Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 53 ฮะจิโกะ ทามากิ

***ฮะจิโกะ คือสุนัขญี่ปุ่นที่โด่งดังมากในเรื่องความซื่อสัตย์ ค้นหาประวัติได้ในอากู๋เลยครับ  วาร์ปมาที่ห้องสีขาว  ทามากิวิ่งเข้ามากอดผม  คล้องแขนทั้งสองข้างที่คอของผม กดร่างกายของตนเองเข้ามาจนแนบชิด 「สำเร็จแล้ว ชนะแล้ว! ชั้น เอาชนะได้แล้ว! คาซึซัง ขอบคุณ! ชั้น ทำได้แล้วใช่มั้ย ชั้นไม่ได้ทรยศ ความเชื่อใจของคาซึซีงใช่มั้ย」 「อะ อื้ม ทำได้ดีมาก ทามากิพยายามได้ดีมาก……」  ในสภาพนี้น่ะ ถ้าถูกอริสเห็นเข้าล่ะก็  ขณะที่คิดดังนั้นผมก็กวาดตามองไปรอบๆห้องสีขาว……  อริสไม่อยู่ที่นี่  มิอะก็ด้วย  งั้นเหรอ  ผมนึกออกแล้ว  ปาร์ตี้น่ะ ถ้าอยู่ห่างกันเกินไปจะทำให้ไม่ได้รับค่าประสบการณ์  ครั้งนี้คงจะเข้ากับเงื่อนไขนั้นแล้วสินะ  ผมกับทามากิน่ะ ระหว่างที่ต่อสู้กับGeneral ก็ได้ขยับห่างออกไปจากพวกนั้นโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง 「อะ อาเร๊ะ? ทุกคนไม่อยู่นี่นา」  ผมอธิบายสถานการณ์ให้ทามากิที่กำลังมองซ้ายมองขวาเนื่องจากเพิ่งจะรู้สึกตัว  หลังจากที่ทามากิ ถลึงตากลมโตด้วยความตกใจ……  เธอก็ยิ้มออก 「ถ้างั้น ตอนนี้ก็สามารถเดทกับคาซึซังได้ตามใจชอบเลยน่ะสินะ!」 「โอ้ย เธอ」  ทามากิกอดผมแน่นกว่าเดิมพลางมองผมอย่างใสซื่อ  หน้าอกโดนแล้ว โดนแล้ว  ไม่สิ ไม่ได้ใหญ่ขนาดอริสซะหน่อย 「นี่ー、คาซึซัง กระหนุงกระหนิงกันหน่อยก็ดีนะ」  เธอเอาแก้มมาถูไปถูมา  อ้อนคนรัก ไม่สิ น่าจะเรียกว่า เหมือนกับแมวที่เข้ามาอ้อนมากกว่า  อาจจะ เป็นอย่างนั้นจริงๆก็ได้  สำหรับทามากิแล้ว เธออยากได้ที่พึ่งที่ไว้ใจได้เท่านั้น แล้วก็บังเอิญ ที่พึ่งนั่นกลายมาเป็นผมเท่านั้นเอง  ผมนึกถึงคำพูดของอริสเมื่อตอนเช้า ปัญหาของทามากิ และสิ่งที่ทำได้หลังจากนั้น  อริสน่ะ คาดการณ์ถึงสถานการณ์ที่พวกผมจะต้องมาอยู่ด้วยกัน2คนเอาไว้แล้วอย่างนั้นเหรอ  ต่อให้มีโอกาสแค่1หมื่น แต่หากสภาพจิตใจของทามากิเกิดความแปรปรวนขึ้นมาล่ะก็  หากเกิดสถานการณ์นั้นขึ้นมา ไม่ต้องนึกถึงตนเอง อยากให้ช่วยโอบกอดทามากิให้ด้วย  ไม่ว่ายังไง ก็ขอให้มีชีวิตต่อไปแม้จะเหลือ2คนก็ตาม  คำพูดเมื่อตอนนั้น น่าจะหมายรวมถึงเรื่องนี้ด้วยแน่ๆ  หรือว่า ผมจะคิดมาเกินไปกันล่ะ  เอาเถอะ  พวกผมสองคน นั่งลงพิงผนังของห้องสีขาว  คุยหยอกล้อกันสักระยะ  คุยกัน นานพอดูเลย  