Boku wa Isekai de Fuyo Mahou บทที่ 54 อดีต ปัจจุบันและทามากิ

ที่ห้องสีขาว ผมถูกทามากิกอด  ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ  ทำไมผม……  อ้า ช่างมันปะไร  น่ารำคาญ  ผมผลักเธอออกไป 「คาซึ……ซัง?」  ทามากิเงยหน้ามองผม สายตาของเธอดูตกตะลึง  ตกใจ และสั่นกลัว  เธอมองสังเกตผม อย่างหวาดระแวง…… 「คาซึซัง ทำไมเหรอ ทำไมถึงไม่ยอมรอชั้นเหรอ ชั้นน่ะ ตามหามานานมากเลยนะ อริสเองก็หายตัวไป……จริงด้วย ไม่ได้อยู่กับอริสเหรอ?」  อริส?  อ้า อริสเหรอ  อริสน่ะ……  ภาพเก่าๆย้อนเข้ามาจู่โจมผมอีกครั้ง  อริสที่ถูกไอ้เชี่ยนั่นเข้ามากอด  อริสที่เดินเคียงคู่ไปกับไอ้เชี่ยนั่น  ผมร้องลั่น ล้มตัวลงหมอบคู้ลงไปที่นั่น  ยกมือขึ้นมากุมหัว ตัวสั่น  ทามากิรีบเข้ามาใกล้ผมทันที 「คาซึซัง นี่ คาซึซัง เกิดอะไรขึ้น」  ทามากิเขย่าไหล่ของผม  พอเงยหน้าขึ้นมา ก็พบกับใบหน้าของธอที่ชะเง้อมองผมด้วยความเป็นห่วง  ทามากิเนี่ย ขนาดสภาพของผมในตอนนี้ดูไม่ได้เลย ยังเป็นห่วงอีกงั้นเหรอ 「ผมน่ะ……」  ทามากิตีสีหน้าตึงเครียดราวกับตัดสินใจอะไรได้แล้ว 「ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ แต่ว่า คาซึซัง ความทุกข์ของคาซึซังในตอนนี้น่ะ เข้าใจนะ ชั้นน่ะ เข้าใจ」 「คนอย่างเธอเธอจะไปเข้าใจอะไร!」  สมองในหัวของผม โดนอะไรสักอย่างเขี่ยกระเด็นไปแล้ว  ภายในหัวมันขาวโพลนไปหมด  จิตวิญญาณสีดำมืดแห่งความทุกข์ ล้นทะลักราวแมกม่า ห่อหุ้มตัวผม  รู้สึกตัวอีกที ผมก็ผลักทามากิจนล้มไปบนพื้นแล้ว  หายใจถี่รัว ตามเข้าไปกดทามากิต่ออีก  ทั้งๆอย่างนั้น  ทามากิก็ยังไม่ได้ขัดขืนเลย  หากจะขัดขืนล่ะก็ ตัวเธอที่มีสกิลร่างกายแรงค์1 ยังไงๆก็ผลักผมออกไปได้อยู่แล้ว  แต่ว่าเธอน่ะ ไม่ได้ทำอย่างนั้น  ทั้งๆที่ร่างกายสั่นไปหมดแท้ๆ แต่กลับไม่ยอมหนี  จ้องมองผมตรงๆ 「เอาสิ คาซึซัง ถ้าชั้นจะพอทำประโยชน์ให้ได้บ้างล่ะก็」  ยิ้มออกมา รอยยิ้มเพื่อให้ตัวผมสบายใจ  แล้วก็ ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้……  ประสานริมฝีปากกัน  ไม่เหมือนกับจูบของอริสที่เร่าร้อนดั่งเพลิงไฟ นี่เป็นเพียงการสัมผัสริมฝีปากเบาๆเท่านั้น  แต่ความรู้สึกที่ทามากิพยายามจะสื่อนั้น ถูกส่งผ่านมาอย่างครบถ้วน  ความอบอุ่นของทามากิ โอบกอดผมเอาไว้ 「ทำไม……กัน……เธอ……เข้าใจงั้นเหรอ」 「เข้าใจสิ ถึงจะไม่รู้เหตุผลที่ทำให้คาซึซังดูขมขื่นขนาดนี้ก็ตาม แต่ความรู้สึกขมขื่น ความรู้สึกเป็นทุกข์น่ะ ชั้นเข้าใจ ชั้นเข้าใจดีว่า คาซึซังในตอนนี้น่ะ จะปล่อยให้อยู่ตัวคนเดียวไม่ได้」  เพราะฉะนั้น ทามากิพูดออกมา 「ครั้งนี้แหละ ถึงคราวชั้นช่วยคาซึซังบ้างแล้ว」  ทามากิยิ้ม รอยยิ้มของเธอเจิดจ้าราวดวงตะวัน          ※  หลังจากจบเรื่องนั้น ทามากิก็ประคองหัวของผมไปซบที่อกของเธอ  ตัวผมที่มีเสียงสะอึกสะอื้นออกมาจากลำคอ ปล่อยให้เธอกอดเงียบๆ 「อาโนเนะ คาซึซัง ชั้นน่ะนะ เพราะคาซึซังเลยแหละ วันนี้ทั้งวันน่ะ มีความสุขมาก บางทีคงจะเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตแล้วล่ะ เพราะงั้น นี่น่ะ เป็นการตอบแทนเล็กๆน้อยที่ชั้นพอจะทำให้ได้」  ทามากิพูดพลาง ลูบศีรษะของผมอย่างอ่อนโยน 「นี่ คาซึซัง บอกหน่อยสิ เกิดอะไรขึ้นเหรอ」  ผมลังเล  เมื่อได้ฟังที่ผมเล่าแล้ว เธอจะคิดยังไงกัน  พอได้รู้จักตัวผมที่น่าสมเพชขนาดนั้นแล้ว เธอจะ…… 「ไม่เป็นไรหรอก ชั้นน่ะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะอยู่ข้างเดียวกับคาซึซังเสมอแหละ ชั้นตัดสินใจไปแล้วล่ะ สิ่งที่คาซึงซังคิดว่าน่าอับอาย สิ่งที่คิดว่าน่ารังเกียจ ทั้งหมด ชั้นจะรับเอาไว้เอง อยากจะรับเอาไว้น่ะ」  ผม เงยหน้าขึ้นมาอย่างหวาดๆ  ทามากิยิ้มอย่างอ่อนโยน 「ลองคิดดูก็ได้นะ คาซึซัง ตัวชั้นเมื่อตอนเช้าน่ะ น่าสมเพชขนาดไหน」  ผมยิ้มแห้งๆออกมา โดยไม่ตั้งใจ  ก็จริงนะ  สั่นกลัวจนขยับตัวไม่ได้ ฉี่ราด ทามากิในตอนนั้นน่ะดูไม่ได้เลยจริงๆ  แต่ทว่า นั่นมันก็เป็นเพราะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น รวมกับเหตุการณ์อันน่ากลัวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นแล้ว ก็แค่เป็นเคราะห์ร้ายทีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้นเอง……  แต่ผมน่ะไม่ใชช่  แผลใจที่ผมเก็บซ่อนเอาไว้ มันน่าสมเพชยิ่งกว่านั้นอีก 「คาซึซัง ชั้นน่ะนะ ถูกอริสขอร้องมา 」 「อริส……เหรอ?」 「ถ้าหากตนเองต้องตายไปล่ะก็ อริสพูดมาน่ะนะ คิดว่าคาซึซังจะต้องเสียใจมากๆแน่ๆ บางที อาจะจคิดสั้นก็เป็นไปได้ น่ะ」  อริสเนี่ย……พูดแบบนั้นออกมาด้วยงั้นเหรอ 「ที่ถูกขอร้องมาน่ะ ไม่ใช่เรื่องราวหลังจากนั้น เป็นก่อนหน้านั้น หากปล่อยให้เรื่องมันเกิดขึ้นล่ะก็ มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะงั้น ชั้นน่ะ เพื่อไม่ให้ถูกคาซึซังฆ่าเอา จะต้องมอบร่างกายของตัวเองให้คาซึซัง」 「……ทำไม ล่ะ?」  ผมไม่เข้าใจความหมายของเธอจริงๆ จึงถามออกไป  แต่ว่าทามากิน่ะกลับมีสีหน้างุนงงซะงั้น 「ก็คาซึซังอ่ะ ถ้าถูกอริสหักหลังล่ะก็ จะต้องฆ่าชั้นแน่ๆเลยใช่มั้ยล่ะ ถ้างั้นหากอริสตายไปล่ะก็……เนอะ」  เอ๊ะ? ผมพูดออกไปเพราะไม่เข้าใจเลย  แต่ว่าทามากิเองก็ เอ๊ะ? เอียงคอเหมือนกัน 「เมื่อเช้า พูดไม่ใช่เหรอ」 「รอเดี๋ยวก่อนนะ」  ที่พูดคุยกันเมื่อเช้า มีเรื่องนี้ด้วยงั้นเหรอ  ……อาจจะมีก็ได้แฮะ  ไม่สิ นั่นก็แค่พูดเล่นกันเท่านั้น……  เดี๋ยวนะ  ถ้าหากอริสเอาจริงล่ะ?  ก็อริสน่ะ กับทามากิแล้ว……  พอลองคิดในมุมนั้นดู เมื่อเช้า สาเหตุที่อริสบอกว่า ต้องโอบกอดทามากิก็คือ…… 「บางที เรื่องที่ผมไม่ค่อยจะสนใจเนี่ย พวกเธอดูท่าจะเก็บรายละเอียดมาหมดเลยนะ」 「อ้าーอาจจะนะ」  ทามากิหัวเราะเอิ๊กอ๊าก 「แต่ว่า เป็นแบบนี้แล้วได้เลิฟๆกับคาซึซัง มันก็โอเคーล่ะมั้งเนอะ」 「เธอ……คือว่า」 「อ๊ะ เมื่อกี้บอกไปแล้วนี่ ให้ชั้นเป็นตัวแทนของอริสก็ได้ แค่นั้นก็พอใจแล้วล่ะ หัวใจของคาซึซังน่ะ มอบให้อริสนั่นแหละดีแล้ว ไม่สิ อยากให้ทำอย่างนั้นน่ะ เพราะงั้นนะ คาซึซัง」  ทามากิพูด ครั้งนี้ เธอเผยยิ้มเต็มใบหน้า  มองหน้าผมด้วยแววตาที่จริงจัง 「บอกมาสิ ชั้นจะ รับทั้งหมดเอาไว้เอง เกิดอะไรขึ้นเหรอ สิ่งที่ทำให้คาซึซังเป็นทุกข์อยู่ คืออะไรเหรอ」  ผม