True Martial World บทที่ 21 เหลียนเฉิงหยู่ออกจากการเก็บตน

กลางดึก ณ ห้องพักของผู้อาวุโสเผ่าเหลียน “ปัง” ประตูห้องถูกผลักเปิดออก บุรุษหนุ่มผิวขาวราวหยกเนื้อดี เดินเข้ามา “เฉิงอยู่ ทำไมเจ้าจึงออกมา?” หัวหน้าเผ่าลุกขึ้นยืน เมื่อมองเห็นบุรุษหนุ่มผู้นั้น เหลียนเฉิงอยู่ ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า เขาจะกักตนฝึกวิชาจนถึง เวลาคัดเลือกผู้ฝึกยุทธของอาณาจักรไทอาเริ่มต้นขึ้น ซึ่งก็ยังไม่ถึงเดือน เขาก็ออกจากการกักตน “การบ่มเพาะของข้าเกิดปัญหาบางอย่าง...” ท่าทางของเหลียนเฉิงอยู่ดูไม่ดีนัก เขาวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาสองเดือนสะสมรากฐานอันแข็งแกร่ง ก่อนที่จะใช้แก่นพลังกระดูกเดียวดาย เพื่อก้าวผ่านไปสู่ขอบเขตโลหิตม่วง! โดยการทำเช่นนั้น ปัจจัยพื้นฐานของเขาจะมีความแข็งแกร่ง และสะสมในปริมาณเพียงพอ เขาจะถึงจุดสูงสุดของการเริ่มต้นในขอบเขตโลหิตม่วง ท่ามกลางคนอื่นๆที่เริ่มต้นในขอบเขตโลหิตม่วง เขาจะสามารถเชิดหน้าขึ้นได้ และจะช่วยให้ก้าวผ่านสู่ขอบเขตที่สูงยิ่งขึ้น มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคต! การคัดเลือกผู้ฝึกยุทธของอาณาจักรไทอามีความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ ปัจจัยพื้นฐานและความก้าวหน้าในการสะสมพลังของผู้ฝึกยุทธ หากเหลียนเฉิงอยู่ สามารถตอบสนองทุกความต้องการเหล่านั้น เขาจะได้รับการยอมรับจากเจ้าหน้าที่ของอาณาจักรไทอาในช่วงคัดเลือก และนั่นจะเป็นผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม แต่สถานการณ์กับไม่เป็นไปเช่นนั้น หลังเก็บสมุนไพรบนภูเขาสมุนไพรเผ่าเหลียนจนหมดสิ้น การบ่มเพาะของเหลียนเฉิงอยู่ยังมีการพัฒนาอย่างเชื่องช้า แม้ทั้งหมดจะเป็นสมุนไพรที่ดี! เหลียนเฉิงอยู่ เชื่อว่าเขาพบกับคอขวด ในความเป็นจริง ทัศนคติต่อวิชายุทธเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อกักตนพร้อมทัศนคติที่ดี ความเชื่อมั่นและความพากเพียร ก็จะทำให้ง่ายต่อการก้าวผ่าน แต่เมื่อตนเองมีความคิดสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติ กับกระบวนการบ่มเพาะ เช่นการตีเข้ากับคอขวด ก็ย่อมจะก่อให้เกิดการสูญเสียแรงผลักดัน ทำให้การก้าวผ่านเป็นไปได้ยาก ผลทางจิตใจมักจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แต่เหลียนเฉิงอยู่ เดิมทีก็ขาดทรัพยากรสำหรับการบ่มเพาะ นั่นทำให้เรื่องแย่ลง เป็นผลทำให้ความก้าวหน้าของเขาเป็นไปได้ช้า ในท้ายที่สุด เขาจึงเลือกที่จะออกจากการกักตนก่อนเวลาอันสมควร โดยการหยุดและผ่อนคลาย ก่อนที่จะรับแก่นพลังกระดูกเดียวดาย แล้วเขากลับเข้ากักตนอีกครั้งเพื่อก้าวผ่านเข้าสู่ขอบเขตโลหิตม่วง นี่คือแผนของเหลียนเฉิงอยู่ มันเป็นแผนที่เหมาะสม ในบางเวลาสิ่งที่เกิดขึ้นนั่น การก้าวผ่านจะเป็นไปไม่ได้ แต่โดยการหยุดพักสักหน่อย ก็อาจได้ผลอย่างน่ามหัศจรรย์ ให้ผลการก้าวผ่านอย่างไม่ทันรู้ตัว “การกลั่นกระดูกเดียวดายเป็นอย่างไรบ้าง?” เหลียนเฉิงอยู่ถามในเรื่องที่เกี่ยวกับเขามากที่สุด ชิ้นส่วนกระดูกเดียวดายนี้เป็นโชคลาภและชีวิตทั้งหมดของเขา! “อืม มันยังเป็นตามแผน แต่...