Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 50 ศึกตัดสินที่อาคารเรียนหลักมัธยมต้น 3

กลยุทธ์ ถึงจะเรียกแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษหรอก  สิ่งที่ต้องทำทั้งหมด ง่ายมาก 「Smart・Operation」  ผมร่ายเวทซัพพอร์ทที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเวทมนตร์โจมตี ให้กับมิอะที่ตอนนี้ผมอุ้มอยู่  มิอะแทบไม่ได้ใช้เวทมนตร์โจมตีโดยตรงเลย ดังนั้นเวทมนตร์ที่จะใช้จึงเป็นเวทที่ไม่เคยได้มีโอกาสออกมาโชว์ตัวมาก่อน  แต่ว่าครั้งนี้ต่างออกไป  เวทมนตร์ของเธอคือกำลังรบหลัก  มือขวาของมิอะ นิ้วชี้ของเธอ ชี้ไปออกไป  เล็งเป้าไปที่Hellhoundซึ่งกำลังไล่ตามนากาสึคิ ซากุระอยู่ 「Lightning」  แสงสว่างที่ปรากฏขึ้น เชื่อมต่อระหว่างนิ้วชี้ของมิอะและHellhound  ได้กลิ่นโอโซน  สายฟ้าน่ะ  Hellhoundหยุดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง สั่นไปทั้งร่าง  ดูเหมือนจะได้รับดาเมจจากเวทมนตร์สายฟ้าฟาดที่มิอะร่ายใส่ไปพอสมควร  ได้ผล  ถ้างั้นก็ อีกครั้งหนึ่ง 「มิอะ」 「Lightning」  มิอะยิงเวทมนตร์ต่อไปอีก  Hellhoundก็รับเข้าไปเต็มๆอีกครั้ง  สุนัขสีดำร่างใหญ่หอนสุดเสียง  ศัตรูก็ไม่ใช่โง่ๆ  มันรู้ตัวแล้วว่าซากุระที่กระโดดไปมาเป็นเพียงตัวล่อ ก็เลยหันกลับมาทางนี้  ระยะห่างระหว่างผมกับมันก็คือ ประมาณ20เมตร  Hellhoundทิ้งน้ำหนักลงไปที่พื้นดิน ถีบตัวพุ่งออกมา  มันพุ่งเข้ามาเร็วมาก พริบตาเดียวระยะห่างที่มีก็หายไปแล้ว 「High・Jump」  มิอะร่ายเวทให้ผม  เวทลมแรงค์2 High・Jump เป็นเวทมนตร์ที่มีประสิทธิภาพเหมือนกับชื่อ ช่วยเพิ่มแรงกระโดดให้แก่เป้าหมาย  ผมได้รับพลังของสายลมมา กระโดดขึ้น  กระโดดสูงมากๆ ร่างลอยค้างอยู่บนท้องฟ้า  ลงมาเหยียบที่กิ่งไม้ใกล้ๆ  สวนทางกับทิศที่Hellhoundพุ่งเข้ามา 「อุ๊ก……ซู้ด」  มิอะครวญครางเสียงเบา  จากการกระทบกระเทือนที่รุนแรง ทำให้ร่างกายที่แต่เดิมก็อ่อนแออยู่แล้วของเธอเจ็บปวด  หญิงสาวร่างบางคนนี้ กัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด  ผมทำได้เพียงแค่เพิ่มแรงเข้าไปที่มือซึ่งโอบเธอเอาไว้อยู่เท่านั้น  ตอนนี้ไม่สามารถอ่อนโยนกับเธอได้  หน้าที่ของผมคือใช้เธอให้ได้ประโยชน์สูงสุด  Hellhoundหยุดกะทันหัน เงยหน้าขึ้นมามองพวกผมที่หนีมาด้านบนด้วยใบหน้าเศร้าๆ  กลัวอยู่เหมือนกันว่า มันจะสามารถกระโดดขึ้นมาที่นี่ได้ แต่ดูท่าจะทำไม่ได้สินะ  แล้วก็ ใช่ มันหยุดอยู่ที่ด้านล่างพวกผม  หยุดเคลื่อนไหวน่ะ 「ตอนนี้ล่ะ มิอะ หยุดเท้ามันไว้」 「อืม Earth・Bind」  บริเวณเท้าของHellhoundมีหญ้าที่งอกเงยขึ้นมารัดพันเอาไว้ ผนึกการเคลื่อนไหวทั้ง4ขาของมัน  Hellhoundพยายามสลัด  มันพยายามจะสลัดตัวเองให้หลุดจากเถาวัลย์ที่ถูกเวทมนตร์เพิ่มความแข็งแรงเข้าไป 「Stone・Blast」  ในจุดนั้น ก้อนหินนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าไปที่บริเวณหัวของมัน  ก้อนหินที่มีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นของมนุษย์ จำนวนนับไม่ถ้วน ตกลงมาใส่Hellhound  หินแข็งๆกระแทกเข้าไปที่หัว หลัง ของHellhound  จะหนี หรือจะหาที่หลบก็ไม่ได้ Hellhoundทำได้เพียงรอรับการกระแทกเท่านั้น  หินก้อนแรกกระแทกเข้าไปที่ตาซ้ายของมัน  เลือดสีน้ำเงินพุ่งออก  Hellhoundกู่ร้อง  เจ้าหมาบ้านั่น มองมาทางนี้ สูดลมหายใจเข้าไปคำโต  ถุงใต้ลำคอขยายตัวขึ้น  ดีล่ะ ตามแผนเลย  ผมแสยะยิ้ม  BreathของHellhoundน่ะ ตอนที่เห็นครั้งแรกก็ตกใจอยู่หรอก แต่พอคิดดูดีๆแล้วจุดอ่อนมีอยู่เต็มไปหมด  Breathจำเป็นต้องท่าเตรียม  สูดลมหายใจเข้าไปคำโต ช่วยให้ถุงบริเวณคอขยายตัวออก เป็นท่าเตรียมที่ดูออกง่ายมาก  ขอเพียงรู้ว่าท่าเตรียมของมันเป็นยังไง ก็สามารถจับจังหวะได้สบายๆ  ผมไม่มีเซนส์ทางด้านการเคลื่อนไหว  แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็สามารถทำได้แน่ๆ  สามารถจัดการมันได้ อย่างแม่นยำแน่ๆ 「Reflection」  บาเรียรูปพัดสีรุ้ง ปรากฏออกมาที่ด้านล่างของผม  ลมหายใจเปลวเพลิงของHellhound ถูกสะท้อนกลับไปด้วยเวทสะท้อนกลับที่ผมร่ายออกมา  ร่างของสุนัขปีศาจ ถูกไฟที่ตัวเองเป็นคนปล่อยออกมาคลอก  ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผลมากมายเท่าไหร่ก็เถอะ เพราะเป็นไฟของตัวมันเอง……  แต่ยังไงมันก็อยู่ในสภาพไร้การป้องกันแล้ว  โอกาสนี้ ปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้เด็ดขาด 「Lightning」  มิอะโจมตีHellhoundซ้ำอีกทีด้วยเวทLightning  โชคดีที่โดน แถมไปอีกดอก  Hellhoundที่โดนเข้าไปเต็มๆ กระโดดถอยออกไปจากตรงนั้น  อ๊ะ เถาวัลย์ที่พันมันอยู่ถูกสลัดหลุดซะแล้ว  อย่างนี้นี่เอง ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ไปสินะ  แต่ว่าHellhound แทบจะทรุดอยู่แล้ว  ตาข้างหนึ่งเป็นรู ทั้งร่างหมดสภาพ ขนสีดำก็หายไปจากการถูกเผา  ผิวหนังถูกเผา ได้กลิ่นเนื้อไหม้โชยออกมาด้วย  อ้าー แม้จะเป็นเปลวเพลิงของตัวเองก็ยังโดนดาเมจอีกงั้นเหรอ?  