โรงเรียนมัธยมปลายอุเมโนซึจิแห่งนี้มีความเชื่อที่ว่า โอตาคุนั้นถือเป็นชนชั้นต่ำสุดในโรงเรียนนี้ ที่โอตาคุถูกแบ่งแยกให้ไม่มีจุดยืนในสังคมของโรงเรียนนี้ก็เพราะพวกเรียวจู(Riajuu)นั่นแหล่ะ
แน่นอนว่าเหล่าโอตาคุต่างถูกวิจารณ์และกลั่นแกล้งกันในทางเสียหายมากมายนัก ไม่ว่าจะถูกนินทาลับหลัง,ถูกทำร้ายร่างกาย,โดนเขียนคำด่าลงบนโต๊ะเรียน,รองเท้าและไลโนเวลที่ถูกเก็บไว้ในล๊อกเกอร์โดนโยนทิ้ง นี่คือชะตากรรมของโอตาคุในโรงเรียนนี้
และผม คามิโจว ทาคุมะ ผมผู้ซึ่งถูกกล่าวขานอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะโอตาคุอันดับหนึ่งของโรงเรียนนี้
เม้ามอย กับเพื่อนในเวลาพักงั้นเหรอ?
นอนแผ่ลงบนโต๊ะเรียน และแกล้งทำเป็นหลับงั้นเหรอ?
รายร้อมไปด้วยเพื่อนและกินข้าวด้วยกันตอนพักเที่ยงอะไรแบบนี้?
สุดท้ายที่ที่ผมสามารถกินข้าวเที่ยงอย่างสบายใจสำหรับผมคือห้องน้ำชายชั้นสองที่ไร้ผู้คนนั่นเอง
ผมเป็นโอตาคุตั้งแต่ชั้นม.ต้นแล้ว หมายความว่ามันยากเกินไปสำหรับผมแล้วที่จะกลับตัวเลิกเป็นโอตาคุ
หนึ่งปีผ่านไปตั้งแต่ผมเริ่มต้นชีวิตนักเรียน ม.ปลาย
พอหมดชั้นเรียนปุ๊ปผมก็เก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้านด้วยความเร็วประดุจสายฟ้าทันที ตอนนั้นเองที่ผมและเพื่อนร่วมชั้นทุกคนโดนอัญเชิญไปยังต่างโลกอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
ใช้ปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่า (การแพร่กระจายชั้นเรียน) Class Metastasis.
สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าผมและเพื่อนร่วมห้อง 32 คนรวมถึงอาจาย์ประจำชั้นคือห้องโถงขนาดใหญ่
ด้านหน้าพวกเรามีกลุ่มคนน่าสงสัยสวมฮูดเหมือนจอมเวทอยู่และใต้เท้าของพวกเขามีวงเวทที่ซับซ้อนและน่าพิศวงอยู่
และอย่างที่คาดไว้มีตาลุงหนวดขาวใส่ชุดอลังการ(น่าจะเป็นราชามั้ง)เป็นคนกล่าวคำพูดสุดช๊อคออกมา
[ยินดีต้อนรับสู่อาณาจักรของเรา เหล่าผู้กอบกู้โลกเอ๋ย]
แน่นอนหลังจากช๊อคอยู่สักพักเสียงตะโกนโหวกเวกโวยวายของเพื่อนร่วมชั้นก็ดังขึ้น
ราชาดูเหมือนจะไม่สนใจเสียงโวยของเหล่าเพื่อนร่วมห้องและเริ่มอธิบายต่อ
เพราะพวกปีศาจมารุกรานโลกนี้ดังนั้นข้าจึงได้เรียกพวกท่านมาที่นี่
พวกท่านไม่สามารถกลับบ้านได้จนกว่าจะกำจัดจอมมารลงได้
หลังจากนั้นเราถูกพาตัวมาอีกห้องเพื่อตรวจสอบสกิลของพวกเรา
สำหรับคนที่ไม่ได้มาจากโลกโอตาคุนั้นแสดงออกซึ่งความกลัวและกังวลแต่ผมผู้เสพนิยายต่างโลกมามากนั้นเข้าใจ
พวกเขาต้องการที่จะคอนเฟริม ความสามารถโกงที่พวกเราแต่ละคนมีอยู่
แน่นอนว่า เมื่อตรวจสอบพบนักเวทในตำนานและไจแอนซามูไร ปรากฏขึ้นทีละคนสองคน พวกเขาต่างอุทานอย่างมีความสุข
คุคุคุ ผมหัวเราะในใจ
ผมมั่นใจเลยว่า ผมต้องได้ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดแน่นอน
เวลาที่ผมจะเปล่งประกายมาถึงแล้ว หุหุหุ5555
ผมเช็คสกิลของผมขณะเต้นส่ายก้นอย่างสนุกสนาน
*****************************************************************
{คามิโจวทาคุมะ}
ทักษะโดยธรรมชาติ
・Drilling (ขุดรู)
....เอ๋ นี่มัน?
