Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 51 ศึกตัดสินที่อาคารเรียนหลักมัธยมต้น 4

หลังจากที่ผมกลับมาที่จุดเดิม ก็กระโดดลงมาจากต้นไม้ในขณะที่ยังอุ้มมิอะเอาไว้อยู่  วางตัวมิอะที่ในตอนนี้ลืมตาขึ้นมาแล้วโดยที่แววตาของเธอดูเปี่ยมสุขไว้ที่พื้นที่มีกองใบไม้ทับถมกันอยู่ 「ส่วนที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกผมเอง นอนหลับเถอะ」 「อืม คาซึจิ」 「อะไรเหรอ」 「ชนะให้ได้นะ」 「ไว้ใจได้เลย」  ผมลูบเส้นผมของมิอะอย่างอ่อนโยน  มิอะยิ้มหวานให้ 「แล้วก็ อีกอย่าง」 「อะไรล่ะ」 「จูบ อีกทีนะ」  ผมจูบลงไปที่แก้มของมิอะ  มิอะยิ้ม 「ขอบคุณ」  สุดท้ายนี้ เธอหันไปทางGeneralที่กำลังต่อสู้อย่างเข้มข้นอยุ  ชี้นิ้วมือขวาที่กำลังสั่นอยู่ ออกไป 「Smoke」  หมอกควันที่ปรากฏออกมา เข้าปกคลุมบริเวณที่Generalอยู่  อริสกับทามากิหลบออกมาจากกลุ่มควันนั่น ขยับเข้ามาทางผม  ในจังหวะเดียวกัน ผมก็ออกคำสั่งให้หมาป่า2ตัวเข้าไปในกลุ่มควันนั่นแทน  นี่ก็เพื่อยื้อเวลาเอาไว้น่ะ  มิอะที่หมดแรงไปเรียบร้อย หลับตาลง  ใบหน้าที่หมองคล้ำของเธอ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังทำให้กังวลว่าเธอหยุดหายใจไปแล้วรึเปล่า  ผมจะไม่ให้เธอ ต้องทรมานไปมากกว่านี้แล้ว  ผมสาบานกับตัวเองในใจ  อย่างน้อย ขอแค่ความปลอดภัยของเธอก็พอ 「Repulsion・Sphere」  ร่างของมิอะ ถูกวัตถุทรงกลมสีรุ้งคล้ายก้อนสบู่ห่อหุ้ม  เวทซัพพอร์ทแรงค์5 Repulsion・Sphereคือบาเรียที่จะแยกเป้าหมายเดี่ยวออกจากวัตถุอื่น  มีลักษณะนุ่มนิ่ม ต่อให้ถูกรถดั๊มพ์เข้ามากระแทกก็ไม่เกิดรอยแตกแม้เพียงเสี้ยวหนึ่ง  สีของบาเรียเปลี่ยนไป ปรับให้เข้ากับภูมิประเทศแถบนี้  เช่นเดียวกับกิ้งก่า ที่เปลี่ยนสีของตนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนั่นแหละ  หากออกห่างไปสักหน่อย ก็คงไม่รู้แล้วใช่มั้ยล่ะว่ามิอะอยู่ที่นี่  เวทนี้ไม่เหมือนกับInvisibilityที่เป็นการพรางตาโดยเล่นกับการหักเหของแสง  แต่มันคือสิ่งที่เหมือนกับสีของร่างกายของสัตว์ที่ใช้อำพรางตัวเองจากศัตรู  หากสำรวจดีๆจนเข้ามาใกล้ๆล่ะก็สามารถรับรู้ได้อยู่ แต่ยังไงมีก็ดีกว่าไม่มีจริงมั้ย  จากที่ถามมาในQ&A ด้านในนั้นสามารถมองเห็นภายนอกได้อย่างชัดเจน เหมือนกับมองผ่านกระจกแก้ว  เหมือนกับMagic Mirrorเลยนะ  สะดวกดีจริงๆ  ข้อบกพร่องก็มีอยู่  Sphereตัวนี้จะปิดกั้นสิ่งที่มีคุณสมบัติทางฟิสิกส์ รวมถึงเสียงทั้งหมด  ต่อให้โดนโจมตี ก็จะไม่มีเสียงร้องอะไรเลยที่จะส่งออกมาให้คนภายนอกรู้ได้นั่นเอง  เป็นระบบปิดแบบนี้เนี่ย อากาศด้านในจะเป็นยังไงนะ  เท่าที่ถามคำถามในส่วนนี้มาจากห้องสีขาว ก็ได้รับคำตอบมาว่าจะถูกสร้างขึ้นมาแบบอัตโนมัติ  เวทมนตร์บันไซ คำที่จะบอกความประทับใจของผมคงมีแค่คำนี้ล่ะ  ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ ระยะเวลาแสดงผลของSphereนี่ถูกกำหนดเอาไว้ตายตัวที่30นาทีนั่นเอง  จะลดเวลาลง หรือจะยืดเวลาออกก็ไม่สามารถทำได้  ต่อให้อยากจะออกมาเร็วๆ ก็ทำไม่ได้  ระหว่างที่Sphereยังแสดงผลอยู่ บาดแผลของเป้าหมายที่ถูกปิดผนึกอยู่ด้านใน จะค่อยๆฟื้นฟูขึ้นอย่างช้าๆ  มันคือวิธีการรักษาที่มีอู่น้อยนิดมากๆในกลุ่มเวทซัพพอร์ท  จริงๆแล้วมันคือหน้าที่ของเวทรักษาน่ะแหละ ทำได้แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะมั้ง  กรณีของครั้งนี้ ข้อบกพร่องเหล่านี้ แทบจะไม่ทำให้เกิดปัญหาเลย  ตอนนี้แค่ทำให้มิอะสบายขึ้น และสามารถรับประกันความปลอดภัยของเธอได้ในชั่วขณะหนึ่งก็พอแล้วไงล่ะ  ก้มมองมิอะที่นอนหลับใหลอยู่ในบาเรีย เมื่อพอใจแล้วผมก็ลุกขึ้น  เพียงเท่านี้ ที่เหลือก็แค่จัดการGeneralให้ได้เท่านั้น เรื่องราวในตอนนี้ก็จะจบลง  พวกผมจะสามารถเอาชนะการต่อสู้ที่อาคารเรียนหลักได้อย่างสมบูรณ์แบบ  เงยหน้าขึ้น  อริสกับทามากิกำลังวิ่งมาทางผม  ทั้งสองคนมีบาดแผลเต็มตัว แต่ไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต  ระหว่างที่กำลังเข้ามาใกล้ผม อริสก็ได้ใช้Healเพื่อรักษาบาดแผลของตนเองและทามากิให้ดีขึ้นสักเล็กน้อยด้วย 「พยายามได้ดีมากเลยนะ ทั้งสองคน」  ผมร่ายHasteให้อริสกับทามากิ  ในระหว่างนั้นก็รู้สึกว่าการเชื่อมต่อกับอสูรรับใช้ได้ขาดหายไป  หมาป่าขนเทาสองตัวตายไปแล้วน่ะ  ขอบคุณมาก ผมขอบคุณพวกมันในใจ  Generalพุ่งออกมาจากกลุ่มควันนั่น  ไม่มีปัญหา  เวทมนตร์ครั้งสุดท้ายของมิอะ ช่วยยื้อเวลาไว้ให้พวกผมได้มากพอแล้ว  มันคือเวลาไม่กี่วินาทีที่ล้ำค่าที่สุด  สถานการณ์มันปลี่ยนไปแล้ว 「จะลุยกันตามแผน แล้วนะ」 「ค่ะ!」 「ไว้ใจได้เลย คาซึซัง!」  