"ดะ เดี๋ยวสิเธอ" ผลไม้และดอกไม้ที่อยู่ในมือของหญิงสาวร่วงหล่นสู่พื้นหญิงสาวคนดังกล่าวกรีดร้องวิ่งหนีออกห่างจากตัวผมด้วยความกลัวสุดขีด
ยูสุเกะกำลังมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตน ทั้งสถานที่แปลกๆที่ตนก็ไม่ทราบว่าจู่ๆมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แถมพอเจอหญิงสาวผมขาวน่ารักน่าชม สาวคนนั้นก็ดันวิ่งหนีไปเสียก่อนจะได้ถามอะไรซะอีก แถมกรีดร้องซะยังกะเจอผี เขาหยิบผลไม้และดอกไม้ที่หญิงสาวทิ้งเอาไว้มาพิเคราะห์ดู อืม ดอกไม้และผลไม้พวกนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นของสำหรับบูชาเซ่นไหว้นะ
สาวคนเมื่อกี้เอาของพวกนี้มาบูชาเซ่นไหว้งั้นหรือ ยูสุเกะพยายามประมวลข้อมูลเพื่อเรียบเรียงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เมื่อมองไปรอบๆ พบว่าสถานที่นี้เหมือนกับเป็นวิหารหรือสถานบูชาอะไรซักอย่าง มีเทวรูปแปลกๆที่ก็ไม่รู้ว่าเป็นรูปปั้น ปีศาจหรือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่ บนโต๊ะมีเสื้อผ้าที่วางอยู่ ไอ้เสื้อผ้านี่ตกลงก็เป็นของบูชาเรอะ ช่างเถอะ ถึงจะเป็นเสื้อผู้หญิงก็ตามที หยิบมาใส่ก่อนดี
กว่าเปลือยกายล่อนจ้อนอย่างงี้
ให้ตายสิ ดูจากสภาพตัวเองแล้ว ก็ดูเป็นคนน่าสงสัยอยู่หรอก ไม่แปลกเลยที่สาวจะหนีจากเขา พอยูสุเกะออกมาข้างนอกวิหาร ก็พบว่าเป็นสถานที่ซึ่งไม่คุ้นเคย ต้นไม้แปลกตาขึ้นสูงหนาครึ้มไปหมด จนมองแทบไม่เห็นอีกฟาก ท่าทางที่นี่ จะเป็นสิ่งก่อสร้างซึ่งทำด้วยหิน ตั้งอยู่กลางป่าเขาแฮะ บรรยากาศดูเคร่งขรึม ศักดิ์สิทธิยังไงชอบกล เหมือนกับบริเวณศาลเจ้ายังไงยังงั้น ทางที่หญิงสาววิ่งหนีไป น่าจะเป็นทางที่สัญจรปลอดภัยนะ ก็มีรอยเท้าสัตว์เล็กสัตว์น้อยปนเปอยู่ด้วยนี่นา ดูดีกว่าการเดินดุ่มๆลัดต้นไม้ตั้งเยอะ
"ลองไปตามทางนี้ดูแล้วกัน"
เขาเดินไปตามเส้นทางนั้น เส้นทางที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหน พอนึกอย่างงี้แล้วก็ชวนให้หวาดระแวงอยู่มิใช่น้อย แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดิน เดิน และเดิน เพราะถ้าไม่เจอคน เขาก็ไม่มีทางได้ข้อมูลอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ถ้าเดินไปตามทาง ก็อาจได้เจอสาวน้อยคนเมื่อกี้อีกก็เป็นได้
"อาจารย์ อาจารย์เซชารด์
"อืม" คนที่ท่าทางจะชื่อว่าเซชาร์ด มุ่งหน้าสู่วิหารที่ยูสุเกะพึ่งจะออกมา ส่วนหญิงสาวคนเมื่อกี้ เกาะแขนและหลบอยู่หลังเซชาร์ดด้วยท่าทางหวาดกลัวยูสุเกะอย่างเห็นได้ชัด ขณะกำลังสนทนากัน
"เกิดอะไรขึ้น"
"ทำไงดีคะอาจารย์ เทพมารสีดำโผล่ออกมาแล้ว"
เทพมาร? เทพมารอะไรกันฟะ
