหินจะกระเด็นมาโดนหน้าผากด้วย  ลองยกมือขึ้นไปแตะหน้าผากดู อ๊ะ เลือดกำลังไหลอยู่  ว่าไงดีล่ะ แผลขนาดนี้ ผมว่ามันเกินระดับที่จะอดทนเงียบไว้ได้นะ……  ดูท่าว่า พออัพเป็นเลเวล10แล้ว ร่างกายของผมจะแข็งแรงขึ้นมากทีเดียว  ต่อให้บอกว่าเวทซัพพอร์ทคุณสมบัติต้านไฟมีประสิทธิภาพล้ำเลิศสุดๆก็เถอะ อาบเปลวเพลิงขนาดนั้นมา จะมาตีหน้าซื่อบอกสบายมากๆมันก็ไม่ใช่แล้ว……คนที่พูดแบบนั้นได้มีแต่พวกตัวประหลาดเท่านั้นล่ะ  เอาเถอะ ผมยอมเป็นตัวประหลาดก็ได้  การเปลี่ยนแปลงของร่างกายของผมที่เกิดขึ้น ช่วยให้ผมสามารถเอาชีวิตรอดมาได้นิ เพราะงั้นจะยังไงก็ได้ทั้งนั้นล่ะ  สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความปลอดภัยของพวกอริสด้วย ผมนับว่ามันคือเรื่องดีนะ  ตั้งแต่ที่มือของอริสสัมผัสตัว ความอบอุ่นสบายก็แล่นไปทั้งร่าง  ความเจ็บปวดจางหายไป 「ขอบคุณนะ อริส」 「ปลอดภัย ก็ดีแล้วค่ะ ตอนที่คาซึซังถูกไฟของคุณหมาคลอดอยู่ ชั้น คิดว่าหัวใจจะหยุดเต้นไปแล้ว」 「ไม่เป็นไร หัวใจของผมพูดกันทางกายภาพก็แทบจะหยุดไปแล้วล่ะ ต้องขอบคุณเวทมนตร์ที่ช่วยป้องกันให้ในระดับหนึ่ง」  ถ้าไม่มีเวทซัพพอร์ทล่ะก็ คงจะตายในทันทีไปแล้วล่ะ  ไม่สิ ถ้าเป็นตัวผมที่เลเวล11แล้วล่ะก็ นอกจากโดนโจมตีอย่างแรง Hit Pointในภาษาเกมแล้ว น่าจะพอทนทานรับการจู่โจมอย่างอื่นได้อยู่นะ……  แต่การทดลองพิสูจน์นั่นน่ะ ผมไม่คิดจะทำหรอกบอกไว้เลย  ขอโทษสำหรับคนอื่นๆที่จะโดนBlessของมันหลังจากนี้ด้วยนะ  จะให้อริสเป็นตัวทดลองงั้นเหรอ ให้ผิวขาวราวหิมะของเธอลอกออกมาด้วยไฟของไอ้มาบ้านั่นอ่ะนะ ให้ตายก็ไม่เอาเฟ้ย  สรุปแล้ว ต้องเชือดไอ้Hellhoundนั่น ที่นี่ เดี๋ยวนี้เลย  ถ้าเป็นไปได้ก็หลังจากที่เอามันลงหลุมกับดักได้แล้ว ระหว่างที่มันยังทำอะไรไม่ได้ก็ให้อริสจิ้มๆแทงๆซะนี่แหละคือวิธีการที่ดีที่สุด…… 「Generalขึ้นนำหน้ามาแล้ว」  ชิคิซังที่วิ่งอยู่ข้างหน้าพูดขึ้น  เอ๊ะ ทำไมรู้ล่ะ?  ทั้งๆที่ไม่ได้พูดอะไรออกไปแท้ๆ ชิคิซังก็ยังหันหลังกลับมาทางผม 「ถ้าตั้งสมาธิดีๆ ก็จะรู้ได้จากเสียงน่ะ สกิลสอดแนม พออัพเป็นแรงค์2แล้วความสามารถสูงกว่าเดิมเยอะทีเดียว ถึงจะต้องฝึกเยอะเลยก็เถอะ」  อุหวา สุดยอดเลยนะเนี่ย สกิลสอดแนม  ถึงจะค่อนข้างกังวลกับการฝึกนั่นก็เถอะ  คงไม่ใช่ของที่ได้จากการฝึกนิดหน่อยหรือการถามตอบที่ห้องสีขาวแน่ๆล่ะ …… 「ความแม่นยำจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับว่าจะใช้หูซ้ายหรือหูขวา