True Martial World บทที่ 17 เส้นเอ็นดั่งสายธนู

ขณะที่เผ่าเหลียนกำลังต้มกลั่นสมุนไพร อี้หยุนก็ลักลอบไปด้านหลังของภูเขาสมุนไพรเผ่าเหลียน อี้หยุนยืนอยู่บนหินก้อนใหญ่คล้ายต้นสน หันหน้าสู่แสงจันทร์ ตอนที่จ้าวเทียจู่ รวบรวมสมุนไพร เขาใช้โอกาสนั้นให้ผลึกม่วงดูดซับแก่นพลังสมุนไพรจำนวนมาก ตอนนี้พลังเหล่านั้นไหลพล่านผ่านร่างกายราวกับพายุเพลิง! การดูดซับแก่นพลังสมุนไพรเป็นวิธีที่ดีสุดที่จะบ่มเพาะตัวเอง ในระหว่างขั้นตอนการบ่มเพาะ เขาต้องผสานแก่นพลังสมุนไพรและการฝึกฝน ให้เข้ากับร่างกาย อี้หยุนยืดเท้าซ้ายออกไป มือซ้ายจับที่ข้อเท้าซ้าย ตามด้วยการงอเข่าข้างขวา ร่างกายของเขาโค้งงอเหมือนคันศร นี่คือ ’พยัคฆ์ดุลงเขา’ อี้หยุนได้แอบเรียนรู้หกท่าแรกของ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ เขาแสดงท่าได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ จุดสำคัญคือ การกระชับเส้นเอ็นในร่างกาย อี้หยุนดึงรั้งร่างกายจนเจ็บ ก่อนจะปล่อยหมัดออกไปพร้อมกับส่งเสียงคำราม! “ย๊ากกกกก!” หมัดของเขาทะลุผ่านต้นไม้เล็กทางด้านหน้า! ผลดังกล่าวไม่เป็นที่พอใจนักสำหรับอี้หยุน เขาไม่ได้ต้องการพลังจากกำปั้น แต่ต้องการให้สามารถที่จะผลักดันเส้นเอ็นไปสู่จุดสูงสุด ใน 5 ระดับของโลหิตมนุษย์ 3 ระดับแรก แข็งแกร่ง,ประกาศศักดา และฟ้าคำราม เป็นเพียงตัวชี้วัดสภาพร่างกายของผู้ฝึกยุทธ เมื่อผ่านการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ของ เนื้อ อวัยวะ และกระดูก เปิดศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกาย ผลที่ได้คือขอบเขตของ ประกาศศักดา และ ฟ้าคำราม มันเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ และไม่ใช่ว่าใครจะไปได้ถึง อี้หยุนเข้าใจดีว่า การเรียนรู้ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ จะทำให้ เขาไร้ซึ่งปัญหาที่จะเข้าถึงระดับ 5 ของโลหิตมนุษย์ เพราะสิ่งที่เหยาหยวนพูดไว้ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ เป็นเคล็ดวิชาพื้นฐานเป็นผลดีกับผู้ใช้ แม้แต่คนที่อยู่ในขอบเขตโลหิตม่วง “ย๊ากกกกก!” เสียงกู่ก้องชัดเจน อี้หยุนทำลายสนต้นบางขนาดเท่ากับขาของคนที่เจริญเติบโตเต็มที่ หมัดของเขาช้ำไปหมด แต่นั่นมันไม่สำคัญ แก่นพลังสมุนไพรที่ผลึกม่วงดูดซับไว้ รวบรวมในร่างกายของอี้หยุน แพร่กระจายอย่างช้าๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่ง อี้หยุนคลายหมัดก่อนที่จะกำอีกครั้ง! เขาฝึก ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ นับครั้งไม่ถ้วน กล้ามเนื้อของเขาเป็นเหมือนต้นกล้าที่ถูกรดน้ำ กำลังเจริญเติบโตและรุ่งเรือง อี้หยุนฝึกฝนตั้งแต่เที่ยงคืนจนรุ่งสาง! แม้จะฝึกฝนอย่างเข้มข้น แต่ด้วยพลังที่ผลึกม่วงดูดซับจากแก่นพลังสมุนไพรจำนวนมาก