True Martial World บทที่ 15 อสนีบาตเก้าเมฆา ศรจู่โจมปักษาร่วงหล่น

บริเวณลานฝึกยุทธเผ่าเหลียน ที่กลางลานบุรุษแข็งแรง 30 คน กำลังฝึกฝน จนเกิดพายุทรายเล็กๆ พวกเขาเป็นสมาชิกเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธของเผ่าเหลียน เหยาหยวน ครูฝึกยุทธของชนเผ่าเหลียน กำลังฝึกพวกเขา เขาเป็น 1 ใน 3 ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในระดับ 5 ของ ผู้ฝึกยุทธโลหิตมนุษย์ นอกเหนือจากหัวหน้าเผ่าและเหลียนเฉิงอยู่ เสียงดังสนั่นหวั่นไหวทะลุทะลวงไปสู่ท้องฟ้า สมาชิกเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธเหล่านี้ได้รับการดูแลอย่างยากลำบาก เป็นอย่างดีรายบุคคลโดยชนเผ่า ในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่ ตอนใกล้ฤดูหนาวเช่นนี้อากาศหนาวและมีลมแรง แต่สมาชิกทุกๆคนของเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธต่างหลั่งเหงื่อราวกับแม่น้ำจากการฝึกของพวกเขา บนแท่นสูงครูฝึกเหยาหยวน มองดูขมวดคิ้วแล้ว ตะโกนว่า “หยุด!” เสียงแผดก้องของเหยาหยวนดังราวฟ้าร้อง! เหล่าผู้ฝึกหยุดทันที “ข้าจะสอน ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ แก่เจ้า มันเป็นหนึ่งในวิชาพื้นฐานที่ได้รับมาจากอาณาจักรไทอา” “ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ มีสิบแปดท่า แต่ละท่วงท่าประกอบด้วยขุมความรู้อันล้ำลึก! สุกรโง่งมที่รู้แค่การเคลื่อนไหวแต่ไม่เข้าใจความรู้พื้นฐานอย่างเจ้า” “น่าประทับใจ แต่ไร้ประโยชน์!” คำพูดของเหยาหยวนทั้งหมดทำลายตั้งใจในการฝึกอย่างหนักเพื่อบ่มเพาะตัวเองของพวกเขา! แต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะเหยาหยวน มีศักดิ์ศรีสูงสุดในเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ เหลียนเฉิงอยู่ มีศักดิ์ศรีสูง เพราะ เรื่องในอนาคต เขาอาจกลาย เป็นยอดยุทธโลหิตม่วงหรือระดับที่สูงกว่านั้น เหยาหยวน มีศักดิ์ศรีสูง เพราะเรื่องในอดีต เขาไม่ได้เป็นสมาชิกของชนเผ่าเหลียน เขาเป็นคนจากภายนอก ก่อนหน้านี้เขาอยู่ในขอบเขตโลหิตม่วง แต่ได้รับบาดเจ็บในขณะถูกไล่ล่าโดยศัตรู จนสูญเสียพลังกลับคืนสู่ขอบเขต โลหิตมนุษย์ เขาเดินทางเข้าสู่ดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่เพื่อเสาะหาที่หลบภัย กว่าจะพบว่า ตัวเองเข้ามาอยู่ในเผ่าเหลียนแล้วหลายปี แม้ว่าจะสูญเสียพลัง เหยาหยวนก็ยังมีประสบการณ์ ไม่มีใครไม่มั่นใจประสิทธิภาพการฝึกของเขาในเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ นั่นก็เพราะ เหลียนเฉิงอยู่ ก็ได้รับการฝึกจากเหยาหยวน! คนหนุ่มอย่าง เหลียนเฉิงอยู่ เติบโตมาจากชนเผ่าเล็กๆ หากไร้คำแนะนำจากอาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธ จะสามารถบรรลุถึงระดับที่เป็นอยู่? “อย่าดูหมิ่น ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’” “ในอาณาจักรไทอาที่มีค่าที่มากที่สุดคือ ‘เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ไทอา’ แต่นั่นเจ้าจะได้รับเมื่อพวกเจ้าอยู่ในระดับขั้นที่สูงมาก ไม่ใช่สำหรับระดับ ขั้นที่ต่ำกว่า โลหิตม่วง! สำหรับผู้อยู่ต่ำกว่าระดับขั้นโลหิตม่วง เจ้าต้องฝึก ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’! แม้แต่เชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรไทอาก็ต้องปฏิบัติเช่นนี้!” “ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ เป็นทักษะชั้นสูงในการฝึกร่างกายเจ้า หากเจ้าจะวัดคุณค่าของมัน ‘ใช้ทั้งเมืองแลกก็ไม่เพียงพอ!’ อาณาจักรไทอาต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ราชอาณาจักรเพื่อให้ผู้ยากไร้ได้มีโอกาสเรียนรู้วิชายุทธและสามารถเผชิญพิบัติภัยอันตรายในดินแดนรอบนอก เป็นผลให้พวกเขาตั้งใจสร้าง ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ขึ้นเป็นวิชาสาธารณะ สามารถเรียนรู้ ทักษะวิชานี้ เป็นโชคดีของเจ้า!” “เพื่อเข้าถึงระดับ 5 ลมปราณรวบรวม ของโลหิตมนุษย์ เจ้าต้องผ่านระดับ แข็งแกร่ง,ประกาศศักดา,ฟ้าคำรามและชีพจรสัมพันธ์! และเพื่อการบ่มเพาะเหล่านั้น เจ้าจะต้องบ่มเพาะพละกำลัง ชำระกล้าม เนื้อ กระดูก และอวัยวะภายใน!” “แปดท่วงท่าแรกในชุดวิชา ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ จะชำระกล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน และกระดูก!” “หากเจ้าเข้าใจท่วงท่าเริ่มแรกทั้งหกของ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ เจ้าจะสามารถยกหม้อน้ำหนัก 1000 จินได้” “ความแข็งแรงที่ยกหม้อน้ำ 1000 จินได้ เจ้าสามารถวาดศรเก้าซือ (วาดศร = ยกคันธนูขึ้นตั้งท่ายิง,ซือ = หน่วยวัดน้ำหนัก) และน้าวคันศร ส่งลูกธนูออกไปไกลนับพันก้าว เจาะผ่านเสื้อเกราะโซ่” เสียงตะโกนแนะนำดังก้องของเหยาหยวน อี้หยุนไม่พลาดแม้คำเดียว “ยกหม้อน้ำ 1000 จิน วาดศรเก้าซือ…...” ในโลกที่อี้หยุนหลงเข้ามานี้ เก้าซือหนักประมาณ 900 จิน! “ฟังจากที่เหยาหยวนพูด ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ เป็นเคล็ดวิชาหมัดที่ดีมาก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอาณาจักรเปิดโอกาสให้ประชาชนไปได้เรียนรู้ นับว่าราชันแห่งอาณาจักรไทอา ปราดเปรื่องยิ่ง” อี้หยุนจับจ้องไปที่ลานฝึกยุทธทุกขณะจิตโดยไม่กระพริบตา เขาแอบมาเรียนรู้วิชายุทธที่นี่! วิชาหมัดมวยสำหรับทหาร อี้หยุนเคยเรียนจากกองทัพมาก่อนที่จะทะลุมิติ มันเป็นแค่วิชาข้างถนนใช้สำหรับทะเลาะกันแต่ไม่มีประโยชน์อันใด ในโลกใบนี้ แม้ว่าพละกำลังของเขาจะดีขึ้นอย่างมาก แต่หากไม่มีวิชายุทธ และเคล็ดวิชา เขาจะตกเป็นเบี้ยล่างของศัตรูอย่างแท้จริง! ไร้ซึ่งเคล็ดวิชา การบ่มเพาะของเขาจะช้ามากในอนาคต ปัญหาก็จะขยายมากขึ้นไปอีก