การปรับมุมสะท้อนของเสียงแรงค์1ก็สามารถทำได้ ดังนั้นขอแค่ตั้งใจฝึกในส่วนของการแยกโสตประสาทอีกนิดหน่อยก็ได้แล้ว」  อ๊าー ว่าแล้ว คนปกติทั่วไปคงไม่สามารถทำความเข้าใจได้แน่ๆ  น่า ช่างมัน  การฝึกที่เธอทำมา เกิดประโยชน์เห็นๆกันตรงนี้นี่แหละ 「จัดการให้Generalตกลงไปในหลุม แล้วก็ให้ทุกคนช่วยกันรุมHellhound มีแค่วิธีนี้เท่านั้นล่ะมั้ง」 「นั่นสินะ เอาตามนั้นกันดีกว่า」  เพื่อความชัวร์ ระหว่างวิ่งๆกันอยู่ผมจึงร่ายResist・Element:Fire ให้ชิคิซังกับมิอะเผื่อเอาไว้ด้วย  นี่น่ะ จริงๆแล้วอยากจะใช้Deflection・Spellให้กับปาร์ตี้ของตัวเองก่อนนะ จะได้ช่วยขยายขอบเขตการใช้  แต่ไม่มีเวลาว่างพอจะทำอะไรแบบนั้นน่ะ ช่วยไม่ได้ๆ  เท่านี้ทุกคน ต่อให้โดนFire Blessเข้าไปก็ยังสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปได้……แน่ๆล่ะ  ไม่สิ ชิคิซังที่เลเวลต่ำอยู่อาจจะไม่ไหวรึเปล่า? 「ชิคิซังน่ะ หลังจากนำทางไปถึงหลุมกับดักเสร็จแล้ว แยกตัวออกไปก่อนนะ」 「ตั้งใจอย่างนั้นอยู่แล้ว ดันทุรังออกไปแนวหน้าก็ไม่มีประโยชน์ด้วยสิ ตัวชั้นเองถ้าต้องมาตายในที่แบบนี้ ก็ไม่ได้ช่วยให้พอใจได้หรอก ชีวิตของชั้นน่ะ ขอใช้กับงานที่คุ้มค่ายิ่งกว่านี้แล้วกัน」  ไม่ๆ อยากจะให้บอกว่าไม่อยากตายมาตรงๆเลยมากกว่านะ  ไม่ยอมพูดเหรอ  ยัยคนชอบอ้างนู่นอ้างนี่นิ 「ข้างหน้านี่แหละ ตามมาๆ」  ชิคิซังหยุดครั้งหนึ่ง แล้วเลี้ยวไปด้านซ้าย  พวกผมทุกคน ตามเธอไป  อ้อมต้นไม้ต้นใหญ่ไป ไปยังด้านตรงข้ามของพื้นดินจุดที่น่าจะเป็นหลุมกับดัก  พอดีกับที่ในจังหวะนั้น General・Orcแหวกพุ่มไม้สูงๆทะยานมา  ระยะห่างระหว่างเราอยู่ที่ประมาณ10กว่าก้าว  ผม มิอะ ชิคิซังถอยไปด้านหลัง อริสกับทามากิจับอาวุธขึ้นมาเตรียมพร้อม  General・Orcแสยะยิ้ม ยกดาบสีเงินขึ้นมา พร้อมกับเข้ามาจู่โจม  อริสกับทามากิไม่สนใจที่จะป้องกันเลย พวกเธอพุ่งเข้าไปหาเป้าหมาย  มีความเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเองสุดๆเลยงั้นเหรอ  หรือว่า เป็นแค่คนบ้าเท่านั้นล่ะ  หรือว่าทั้ง2อย่าง  General・Orcทะยานเข้ามาเป็นเส้นตรง  ร่วงลงไปในหลุมกับดักพอดี 「อุ้ช」  มิอะกำหมัดอย่างสะใจ 「สำเร็จแล้ว ที่เหลือก็แค่เจ้านั่นเท่านั้น อริส!」 「อื้ม ทามากิจัง!」  อริสกำลังจะชำเลืองมองด้านในหลุมกับดัก……  จังหวะนั้นผมรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอามากๆ 「อริส หยุด!」  