เริ่มมีชาวบ้านบางคนที่ช่วยในการกลั่นได้รับพิษเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตามแผนเดิมข้าจะปล่อยให้พวกมันป่วยต่อไปอีก สักพักแต่พวกมันทำท่าไม่ดี ข้าจึงให้ยาผลาญโลหิต ตอนนี้พวกมันดีขึ้นและไม่มีผลต่อการกลั่นแล้ว” เหลียนเฉิงอยู่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน “ขยะไร้ประโยชน์จริงๆ เพียงไม่กี่วัน พวกมันก็ไม่สามารถทนพิษกระดูกเดียวดายของอสรพิษเยือกแข็ง! หลังจากกินยาผลาญโลหิต มันจะผลาญพลังงานในร่างกายของผู้กินเกินขีดจำกัด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถึงพวกมันจะตายก็ต้องกลั่นกระดูกเดียวดายให้เสร็จ!” คำพูดของเหลียนเฉิงอยู่ เย็นชาและไร้มนุษยธรรม หัวหน้าเผ่า รู้สึกเหมือนเขากำลังจะจมน้ำ กล่าวขึ้นว่า “เฉิงอยู่…..เจ้าขอมากเกินไป คนเหล่านี้ไม่ค่อยได้กินอาหารเหมาะสมหรือสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม พวกมันจะทนพิษจากอสรพิษเยือกแข็งได้อย่างไร? สำหรับเผ่าเหลียน พวกมันก็ได้เสียสละตัวเองอยู่แล้ว ในอนาคตเมื่อเจ้าประสบความสำเร็จ เจ้าจะต้องดูแลครอบครัวของพวกมัน” “เข้าใจแล้ว” เหลียนเฉิงอยู่ กล่าวด้วยใบหน้าเฉยเมย “ข้าก็แค่เป็นห่วงขั้นตอนการกลั่นและกลัวว่าจะล่าช้าโดยไม่จำเป็น หากคนเหล่านั้นตายเร็วเกินไป ก็จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการกลั่น ท่านปู่ โปรดสั่งให้รวบรวมคนเพิ่มให้มากขึ้นอีก คนยิ่งมากก็ยิ่งเฉลี่ยพิษของอสรพิษเยือกแข็งออกไป จะทำให้ทนได้นานขึ้น แม้ยาผลาญโลหิตจะไม่แพงมาก แต่เราก็เสียเงินไปก้อนใหญ่ จำเป็นต้องประหยัดไว้” เหลียนเฉิงอยู่ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ หัวหน้าเผ่าถอนหายใจเมื่อได้ยิน เขารู้ว่าทุกคนที่ถูกเลือก ต้องสละชีวิต ผู้ยากไร้น่าสงสารเหล่านั้นต่างแย่งชิงกันเข้าร่วมการกลั่นกระดูกเดียวดาย เพียงเพื่อ เนื้อหมักเกลือ “สำหรับเผ่าเหลียน ข้าคิดว่าจำเป็นต้อง….” หัวหน้าเผ่าพูดด้วยเสียงดังขึ้น “มันน่าสงสาร แต่หากเรามีกระดูกเดียวดายที่ปราศจากพิษ ก็จะไม่มีการเสียชีวิตจำนวนมากจากการกลั่น” “กระดูกเดียวดายที่ปราศจากพิษ?” เหลียนเฉิงอยู่ พูดอย่างเย้ยหยัน “ด้วยสถานะการเงินของเผ่ากับคัมภีร์เคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ เราจะสามารถแลกเปลี่ยนกับกระดูกเดียวดายที่ปราศจากพิษได้หรือ?” “นอกจากนี้กระดูกเดียวดายของอสรพิษเยือกแข็งก็ไม่ได้มีพิษ มีแค่การกระจายปราณเยือกแข็งอันกล้าแข็ง ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะค้างอยู่ตามอวัยวะเป็นเหตุให้เสียชีวิต หากเป็นปรมาจารย์สวรรค์เดียวดาย เขาก็จะสามารถกำจัดปราณเยือกแข็งนี้ไปได้อย่างง่ายดาย แต่ปรมาจารย์สวรรค์เดียวดายจะยินดี