ก็คงไม่ต้องหวังไปถึง สมบัติล้ำค่าของอาณาจักรไทอา ‘เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ไทอา’ “ครั้งแรกข้าจะแสดงให้เจ้าดูก่อน ดูอย่างระมัดระวัง!” “ท่วงท่านี้เรียกว่า ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ ดีสำหรับการฝึกเส้นเอ็น!” เหยาหยวนยืนอยู่หน้ากองไม้ และเหยียดเท้าซ้ายไปข้างหน้า เขาคว้าข้อเท้าซ้ายด้วยมือข้างซ้าย ก่อนที่จะงอเข่าขวา ด้วยร่างกายที่โค้งลงหลังของเขาคล้ายกับคันศร เปล่งเสียงอย่างแผ่วเบา ท่านี้แปลกมาก มันให้ความรู้สึกเหมือนคันศรที่โดนน้าว หมัดขวาของเหยาหยวนอยู่ที่เอวและมันก็เหมือนกับลูกธนูบนคันศร! ทันใดนั้น เหยาหยวนก็เคลื่อนไหว! ร่างกายของเขาเหยียดออกอย่างกะทันหัน “ปัง...” อี้หยุนได้ยินเสียงดังชัดเจนมากจากร่างกายของเหยาหยวน หมัดขวาของเหยายวนเคลื่อนไหวเหมือนสายฟ้า ชกใส่กองไม้! กองไม้แตกกระจายออกจากกัน! มีเสียงเป่าลมออกจากปากกระหึ่มไปทั่วจากสมาชิกเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ “ครูฝึกเหยา น่าทึ่งมาก!” “ให้ตายเถอะ กองไม้หนาขนาดนั้น เขาชกมันกระจายด้วยหมัดเดียวที่ครูฝึกเหยาสอน คือหนทางแห่งกำปั้นเหล็ก!” เหล่าบุรุษ ยอมสยบให้แก่เหยาหยวน ทุกคนชื่นชมอย่างแท้จริง ในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่ ความแข็งแกร่งเป็นที่เคารพบูชาเสมอ ใบหน้าของเหยาหยวนเต็มไปด้วยความโกรธ กับการประจบประแจงทั้งหมดที่ได้รับจากบุรุษเหล่านั้น “ที่เจ้าเห็นคือหมัดของข้า?” “ฮึ่ม! ข้าพูดก่อนหน้านี้แล้วว่า ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ คือ ท่วงท่าเพื่อฝึกเส็นเอ็น! เหตุที่หมัดของข้าทำลายกองไม้ได้ ไม่ใช่เพราะว่าหมัดของข้าแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะ ข้าใช้แรงจากเส้นเอ็นของข้า!” “ร่างกายของผู้คนเป็นขุมทรัพย์!” “เจ้ารู้หรือไม่ สมบัติของอาณาจักรไทอาที่เรียกว่า ‘ศรยิงดารา’ ทำจากอะไร?” บุรุษเหล่านั้น ต่างมีท่าทางโง่งม เมื่อเหยาหยวนถาม พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อ “ศรยิงดารา” และไม่เคยรู้ว่ามันทำจากอะไร “ทำจากไหม?” “ทำจากซี่โครงมังกรโบราณ?” เหยาหยวนส่ายศีรษะพูดว่า “ศรยิงดารา ทำจาก เส้นเอ็นของจักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักรไทอา หลังจากที่เสียชีวิตแล้ว” คำของเหยาหยวนทำให้ทุกคนตื่นตะลึง เส้นเอ็นมนุษย์ทำสายธนู!? “ถูกต้อง! ท่วงท่าที่ข้าใช้ ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ คือการยืดร่างกายทั้งหมดออกไป ใช้กระดูกเป็นคันศร เส้นเอ็นเป็นสาย และ ‘ยิง’ หมัดออกไป!” “ความสามารถในการส่งแรงอย่างดีที่สุดออกมาของเส้นเอ็นที่แข็งแรง คือ จุดสำคัญของ ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ ” “ดังนั้น ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ คือท่วงท่าที่ใช้ฝึกเส้นเอ็นไม่ใช่กำปั้น!” “เจ้าไม่ได้ยินเสียงร่างกายของข้า เมื่อปล่อยหมัด?” มีเสียงดังชัดเจนมาก คือตอนที่เหยาหยวนชก “ปัง” อี้หยุนได้ยินอย่างถนัดชัดเจน มันเป็นเสียงลั่นของสายธนูตอนที่ลูกธนูถูกยิงออกไป “ ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ เป็นทักษะในการดึงเส้นเอ็น สร้างความยืดหยุ่นและแข็งแรง! ณ จุดสูงสุดของ ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ เสียงเส้นเอ็นที่เพียงพอจะทำให้ ห่านป่าที่บินอยู่บนท้องฟ้าตกใจหล่นลงมา! นี่เรียกว่า ‘ศรอัศจรรย์ปักษาร่วง!’” “ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ อีกท่วงท่าคือ ‘มังกรทะยานเก้าชั้นฟ้า’ ซึ่งเป็นท่วงท่าฝึกกระดูก เมื่อชกออกไป กระดูกจะลั่นเสียงดัง เหมือนอัสนีบาตจากระยะไกล!” “ ‘ฟ้าคำรามเก้าเมฆา ศรอัศจรรย์ปักษาร่วง’ หากเจ้าเข้าไปถึงขอบเขตนี้ จะถือว่าเจ้าเข้าใจ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’!” หลังจากได้ยินคำพูดของเหยาหยวน ทุกคนต่างอ้าปากค้าง ต้องเป็นการพูดเกินจริง! มีผู้คนสามารถเข้าสู่ขอบเขตนั้น? เมื่อเห็นการแสดงออกเหล่านั้น เหยาหยวนรู้ว่าไร้ความหวัง เขาพูดต่อไป “ขอบเขตของ ‘ฟ้าคำรามเก้าเมฆา ศรอัศจรรย์ปักษาร่วง’ เป็นสิ่งค่อนข้างท้าทายของเจ้าทุกคน ข้าไม่ได้คาดหวังให้เจ้าไปถึงขอบเขตนั้น แต่หากเจ้าบ่มเพาะเส้นเอ็นให้ส่งเสียงได้เหมือนธนู ไม่ว่าดังค่อยแค่ไหน บ่มเพาะกระดูกจนโครงกระดูกส่งเสียงลั่นออกมาได้ ข้าก็พอใจแล้ว!” “ในกรณีนั้น เจ้าจะอยู่ในระดับอย่างน้อยที่สุด ระดับ 3 ฟ้าคำราม” ขณะที่เหยาหยวนสั่งสอนบุรุษเหล่านั้น เมื่อได้ยินเลือดในกายของอี้หยุนพลุ่งพล่าน ฟ้าคำรามเก้าเมฆา ศรอัศจรรย์ปักษาร่วง! เขาสามารถเข้าถึงขอบเขตนั้นได้หรือไม่? เหยาหยวนอธิบาย ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ เป็นบางสิ่งที่มีคุณค่าที่ ‘ใช้ทั้งเมืองแลกก็ไม่เพียงพอ’ เมืองในโลกประหลาดใบนี้ มีค่ามากกว่าเมืองบนโลกโน้น เมืองในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่ ที่ซึ่งแต่ละคนต้องอดทนต่อการทดสอบของสัตว์อสูรรกร้าง โดยไร้ซึ่งผู้เยี่ยมยุทธมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะถือครอง โลหิตมากมายไหลหลั่งเพื่อสร้างเมือง! เห็นได้ชัดเจนจากปฏิกิริยาของเหล่าผู้ยากไร้ ที่สนับสนุน เหลียนเฉิงอยู่ เพียงแค่เขารับปากเรื่องเมือง “ข้าต้องสังเกตเคล็ดวิชาหมัดนี้ให้ดี หากเรียนรู้ได้ก็มั่นใจว่าจะผ่านการคัดเลือกผู้ฝึกยุทธของอาณาจักรไทอาได้ และอาจได้รับชื่อว่าเป็น ‘ผู้กล้าของอาณาจักร’ เมื่อเกิดขึ้น พี่เเสี่ยวโหรว ก็จะได้ร่วมยินดีไปพร้อมกับข้า!” เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด ตั้งแต่อี้หยุนมาถึงโลกใบนี้

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้