"เอ่อ เทพมารสีดำอะไรกัน ช่วยอธิบายหน่อยจะได้ไหมฮะ" ท่ามกลางสายตาแห่งความระแวดระวังของอีกฝ่าย ยูสุเกะพยายามตั้งถามคำถาม คำตอบที่ได้รับ พอจะสรุปได้ว่า มนุษย์จะได้รับพรคุ้มครองจากเทพทั้งสี่ อันได้แก่ <เทพแห่งอัคคีโวลนา> <เทพแห่งวารีชาลนา> <เทพแห่งปฐพีซัลนา> และ<เทพแห่งวายุโฟลนา> ซึ่งแต่ละคนก็จะมีผมสีต่างกันออกไปตามชนิดเทพที่ให้ความคุ้มครอง คือเทพอัคคีก็หัวแดง เทพวารีหัว
ฟ้า เทพปฐพีหัวเหลือง เทพวายุหัวเขียว ส่วนคนที่ไม่ได้รับพรคุ้มครองเลย ก็จะมีผมสีขาว เหมือนอย่างสาวคนนี้ ซึ่งชื่อว่า ซุน
แต่ยังมีเทพอีกองค์หนึ่ง ซึ่งก็คือเทพมาร มีสีดำเป็นสัญลักษณ์ ดังนั้น คนที่มีผมสีดำ แถมโผล่ออกมาจากวิหารของเทพมารอย่างยูสุเกะ จะเป็นที่หวาดกลัวเอา ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงเวลา 52 ปีนับแต่ที่เซชารด์เกิดมา ไม่เคยพบเคยเห็นคนผมดำมาก่อน ทั้งจากการศึกษาวิจัยในช่วงสามสิบปี ก็ไม่เคยมีข้อมูลใดๆกล่าวถึงมนุษย์ผมดำเลย
"คุณเป็นใครกันแน่"
แม้เซชาร์ดจะเป็นคนแก่ แต่ท่าทางที่ปราศจากความกลัวพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และคอยปกป้องสาวน้อยที่อยู่ด้านหลัง ก็พอจะบอกได้ว่ามีฝีมืออยู่ไม่น้อย แม้ยูสุเกะจะไม่ได้รู้สึกถึงขนาดรังสีอำมหิตหรือจิตสังหารอะไรเเบบนั้นก็ตาม แต่ก็พอบอกได้ว่าไม่ใช่ท่าทีตอบสนองแบบเป็นมิตรสหายอย่างแน่นอน คงเกิดความเข้าใจผิดอะไรกันขึ้นสินะ ก็สาวน้อยทำท่าหวาดกลัวซะขนาดนั้น
ยูสุเกะจึงพยายามเอ่ยปากอธิบาย และแก้ความเข้าใจผิด "ผมชื่อ ทาคามิ ยูสุเกะ มาจากญี่ปุ่น เอ่อ ฟังรู้เรื่องรึเปล่าหว่า"
เอิ่ม ผมพูดภาษาญี่ปุ่นออกไปนี่หว่า แต่เอาเหอะ ดูท่าทางอีกฝ่ายก็ฟังรู้เรื่องละนะ
"อืม เราพูดภาษาพื้นฐานเหมือนกันก็ฟังรู้เรื่องอยู่สิ แต่ญี่ปุ่นนี่มันอะไรรึ ชื่อเผ่าพันธ์เหรอ"
คำตอบที่ได้ทำรับทำเอายูสุเกะงงเล็กน้อย อะไรฟะ ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาพื้นฐาน แต่เอ็งไม่รู้จักประเทศญี่ปุ่นเรอะ แต่
เอาเถอะ ตอนนี้เรื่องเล็กน้อยช่างมันไปก่อน
ยูสุเกะพยายามเล่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง ตั้งแต่ที่เขานั่งเล่นเกมอยู่ จนกระทั่งได้ยินเสียงพิลึกๆ เห็นภาพหลอนจักรวาลแปลกๆ จนมาโผล่เอาที่นี่
อา ถ้าไปเล่าให้คนอื่นฟัง คงไม่แปลกที่จะโดนหัวเราะเยาะหาว่าเป็นจูนิเบียว แต่กระนั้นเองเซชาร์ดก็ไม่ได้หัวเราะเลยซักกะนิด กลับพินิจพิเคราะห์เรื่องราวอย่างจริงจัง
อืม ทาคามิ ยูสุเกะ ชายผู้นี้โผล่ออกมาจากวิหารอย่างฉับพลัน ไม่ได้มีทริกเล่นกลอะไรทั้งนั้น ซ้ำยังเป็นผู้มาจากต่างโลกที่ได้รับพรจากเทพมารงั้นหรือ "เป็นเรื่องน่าสนใจดีนี่ แต่ว่า นี่เป็นเทพมาร..."