หัวเรื่องน่ะไม่มีหรอก  เรื่องของอริส เรื่องของทามากิ เรื่องของเพื่อนร่วมห้อง  เรื่องของสึมิเระที่เข้ามาช่วยเหลือเมื่อกี้  ชื่อเต็มคือ สึกิโนมิยะ สึมิเระ  เป็นเด็กเรียบร้อย ชอบอ่านหนังสือ 「ชอบอ่านหนังสือแบบนี้ก็หมายความว่า น่าจะเข้ากับอริสได้ดีอย่างนั้นสินะ」 「อื้ม คุยกันที่ห้องสมุดบ่อยๆ นอกจากนี้ก็มีอิสะจังกับสึคิมิจัง……」  ทามากิมีสีหน้าหมองลง พูดไม่จบประโยค 「เด็กเหล่านั้น……」 「อิสะจังที่หอพักหญิง ส่วนสึคิมิจังก็ เมื่อกี้ ที่ห้องของชั้น1」  ผมพยักหน้า งั้นเหรอ  ไม่ได้หมายความถึง การเป็นผู้รอดชีวิตหรอก  หากในกลุ่มผู้รอดชีวิตมีเพื่อนอยู่ล่ะก็ คิดว่าทั้งอริสทั้งทามากิ จะต้องดีใจมากๆแน่ๆ  ที่หอพักหญิง อริสได้เข้าไปช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่มีลมหายใจรวยริน  ไม่ได้หันไปหาคนที่ตายไปแล้วเลย  ในกลุ่มที่เธอไม่ได้มองไป มีเด็กที่ชื่ออิสะจังอยู่  อริสมีเวทรักษา  ด้วยพลังนั่น สามารุช่วยเหลือผู้คนได้  ถ้ามีเวลาว่างพอจะมาร้องไห้กับศพของเพื่อที่ตายไปแล้วล่ะก็ สู้เอาเวลาไปช่วยรักษาคนที่ยังมีชีวิตอยู่จะดีกว่า ถ้าเป็นเธอล่ะก็คงจะตัดสินใจแบบนี้นั่นแหละจริงมั้ย  เป็นการเตรียมใจที่น่ากลัวจริงๆ  ผมน่ะ สนับสนุนเธอนะ  แน่นอนว่าจะไม่มีการเสียใจภายหลัง  หากอริสบอกว่าเธอพร้อมจะสนับสนุนผมล่ะก็ ผมเองก็พร้อมจะสนับสนุนเธอเช่นกัน  ไม่สิ ไม่ใช่แค่อริสคนเดียว  จะเป็นทามากิ หรือมิอะก็เหมือนกัน  พวกผมน่ะ เป็นหนึ่งเดียวกัน  เพราะประสานหัวใจจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงสามารเอาชนะGeneralมาได้  มันคือชัยชนะที่แท้จริงของทุกคน  แต่ว่าเรื่องนั้น ให้ผมรู้คนเดียวก็พอแล้ว  ตอนนี้ อยากให้ทามากิอารมณ์ดี  สำหรับพวกเธอแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความเชื่อมั่นยังไงล่ะ  ผมลูบผมสีบรอนด์ของทามากิ  ทามกิยิ้มออกมา สดใสมาก 「ตอนนี้เท่านั้น」  ทามากิซบหัวลงมาที่ไหล่ของผม 「ตอนนี้เท่านั้น ขอทำแบบนี้หน่อยนะ ตอนที่อริสอยู่ด้วย ให้อริสเป็นที่1ก็ได้ แต่ว่า ชั้นเองก็ ขอแค่นิดเดียวเท่านั้น」  ผมนิ่งเงียบ ลูบผมของทามากิต่อไป  คาซึฮิสะ:เลเวล12 เวทซัพพอร์ท5/เวทอัญเชิญ3 สกิลพอยท์3         ※  พวกผมกลับมายังจุดเดิม  หลังจากนี้อีก30นาที ผมจะต้องอยู่ในRepulsion・Sphere ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้  