True Martial World บทที่ 26 คำรามก้อง

แอ่งน้ำสีเขียวมรกต มองเป็นสีเขียวบนพื้นผิว แต่ลึกลงไปไม่ได้เป็นเช่นนั้น อี้หยุนพยายามสำรวจความลึกของมัน แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะดำลึกลงไปสู่ก้นแอ่ง หลังจากที่จมลงมาที่ความลึกสิบเมตร เขารู้สึกเจ็บปวดที่หู หูของมนุษย์บาดเจ็บได้ง่ายมาก ประสบการณ์ความดันสุดทนทานของนักดำน้ำก็ได้มาจากหูของเขา ผู้ฝึกยุทธก็เช่นกัน คนที่ดำลงไปสู่ความลึก แก้วหูจะแตกก่อนที่อวัยวะภายในจะทันรู้สึกถึงความกดดัน อี้หยุนปล่อยอากาศออกจากปากเพื่อลดความดันที่เกิดขึ้น เขาต้องรักษาสมดุลกับความกดดันภายนอก ลดความเจ็บปวดในแก้วหู หลังจากดำลงสู่ความลึกไม่รู้ที่สิ้นสุด อี้หยุนเห็นแสงเพียงเล็กน้อยใต้น้ำ โดยเฉพาะเมื่อมองไปที่ผิวน้ำ แสงแดดงดงามสาดส่องลอดลงมาเหมือนเป็นสัญญาณให้หลบหนีจากอันตราย อี้หยุนพยายามแนบตัวเองไว้กับหน้าผา หน้าผาที่มีหินประหลาดเป็นเม็ดๆสีดำ หินเป็นแนวลงไปลึก ลงไปสู่ความมืดมิด เป็นความมืดอันลึกล้ำและน่าสพึงกลัว โชคดีที่เขาเข้าสู่ขอบเขตของประกาศศักดาแล้ว ลมหายใจของเขาลึกและยาวนาน หนึ่งลมหายใจจะทนทานได้ประมาณ 15 นาที บนโลก ผู้ครองสถิติการกลั้นลมหายใจใต้น้ำทำได้ 13 นาที แน่นอนว่าคนเหล่านั้นต่างรับการฝึกมาเป็นอย่างดี หากอี้หยุนได้รับการฝึกมากกว่านี้ ก็จะทำเวลาได้นานขึ้น ความกดดันที่เพิ่มขึ้น อี้หยุนรู้สึกว่าปอดของเขากำลังถูกบีบอัด ช่องท้องเต็มไปด้วยของเหลวในร่างกาย ซี่โครงรอบปอดอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล เหมือนมีหมีตัวใหญ่กำลังเหยียบอยู่บนหน้าอก อี้หยุนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลั่นดังของกระดูกซี่โครง หากมิใช่เพราะการฝึกกระดูกเพิ่งเสร็จสิ้น แน่นอนว่ากระดูกซี่โครงจะต้องถูกดันกลับสู่ช่องท้อง ร่างกายของอี้หยุนได้รับแรงกดดันมหาศาล บีบอัดอวัยวะและของเหลวในร่างกาย อย่างช้าๆ เขารู้ว่าใกล้จะถึงขีดจำกัด การดำน้ำเป็นกีฬาที่อันตราย ในช่วงเวลาที่หมดสติจากแรงดันน้ำ ต่อจากนั้นก็ไม่ต้องสงสัย ศพจะค่อยๆจมดิ่งลงไปเบื้องล่างได้รับการบดขยี้อย่างสมบูรณ์ บนโลก ผู้คนที่ชื่นชอบการดำน้ำลึก จะต้องตระเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิตทุกประเภท เช่นเชือก บอลลูนและอุปกรณ์อื่นๆ แต่อี้หยุนไม่มี เขาต้องพึ่งพาความสามารถในการประเมินของตัวเอง “ซ่า! ซ่า!” ในระดับความลึกอันเงียบสงบใต้น้ำ อี้หยุนสามารถได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจ และแม้กระทั่งเสียงของเลือดที่กำลังไหลเวียน แสงแดดในภูเขากำลังหรี่ลง แต่ในระดับความลึกสุดลึกนี้ อาจกล่าวได้ว่าอี้หยุนถูกล้อมรอบโดยความมืดอย่างสิ้นเชิง ภายใต้ความเงียบสงัด มืดมิด และแรงกดดันมหาศาล สิ่งเดียวที่รู้สึกได้อย่างชัดเจนคือ ผลึกม่วงบรรพชนในหน้าอกของเขา ความรู้สึกเย็นที่ไหลผ่านกระแสเลือด เป็นความรู้สึกเย็นเหมือนน้ำพุแห่งชีวิตในนิทาน แม้จะเบาบางมาก มันก็ทำให้แน่ใจว่าจะอยู่รอด