Chaotic Lightning Cultivation บทที่ 1 เจ้าอ้วนลัทธิเต๋า

ในเทือกเขากว้างใหญ่ไกลสุดหูสุดตา ที่แห่งนี้มีหลายร้อยสำนักทั้งสำนักที่ยิ่งใหญ่เเละสำนักขนาดเล็ก เมฆาเร้นลับ เป็นหนึ่งในนิกายที่เคยมีอำนาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่าสำนักเมฆาเร้นลับจะเป็นที่รู้จักกันดีเมื่อประมาณ 2000 ปีที่เเล้ว ชื่อเสียงของสำนักนี้ดังกระช่อนไปไกลถึงหมื่นลี้ เเละไม่มีใครสงสัยในอำนาจของสำนักเลย ผู้ฝึกตนใด กล้าที่จะสร้างความเดือดร้อนที่นี่จะถูกฆ่าตายโดยไม่เมตตา เมฆาเร้นลับสร้างขึ้นจากการเหยียบย้ำคนจากสำนักหรือนิกายต่างๆ เป็นจำนวนมาก. พลบค่ำ ท่ามกลางของผู้ฝึกตนในสำนักเมฆาเร้นลับที่กำลังทานอาหารมือค่ำหรือกำลังฝึกกันอยู่ มีผู้ฝึกตนตัวน้อยอายุประมาณ 16-17 ปี ที่เป็นแกะดำท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น ตัวอ้วนเตี้ย ใส่เสื้อผู้ฝึกตนสีเขียวดูแลสกปรก แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ละเอียดอ่อนตามธรรมชาติ แต่กลับมีดวงตาเล็กๆ ซึ่งไม่ได้ทำให้มันมีลักษณะเหมือนผู้ฝึกตน แต่กลับเหมือนคนไร้การศึกษา นอกจากนี้ มันยังมีชื่อ เจียงซงกวง ซึ่งเสียงเหมือน “ซงกวง [送终]” ที่แปลว่างานศพของพ่อหรือแม่ ด้วยชื่อที่มีความหมายเช่นนั้นจึงถูกคนอื่นมองว่าชื่อมันเป็นชื่อของตัวซวย เลยไม่มีใครกล้าเรียกชื่อมันเลยเรียกว่า “อี้อ้วนน้อย” อ้วนน้อยอดีตที่น่าสังเวช พ่อแม่ของมันเป็นเหล่าสาวกของผู้มีอำนาจสูงในสำนักสาขา เเต่ 10 ปีที่เเล้ว พวกมันได้ประสบอุบัติเหตุและล่วงลับไป สำนักแห่งนี้มีการแข่งขันที่สูงและโหดร้าย ในขณะที่อ้วนน้อยมันไม่มีพ่อแม่คอยปกป้องมัน แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ พรสวรรค์ ซึ่งถือได้ว่าเป็น “ขยะ” เนื่องจากมันไม่มีพรสวรรค์และพ่อแม่คอยคุมกะลาหัวมันจึงถูกกลั่นแกล้งไม่ว่าใครก็แกล้งมันได้ คนที่มีความสัมพันธ์กับทั้ง 5 ธาตุในโลกนี้จะได้ชื่อว่า ขยะยิ่งกว่าขยะ เเม้ว่ามันจะสามารถฝึกวิชาได้ทั้งหมด แต่น่าเสียดายมันจะไม่สามารถเก่งด้านใดด้านหนึ่งได้เลยเเละจะไม่สามารถกลายเป็นผู้ฝึกตนที่เเท้จริง แม้โดยใช้ยาทิพย์นับไม่ถ้วนเพื่อช่วยในการฝึกอบรมมันก็ยังไม่มีทางที่จะทำให้มันเก่งด้านใดด้านหนึ่งได้ จึงไม่มีนิกายใดที่จะยอมเสียทรัพยากรเพื่อฝึกฝนพวกมันเหล่านี้ หากไม่ได้สำหรับศักดิ์ของพ่อแม่มัน อ้วนน้อยมันคงถูกไล่ออกจากนิกายตั้งนานเเล้ว มันก็คงจะตายเพราะอดอาหาร เเต่ถึงจะมีศักดิ์ของพ่อแม่มัน สถานะการณ์ของมันก็ไม่ดีนัก มันไม่สามารถได้รับการพิจารณาเป็นเป็นศิษย์ชั้นนอก มันก็เป็นได้เเค่คนรับใช้ต่ำต่อยที่มีหน้าที่ต่างจากคนอื่น มันมีหน้าที่จัดการกับขยะ เเม้อ้วนน้อยจะโง่เขลาเเละมีอนาคตมืดบอด เเต่มันก็อยากจะเป็นผู้เเข็งเเกร่ง เเม้ว่ามันจะผ่านประสบการณ์ที่โหดร้ายเเละน่ากลัวมานานกว่า 10 ปีเเล้ว เเต่ตัวมันเองก็มิเคยคอดที่จะยอมเเพ้ มันยังคงยืนหยัดเผชิญกับความยากลำบาก เเม้รู้ว่าตัวมันจะเเข็งเเกร่งขึ้น เเต่มันก็ไม่เคยพยามที่จะหยุดฝึกตน ทุกๆวัน งานที่มันได้รับนอกจากการเก็บกวาดขยะเเล้ว มันก็จะใช้เวลาที่เหลือในการฝึกตน เกือบ 20 ชั่วโมงต่อวัน มันพยายามฝึกนานถึงขนาดนี้ ถึงเเม้ว่าผู้ที่ชื่นชอบใน้เส้นทางแห่งอมตะจะไม่กล้าที่จะได้ยินเลยว่ามันฝึกขนาดไหน คงไม่มีใครจะนั่งเป็นรูปปั้นนานถึงขนาดนั้น เเค่ฝึกตน 16 ช.ม โดยไม่ได้มีสนุกกับชีวิตหรือคุยกับใครเลย มีเพียงจุดมุ่งหมายเดียวคือมุ่งเน้นไปเพียงการฝึก ความรู้สึกอย่างนั้นมันก็คงทำให้สมองคนกลายเป็นจ็กไปแล้ว ไม่มีใครนอกจากอ้วนน้อยเท่านั้นที่สมารถฝึกเเบบนั้นมานานถึง 10 ปีมันเชื่อว่าตราบใดที่มันไม่หยุดฝึกมันจะสมารถก้าวข้ามพวกคนที่เคยดูถูกมันมากก่อน สวรรค์จะไม่ทำให้ผู้ฝึกหนักต้องผิดหวัง อนิจาเอ๋ยเป็นอย่างที่มันคิด “สวรรค์จะไม่ทำให้ผู้ฝึกหนักต้องผิดหวัง” เมื่อคืนวานมันได้บ่มเพาะพลังจากขั้น โฮวเทียน เป็น เซียนเทียนกลายเป็นผู้ฝึกปฏิบัติจริงๆ เมื่อปุถุชนเกิดมานั้นพวกมันทั้งหมดจะอยู่ในขั้น โฮวเทียนเฉพาะเมือพสกมันเหล่านั้นได้กำจัดของเสียในร่างกาย[ชำระล้างไขกระดูก]หมดเเล้วจาก โฮวเทียน ก็จะเปลี่ยนเป็นเซียนเทียนก็จะสามารถฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้ได้ หากพวกมันทำขั้นตอนเหล่านี้สำเร็จก็จะเป็น ผู้ปฏิบัติ เเต่หากไม่สามารถทำได้ก็จะเป็นเพียงปุถุชนธรรมดาตลอดชีวิต จากการที่มันมาถึงขั้น เซียนเทียน อ้วนน้อยไม่ได้ดีใจเพียงแค่หัวเรอะอย่างข่มขืนเนื่องจากผู้ที่มีพรสวรรค์สามารถข้ามขั้นนี้ได้ก่อนที่พวกมันจะอายุ 10 