Drilling…… ขุดรู…… เรือหายแล้ววววว?
ทันใดนั้นราชาเดินมาจับไหล่ผมและเริ่มพูด
[มีที่ดินแห่งหนึ่งอยู่นอกเมืองที่อุดมไปด้วยหินแร่เวทมนต์คุณภาพสูงว่าไงไปทำงานที่นั่นแล้วกันนะ]
พูดอย่างง่ายๆคือผมถูกลดตำแหน่งจากผู้กล้าไปเป็นคนงานเหมืองแร่ว่างั้น
อาจารย์ประจำชั้นพยายามจะปกป้องผมแต่พวกเพื่อนร่วมชั้นต่างมองผมด้วยสายตาเย็นชา
ผมได้รับเงินจำนวนหนึ่งและของใช้แล็กๆน้อยๆเช่นผ้าห่มและถูกบังคับให้ออกจากพระราชวัง
อา ดูเหมือนผมจะโชคร้ายได้เริ่มต้นเกมส์ด้วยระดับฮาร์ดโหมดแต่ผมก็รู้สึกโล่งใจไปด้วย
อย่างไรก็ตามผมไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนร่วมชั้นมองผมและสกิลกากๆของผมอย่างไร
ถ้าผมอยู่ผมอาจเป็นเป้าหมายกลั่นแกล้งในฐานะลูกกระจ๊อกผู้ไร้ประโยชน์ก็ได้
เพราะแบบนี้ผมถึงได้โล่งใจไง
ราก่อนนะ my classmates ผม จะไม่ คิดถึงพวกนาย!
…… กุซึกุซึ (ร้องไห้)
ด้วยความรู้สึกแบบนี้ผมย้ายไปอยู่ที่โบสถ์นอกเมืองและขุดหินแร่เวทมนต์
[ที่นี่หรือบ้านใหม่]
มันเป็นตึกที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่ที่ยอดเนินเขานอกเมือง
ผมอุทานโดยไม่รู้ตัว ขณะที่มองดูตึกที่พร้อมที่จะถล่มใส่หัวผมเมื่อไหร่ก็ได้
มันก็ดูเหมือนจะเป็นโบสถ์น้า แต่หน้าต่างแตกร้าว และ ส่วนประกอบบางส่วนของตึกบุบบี้
[เข้าไปดูข้างในดีกว่า...เฮ้ เอาจริงดิ แม้แต่ประตูก็ไม่ได้ติดตั้งเหรอ]
ฉันค่อยๆเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังเพราะกลัวพื้นจะยุบลงไปเพราะรับน้ำหนักผมไม่ไหว
โอ้มันมืดมากเลย เศษแก้วและเสี้ยนไม้ต่างกระจายไปทั่วพื้น
อากาศที่นี่เต็มไปด้วยฝุ่นทำผมไอค่อกไอแค่กไอกระด๊อกกระแด็กเลย
ต้องบอกว่าเป็นสถานที่ที่ยากต่อการอยู่อาศัยนะเนี่ย
ผมคอตกและในขณะคิดวางแผนว่าจะทำอะไรกับที่นี่ดีนั้นเอง
[นั้นใครน่ะ]
ผมได้ยินเสียงเบาๆนั้นจากด้านหลังผมจึงกลับหลังหันทันที
เด็กหญิงผอมๆตัวน้อยกำลังใช้มือทั้งสองข้างเกาะเสาเพื่อพยุงตัวขึ้นมา หูแมวยาวประมาณไหล่ปรากฏอยู่บนผมสีขาวสวยของเธอ ทำให้รู้ว่าเธอไม่ใช่เผ่ามนุษย์แต่เป็นเผ่าอื่น ร่างกายเธอเปื้อนไปด้วยฝุ่นและบางส่วนเปื้อนไปด้วยเลือด
แค่มองดูเธอมันทำให้หัวใจผมเจ็บปวดเหลือเกิน เธอดูเหมือนจะถูกทำร้ายร่างกายมา