แบบนี้ท่าลมหายใจเปลวเพลิงของมัน ก็ไร้คู่ต่อสู้น่ะสิ  นี่มันโชคดีจริงๆ  Hellhoundคงไม่สามารถใช้Breathได้อีกแล้วล่ะ  มันน่าจะกลัวReflectionจนไม่กล้าใช้แล้วแน่ๆ  ถ้างั้น วิธีการที่พอจะมาจัดการกับพวกผมที่อยู่บนกิ่งไม้ได้ก็คือ……  อย่างที่คิดไว้ Hellhoundทุ่มพลังที่มีทั้งหมด พุ่งเข้ามายังต้นไม้ที่พวกผมอยู่  มองเห็นการเคลื่อนไหวของมันทั้งหมด 「Stone・Blast」  ก้อนหินจำนวนนับไม่ถ้วนที่มิอะเสกออกมา ร่วงใส่Hellhoundไม่มียั้ง  ในจังหวะเดียวกัน Hellhoundก็เอาหัวของตัวเองพุ่งเข้าชนต้นไม้ที่พวกผมยืนอยู่ ต้นไม้สั่นไหวอย่างรุนแรง  ในจังหวะที่มันกำลังจะทำแบบนั้น ผมก็กระโดดแล้ว  ระยะเวลาแสดงผลของHigh・Jumpคือแรงค์ละประมาณ1นาที  ถ้าเป็นมิอะตอนนี้ก็3นาที  เหลือเฟือ  ผมลงจอดที่ต้นไม้ข้างๆที่ดูแล้วจะปลอดภัย  มิอะ ครวญครางออกมาอย่างทรมานอีกแล้ว  ตอนที่ผมเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ก็หมายความว่าเป็นการทำให้ชีวิตของมิอะสั้นลง  แต่ว่าผมน่ะ สลัดอารมณ์ความรู้สึกทิ้งไป เพื่อสั่งงานมิอะ 「ลงมือเลย」 「อืม Lightning」  กี่ครั้งแล้วนะ ที่HellhoundรับLightningเข้าไป  การโจมตีนั่น ทำให้……  เรี่ยวแรงของขาทั้ง4ข้างของสุนัขสีดำร่างยักษ์หายไป  Hellhoundล้มลงที่ตรงนั้น  ร่างของมอนสเตอร์ตัวนั้น จางหายไปตรงนั้นเลย  สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือก้อนคริสตัลสีน้ำเงิน 2ก้อน  อย่างนี้นี่เอง มีกรณีที่ก้อนคริสตัลดรอปทีละ2ด้วยงั้นเหรอ  เพราะไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกับออร์ครึเปล่า  เอาเถอะ เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังก็ได้  อย่างไรก็ตาม 「ทำได้ดีมาก」 「อืม」  แล้ว พวกผมก็วาร์ปไปยังห้องสีขาว  อริสเลเวลอัพน่ะ         ※  พอวาร์ปมาที่ห้องสีขาว อริสก็วิ่งเข้ามาหาพวกผมทันที  ทั้งเธอและทามากิ ต่างก็เหนื่อยล้าเต็มที่  ชุดพละที่น่าจะเสริมความแข็งแกร่งโดวยเวทมนตร์ไปแล้วต่างก็ขวาดวิ่น ส่วนที่ถูกเปิดเผยออกมาก็เต็มไปด้วยรอยแผลมากมาย  ถึงอย่างนั้นอริสก็ยังไม่ได้สนใจที่จะรักษาตัวเอง เธอวิ่งเข้ามารักษามิอะก่อน พร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลไม่หยุด  ร่ายHealให้มิอะ ไม่ว่ากี่ครั้ง ไม่ว่ากี่ครั้ง 「ขอโทษ มิอะ เจ็บสินะ ทรมานสินะ」 「อืม ไม่มีปัญ……หา」  มิอะยิ้มอย่างอ่อนแรง เงยหน้ามองมาทางผม  แม้จะผ่านไปเพียงไม่นาน แต่ขอบดวงตาของเธอกลับเป็หลุมลึก แก้มซูบตอบ  ใบหน้ามีสีคล้ำ เหมือนกับสีหน้าของศพจำนวนมากมายที่ได้เห็น ในวันนี้ 「คาซึจิเป็นห่วง คุ้มค่า」  ผมขบริมฝีปากแน่น  ผมรู้อยู่แล้วว่ามิอะน่ะ มอบใจของเธอให้กับผม  อย่างน้อยที่สุด เธอก็เชื่อถือผมในฐานะของลีดเดอร์  เพราะอย่างนั้นแหละ ผมจึงต้องบอกออกไป  จะต้องบอกถึงแนวทางในอนาคตให้พวกเธอได้รับรู้ 「รอก่อนนะ มิอะ เดี๋ยวจะเพิ่มแรงค์ของเวทรักษา จะได้ใช้Cure・Deficitเชื่อมแขนที่หลุดออกไปให้」 「ไม่ได้หรอก