ปีอัจฉริยะบางคนมันยังกินยาทิพย์ช่วยให้มันสามารถข้ามขั้น โฮวเทียน ในวัย 5 ปี หรือ น้อยกว่านั้นกล่าวอีกนัยหนึ่งเมื่อเทียบกับ เจียงซงกวง แล้วมันมีเวลามากกว่าใยขั้นเซียนเทียน ต้องรู้ก่อนว่าการฝึกตนเป็นเรื่องท้าทายสววค์และเวลา หากไม่สามารถบรรลุความคืบหน้าใด ๆ ก่อนอายุขัยจะสิ้นสุดลงสิ่งที่รอคอยอยู่จะไม่มีอื่น นอกจากความตาย เวลาที่ใช้ในบ่มเพาะหรือฝึกตนนั้นมีค่ามากและส่งผลโดยตรงต่ออนาคตของผู้ฝึกตน หากกล่าวถึง เจียงซงกวง ผู้ที่ต้องใช้เวลา 16 ปีในการข้ามอุปสรรคไปสู่การเป็นฝึกปฏิบัติที่แท้จริง แล้วมันก็คงต้องรอความตายเพียงอย่างเดียวหากไม่พบกับสมบัติ อันที่จริงแล้ว อ้วนน้อย กำลังเล่นการพนันอยู่ มันมีสมบัติที่ไม่รู้จักซึ่งพ่อแม่ของมันทิ้งไว้ ตามที่พ่อแม่ของบอก สมบัตินี้ได้มาจากถ้ำโบราณเมื่อมองไปรอบ ๆ ถ้ำก็เดาได้ว่าเจ้าของถ้ำ มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีโอกาสที่ทรัพย์สินของมันจะไม่ธรรมดา แต่น่าเสียดายก่อนที่พ่อแม่ของเจียงซงกวง จะสามารถคิดได้ว่าสมบัตินี้คืออะไร พวกมันก็ถูกส่งออกไปปฏิบัติภารกิจและไม่ได้กลับมาอีกเลย สมบัติชิ้นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่พ่อแม่มันทิ้งไว้ ความตั้งใจของ อ้วนหลังจากที่หลังจากอยู่ขั้น เซียนเทียน มันจะปรับแต่งสมบัตินี้ให้เป็น ชาตะวัตถุ [ค้างไว้ก่อน] ของมัน ถ้าเขาโชคดีและมันก็กลายเป็นสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์มันอาจเป็นทางออกสำหรับทุกปัญหาของอ้วนน้อย ถ้าไม่เช่นนั้นมันก็ทำได้เพียงรอสิ้นอายุขัย ด้วยการที่มันมีสมบัติน้อยู่ทำให้มันยังมีแสงแห่งความหวัง นี้เป็นครั้งแรกที่มันเดินเข้าไปในห้องโถงเครื่องรางของสำนักเมฆาเร้นลับ ซึ่งสาวกของนิกายจะฝึกเขียน ใช้ยันต์ของขลัง ทำให้มียันต์ของขลังทิ้งมากมาย เมื่อพวกศิษย์ต่างๆออกไปแล้ว หน้าที่ของอ้วนน้อยคือทำความสะอาดของขลังต่างเหล่านี้แต่เมื่อเทียบกับงานล้างจานปัดกวาดแล้วก็ถือว่าลำบากมากเพราะที่ทิ้งอยู่ไกล มีตะกร้า 2 ใบ ที่มันได้เก็บเครื่องรางใส่ไว้ ตามที่มันได้ถูกฝึกมาอย่างถูกต้อง เมื่อของขลังเต็มตะกร้าแล้วมันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว [ยังไม่จบ รอเเปลต่อ]

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้