ผมตบหลังของทั้งสองคนเบาๆ  อริสกับทามากิซึ่งอยู่ในสภาพที่ถูกห้อมล้อมด้วยแสงสีแดงของHaste วิ่งเข้าไปหาGeneral  อาจจะเป็นแผนการที่บ้าบิ่นเกินไปก็เป็นได้  แต่ว่า ไม่มีวิธีไหนที่นึกออกแล้ว สำหรับหนทางไปสู่ชัยชนะ  แผนการที่ค้นพบได้ด้วยพลังของพวกผมในตอนนี้ ก็มีโอกาสชนะแค่นิดเดียวเท่านั้น  แต่ยังไงก็ต้องทำให้มันเป็นความจริง  Generalในตอนนี้ มีบาดแผลที่มือซ้าย  ดังนั้นจึงไม่สามารถทำการโจมตีโดยการขว้างก้อนกรวดออกมาได้แล้ว  แค่ทำให้มันไม่สามารถใช้การโจมตีโดยการขว้างก้อนกรวดที่ฆ่าอีกา แล้วก็ทำให้แขนซ้ายของมิอะขาดไปได้เท่านั้น การต่อสู้ก็ง่ายขึ้นเยอะแล้ว  โอกาสแบบนี้สู้พันครั้งคงจะมีแค่ครั้งเดียว  เพราะงั้น ตอนนี้จึงไม่มีตัวเลือกให้หลบหนี  เพื่อเสริมความมุ่งมั่นนั้นให้แข็งแกร่งขึ้น ผมจึงได้วางตัวมิอะเอาไว้ตรงนี้  การจะจัดการGeneralให้ได้มีเพียงตอนนี้เท่านั้น นี่คือข้อสรุปที่ทุกคนเห็นตรงกัน  ในตอนนี้ที่มันสามารถใช้มือขวาได้แค่ข้างเดียวนี่แหละ คือโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว  อริสกับทามากิพุ่งเข้าไปหา General โดยที่ไม่มีความคิดว่าจะถอยเลยแม้แต่น้อย  ทั้งสองคนอาจจะต้องตายเพราะผมตัดสินใจพลาดก็เป็นได้  ตัวผม เริ่มจะถูกความคิดของหนอนอ่อนแอแทรกเข้ามาแล้วสิ  ไม่ได้ๆ ผมส่ายหัว  ผมน่ะ จะมาเสียใจกับการตัดสินใจนี้ไม่ได้  เมื่อตัดสินไปแล้ว ก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับ  อริสระดมแทงหอกใส่Generalจากนอกวงของการต่อสู้  ซึ่งGeneralก็ได้ใช้ดาบสีเงินปัดป้องเอาไว้  มันตวัดดาบออกมาอย่างรุนแรง  การโจมตีนั้นกลายเป็นดั่งพายุ ถาโถมเข้ามาหาอริสกับทามากิ  ผมสีดำของอริสและผมสีบรอนด์ของทามากิ พลิ้วไปตามแรงลม  ร่างของทั้ง2คนกำลังจะถูกเป่ากระเด็น…… 「ทามากิจัง หมอบลง!」 「อะ อื้ม เข้าใจแล้ว!」  ทั้ง2คน ลดจุดศูนย์ถ่วงลง ยั้งตัวเอาไว้  อย่างที่ได้คุยกันไว้น่ะ  และ…… 「ตอนนี้ล่ะ ทามากิ!」 「อืม!」  ทามากิ พุ่งเข้าไปประชิดGeneralอย่างไม่คิดชีวิต  กู่ร้อง พร้อมกับฟันขวานยักษ์ออกไป  Generalเอาดาบสีเงินมารับขวานยักษ์ทันที……  ทามากิทิ้งขวานยักษ์ไป  ย่อตัวลง หยิบมีดปอกผลไม้ออกมาจากข้างเอว  เจอกับการเคลื่อนไหวที่อยู่นอกเหนือการคำนวณแบบนี้ Generalจึงหยุดชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง  ทามากิใช้มีดปอกผลไม้ แทงเข้าไปที่มือขวาของGeneral  เลือดสีน้ำเงินไหลออกมาจากมือขวาของออร์คตัวใหญ่  Generalเจ็บปวด ดาบสีเงินร่วงหล่นจากมือ  ดีมาก ไปได้สวย!  สำหรับตอนนี้ที่มือซ้ายของGeneralไม่สามารถใช้การได้ หากกำจัดมือขวาไปได้ล่ะก็……  นี่คือการเดิมพันล้วนๆเลย คงจะเรียกว่าแผนการรบไม่ได้  แต่การเดิมพันครั้งนี้ พวกผมเป็นฝ่ายชนะ 「ตอนนี้ล่ะ อริส!」 