ในสภาพแวดล้อมสุดขั้วนี้ทำให้อี้หยุนตระหนักได้ว่า มันเป็นเหมือนประสบการณ์ในถ้ำ ก่อนที่จะกลับสู่โลก ติดอยู่ใต้พื้นพิภพกับผลึกม่วง ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงัดและมืดมิด เขายังรู้สึกได้ว่าผลึกม่วงเป็นที่พึ่งสุดท้ายในชีวิต เมื่ออวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหายจากแรงดันน้ำอันมหาศาล ผลึกม่วงจะซ่อมแซมมันอย่างเงียบๆ ไม่เพียงทำให้เขาได้รับประสบการณ์ของแรงดันน้ำมหาศาล แต่ยังช่วยให้ฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้นที่สุด อี้หยุนสูญเสียความรู้สึก ในเวลาที่อยู่ใต้น้ำ แต่เขายังคงปฏิบัติตามเคล็ดวิชา “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ต่อไป โดยการไหลเวียนของพลังงาน เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจส่วนใหญ่ถูกใช้จวนจะหมด เขาเริ่มว่ายขึ้นสู่เบื้องบน นักดำน้ำลึก มักจะไม่มีพลังงานหรืออากาศมากนัก การว่ายน้ำขึ้นไปกินพลังงานมาก นักดำน้ำลึกส่วนมากบนโลกมักใช้อุปกรณ์ช่วย เช่นบอลลูนเพื่อช่วยส่งร่างพวกเขาขึ้นไป แต่อี้หยุนได้แต่พึ่งตนเอง นี่เป็นบททดสอบที่ดีสำหรับหัวใจและปอดของเขา ภายใต้ความกดดันมหาศาลเช่นนี้ จังหวะการหายใจและการเต้นของหัวใจจะถูกกระตุ้นให้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเป็น 100 ครั้ง อี้หยุนกลั้นหายใจ ใช้กำลังใจและเส้นชีวิตที่ได้จากผลึกม่วงว่ายน้ำขึ้นไป ทีละเมตร! “ซ่า” เมื่อศีรษะโผล่พ้นน้ำ เขาสูดเอาอากาศเฮือกใหญ่ ใบหน้าเขาซีดริมฝีปากเป็นสีขาว รูม่านตาบีบแคบลง ต้องดำลึกถึงกว่า 100 เมตร มานานกว่า 20 นาที อี้หยุนไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำมันได้โดยไม่ต้องอุปกรณ์ใดๆยกเว้นหิน เขาประหลาดใจกับระดับที่เขาทำได้จากการฝึกเป็นครั้งแรกของ “มังกรคะนองท่องสมุทร” อี้หยุนว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง น้ำหยดลงจากผมของเขา หลังจากหายใจยาวๆไม่กี่ครั้ง เขารู้สึกลึกๆได้ว่า ร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิม พลังงานของพลังเดียวดาย ถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่จะลงสู่แอ่งน้ำ อี้หยุนรู้สึกถึงความอึดอัดของพลังงาน แต่หลังจากการบ่มเพาะรอบนี้ เขารู้สึกหิวโหยเป็นอย่างมาก มันเหมือนกับเขาไม่ได้กินอะไรมาตั้งสามวัน นี่เป็นผลสะท้อนของ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์”! “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” รวมกับพลังเดียวดาย จากกระดูกเดียวดาย ได้เพิ่มความแข็งแกร่งของอี้หยุนโดยก้าวกระโดดและยกระดับขอบเขต! “รู้สึกดีมาก...