ช่วยกำจัดพิษกระดูกเดียวดายคุณภาพต่ำนี้ทำไม? แล้วก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะมาเผ่าเหลียนด้วย!” “แม้แต่นายน้อยของชนเผ่าใหญ่ยังไม่เต็มใจ ที่จะใช้กระดูกเดียวดายจำพวกนี้ แต่เพียงเพราะกระดูกเดียวดายอสรพิษเยือกแข็งชุดนี้ ราคาถูกที่สุด ที่ข้าจะได้มาก็แค่วิธีการของครอบครัวร่ำรวยให้กระดูกที่เหลือเลี้ยงสุนัข สำหรับชนเผ่าใหญ่ ข้าก็เหมือนสุนัขป่าที่รอกินเศษเหลือของพวกเขา” เหลียนเฉิงอยู่กล่าวด้วยความชิงชังตัวเองในคำพูดสุดท้าย ริมฝีปากเขากระตุกและกำหมัดแน่น จนเล็บกดเข้าไปในเนื้อ เขาเกลียด! เหล่านายน้อยและคุณหนูของตระกูลใหญ่ที่สามารถใช้กระดูกเดียวดาย อันไร้ผลข้างเคียงและมีประสิทธิภาพสูง! แต่สำหรับเขาต้องผ่านทุกปัญหาและ เสียสละสมบัติมากมาย เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งชิ้นส่วนกระดูกเดียวดายของอสรพิษเยือกแข็ง! ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่กระดูกเดียวดายชุดนี้ ซึ่งมีผลข้างเคียงมหาศาลและเสี่ยงต่อชีวิตของเขาเมื่อใช้มัน มันน่าสมเพช! “เฉิงอยู่ มันหนักสำหรับเจ้าตลอดหลายปีมานี้ แต่เจ้าต้องรู้ แม้ผู้โดดเด่นในชนเผ่าใหญ่ก็ยังมีน้อยนัก แม้พวกเขาจะมั่งคั่ง หากไร้ซึ่งความสามารถ พวกเขาก็จะไม่ได้รับเนื้อของสัตว์อสูรรกร้างมากนัก...” หัวหน้าเผ่ากล่าวด้วยความรู้สึกผิด เขารู้ว่าเหลียนเฉิงอยู่มีความสามารถ แต่เผ่าเหลียนยากจนเกินไปไม่สามารถดูแลเขาให้ดีได้ หลายปีที่ผ่านมา หัวหน้าเผ่ารู้ว่าเหลียนเฉิงอยู่ ไม่พอใจชนเผ่า ชิงชังแม้แต่ตัวเขาเอง แต่หัวหน้าเผ่าก็ไม่เคยปริปาก มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เหลียนเฉิงอยู่รับฟัง สิ่งที่หัวหน้าเผ่าพูดเขาตอบว่า “ท่านปู่ไม่ต้องปลอบใจข้า เมื่อสวรรค์ไร้ใจ ทำกับข้าเช่นสุนัข แม้โลกยังไม่เป็นธรรม ข้าจะใช้กำลังของตัวเองแสวงหาความเป็นธรรมมาให้ได้ ไม่ช้าก็เร็ว ในอนาคต ข้าจะควบคุมชีวิตตัวเอง และชีวิตผู้อื่น! ลูกหลานของชนเผ่าใหญ่ทั้งหมดต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าข้า!” “ข้าเข้าใจ” หัวหน้าเผ่าถอนหายใจ “พรุ่งนี้ข้าจะออกคำสั่งรวบรวมคนให้มากขึ้น สำหรับการกลั่นกระดูกเดียวดายข้าจะไม่สนใจเรื่องจำนวนผู้เสียชีวิต คนมากขึ้นพวกมันก็จะดูดซับปราณเยือกแข็งมากขึ้น….จะทำให้เจ้าปลอดภัยเมื่อใช้กระดูกเดียวดาย” หัวหน้าเผ่ารู้ว่า เหลียนเฉิงอยู่ ไร้ซึ่งความสำนึกผิดใดๆ สำหรับการเสียชีวิตของผู้ยากไร้ เหลียนเฉิงอยู่ เกลียดความอยุติธรรมของโลก เขารู้สึกว่า เขาโชคร้ายมาก เขาจะใส่ใจกับความโชคร้ายของคนอื่นได้อย่างไร? สำหรับเหลียนเฉิงอยู่ แม้จะต้อยต่ำเหมือนมด แต่เขาก็เห็นตัวเองเป็นมดที่ใหญ่กว่าผู้อื่นเล็กน้อย ผู้เหมาะสมเท่านั้นที่จะอยู่รอด ความคิดนี้ฝังแน่นในใจลึกๆของเหลียนเฉิงอยู่ โดยเฉพาะการกินมดขนาดเล็ก แล้วทำให้เขาเติบโตจนถึงจุดที่สามารถควบคุมชะตากรรมของตนเองและของผู้อื่น เช่น ผู้เยี่ยมยุทธระดับสูง

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้