ให้พลังแก่เขา ทำให้สดใสและตื่นตัว อี้หยุนใช้ทุกอย่างที่มีทั้งหมด กับท่า ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ เส้นเอ็นถูกดึงอย่างสุดขั้วทุกครั้งที่ใช้ท่านั้น! การฝึกดังกล่าวยากลำบากยิ่งสำหรับอี้หยุน ร่างกายของเขาเจ็บปวด นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ร่างกายยังได้ใช้พลังทั้งหมดของแก่นพลังสมุนไพรที่ดูดซับ มันได้ผสานเข้ากับเลือดเนื้อของเขา เส้นเอ็นของอี้หยุนถูกดึงซ้ำๆ อย่างช้าๆ ทำให้พวกมันมีความยืดหยุ่นมากขึ้น อี้หยุนไม่ทราบว่าเขาปล่อยหมัดไปแล้วกี่ครั้ง เป็นเพราะร่างกายกำลังจะถึงขีดจำกัด สายตากลายเป็นพร่ามัว การรับรู้เสื่อมโทรม แต่ความเจ็บปวดจากการชก และความรู้สึกเต้นเป็นจังหวะของเส้นเอ็นจากการดึงรั้งกลับชัดเจนมาก! อี้หยุนเข้าสู่ขอบเขตที่ดีเยี่ยม ไร้การรบกวน กึ่งไร้สติ เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งเดียวที่จำได้คือ เส็นเอ็นในร่างกาย โดยไม่รู้สึกตัวในความคิดเขาสร้างแผนที่ของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ มันเป็นความรู้สึกราวต้องมนต์ ด้วยการฝึกอย่างยอมสละชีพนี้ อี้หยุน สามารถ “เห็น” เส้นลมปราณของเขา เหงื่อหลั่งราวฝนตก หมัดชุ่มไปด้วยเลือด เหงื่อบดบังดวงตา เขาได้ยินเสียงแผ่วพริ้วของสายลม อี้หยุนเพียงรู้สึกกดดันอย่างเข้มข้นตรงด้านหน้า ในวินาทีนั้น เขาจัดการปลุกความแข็งแกร่งจากแหล่งกำเนิดที่ไม่รู้จัก เขาคำรามขณะที่เส้นเอ็นของเขาถูกดึงไปอย่างสุดขั้ว ก่อนที่จะปล่อยหมัดออกไป! “ปัง!” การกระทำของอี้หยุน ทำลายต้นสนกระจัดกระจายเป็นเศษไม้! ท่ามกลางฝุ่นเศษไม้ที่ฟุ้งกระจาย ร่างกายของเขาสร้างเสียง “ปัง” เบาและชัดเจน แม้ว่ามันจะไม่ดังนัก แต่ก็คมชัดมาก เช่นเดียวกับหางเสียงของสายธนู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันชัดเจนในท้องฟ้าที่เปิดกว้างยามค่ำคืน เส้นเอ็นดั่งสายศร ดังนั้น นี่คือเส้นเอ็นดั่งสายศร…... อี้หยุนทรุดลงไปนอนแผ่อยู่บนพื้นดิน จ้องมองท้องฟ้า ด้วยแขนที่เปิดกว้าง เขาใช้พลังทั้งหมดไปกับหมัดสุดท้ายนั่น! อี้หยุนสูดลมหายใจลึก หมัดขวาของเขาแตกยับ เป็นสีแดงด้วยเลือดแต่ความเจ็บปวดกลับทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น! เขารู้ถึงความก้าวหน้าเล็กๆ ที่มีต่อ ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ คืนนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาฝึกวิชายุทธ เขาฝึกเคล็ดวิชาชั้นสูงของอาณาจักรไทอา ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ‘พยัคฆ์ดุลงเขา’ ท่วงท่าซึ่งทำได้โดยคนที่อยู่ในขอบเขตโลหิตมนุษย์ ระดับ 3 ฟ้าคำราม เท่านั้น จึงจะสามารถสร้างหางเสียงของสายธนูขึ้นจากการใช้เส้นเอ็น แต่อี้หยุนทำมันได้ แม้ว่ามันจะอ่อนเบา