[เอ้ เธอเป็นอะไรไหม]
[ฮิคุ]
เด็กหญิงหดตัวด้วยความหวาดกลัวเมื่อผมเข้าไปใกล้เธอ
[ว ไว้ชีวิตหนู....ได้โปรดไว้ชีวิตหนูด้วยค่ะ...หนูจะเป็นเด็กดี....อย่าตีหนูเลยนะคะ]
ผมตกตะลึงที่เด็กหญิงตัวสั่นด้วยความกลัวและดวงตาของเธอถูกย้อมด้วยน้ำตา
ผมต้องแสดงให้เธอรู้ว่าผมจะไม่ทำอันตรายต่อเธอ
[ไม่เป็นไรๆ อย่างน้อยผมจะอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลยละกัน]
ผมคุกเข่าให้ระดับสายตาของผมอยู่ในระดับเดียวกันเด็กหญิง
นี่แหล่ะวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับรับมือเด็กๆตัวเล็กๆหมีๆทั้งหลายลองเอาไปใช้ดูนะ
[คุณจะไม่ทำอะไรจริงๆนะ]
[อืม]
[...คุณจะไม่ตีหนูเหรอ]
[อยากให้ผมทำอย่างงั้นเหรอ]
ผมเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่งสิ่งที่เรียกว่ารอยยิ้มจะช่วยเพิ่มความมั่นใจดังนั้น
ผมยิ้มให้เธอ ยิ้มอย่างหล่อที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้
เพราะผมไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อใบหน้าเพื่อยิ้มบ่อยนักรอยยิ้มผมคงจะดูแข็งๆ
[หนู เรียกหนูว่าทีน่า เจ้าค่ะ]
เชรด รอยยิ้ม เวิร์คเว้ย เด็กหญิง – ทีน่าแนะนำตัวเองแล้วโว้ยยยย
[ทีน่าจัง เหรอ ชั่งเป็นชื่อที่น่ารักอะไรเช่นนี้ พี่ชื่อ คามิโจวทาคุมะ อายุ17 ปี](TL:บักมะ...บอกอายุทำเพื่อ?)
[คามิโจว ทาคุมะ]
[ยาวไปเรียกยากสินะไม่เป็นไรนะเรียกแค่ชื่อพี่ได้เลย]
[อืมเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ....ท่านทาคุมะ]
พอแม่หนูนี่เรียกผมว่าท่านผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเพราะงั้นผมจึงถามทีน่าเกี่ยวกับสถานะกรณ์ของเธอดู
[ทีน่าจังเป็นลูกสาวเจ้าของโบสถ์นี้เหรอ]
[ไม่ใช่เจ้าค่ะ...โบสถ์นี้ปิดมานานมากแล้วเจ้าค่ะ]
เรื่องราวของทีน่าสรุปได้ดังนี้
ทีน่าเป็นทาสของพ่อค้าเศรษฐี คนหนึ่ง ดูเหมือนว่าเข้าจะต่อยและแตะเธอทุกวันและมีร่องรอยของการถูกเคี้ยนด้วยแส้
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่แผลฝกช้ำต่างๆสามารถเห็นได้ทั่วร่างกายของเธอ
[เพราะว่าหนูป่วยเป็นไข้...และเปลืองค่ายารักษาหนูเลยถูกทิ้งเจ้าค่ะ...]