「ค่ะ!」  อริสไม่ปล่อยให้เวลาเสียไป แทงหอกออกไปในทันที  แทงออกไป ที่ลำตัวของGeneralตรงๆ  ถึงจะเป็นGeneralก็เถอะ ในสภาพที่ไม่มีอาวุธแบบนี้ ป้องกันตัวเองไม่ได้แน่ๆ  ใช่ ผมคิดแบบนั้น……  Generalเตะด้ามขวานยักษ์ที่ทามากิทิ้งไป ในจังหวะที่ยังไม่ตกถึงพื้น  ใช้มือซ้ายที่ได้แผลไปก่อนหน้านี้ กำมขึ้นมา  เห็นดังนั้นผมถึงกับร้องอุทาน「หา?」ออกมาโดยไม่ตั้งใจ  ความรู้สึกของพวกอริสเอง ก็น่าจะเหมือนกัน  มันอะไรกัน อยากจะสบถออกมาแน่ๆล่ะ  หอกที่อริสแทงออกไป ถูกGeneralใช้ใบขวานต้านรับเอาไว้  ปลายแหลมของหอกกับใบขวานปะทะกัน  แกร๊ง เสียงปะทะกันดังสะท้านไปทั่วบริเวณนี้  อริสร้องออกมา ร่างกายถูกกดลง  เทียบกันด้านพลังแล้ว Generalเหนือกว่าน่ะ  ถึงจะใช้แค่มือซ้ายข้างเดียว แถมนิ้วโป้งยังได้รับบาดเจ็บอีก แต่แรงของGeneralก็ยังเหนือกว่าอริสอยู่ดี  จากนั้นGeneralก็ เอนร่ายกายท่อนบนไปด้านหลัง……  ไม่สิ ออร์คร่างใหญ่นั่น กดร่างกายท่อนล่างลง  ก้าวออกมาอย่างหนักแน่น ครึ่งก้าว  Generalเหวี่ยงขวานยักษ์ด้วยมือซ้ายข้างเดียว  เสียงขวานฝ่าลมดังขึ้น  สายลมอันรุนแรงพัดเข้ามาหาอริสกับทามากิ 「ไอ้……บ้าเอ๊ย」  ทามากิทิ้งมีดปอกผลไม้ในมือไปอย่างรวดเร็ว แล้วหันไปเก็บเอาดาบสีเงินที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาแทน  แล้วก็ ล้มกลิ้งไปกับพื้นทั้งๆอย่างนั้น เนื่องจากสายลมเชี่ยวกราดที่พัดเข้ามา  บัดซบเอ๊ย ลมนั่นไม่ใช่ความสามารถของดาบสีเงินแต่เป็นความสามารถของตัวGeneralเองงั้นเรอะ  แต่ว่า ยังไงมือขวาของมันก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว  อาวุธหลักถูกแย่งชิงไป  ถึงจะเอาอาวุธของทามากิไปได้ก็เถอะ……  ว่ากันตามกำไรขาดทุน ครั้งนี้น่าจะเป็นกำไรล่ะนะ  มันจะต้องอ่อนแอลงแล้วแน่นอน  ที่เหลือก็ต้องจัดการมัน ถึงจะต้องใช้เวลาสักระยะก็เถอะ……  จังหวะนั้นเอง จู่ๆทางฝั่งอาคารเรียนหลักก็เกิดเสียงดังขึ้น  ชิคิซังกำลังวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีร้อนรน  เธอกอดแขนซ้ายของมิอะเอาไว้ด้วยสองแขน 「ออร์คมาแล้ว ลูกกระจ๊อก2-3ตัว แล้วก็ตัวใหญ่อีกอย่างน้อย1ตัว ตอนนี้ถูกหยุดยั้งเอาไว้อยู่ ซากุระจังเข้าไปรับมือน่ะ……」  ใบหน้าของผมบูดบึ้ง  ที่นากาสึคิ ซากุระเข้าไปยับยั้งพวกมันเอาไว้น่ะ เป็นตัวเลือกที่ถูกแล้ว  เธอทำได้ดีมากตอนสู้กับHellhound  แต่ว่า