จริงๆ”! อี้หยุนร่ำร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ท่ามกลางเสียงร่ำร้อง ข้อต่อของอี้หยุนส่งเสียงลั่นออกมา แม้จะไม่ดัง แต่ได้ยินชัดเจนมาก คล้ายกับ เสียงกวนเม็ดเหล็ก “ขอบเขตฟ้าคำราม จะต้องเป็นระดับ 3 ของโลหิตมนุษย์ ฟ้าคำราม!” อี้หยุนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง จุดปลายทางของห้าระดับของ โลหิตมนุษย์ จะเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติหากมีการฝึกฝนอย่างเพียงพอ ไร้ซึ่งคอขวดใดๆ ตราบใดที่ฝึกฝนอย่างหนัก มีพลังงานเพียงพอที่ทุกคนสามารถทำได้ แม้ว่าทุกคนจะสามารถไปถึงระดับห้าของโลหิตมนุษย์ ที่แตกต่างคือ ความเร็วที่จะสามารถทำได้ คนที่มีความสามารถ ไม่เพียงจะบ่มเพาะได้รวดเร็ว พื้นฐานยังหนักแน่นมั่นคง ทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดา สำหรับคนธรรมดาที่มีความสามารถเพียงเล็กน้อย การต้องติดอยู่กับแต่ละระดับของโลหิตมนุษย์ 3-5 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อี้หยุนรู้ว่าเขาไร้ความสามารถ หลังจากผ่านเข้าสู่อุโมงค์มิติ เขาเป็นคนปกติที่รูปร่างบอบบางและอ่อนแอ ความแข็งแรงน้อย สามารถยกหินหนัก ได้แค่ 30 จิน ความสามารถของร่างกายก็ใช่ว่าจะดี มันไม่ไกลจากชายผู้กลั่นกระดูกเดียวดาย ผู้เป็นบิดาของ “ต้าโทว” แต่ด้วยความช่วยเหลือของผลึกม่วง การบ่มเพาะของอี้หยุนดีขึ้นเป็นอย่างมาก เพียงครึ่งเดือน เขาก็เข้าถึงระดับ 3 ของโลหิตมนุษย์แล้ว มันเป็นไปได้ที่เขาจะกลายเป็น ยอดยุทธโลหิตม่วง ในเวลาสองเดือนครึ่ง และ ได้รับคัดเลือกเป็น ผู้ฝึกยุทธของอาณาจักรไทอา ยอดยุทธโลหิตม่วงในเผ่าชนเล็กๆ นี่จะเป็นเหตุให้เกิดความรู้สึกนิยมในหมู่คน! ไม่สำคัญว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร หากเขากลายเป็นยอดยุทธโลหิตม่วง ในเผ่าเหลียน เขาจะได้รับความเคารพบูชา! เขาจะมีศักดิ์ศรีสูงส่งและกุมอำนาจเด็ดขาดในเผ่า กำหนดความเป็นและความตาย อี้หยุนมองไปถึงช่วงเวลานั้น หลังการการบ่มเพาะรอบนี้ มันก็บ่ายมากแล้ว เขาทำการบ่มเพาะ มาตั้งแต่เช้า โดยไม่ได้นอนเลย จนก้าวผ่านเข้าสู่ โลหิตมนุษย์ ระดับ 3 ฟ้าคำราม อี้หยุนก็ยังไม่รู้สึกง่วงนอน เขาปฏิบัติตามเคล็ดวิชาของ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” 2 ชั่วโมง และรู้สึกราวกับว่าได้นอนหลับสนิทมา 8 ชั่วโมง รู้สึกเต็มไปด้วยพลังงาน! “นี่จะถึงเวลากลั่นกระดูกเดียวดายแล้ว บ่มเพาะมาตลอดทั้งวัน ข้าหิวมากเลย!” วันก่อนหน้า อี้หยุนก็ไม่ได้กินอะไรเลยตลอดทั้งวัน เขามีพลังงานจากกระดูกเดียวดายให้การช่วยเหลือ ดังนั้นแม้ท้องจะหิว แต่มันยังให้พลังงานแก่ร่างกายโดยไร้ปัญหา แต่หลังจากที่ฝึกฝนอย่างเข้มข้น ด้วย “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” พลังงานของกระดูกเดียวดายในร่างกายหมดลง ความหิวจึงเกิดขึ้นกับเขามากจนเหลือทน จากสีของท้องฟ้า ใกล้เวลาตะวันตกดิน อี้หยุนกลับไปยังหมู่บ้านที่ลานตากธัญพืช หม้อน้ำถูกเปลวไฟเผาจนแดง และมันก็เป็นเวลาที่จะเปลี่ยนกะ เมื่อเห็นอี้หยุนกลับมา บิดาของ “ต้าโทว” ชี้ไปที่กองฟืน แล้วพูดเสียงแข็งว่า “ผ่าฟืนพวกนี้ เมื่อคืนเจ้าไม่ได้ทำอะไรเลย ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนไร้ประโยชน์หากทำไม่เสร็จ วันนี้ก็ไม่ต้องกิน” อี้หยุนอึ้งเมื่อได้ยินทำราวกับว่าเมื่อวานเขาได้กิน ทุกคนต่างรีบวิ่งหัวทิ่มหัวตำเข้าต่อสู้ จำนวนเมล็ดข้าวที่เขาได้รับ สามารถนับได้ด้วยนิ้วมือ ถังโจ๊กข้าวถูกดื่มและเลียจนสะอาดหมดจด จนไม่จำเป็นต้องขัดถูอีก อี้หยุนนั่งลงที่มุม และเริ่มผ่าฟืนอย่างไม่รีบร้อน นี่เป็นฟืนหนาพอๆกับขาของคนที่เจริญเติบโตเต็มที่ มันจะต้องได้รับการผ่าและหั่นให้มีขนาดเท่าๆกัน เพื่อให้ไฟเผาไหม้ได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่มีผู้ใดตระหนักถึง แผ่นบางๆของแสงสีแดงและฟ้าที่ออกมาจากหม้อน้ำ ครอบคลุมอี้หยุนที่กำลังสับไม้อยู่ ก่อนหน้านี้ อี้หยุนไม่ได้ดูดซับพลังงานทั้งหมดจากสมุนไพร ได้หลงเหลือน้ำแกงเล็กน้อยสำหรับเหลียนเฉิงอยู่ เพราะเขากลัวว่าเหลียนเฉิงอยู่ จะตระหนักถึงสิ่งผิดปกติ แต่ครั้งนี้ สำหรับกระดูกเดียวดาย มันต่างกัน อี้หยุนตัดสินใจจะดูดซับพลังงานทั้งหมดจากกระดูกเดียวดาย เพิ่มความแข็งแกร่งของเขา โดยก้าวกระโดดและยกระดับขอบเขต จากนั้น เขาจะไม่กลัวเหลียนเฉิงอยู่อีกต่อไป อี้หยุนรู้สึกต้องขอโทษ เหลียนเฉิงอยู่ เล็กน้อย เขาสารภาพในใจ : “นายน้อยเหลียน ข้าต้องขอโทษ หากข้าไม่ได้เข้าถึงขอบเขตของโลหิตม่วงแล้ว มันก็เลวร้ายเกินไปสำหรับข้า ดังนั้นจึงขอจัดการกับกระดูกเดียวดายนี้ให้สะอาดหมดจดโดยไม่มีอะไรเหลือ ข้าสามารถทำได้แค่ขออภัย” “หากโชคดี ข้าสามารถเข้าสู่ขอบเขตของโลหิตม่วงได้ ก่อนที่ข้าจะดูดซับกระดูกเดียวดายเสร็จสิ้นแล้ว ข้าก็จะ….เอ้อ….ยังดำเนินการต่อจนกว่าจะดูดซับจนเหือดแห้ง ขอบเขตของโลหิตม่วง มันแค่เป็นการเริ่มต้นบนเส้นทางวิชายุทธ อันยาวไกลเบื้องหน้า” “ดังนั้น ได้โปรดเป็นคนดีต่อไปจนจบ แล้วข้าจะจดจำเจ้าไว้ในอนาคต” หลังจากการสารภาพเขาเริ่มการดูดซับพลังงานของกระดูกเดียวดาย มันเป็นความรู้สึกสบายอย่างมากที่สามารถดูดซับพลังเดียวดายโดยไร้ข้อจำกัดใดๆ ในขณะที่ร่างกายขาดแคลนพลังงานอย่างจริงจัง การขาดพลังงานและความหิว แม้ว่าทั้งสองจะรู้สึกแตกต่างกัน แต่พวกมันก็มีมากเหลือเกิน ในกรณีของความหิวโหยอย่างมาก อะไรเป็นสิ่งที่จะทำให้มีความสุขมาก คืออาหารรสชาติอร่อยลิ้น? อี้หยุนไม่ได้อยู่ในสถานะเดียวกับเหลียนเฉิงอยู่ เขารู้ว่าพลังงานของกระดูกเดียวดายมีมากมาย และต้องการดูดซับมันอย่างเต็มที่ จากที่เหลียนเฉิงอยู่ใช้วิธีต้มกลั่นดั้งเดิม กลั่นกระดูกเดียวดาย สามารถกลั่นแก่นพลังกระดูกเดียวดายออกมาได้เล็กน้อย แค่แก่นพลังกระดูกเดียวดายเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอสำหรับเหลียนเฉิงอยู่ ที่จะก้าวผ่านสู่ขอบเขต โลหิตม่วง สำหรับอี้หยุนโดยการใช้ผลึกม่วงดูดซับ พลังงานของกระดูกเดียวดาย เขาดูดซับได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ระดับการบ่มเพาะของเขายังอยู่ในระดับต่ำที่ ฟ้าคำราม แต่ความเร็วในการบ่มเพาะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อี้หยุนอาจทำให้ตัวเองตกใจ….

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้