จากที่พูดคุยกันในห้องสีขาว ผมได้บอกให้ทามากิกลับไปก่อนเลย  ทามากิเข้าไปเก็บคริสตัลสีน้ำเงิน4ก้อนที่หล่นอยู่บนพื้นลาดชันในสภาพที่น่ากลัวว่าจะตกลงไป  หลังจากนั้น เธอก็ปีนขึ้นไปบนทางลาด  ปีนขึ้นมาเรื่อยๆ มาทางผม……  อาเร๊ะๆ ผมเอียงคอ  อ้า งั้นเหรอ  พอออกห่างขนาดนั้นแล้ว เลยมองไม่เห็นแล้วอย่างนั้นสินะ  ประสิทธิภาพกิ้งก่าของบาเรียนี้ แข็งแกร่งทีเดียว  ก็นะ ทามากิก็คงจะนึกเรื่องนี้ออกล่ะมั้ง  เธอโบกไม้โบกมือ หันหลังกลับและวิ่งจากไป  ร่างของหญิงสาวผมทอง หายไปจากสายตาของผม  ยาเรยาเร  ผมพิงตัวลงไปที่ขอบของบาเรีย ถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความโล่งอก  ถ้าผ่านไป30นาที ทามากิก็คงจะกลับมาแล้วล่ะนะ ……  จะกลับมารึเปล่านะ  ไม่ว่ายังไง นั่นก็คือยัยเอ๋อทามากิน่ะ  จะหลงทางรึเปล่าน๊า  เอาเถอะ ในกรณีนั้น ขอแค่อัญเชิญอสูรรับใช้ออกมาหลายๆตัว คงจะสามารถป้องกันตัวเองได้อยู่แล้วล่ะ  เดินกลับไปก็ได้  ผ่อนคลายแรงตรงไหล่ รอ  พอเข้าสู่ช่วงพลบค่ำแล้ว ในที่สุดก็ได้เวลารีแล็กซ์ซะที  วันนี้น่ะ ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ต่อสู้มาตลอด  ถึงจริงๆแล้วจะมีเวลางีบหลังแล้วก็ทำอะไรหลายๆอย่าง แต่ในความรู้สึกแล้ว รู้สึกว่าจะยืนอยู่ในแนวรบ ต่อสู้มาทั้งวัน  เหนื่อย  เหนื่อยมาก จากก้นบึ้งของจิตใจ  จู่ๆ ก็รู้สึกว่าไม่รับรู้อะไรแล้ว  เปลือกตาหนักเหลือเกิน……  บนหน้าผาที่ฉาบไปด้วยแสงของดวงอาทิตย์ตอนใกล้ตก ผมเห็นร่องรอยของมนุษย์  ตกใจ  เพราะนั่นคือผู้ชาย  ชายหนุ่มที่มีดวงตาซึ่งมีหางตาเรียวยาวดั่งแมว ตัวสูง หลังค่อม  สันจมูกตั้งโด่ง ใบหน้ามีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏอยู่เสมอ  ซาโซ ชิบะ  ไม่มีทางมองผิดแน่ๆ นั่นคือชายที่คอยกลั่นแกล้งผมตลอดมา  ชิบะกวาดตามองรอบๆอย่างพะว้าพะวง ถอนหายใจ ฟู่  มันไม่ได้สังเกตเห็นผม  รู้อยู่แล้ว  ทั้งๆอย่างนั้น เหลื่ออันเยียบเย็นยังหลั่งไหลออกมาจากทั้งร่าง  ฟันกระทบกัน กึกๆ  หัวใจเต้นรัวราวเสียงระฆัง  อ้า ผมนี่  ผมน่ะ กลัวหมอนั่นขนาดนั้นเลยเหรอ  กลัวคนที่ตนเองตั้งใจว่าจะฆ่าทิ้ง ขนาดนี้เลยเหรอ  ภาพในอดีตย้อนกลับมา  คาบเรียนยูโด  ชิบะจับผม ทุ่มลงพื้น  เข้ามาซัดผมจากด้านบน  ผมส่งเสียงร้องราวเสียงของกบตอนถูกบดขยี้  ทุกคนพากันหัวเราะ  แม้แต่ครูผู้สอนยังหัวเราะ  พอผมคิดจะตอบโต้ ลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของชิบะก็เข้ามาเหยียบมือของผม  ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ชิบะพูดกับผมอย่างเหยียดหยาม  เวรทำความสะอาดห้องเรียน  ผมถูกมัดสองมือสองเท้า ล้มกลิ้งอยู่บนพื้นราวกับหนอนผีเสื้อ  ถูกสั่งให้ทำความสะอาดในสภาพอย่างนั้น  ใช้ปากคาบผ้าขี้ริ้ว เช็ดพื้นกับผนัง  ถ้าทำพลาดก็จะโดนเตะ โดนต่อย ในจังหวะนั้นเพื่อนในห้องก็จะพากันหัวเราะ  ส่วนชิคิซัง เธอชำเลืองมองผมแวบหนึ่งแล้วก็เดินออกจากห้องไป  ถูกโยนผ้าขี้ริ้วเปียกๆสกปรกๆเข้าใส่  ในท้ายที่สุด ทุกคนก็จะเข้ามากระทืบร่างกายของผม  หลังเลิกเรียน  ถูกถอดเสื้อผ้า ถูกบังคับให้คลานสี่ขาบนทางเดิน  มีชิบะขี่อยู่ด้านบน เดินราวกับเป็นม้า โดยมีนักเรียนและครูยืนมอง  ถ้าหากผมหยุด ชิบะก็จะตีก้น  ดึงผม สั่งให้ร้องด้วยเสียงเหมือนกับม้า  ผมน่ะต้องทำตามอย่างว่าง่าย  ครูสาวคนหนึ่ง หัวเราะขำขันราวกับเห็นด้วยกับชิบะ  จากการคลานสี่ขา ผิวหนังเลยลอก เลือดไหล  พอเห็นว่าทำพื้นสกปรก ก็ถูกเตะเอาอีก  ทุกคน ส่งเสียงเชียร์กันยกใหญ่  สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต พรั่งพรูออกมาไม่หยุด  ต่อให้คิดว่าเลิกคิดได้แล้ว ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้  ผมกรีดร้อง  เป็นส่วนหนึ่งของPTSDงั้นเหรอ  ระหว่างที่ทรมานจนฟุบลงภายในSphere ผมก็ใช้ความคิดพิจารณาสภาพของตัวเองอย่างใจเย็น  ฮะฮะ อะไรกัน  หัวเราะเรื่องของทามากิไม่ได้ไม่ใช่เหรอ  ความเจ็บปวดของผมน่ะ ไม่ใชเรื่องใหญ่อะไรเลยไม่ใช่เหรอ  โชคดี ที่อยู่ด้านในRepulsion・Sphere  ชิบะถือปืนล่าสัตว์อยู่ในมือ  ตัวผมในตอนนี้ที่ไม่ได้อัญเชิญอสูรรับใช้มาเลยน่ะ ไม่สามารถต่อกรกับมันได้  ใช่ เอาชนะไม่ได้  ถ้าเป็นตัวผมคนเดียวล่ะก็ เอาชนะหมอนั่นไม่ได้  เพราะงั้นล่ะ ขอร้องล่ะ ห้ามมองมาทางนี้นะ  อึก……  ผมเลิกพร่ำเพ้อกับตัวเอง  ชิบะมันหันกลับไปด้านหลังของตัวเองน่ะ  อะไรน่ะ?  มีใครอยู่งั้นเหรอ  เงาของคนอีกเงาหนึ่ง ปรากฏออกมา  มายืนอยู่ข้างๆชิบะ  เงาคนอีกเงาหนึ่งนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สังเกตเห็นผมด้วย  แต่ว่าพริบตาที่ได้เห็นเงานั้น ลมหายใจของผมแทบจะหยุดนิ่ง  อริสน่ะ  คนที่ยืนอยู่ข้างๆชิบะในตอนนี้ก็คือ ชิโมโซโนะ อริสึ  อริส พึมพำอะไรสักอย่างออกมา มองหน้าชิบะ  