ถ้าให้ต่อสู้ไปมากกว่านั้นก็เป็นการฝืนกำลังของตัวเองเกินไป  มองไปยังอริสกับทามากิที่ต่อสู้กับGeneralอย่างดุเดือดมาอย่างต่อเนื่อง  สร้างบาดแผลให้มันได้ขนาดนั้นแล้ว ทางฝั่งพวกเธอ2คนก็เลยดูได้เปรียบอยู่เล็กน้อย  Generalตอนนี้เอง ก็ไม่ได้ดูน่าเกรงขามเหมือนกับเมื่อครู่  โดยเฉพาะ การรับมือทามากิที่ใช้ดาบสีเงินอยู่ดูท่าจะทำได้ลำบาก  มองดูดีๆ จังหวะที่ทามากิเหวี่ยงดาบสีเงิน บริเวณนั้นจะมีอณูแสงปรากฏออกมาด้วย  อะไรล่ะนั่น สามารถโปรยผงประหลาดออกมาได้ด้วยงั้นเหรอ  ไม่สิ รู้สึกว่าจะไม่ใช่  ในตอนนี้ การโจมตีของทามากิเร็วขึ้นเรื่อยๆ แหลมคมขึ้นเรื่อยๆ 「คาซึซัง! ยังไงดีล่ะ ชั้นน่ะ รู้สึกดีมากเลย! รู้สึกอย่างกับสามารถต่อสู้ได้เรื่อยๆเลยล่ะ!」  คิดว่าคงจะเป็นอะไรที่เหมือนกับ Runners・Highน่ะแต่ว่า ไม่สิ อย่าบอกนะว่า…… 「อาวุธเวทเนี่ย มีตัวตนอยู่จริงๆด้วยสินะ」  ชิคิซังพึมพำออกมา เมื่อได้ดูการต่อสู้อันรุนแรงระหว่างพวกอริสกับGeneral  งั้นเหรอ อาวุธเวทงั้นเหรอ……  มีมอนสเตอร์ มีสกิล มีเวทมนตร์ ถ้าอย่างนั้นตัวของอาวุธเองจะมีคุณสมบัติพิเศษเหมือนกับในเกมRPGก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อย่างนั้นสินะ  ถ้างั้นล่ะก็ อาวุธนั่นมีผลช่วยกระตุ้นความสามารถในการต่อสู้อย่างนั้นเหรอ?  หรือว่า ช่วยฟื้นฟูStamina?  หรือบางที อาจจะมีประสิทิผลอย่างอื่นอยู่อีกก็เป็นได้……  ยังไงก็ช่าง เอาเป็นว่าได้ของดีมาแล้ว  ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆล่ะก็ พอจะมีหนทางอยู่ 「อริส กองหนุนของศัตรูมาแล้ว! เธอเข้าไปรับมือพวกนั้นซะ! ทามากิ ล่อGeneralไปด้วยกันกับผม! เอามันออกห่างจากพวกลูกกระจ๊อก!」  สองคนนั้น เกิดการลังเลขึ้นชั่วขณะหนึ่ง……  หลังจากนั้นก็พยักหน้าทันที เริ่มเคลื่อนไหว  ความคิดที่ว่าหากเกิดความวุ่นวายขึ้นล่ะก็แย่แน่ๆนี่แหละ ที่ตรงกันทุกคน  ดำเนินการทุกอย่างมาจนถึงตอนนี้แล้ว จะปล่อยให้Generalหลุดมือไปไม่ได้  อริสกับชิคิซังวิ่งไปยังทิศทางที่กองหนุนของศัตรูกำลังมาด้วยกัน  ส่วนผมกับทามากิ ก็ทำเป็นหลบหนี ล่อGeneralให้ออกห่างมาจากจุนั้น  โชคดี Generalตอนนี้ไม่สงบพอที่จะทำหน้าที่เป็นกุนซือวางแผนการรบแล้ว  มันไล่ตามพวกผมมาโดยไม่ได้คิดอะไร  พวกผมแยกออกจากกันเป็น2ทาง เริ่มการต่อสู้ครั้งสุดท้าย  อีกไม่นานแสงจากพระอาทิตย์ก็จะหายไปแล้ว

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้