ลังเลสักพัก……  หลังจากนั้น ค่อยๆ ค่อยๆ ค่อยๆเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองจนถึงเมื่อวานนี้ออกไป  ทำไมผมถึงต้องขุดหลุมกับดักขึ้นมา  ที่ฝั่งมัธยมปลาย ผมเป็นคนแบบไหน  และผมมีความรู้สึกยังไงกับ คนที่ชื่อชิบะ  จากนั้น ผมก็เล่าเกี่ยวกับภาพที่ได้เห็นเมื่อกี้  ชิบะเข้ามากอดอริส พาเธอไป เล่าเรื่องราวที่ราวกับฝันร้ายนั่น ออกไปช้าๆ  ทามากิ ตอบรับเป็นช่วงๆ ฟังเรื่องราวของผมเงียบๆ  หลังจากที่ฟังจนจบ เธอก็ยกหัวของผมเข้ามากอด  ศีรษะของผม ถูกกดเอาไว้ที่ร่องกลางระหว่างเนิน2ลูก  อบอุ่นเหลือเกิน  ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ  สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของเธอ สัมผัสได้ถึงการเต้นของชีพจร ระหว่างนั้นอารมณ์ของผมก็เริ่มสงบลง  ก่อนที่ผมจะอึดอัดเกินไป ทามากิก็ปล่อยศีรษะของผมออก  มองหน้าของผม ยิ้มอย่างคับแค้นชิงชัง 「ชั้นน่ะ ตอนนี้นะ รู้สึกอยากจะฆ่าล้างพวกที่อยู่ชั้นมัธยมปลายจริงๆ」  ปฏิกิริยาเหมือนกับอริส  สมแล้วที่เป็นเพื่อนสนิทกัน  ผมยิ้มแห้งๆ 「ฟังนะ คาซึซัง สำหรับชั้นแล้ว คาซึซังสำคัญกว่าพวกมัธยมปลายทั้งหมด คิดว่าอริสเอง มิอะจังเองก็รู้สึกเหมือนกับชั้นแน่ๆ แล้วก็นะ มีเรื่องที่อยากให้ฟังหน่อย」 「เรื่องที่อยากให้ฟัง?」 「ไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ว่าชิคิซังน่ะนะ ถูกแย่งแขนของมิอะจังไป แขนซ้ายที่เก็บมาได้น่ะ ยังไงก็ใช้เวทมนตร์ที่ช่วยรักษาสภาพไปแล้วล่ะ ……Stesis รึเปล่า หลังจากนั้นชิคิซังก็เป็นคนเก็บรักษาไว้น่ะ……ชิคิซังไม่ได้บอกมาหรอกว่าใครเป็นคนแย่งเอาไป แต่ซากุระจังน่ะ ดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงปืนด้วยล่ะ」  เสียงปืน  ผมตะลึง  ตอนที่ใช้อสูรรับใช้อีกาออกไปสำรวจ ไอ้ชิบะมันถือปืนเอาไว้ในมือ  ชิคิซัง ถูกไอ้ชิบะข่มขู่เอางั้นเหรอ?  แล้ว แขนซ้ายของมิอะก็ถูกแย่งเอาไป?  แล้ว เดี๋ยวนะๆ  ไอ้ชิบะ มันมีเป้าหมายอะไรถึงต้องแย่งเอาแขนของมิอะไปด้วยล่ะ 「อาโนเนะ คาซึซัง รู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าอริสก็เป็นเด็กที่ถูกขอมาเลี้ยงเหมือนกับชั้น」 「อ้า」 「ก่อนหน้านี้ เคยได้ยินมาน่ะ ญาติของครอบครัวของคนที่เอาอริสมาเลี้ยง ดูเหมือนจะเป็นกรรมการบริหารของโรงเรียนด้วยล่ะ เพราะงั้นอริสถึงถูกส่งมาที่นี่ไง」 「ญาติ……กรรมการบริหาร」 「แล้วก็นะ ญาติของอริสน่ะ มีลูกชายเรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ด้วย……อริสน่ะ ได้คนๆนั้นช่วยดูแลมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว」 「ชื่อของคนๆนั้นคือ」  ทามากิส่ายหัว  งั้นเหรอ ไม่รู้ชื่องั้นเหรอ  ผมถอนหายใจ 「แต่ว่า ไอ้ชิบะน่ะ……」  ไอ้บ้านั่นมันจะใจดีกับคนอื่นงั้นเหรอ?  ……ไม่สิ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้  หมอนั่นน่ะ แต่เดิมแล้วจะให้ความสำคัญกับคนที่ตนเองสนใจ ส่วนคนที่ตนเองไม่สนใจก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดให้พ้นทาง  ผมถูกมันรังเกียจ  แต่ว่า พวกคนที่เข้าไปประจบเจ้านั่น ก็มักจะได้อะไรติดไม้ติดมือมาด้วยเสมอ  เจ้านั่นเอง ก็รู้ว่าตัวเองมีอำนาจอันแข็งแกร่ง สามารถเพิ่มพรรคพวกได้ตามที่ต้องการ  ขี้โกงที่สุด  เพิ่มพวกพ้องอย่างชาญฉลาด เพื่อเสริมอำนาจของตัวเอง  เพราะงั้น ตอนที่รู้สึกตัวอีกที แม้แต่ครูเองก็ไม่สามารถต่อต้านมันได้แล้ว  ถ้าหากอริส ถูกมันชื่อนชอบเอาล่ะก็……  ญาติ อายุน้อยกว่า1ปี  เมื่อถึงปีหน้า คุณค่าให้ใช้งานก็จะปรากฏออกมา หากมันคิดแบบนี้ก็เลยพยายามเอาใจเธอไว้ล่ะก็ ……  อย่างนี้นี่เอง สำหรับเธอแล้ว อาจจะเป็นญาติผู้พี่ที่ดีเลิศมากๆก็เป็นได้  อริสน่ะ เมื่อวาน ได้ฟังเรื่องราวที่ผมเล่าไปแล้ว  ทั้งๆอย่างนั้น ยังหลงคารมไอ้ชิบะอีก……  บ้าเอ๊ย  ทามากิร้องโอดโอยขึ้นมา  พอหันไปมองดู มือของผมกำแขนของทามากิเอาไว้อย่างแรง  ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่ผมจิกเล็บเข้าไปที่ผิวอันเนียนนุ่มของทามากิ  ผิวหนังลอก เลือดไหล 「ขะ ขอโทษ ทามากิ」 「ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง ถ้าเทียบกับความเจ็บปวดทางใจที่คาซึซังได้รับแล้วล่ะก็ จะนับเป็นอะไรได้」  ทามากิพูดพลาง ยิ้มออกมาให้ผมคลายกังวล 「อีกอย่าง ยังไงถ้าออกไปจากที่นี่ บาดแผลก็หายอยู่แล้วด้วย」  มันก็……จริงอยู่ล่ะ  ว่าไงดีล่ะ……เลวที่สุดเลย จริงๆ  ผมยกมือขึ้นมากุมหัว 「นี่ คาซึซัง」  แต่ว่าทามากิน่ะ มองเข้าไปที่จิตใจอันดำมืดของผม แล้วยิ้มออกมาให้  ดึงผมเข้าไปกอดไว้ ลูบหลังพร้อมทั้งปลอบประโลมว่าไม่เป็นไรๆ ด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน 「ไปยืนยันกันเถอะ ความรู้สึกของอริสน่ะ เพราะไม่รู้ถึงได้ลังเลแบบนี้ไง ชั้นก็จะไปด้วย อริสคิดอะไรอยู่ถึงได้ยอมไปกับคนที่ชื่อชิบะ อริสอยากจะทำอะไร ไปยืนยันให้แน่ใจก่อน แล้วค่อยกลับมาคิดดีกว่านะ」 「ทามากิ……เธอ」 「แล้วก็นะ ถ้าอริสเปลี่ยนใจล่ะก็ ใช้กำลัง พาตัวกลับมาเลย ลักพาตัวคนรักไง!」  ……อ้า  งั้นเหรอ อย่างนั้น……สินะ  ผมมัวแต่ลังเลอะไรอยู่ล่ะ 「คาซึซัง บอกหน่อยสิ ยัง ชอบอริสอยู่รึเปล่า?」 「……อ้า ชอบ รัก ทีสุดเลย」 「ค่อยยังชั่ว ถ้าไม่พูดแบบนี้ออกมาล่ะก็ จะรู้สึกเศร้านิดๆน่ะ」  เธอยิ้มออกมา ถึงแม้จะรู้ว่าตนเองไม่ใช่ที่หนึ่งก็ตาม  ไม่เห็นร่องรอยของความเศร้าเลย  ตัวผมที่ถูกพันธนาการมือและเท้าเอาไว้ เธอรู้ดีว่าจะต้องค่อยๆปลดปล่อยมันออกมา  มันคือความเจ็บปวดเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นที่หัวใจของเธอ  แต่ผมน่ะ ไม่เคยสังเกตมาก่อนเลย 「คาซึซัง ไปทางระดับมัธยมปลายกันเถอะ」  ทามากิพูดขึ้น 「ไปที่ระดับมัธยมปลาย อะไรคือความจริงกันแน่ ไปพิสูจน์กันนะ」  พูดจบ เธอก็ฉีกยิ้มกว้างเท่าที่จะทำได้ให้ผม ทามากิ:เลเวล12  การใช้ดาบ6/ร่างกาย1 สกิลพอยท์2 「จะว่าไป ทามากิ เธอ การใช้ดาบเป็นแรงค์6ตั้งแต่เมื่อไหร่……」 「หลังจากแยกจากคาซึซัง ก็ไปต่อสู้มานิดหน่อยน่ะ กว่าจะมาถึงที่นี่ ก็ลำบากพอตัวทีเดียว」  ผมพูด ขอบคุณ ทามากิอีกครั้ง  ลูบเส้นผมสีบรอนด์อย่างอ่อนโยน ฮะจิโกะทามากิ ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้