สัญชาตญาณของผมบอกว่า ต้องใช้เวทมนตร์แล้ว 「Reflection」  ที่ด้านหน้าอริสมีบาเรียสีรุ้งปรากฏขึ้นมา  บาเรียกำลังสะท้อนอะไรสักอย่าง  มีเสียงทื่อๆ ดังขึ้นมาจากในหลุมกับดัก  เสียงคำรามที่ชวนให้สันหลังวาบดังกึกก้องไปทั่วป่า  ใบไม้แห้งในบริเวณนี้ ลอยขึ้นมาราวกับเจอพายุทอร์นาโด  อริสกับทามากิ เซถอยไปด้านหลัง  จากนั้น  ออร์คร่างใหญ่ตัวสีดำก็กระโดดขึ้นมาจากหลุม  กระโดดล่ะ ตอนที่ผมรู้สึกแบบนั้น ก็คือตอนที่General・Orcลงมาเหยียบพื้นข้างๆหลุม  กระโดดครั้งเดียวก็สามารถออกมาจากหลุมได้แล้ว  ตัวของผมสั่น  หลุมกับดักที่ไร้คู่ต่อสู้ถูกทำลาย ในพริบตาเดียว  แล้วยัง……นั่นน่ะ……ที่สะท้อนกลับไปเมื่อกี้น่ะ อย่าบอกนะว่า  ถึงจะไม่เห็นอะไรเลยก็เถอะ แต่ถ้าสิ่งที่ผมคาดเอาไว้ถูกต้องล่ะก็  ตอนที่มาสำรวจ สิ่งที่ฆ่าอีกาของผมไปก็คือ……  ผมพอจะคาดเดาออกแล้ว ว่าสิ่งที่General・Orcปล่อยออกมาเพื่อโจมตีอริสเมื่อกี้คืออะไร  ก็หมายความว่า  เมื่อกี้General・Orcหยิบอะไรสักอย่างออกมาจากบริเวณเอวของมันด้วยมือซ้าย การเคลื่อนไหวนั่น……  มาแล้ว  มาที่ใคร?  ไม่สิ เป้าหมายจะเป็นใครก็ช่าง ไม่ว่าจะมาที่ใครก็แย่หมดอยู่แล้ว  นั่นน่ะ ง่ายมาก  ในปาร์ตี้นี้ คนที่มีโอกาสตายด้วยการถูกโจมตีเพียงครั้งเดียวก็คือ……  ผมไถลตัวไปอยู่ด้านหน้าชิคิซังเพื่อปกป้องเธอ 「Reflection」  ถูกต้อง ครึ่งหนึ่ง  มีอะไรสักอย่างพุ่งออกมาจากมือซ้ายของGeneral・Orc  ไม่สิ พูดกันตรงๆเลยดีกว่า  ก้อนกรวดน่ะ  General・Orcใช้วิธีไหนก็ไม่รู้ล่ะ ก้อนกรวดพุ่งมาด้วยความเร็วสูง  ก้อนกรวดนั่น ปะทะเข้ากับผมที่ออกมาปกป้องชิคิซัง  และ ถูกสะท้อนกลับไปด้วยการป้องกันของบาเรียสีรุ้ง  แต่ว่า ก้อนกรวดไม่ได้ถูกขว้างมาทีเดียว  General・Orcขว้างก้อนกรวดมา 2ครั้งต่อเนื่อง  ก้อนกรวดดอกที่2 พุ่งไปหามิอะ 「เอ๊ะ?」  เสียงตกใจของมิอะ  ร่างของมิอะกระเด็นไปทางด้านหลัง  ในขณะเดียวกัน ก้อนกรวดที่สะท้อนกลับไปจากผมก็พุ่งเข้าไปปะทะกับมือซ้ายของGeneral・Orc นิ้วโป้งมือซ้ายของมันบิดเบี้ยวไปเรียบร้อย……  สรุปก็คือ การโจมตีนี้มีความแรงในระดับนั้นนั่นเอง  ผมสะเพร่าเองแหละ  แบบนี้น่ะ หากโดนเข้าเต็มๆล่ะก็ คนอื่นนอกจากชิคิซังก็มีสิทธิ์ถึงตาย  ก็หมายความว่า  ข้างๆของมิอะ มีอะไรสักอย่างเพรียวๆบางๆ ลอยคว้างอยู่บนอากาศ  แขนน่ะ  แขนซ้ายของมิอะ ถูกการโจมตีจากก้อนกรวดนั่นกระแทกจนขาด 「อะ……」  มิอะล้มลงไปกับพื้น ด้วยสีหน้าที่ยังช็อคอยู่

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้