ระยะห่างระหว่างทั้ง2คนนั้น คือ5ก้าว  อริสตั้งหอกขึ้นมา  ส่วนชิบะพูดอะไรสักอย่างออกมา  อริสลดหอกลง  ชิบะวางปืนลงบนพื้น  อริสก้มหน้าลง ดูลำบากใจมาก  ชิบะเดินเข้าใกล้อริสช้าๆ  อริสยื่นนิ่งจิตใจเลื่อนลอย  ชิบะมัน  อ้า ชิบะมัน  มันเข้าไปกอดอริส  อริสผ่อนคลายเรี่ยวแรงออกจากตัว  ทั้งสองคน ยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นระยะหนึ่ง  กระซิบกระซาบอะไรกันก็ไม่รู้  หลับตาลง ไม่เห็นสีหน้าของกันและกันแล้ว  ภายในRepulsion・Sphereเสียงจะไม่มีทางลอดผ่านมาได้ ดังนั้นผมจึงไม่ได้ยินเสียง  แต่ว่าทั้งสองคนนั้น กอดกันราวกับโลกนี้มีกันสองคน  ท้ายที่สุด  ชิบะจับมือของอริส  อริสก็ทำตัวเรียบร้อยตาม  ก้มหน้า ไม่ขัดขืนชิบะเลย  ชิบะเก็บปืนขึ้นมา จูงมืออริส เดินจากไป  ภาพของทั้งสองคนหายไปในป่า         ※  บริเวณรอบๆเปลี่ยนเป็นสีดำทั้งหมด  ผมนั่งนิ่งๆ  ไม่ขยับ  ขยับไม่ได้  Repulsion・Sphereหายไปแล้ว  ร่างกายของผม กลิ้งลงไปบนทางลาดชันอย่างรวดเร็ว  กลิ้งตกลงไปเรื่อยๆ ไม่มีติดกิ่งไม้หรือต้นไม้ใดๆเลย  ไม่มีแรงเลยสักนิด  สมองหยุดนิ่ง  ในที่สุด ร่างของผมก็มาถึงพื้นราบ นอนแผ่อยู่กลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่  ผมลุกขึ้น  หัวสมองราวกับถูกแช่แข็ง คิดอะไรก็ไม่ออก  รวบรวมสติไม่ได้เลย  มองดูที่นิ้วมือซ้าย  แหวนสีแดงที่เป็นตัวบ่งบอกความเป็นปาร์ตี้หายไป  ไม่มีเพื่อนพ้อง  ผมเหลือ ตัวคนเดียวแล้ว  ลำบาก  ทำอะไร ทำยังไง ดีล่ะ?  ใช่แล้ว ถ้าไม่ปกป้อง ตัวเองล่ะก็  ใช้Summon・Greywolf 4ครั้ง หมาป่า4ตัวยืนอยู่ข้างหน้า  เวทซัพพอร์ทแค่Keen・Weaponก็พอมั้ง  ถ้าจำเป็นก็ค่อยร่ายHasteแล้วกัน  แล้ว เอโต  จะไป ที่ไหนล่ะ?  มองขึ้นไปบนหน้าผาที่กลิ้งตกลงมาเมื่อกี้  มืดเกินไป มองอะไรไม่เห็น  อาคารเรียนศิลปะอยู่ที่ไหน ไม่รู้เลย  ช่างมัน  พอแล้ว  ไม่อยากกลับไปแล้ว  ไม่อยากคิดอะไรแล้ว  ผม เดินโซเซๆ ไปยังทิศทางลงจากภูเขา  ถนนนั้นมืดมาก กิ่งไม้ที่ยืดออกมา รากต้นไม้ที่งอกออกมาสร้างรอยแผลให้เท้า ผมล้มลง  อ้า แบบนี้ไม่ไหว 「Night Sign」  ร่ายเวทมองเห็นในที่มืดของเวทซัพพอร์ทแรงค์5ให้ตนเอง  สายตาของผมมองเห็นภาพของช่วงกลางคืนราวกับเป็นช่วงกลางวัน  แบบนี้ก็โอเค  ผมเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย  ระหว่างทาง พบกับกลุ่มออร์ค  ออร์ค3ตัว