"เดี๋ยวสิ ผมเป็นคนธรรมด๊าธรรมดานะเออ"
"ทั้งที่คุณเป็นผู้ส่งสารแห่งเทพมารเนี่ยนะ"
"ไม่ ไม่ ม่าย ก็บอกแล้วไงแค่คนธรรมดา"
ขณะที่ยูสุเกะกำลังคุยกับเซชาร์ด สาวน้อยที่ชื่อ ซุน นี่ก็เอาแต่หลบอยู่หลังเซชาร์ด "คุณมาที่โลกนี้เพื่อก่อหายนะงั้นสินะ"
"เอ่อ ผมนี่แหละที่ประสบความหายนะอยู่ ก็ดันมาโผล่ในที่แปลกๆแบบนี้เนี่ย"
เซชาร์ดวิเคราะห์สถานการณ์ดูแล้ว เห็นว่ายูสุเกะไม่น่าจะมีอันตรายอะไร จึงตัดสินใจพาร่วมทางกลับไปที่หมู่บ้าน ส่วนซุนนะเหรอ ก็ยังมีท่าทีทางกลัวผมไม่มีเปลี่ยน ระหว่างเดินทางกลับ ยูสุเกะกับเซชาร์ดก็พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลพื้นฐานต่างๆ
"อย่าบอกนะว่าคุณมีโรคระบาดร้ายแรงติดตัวมาแพร่เชื้อให้โลกเราเกิดหายนะ"
"ผมสุขภาพแข็งแรงดีน่ะ"
ตามปกติ ยูสุเกะไม่ใช่คนมีนิสัยพูดมากแต่อย่างใด แต่เนื่องจากเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล ในขณะที่เซชาร์ดกำลังอารมณ์ดี จึงได้พูดคุยกันไปมิใช่น้อย ซึ่งชายชราผู้นี้ก็ทำให้ยูสุเกะรู้สึกอุ่นใจพอดูทีเดียว ส่วนชายชรา ก็คอยแอบสังเกตการณ์ชายหนุ่ม ซึ่งพบว่าทั้งๆที่ยูสุเกะถูกโยนเข้ามาในต่างโลกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่กลับใจเย็น ไม่โหวกเหวกโวยวาย จึงน่าสงสัยว่าที่เล่ามานี่เรื่องจริงหรือเปล่า
"เสื้อที่ใส่อยู่นี่ ดูไม่ค่อยสะดวกเลยแฮะ"
ก็ไอ้เสื้อที่ยูสุเกะใส่อยู่นี่มันผ้าบางๆ สำหรับเซ่นไหว้ในวิหารนี่หว่า เมื่อเทียบกับเซชาร์ดที่ใส่ชุดคลุม มีแจ๊กเก็ตดูภูมิฐานแล้ว ชุดยูสุเกะดูยังกับพวกยากจนไม่มีอะไรจะใส่เลยทีเดียว
"อย่างน้อยขอเสื้อ กางเกงตามปกติก็ยังดีน้า"
ทันใดนั้นยูสุเกะก็หยุดเดิน สายตากลับไม่ได้โฟกัสไปที่ทางเดินข้างหน้าอีกต่อไป แต่กลับใส่ใจกับอะไรบางอย่าง เซชาร์ดซึ่งเดินนำหน้าไปสองสามก้าวแล้ว จึงหันกลับมาเช็คว่ามีอะไรผิดปกติหรือปล่าว
"เกิดอะไรขึ้น"
"เห้ย นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย" หยิกแก้มก็เจ็บ อืมไม่ใช่ฝันแน่นอน สิ่งที่ปรากฏต่อหน้ายูสุเกะ เป็นภาพเมนูสกรีนที่คุ้นเคย เหมือนกันภาพเมนูเกมที่เขาเคยเล่น ใช่แล้ว ก็เกมที่สามารถปรับแต่งไอเทมได้ แต่บาลานส์เกมมันกากสุดๆยังไงล่ะ บัดนี้ภาพไอเทมในเกมปรากฏขึ้นมาเป็นภาพสามมิติ และมีออฟชั่นให้ปรับแต่งไอเทมได้เสียด้วยสิ เขาได้ยินเสียงกระดิ่งเบาๆ ดัง ปิ๊ง อยู่ในหัวอีกแล้ว ซึ่งคราวนี้เขารู้ตัวแล้วว่า เจ้าเสียงนี้มันเป็นเสียงสัญญาณเหมือนในที่เกมที่บอกว่าไอเทมนี้ปรับแต่งได้