avatar

พระเอกกากจังสายซับพอทป้าเอ็งดิ ขนาดผู้หญิง หอกดาบ มึงบอกอะไรนะไม่ถนัด ถุ้ยๆๆ
อัพร่างกาย กับอาวุธระยะโกลก็ได้ควายคิดว่าแนวคิดมึงเท่หรอ

avatar

สู้เป็นตายมา54ตอนทำเป็นลูกตุดใจเสาะอีก ควาย ๆจริงๆ หมดคำพูดครับ สู้มาเพื่อความเเข็งแกร่ง เห้อ~~ ดาบเลเวล5แม่งจะสู้ปับออคยากหรอเต็มที่9เนี่ยสู้มังกรหรอมึงฝันกลางวันอะดิ

avatar

อี่ห่านี่อัพสกิลดาบ6 ร่างกาย1 เอาไว้รำดาบไง ถ้าสู้เป็นตายและแถมเป็นนักเล่นเกมส์พวกมึงมันตายไปหมดแล้ววววว โอมายว่ะ โม่ ชินเดรึ

avatar

กูอ่านมา54ตอนเพื่อดูการพัฒนาขึ้นนะมึงมันพัฒนาลงอ่ะไม่องไม่อ่านมันแล้วววว
เตรียมตัวฆ่าคนอย่างดีร้องไห้เพราะแฟนทิ้ง อ่าาาาา!!!!! โอ่โรกาน่ะ!!

avatar

ขอบคุณคนแปลเพราะคนอยากอ่านมีเยอะนะไม่ต้องซีเรียล