หลังจากทั้งหมดนั้นเขายังคงอยู่ในระดับของประกาศศักดา เขายังเป็นเพียงเด็กอายุสิบสอง กระดูกและกล้ามเนื้อเปรียบไม่ได้กับผู้ใหญ่ แต่ผลที่ได้รับสมาชิกของเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธไม่อาจเทียบเคียงได้ ระดับของเขาเกินกว่าประกาศศักดา ที่เหลียนเฉิงอยู่เคยได้รับในอดีต … อี้หยุนไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน เช่นเดียวกับผู้อาวุโสผู้รับผิดชอบการต้มกลั่นสมุนไพรในห้องปรุงยาของชนเผ่าเหลียน สมุนไพรในหม้อก็ได้รับการต้มตลอดคืน แม้แต่หินก้อนเส้ายังร้อนแดง (ก้อนเส้า = หินที่ใช้เป็นฐานรองภาชนะหุงต้ม) ในตอนเช้า ผู้ชายแข็งแรงจำนวนหนึ่งได้มาเทของเหลวสีดำจำนวนมากจากหม้อ นี่เป็นแก่นพลังสมุนไพรของสมุนไพรทั้งหมด “อืม….สมุนไพรเหล่านี้ได้ที่แล้ว พวกเรายังสามารถต้มต่อไปได้อีกเพียงสามครั้งหรือกว่านั้นนิดหน่อย แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพน้อย ก็ยังคงมีค่ามาก พวกเจ้าสามารถใช้อาบได้ กากสมุนไพรทิ้งให้ชาวบ้าน แต่มันจะสำคัญมากก็ต่อเมื่อกระดูกเดียวดายถูกกลั่น!” เคล็ดลับการต้มกลั่นของชนเผ่าเหลียนไม่สมบูรณ์ สามารถกลั่นแก่นพลังสมุนไพรออกมาได้เพียง 20 % เท่านั้น นี่เป็นขีดจำกัดของพวกเขา และเหลียนเฉิงอยู่ จะสามารถดูดซับได้เพียงครึ่งหนึ่งของแก่นพลังที่ต้มกลั่นได้ ผ่านการแช่ตัว ซึ่งนั่นก็คือ เหลียนเฉิงอยู่ สามารถดูดซับได้เพียง 10 % เท่านั้น อัตราส่วนอาจจะต่ำแต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ จากการกินอาหาร คนปกติยังไม่สามารถดูดซับคุณค่าทางอาหารส่วนใหญ่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมุนไพร ใช้ร้อยครั้งยังยากที่จะดูดซับ ถังของเหลวสีดำของสมุนไพร ถูกส่งเข้าไปยังห้องส่วนตัวของเหลียนเฉิงอยู่ เหลียนเฉิงอยู่ได้ยินว่า มีสมุนไพรมีค่าเช่น ตังกวอ,โสมป่า,เห็ดดำและชะเอม อยู่ในหม้อนี้ การบ่มเพาะของเขาถึงจุดของการพัฒนา เขาต้องการเป็นที่สุดคือสมุนไพรสำหรับบำรุง “ดี! ดี! มาได้เวลาพอดี!” เหลียนเฉิงอยู่ มองของเหลวสีดำของสมุนไพรด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาถอดเสื้อผ้าแล้วกระโดดลงไปในของเหลวที่ร้อนนั้นด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่า อุณหภูมิสูงกว่าเก้าสิบองศาเซลเซียส เพียงพอที่จะปรุงเนื้อใดๆให้สุกได้ แม้อยู่ในขอบเขตโลหิตมนุษย์ระดับห้า เช่น เหลียนเฉิงอยู่ ยังรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่าง แต่อุณหภูมินี้เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการดูดซับแก่นพลังสมุนไพร น้ำร้อนดังกล่าวจะเปิดรูขุมขนและให้ของเหลวสีดำของสมุนไพรเข้าสู่ร่างกายของผู้ฝึกยุทธทางรูขุมขน

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้