"อะฮ้า นี่เราปรับแต่งไอ้สิ่งนี้ได้หรอกหรือเนี่ย"
เซชาร์ดกำลังงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เข้าใจซักกะนิดว่ายูสุเกะกำลังบ่นอะไร
"รอผมเดี๋ยวนะ"
ยูสุเกะทำท่าทางแปลกๆในสายตาของเซชาร์ด ใช่แล้ว เขากำลังปรับแต่งเสื้อผ้าอยู่นั่นเองเขาเลือกขนาด รูปร่าง ความยาว แม้กระทั่งสีเสื้อซะใหม่
โอ้ นี่ปรับแต่งได้หมดเลยนี่หว่า กระทั่งวัสดุที่ใช้ เหมือนอย่างในเกมเป๊ะ
"เห้ย ไม่มีค่าคอสในการปรับแต่งด้วยเหรอ ยังงี้ก็ปรับแต่งได้แบบไม่มีลิมิตเลยอะดิ"
ในสายตาของคนอื่น ซึ่งมองไม่เห็นเมนูปรับแต่ง ก็เหมือนกับยูสุเกะกำลังตาลอย มองอากาศและบ่นเพ้อเจ้อไร้สาระอยู่คนเดียว แต่สำหรับนักเวทย์อย่างเซชาร์ดนั้น รู้สึกได้ถึงพลังเวทย์แบบแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
"ทำอะไรอยู่น่ะ ทาคามิ ยูสุเกะ"
ในเกมอาจจะมีแต่ชุดจืดๆ ไม่มีให้เลือกสรรมากมาย แต่ถ้าปรับแต่งอย่างงี้ได้ ก็ปรับแต่งมันทีละส่วน แยกเป็นชิ้นๆไป เอาให้มันดูเข้ากัน จริงสิ ปรับแต่งสร้างกางเกงในออกมาด้วยละกัน
"ตกลง ปรับแต่งเอาตามนี้ล่ะ"
ยูสุเกะขยับมือไม้ บ่นพึมพัม ดูแล้วยังกะคนบ้า จนกระทั่งเขากดปุ่มตกลงก็เท่านั้นแหล่ะ เกิดแสงสว่างประหลาดขึ้นมาแวบหนึ่งห่อหุ้มตัวยูสุเกะ
"อะ เฮ้ย" เซชาร์ดตกตะลึกอย่างมาก
เสื้อผ้าที่เคยเป็นเสื้อสำหรับเซ่นไหว้ในวิหาร กลายเป็นชุดสีเทาดำ แถมด้วยกางเกงในสีน้ำเงินเข้ม
"ว้ายยยยยยย"
ซุนปิดตาและหวีดร้อง วิ่งหนีไปอย่างทันทีทันใด ทำไมนะหรือ ก็เพราะยูสุเกะกำลังเปลือยอยู่นั่นเอง เสื้อผ้าที่ปรับแต่ง มันดันกองอยู่ที่พื้นซะงั้น
"อืม เครื่องสวมใส่ที่เอามาปรับแต่ง มันจะถอดให้โดยอัตโนมัติสินะ เหอเหอเหอ"
ยูสุเกะหยิบเสื้อผ้ามาใส่ เซชาร์ดอยากได้คำอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนซุนหนีกลับหมู่บ้านไปก่อนแล้ว
"เมื่อครู่นี้มันอะไรกันยูสุเกะ เป็นศาสตร์เทพ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย"
"ศาสตร์เทพ คืออะไรล่ะเนี่ย"
หลังจากที่ได้คุยกันอีกหน่อย ก็พอเข้าใจว่าไอ้สิ่งที่ผมทำไปนั้น เป็นสิ่งแปลกพึลึกที่ไม่มีใครในโลกจะทำได้ ขัดกับคอมมอนเซนส์อย่างสิ้นเชิง
จึงตกลงกันได้ว่าจะให้ยูสุเกะอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านไปก่อน เพื่อสอนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโลกนี้ให้
ตรวจสอบคำผิด: 99.9% by kingtranslate
ปรับคำเเละเเปล: by kingtranslate
โดเนท wallet: 0958635784
ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้