กำลังยืนเหม่อล้อมรอบอะไรสักอย่างที่คล้ายกับเสาหิน  อะไรล่ะ นั่นน่ะ  น่า ช่างมัน  ฆ่าแมร่งก็จบ  หลังจากใช้Deflection・Spellให้ตัวเอง ผมก็ใช้Hasteต่อ  จากHasteที่ถูกเพิ่มขอบเขจขึ้นมา ทำให้หมาป่าทุกตัวและตัวผมเองมีประกายสีแดงล้อมรอบ  หมาป่าทั้ง4ตัวพุ่งเข้าไปขย้ำกลุ่มออร์ค  ตอนที่ออร์คสังเกตเห็นพวกผม ก็เป็นตอนที่หมาป่าของผมแต่ละตัวเข้าไปประชิด ขย้ำลำคอของพวกมันแล้ว  ไม่นาน พวกออร์คที่โดนขย้ำที่คอ ก็ขาดใจตายกันทั้งหมด  แล้ว เสาหินนี่มัน……คืออะไรล่ะ  น่า ช่างมัน  ไปต่อเลยมั้ย ไปต่อ  เดินไปอีกเล็กน้อย ก็พบกับเสาหินอีกแล้ว  มีออร์ค3ตัว  ฆ่าแมร่ง  เสาหินต้นต่อไป มีออร์ค4ตัว  1ตัว รอดตายอยู่ กำลังวิ่งเข้ามาหาผม  มันฟันขวานลงมา 「Reflection」  รอให้ขวานที่มันฟันลงมาเกือบจะถึงตัว ร่ายเวทสะท้อนกลับไป  เคยเห็นการเคลื่อนไหวของขวานมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ดูช้ามากทีเดียว  ก็นะ โดนฟันไปเลยก็ดีเหมือนกัน  ใช่ ตายไปซะได้ก็ดี  ทั้งคนอื่นๆ และตัวผมเอง  สำหรับตอนนี้ ไม่สนใจอะไรแล้ว  ขวานที่ถูกสะท้อนกลับไปด้วยReflection จามเข้าไปที่หัวของออร์คพอดี  ออร์คตายแล้ว  ผมเลเวลอัพ  ไปที่ห้องสีขาว         ※  ผมยืนอยู่ในห้องสีขาว ตัวคนเดียว  ………  ยืนด้านหน้าNotebook  หลังจากนี้ผม จะทำยังไงดี  ต้องทำอะไรดีล่ะ  สกิลพอยท์มี5แต้ม  เวทซัพพอร์ทกับเวทอัญเชิญ  ผมต้องเลือกอันไหนดีล่ะ  หัวสมองมันว่างเปล่า  ผมยืนเหม่ออยู่หน้าNotebookนั่น ไม่รู้กี่ชั่วโมงแล้ว  อ๋า ยุ่งยากจัง  ………  ผม เลือก  คาซึฮิสะ:เลเวล13 เวทซัพพอร์ท5/เวทอัญเชิญ3→4 สกิลพอยท์5→1         ※  กลับมาที่เดิม  ด้านหน้าเสาหิน  อ้า จะว่าไป ไม่ได้เก็บคริสตัลเลยตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนี่นะ  หลังจากนี้ไป จะเก็บดีรึเปล่า  น่า ช่างมัน  น่ารำคาญ 「Summon・Soldier」  เวทอัญเชิญแรงค์4 Summon・Soldierคือเสทสำหรับเรียกนักดาบเกราะดำขึ้นมา  หรือจะเรียกว่าอสูรรับใช้ประเภทอัศวินก็ได้  ดูท่าจะแข็งแกร่งทีเดียว  ผมร่ายKeen・Weapon, Mighty・Armให้อัศวินดำ  เริ่มออกเดิน  อัศวินดำนั้น ทั้งๆที่ใส่เกราะที่ดูท่าจะหนักพอตัวแท้ๆ กับสามารถเดินได้ในระดับความเร็วเท่าๆกับผมโดยไม่มีเสียงฝีเท้าเลย  จะว่าไป ไม่ได้บัฟ Physical・Upนี่นา  ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ล่ะก็ ถึงเวลาที่ต้องหนี ก็คงจะหนีไม่พ้น  น่า ช่างมัน  น่ารำคาญ  ดูเหมือนว่าเสาหินนี่จะห้อมล้อมภูเขาลูกนี้อยู่  พอเดินต่อไปอีก ก็พบกับเสาหินต้นถัดๆไปอีก  ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าเสาต้นใด ก็จะมีออร์คหลายตัวอยู่ด้วยเสมอ  เริ่มฆ่าจากปลายสุดก่อน  ในบางครั้งอสูรรับใช้ของผมก็ต้องรับการโจมตีบ้าง  หมาป่าของผมหายไปแล้ว  ในจังหวะนั้นผมก็เรียกอัศวินดำออกมา  ฆ่าออร์ค ไปกี่ตัวแล้วนะ  ผมวนเวียนไปตามเสาหินกี่ต้นแล้วนะ  ภายในหัวมันดูมึนไปหมด  ทั้งๆที่น่าจะเหนื่อยมากแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่สามารถหยุดเดินได้เลย  ตอนที่อัพเป็นเลเวล14 อัศวินดำ2ตัว หมาป่า3ตัว  ตอนที่อัพเป็นเลเวล15 อัศวินดำ3ตัว หมาป่า2ตัว  อ้า แบบนี้ก็สามารถเพิ่มเวทอัยเชิญได้นี่นา  เพิ่มเวทอัญเชิญดีกว่า  นั่นแหละดีแล้ว  หลังจากนี้ไป อัพแต่เวทอัญเชิญเลยดีกว่า  คาซึฮิสะ:เลเวล15 เวทซัพพอร์ท5/เวทอัญเชิญ4→5 สกิลพอยท์5→0         ※  เวทอัญเชิญแรงค์5นั้น มีเวทมนตร์ที่ชื่อDeportationอยู่  มันคือเวทมนตร์ที่ใช้สำหรับส่งตัวอสูรรับใช้กลับ และเอาMP90%ที่ใช้สำหรับการอัญเชิญอสูรรับใช้นั้นกลับมา  ผมใช้Deportationส่งตัวหมาป่า2ตัวกลับไป  Deportationเองก็ต้องใช้MPด้วยเหมือนกัน ดังนั้นในความเป็นจริงแล้ว MPที่ฟื้นฟูได้ต่อ1ครั้งก็ประมาณ3น่ะ  ก็นะ แค่นั้นก็ได้  จากนั้นผมก็เรียกมอนสเตอร์ของเวทอัยเชิญแรงค์5ออกมา 「Summon・Element:WInd」  หญิงสาวเปลือยกึ่งโปร่งแสงปรากฏตัวออกมา  Wind・Elemental  Summon・Elementก็คือ เวทมนตร์อัญเชิญจิตวิญญาณของทั้ง4ธาตุแต่ละธาตุที่ถูกระบุออกมา  ถ้าเรียกFire・Elementออกมาในป่าแบบนี้มันก็ดูท่าจะแย่ไปใช่มั้ยล่ะ  บนบกแบบนี้จะใช้เรียกWater・Elementออกมาก็ดูจะเป็นวิธีการใช้งานที่แย่ไปหน่อย  Earth・Elementที่เหลืออยู่ก็ไม่ใช่ว่าแย่หรอก แต่ถ้าต้องการปราการอันแข็งแกร่งล่ะก็ ตอนนี้มีอัศวินดำอยู่แล้ว  เพราะฉะนั้น ผมจึงได้เรียกWind・Elementalออกมา  อ้า แต่ว่า  มองดูหญิงสาวร่างเปลือย  อปไปขนาดใหญ่2ลูก  ปวดหัวเลย  นึกถึงอะไรแย่ๆขึ้นมาแล้วสิ  ผมใช้Deportationส่งตัวWind・Elementalกลับไป  เสร็จแล้วก็เรียกEarth・Elementออกมาแทน  มอนสเตอร์ที่ทั้งร่างเป็นหินตัวใหญ่ดูหยาบกร้านปรากฏตัวออกมา  อื้ม ไอ้นี่แหละใช้ได้  เจ้านี่ดีกว่า  ผมออกคำสั่งให้Earth・Element มุ่งหน้าไปยังเสาหินต้นถัดไป  อาเร๊ะ  ทำไมผม ถึงต้องมาวิ่งวนไปวนมาในดงเสาหินด้วยล่ะ?  