อริส」  ผมพูดออกไปตรงๆ  ส่ายหัวอย่างจริงจัง  มองอริสที่กำลังตะลึง 「ตอนนี้ สกิลพอยท์ของเธอคือ6แต้ม จะให้เอาไปอัพเวทรักษาน่ะไม่ได้หรอก ต้องอัพการใช้หอกเป็น5」 「อะไรกัน」  อริสจ้องมองผม 「ก็มัน แขนของมิอะน่ะ……」 「หลังจากจบการต่อสู้แล้ว เก็บแขนมา ใช้เวทรักษาแรงค์1 Stasisร่ายใส่ก็โอเคแล้ว ถ้าเป็นเธอในตอนนี้ล่ะก็ น่าจะสามารถเก็บรักษาไว้ในสภาพเดิมได้ประมาณ3อาทิตย์ หลังจากนั้น ค่อยต่อสู้อัพเลเวล แล้วค่อยมาอัพเวทรักษาเป็นแรงค์4ก็ได้ แต่ว่าตอนนี้น่ะไม่ได้หรอก สิ่งที่สำคัญสำหรับตอนนี้ก็คือ สกิลการใช้หอกของเธอต่างหาก」  ผมมองลงไปที่มิอะ  มิอะอยู่ในอ้อมแขนของผม เธอเงยหน้ามองผม พยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ 「อืม คาซึจิ เก่งมาก」 「โทษนะ มิอะ」  มิอะส่ายหัว 「ตัดสินใจได้ถูกต้องและใจเย็น」 「คิดว่าคงรู้อยู่แล้วแต่ว่า ถ้าเป็นนักมวยปล้ำล่ะก็ เค้าจะแบกเรื่องราวทั้งหมดไว้บนหลังนะเฟ้ย」  ผมกับมิอะมองหน้ากัน หัวเราะให้กันอย่างไม่มีเหตุผล  การหัวเราะน่ะ จะช่วยปัดเป่าความกังวลของกันและกันให้หายไปได้ 「ทำไมล่ะ มิอะ อะไรกัน……」  อริสมองผมกับมิอะสลับกันไปมา ตกตะลึง 「เพื่อชัยชนะ」 「จำเป็นต้องทำ เพื่อชัยชนะ」  ผมกับมิอะ ตอบอริส  เราเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี  หากปล่อยให้อารมณ์เข้าครอบงำตอนนี้ล่ะก็ ทั้งหมดได้พังทลายลงแน่  พวกผมทั้ง2คน ตัดสินใจกันเช่นนั้น  ไม่สิ อริสเองก็น่าจะเข้าใจถึงเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ไม่ผิดแน่  แต่ว่าเธอน่ะ ปล่อยให้อารมณ์เข้าครอบงำ  สรุปก็คือ สมองเธอสั่งการแบบ『อยากทำแบบนี้』ไม่ใช่『ต้องทำแบบนี้』นั่นเอง  นั่นคือข้อเสียของเธอล่ะ  ในบางเวลาพลังของความรู้สึกอาจจะเป็นตัวช่วยทำให้เกิดพลังที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้ แต่ในกรณีส่วนใหญ่ ความแปรปรวนของอารมณ์ที่สนามรบน่ะ ให้ผลเสียเสมอ  เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องควบคุมการกระทำของอริส  จะต้องชี้นำเธอด้วยความรอบคอบ 「อริส นี่ก็เพื่อให้พวกเราทุกคนมีชีวิตรอดต่อไปน่ะ ก่อนอื่นถ้าไม่สามารถเอาชนะการต่อสู้ตรงหน้าได้ล่ะก็ แม้แต่ชีวิตของมิอะก็รักษาไว้ไม่ได้ พวกเราน่ะ จะต้องให้ความสำคัญกับการล้มGeneralก่อนเป็นอันดับแรกนะ」 「ตะ แต่ว่า……」 「คำสั่งนะ อริส จะเกลียดชังผมก็ได้ ผมสั่งแบบนี้ก็เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตรอดต่อไป ฟังที่ผมพูดซะ โอเคนะ」  ผมจ้องมองผม  กัดฟันกรอด มองผมตรงๆ  มือที่กำแน่นอยู่ของเธอ สั่นระริก  และ ราวกับตัดสินใจได้แล้ว เธอเบือนสายตาหนีไป  ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา 「เข้าใจ……แล้วค่ะ」  เบา ช้า เธอกระซิบ 「แต่ว่า มีเรื่องเดียว ที่อยากจะขอร้องค่ะ」 「อะไรล่ะ」 「เอาตอนนี้เลย ช่วยโอบกอดมิอะด้วยค่ะ」  อะไรล่ะ นั่นน่ะ  ผมก้มลงมองมิอะ  มิอะที่มีสีหน้าดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากได้รับHealของอริสเข้าไป แหงนหน้ามองผมพร้อมพวงแก้มสีชมพูระเรื่อ 「อยู่ในอ้อมแขนของคาซึจิ ตลอดไป มีความสุข」 「เธอเนี่ยนะ」 「ภรรยาหลวงอนุญาตแล้ว จู๋จี๋กัน」  มิอะยกแขนขวาขึ้นมาคล้องคอผม ยกร่างบางของเธอขึ้นมา จูบลงไปที่แก้มของผม  สัมผัสจากริมฝีปากนุ่มนิ่ม ส่งให้ผมแทบจะล่องลอยไปในความฝัน  ผมมองอริส  อริสมองมาทางผมแบบไม่สบายใจเท่าไหร่ 「คาซึซัง มิอะ โอเค……ไหมคะ」  ดูเหมือนว่า เธอจะอดเป็นกังวลไม่ได้น่ะ  ดูเหมือนว่าที่ผมกับมิอะกำลังจู๋จี๋กันเนี่ย เธอจะไม่ได้เอามาใส่ใจเลย  แบบนั้นมันก็ รู้สึกจะเข้มงวดไปหน่อยนา 「ไม่ต้องห่วงหรอก」  โอเคหรือเปล่าน่ะ ผมไม่รู้หรอก ผมแค่พกความมั่นใจเต็มเปี่ยม พยักหน้าตอบเธอเท่านั้นแหละ  หลังจากนั้น ร่างบางของมิอะก็กระตุกขึ้นมาทีหนึ่ง  มิอะร้อง「อร๊าง」ออกมา เป็นเสียงที่ดูทรมานราวกับใกล้จะขาดใจตาย แล้วเธอก็หมดสติไป 「เพียงแต่ว่า ใช้เวทมนตร์ไม่ได้แล้วล่ะ ส่วนที่เหลือต้องให้พวกเธอสองคนช่วยกันจัดการแล้ว」  ผมมองอริสกับทามากิสลับไปมา  ทามากิมองผมกลับมา สีหน้าดูเป็นกังวล 「แค่พวกชั้นน่ะ จะทำได้รึเปล่านะ」 「ผมก็จะช่วยสนับสนุน แต่สำหรับพวกชิคิซัง ผมว่าจะให้พวกเธอถอยห่างออกไปก่อนน่ะ……」 「นั่นสินะ อันตรายเกินไปสินะ」  Generalไม่เหมือนกับศัตรูที่แล้วๆมา  ความแตกต่างด้านขนาดก็ใช่อยู่ แต่ที่ยุ่งยากที่สุดก็คือคลื่นเสียงของมัน  ถ้าพูดในภาษาเกมก็การโจมตีแม็พ  ถ้าเป็นอริสกับทามากิล่ะก็ อาจจะพอทนรับได้ในระดับหนึ่ง ……  นั่นก็เพราะเลเวลของทั้งคู่น่ะ อัพขึ้นมาจนถึงประมาณเลเวล10แล้ว  แต่ในกรณีของชิคิซังหรือซากุระซังที่มีเลเวลน้อยอยู่ ถ้าหลงเข้ามาในขอบเขตนี้ล่ะก็ อาจจะตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวก็เป็นได้ 「อริส ทามากิ ต่อจากนี้ไปคือการเดิมพันล่ะนะ……」 「ไว้ใจได้เลย คาซึซัง ชีวิตของพวกชั้น ฝากไว้กับคาซึซังนะ」  ทามากิเอามือทุบหน้าอกดัง ปั้บ  แล้วยิ้มออกมาอย่างห้าวหาญ 「ไม่มีอะไรต้องพะวงแล้ว อีกตัวเดียว แค่ตัวเดียวเท่านั้น รีบไปเชือดมันเลยดีกว่า」  ปรึกษากันในส่วนของวิธีการต่อสู้  หลังจากนั้น อริสก็จัดการอัพสกิลการใช้หอกเป็นแรงค์5  พวกผมออกมาจากห้องสีขาว อริส:เลเวล11  การใช้หอก4→5/เวทรักษา3 สกิลพอยท์6→1

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้