น่า ช่างมัน  ปวดหัว  ขาพันกัน  ล้มลง โดนอะไรสักอย่างถีบเข้า  พอเงยหน้าขึ้นมาดู ก็พบกับศัตรูที่เข้ามาล้อมจากทั้ง4ทิศ  อ้า นั่นมันก็ แน่นอนล่ะ  ต่อให้ออร์คโง่แค่ไหนก็ตาม โดนการโจมตีแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา ยังไงก็ต้องรู้สึกตัวอยู่แล้วล่ะ  ไม่ได้ซ่อนเสียงต่อสู้ด้วยสิ  มันก็เลย มาตอบโต้สินะ  ผมสั่งให้อสูรรับใช้ทั้งหลาย ออกไปรับมือศัตรูจากทั้ง4ทิศ  ไม่รู้หรอกว่ามีMPอยู่ประมาณเท่าไหร่ แต่ผมเรียกEarth・Elementออกมาอีก2ตัวแล้ว  อัศวินดำ ใช้ดาบที่มีประกายแวววับฟาดฟันใส่พวกออร์ค  ส่วนEarth・Element กวาดแขนที่อัดแน่นด้วยก้อนหินนั้น ซัดพวกออร์คจนล้มระเนระนาด  อัศวินดำถูกจัดการไปแล้วตัวหนึ่ง  พอหันไปดู ทางด้านนั้นมีElite・Orcทะยานเข้ามา  อ๊ะ แย่แล้วสิ  น่า ช่างมัน  ตายที่นี่ไป ก็ดีเหมือนกัน  ฆ่าผมทีเถอะ  ผมยื่นมือออกไปหาElite・Orcที่กำลังวิ่งเข้ามาใกล้ 「ไง ขอบคุณนะ」  ยิ้ม  เงยหน้ามองขวานยักษ์ที่กำลังถูกฟันลงมา ด้วยรอยยิ้ม  น้อมรับอาวุธอันชั่วร้ายที่กำลังจะเข้ามาผ่าหัวของผมออก ด้วยความสงบ  แต่ว่า…… 「คาซึซัง!」  เสียงของทามากิ (ฮิ้วววว นางเอกมาแล้วว ชูป้ายไฟสิครับมัวยืนรออะไรกันอยู่ \\doctornopชูป้ายไฟขึ้นนำก่อนเลย)  เสียงปะทะกันของโลหะดังขึ้น แกร๊ง ดังสะท้านไปทั่ว  ขวานยักษ์ของElite・Orc กระเด็นไปบนท้องฟ้า  ทามากิพุ่งเข้ามาอยู่ข้างผม  ที่มือขวาของเธอคือดาบสีเงิน ส่วนมือซ้ายคือไฟฉาย  ทามากิใช้ไฟฉายส่องไปยัง Elite・Orc  แสงสว่างส่องเข้าไปที่หน้าเต็มๆ ออร์คผิวสีทองสัมฤทธิ์หลับตาลงโดยไม่ตั้งใจ  ทามากิอาศัยจังหวะนั้น กระชับช่องว่างเข้าไปหาElite・Orc  แสงจากดาบสว่างขึ้นมาครั้งหนึ่ง  Elite・Orcถูกฟันตั้งแต่ช่วงอกลงมาเป็นรอยลึก ลบลงไปทันที  แล้ว  ผมก็วาร์ปไปที่ห้องสีขาว  ทำไมล่ะ ไม่มีเสียงเลเวลอัพดังขึ้นซะหน่อย  อ๊ะ ที่มือซ้ายนั่น แหวนสีแดงกลับมาแล้ว  งั้นเหรอ อ้า  ทามากิเลเวลอัพอย่างนั้นเหรอ  ผมเงยหน้าขึ้น  ห้องสีขาว  ที่ห้องนี้ มีผมกับทามากิอยู่ด้วยกัน2คนเท่านั้น 「คาซึซัง! หาตัวเจอจนได้!」  ทามากิที่กำลังหายใจหอบ พุ่งเข้ามายังหน้าอกของผม  ถูแก้มไปมา ราวกับเป็นหมาน้อยตัวหนึ่ง

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้