หลังจากนั้นเธอก็มาอาศัยอยู่ที่นี่ ถูกทิ้งโดยไร้ญาติขาดมิตรเธออยู่ที่นี่เพื่อรอวันตาย
ฟังทีน่าเล่าเรื่องของเธออีกครั้งที่หัวใจผมเจ็บจนทนไม่ไหว( TL: หัวใจป๋ามันเจ็บจุงเบย)
พอคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติของโลกนี้แล้ว...ทำเอาสมองผมสั่นสะเทือนไปหมดแล้ว
ผมอ่านนิยายแฟนตาซีมามากทำให้ผมค่อนข้างเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบทาส
ทั้งหมดนี้ผมสามารถบอกได้เลยว่า {ทาสนั้นมีอยู่เพื่อที่จะรักไม่ใช่เพื่อกดขี่}
ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยเด็กสาวผู้อาภัพไว้เพียงลำพัง
[ถึงเวลาที่จะรักษาแผลเธอแล้วล่ะนะ]
[เอ้...แต่...]
[ไม่ต้องห่วงนะหนู เดี๋ยวป๋าเคลียเอง](TL: ป๋าเหรอตอนนี้เอ็งเป็นยาจกอยู่ไม่ใช่เหรอ)
อย่างแรกที่ต้องทำคือแบกทีน่าออกจากโบสถ์เทพเจ้าไรฝุ่นนี่ซะก่อน
ผมวางทีน่าลงบนก้อนหินที่ขนาดพอๆกับตัวเธอจากนั้นผมเอาชุดปฐมพยาบาลออกมาจากกระเป๋า
ผมมองไปที่ทีน่าเธอไปรอบๆและคอยหลบตาผมขณะที่รับการรักษาไปด้วย
****************************************
…… ซู่ม
บรรยากาศอันเงียบสงบเริ่มสั่นไหว
[.....................]
ณ หุบเหวที่ที่แสงจากตะวันและจันทราไม่อาจเข้าถึง
ในความมืด ความมืดอันแสนมืดมน เขาค่อยๆยกคางขึ้นอย่างช้าๆ
หลังของเขาดูคล้ายภูเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง
ถ้านำผู้คนมาปีนหลังที่ส่องประกายแสงเจ็ดสีของเขาจะมีสักกี่คนในหุบเหวแห่งความสิ้นหวังนี้ถึงจะกล้ายกเท้าขึ้น
เขาคือมังกรโบราณ เทมเพลส {Ancient Dragon (Tempest)}
เมื่อ2,000ปีทีแล้วมังกรแห่งหายนะตนนี้ถูกผนึกไว้ใต้ดิน เขาเป็น มอนเตอร์ระดับ S ซึ่งเป็นมหันตภัยร้ายแรงต่อทั้งประเทศอาณาจักรจำเป็นต้องใช้กองกำลังและทรัพยากรทั้งหมดที่มีถึงจะสามารถจัดการกับมังกรตนนี้ได้
มังกรตนนี้เขาเคยหลับอย่างสงบอยู่ที่นี่
ใช่แล้วแค่เคยน่ะนะ
[ก๊าซ…..]
มันไม่ใช่การละเมอ
เขาคำรามออกมาขณะที่แสดงเขี้ยวอันแหลมคม
ถ้าเขาหลุดออกไปได้ผู้คนนับหมื่นชีวิตจะต้องตาย
และความเป็นไปได้นั้นกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งเป็นผลมาจากผนึกอ่อนแอลงทุกๆปี
และตอนนี้ มีใครบางคนกำลังกระแทกพื้นดินที่ที่มังกรตนนี้นอนอยู่
คนสองคนที่โชคร้ายกำลังปลุกเปลวไฟแห่งการทำลายล้างขึ้นมาอีกครั้ง
…… ซุ่มซุ่ม
เสียงนั้นเริ่มดังขึ้นและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
[กรรร……]
เวลาที่จะได้ตื่นขึ้นใกล้เข้ามาแล้วเขารู้สึกได้
ใกล้ถึงเวลาที่เขาจะได้ปลดปล่อยความโกรธแค้นที่ถูกกักขังไว้นับพันปีใกล้เข้ามาแล้วเขารู้สึกตื่นเต้นมาก
ผู้แปลแถลงไข
(TL:โอตาคุ คือคนที่คลั่งใคร้ในงานอดิเรกพวก เกมส์ อนิเมะ ไลโนเวล แบบสุดๆครับ )
(TL:เรียวจูไม่ใช่ไรจูที่เป็นร่างพัฒนาของปิกาจูนะครับ มันหมายถึงพวกเพียบพร้อมชีวิตแฮบปี้มีแฟนหล่อ/สวย เจ้าฮาเร็ม)
(TL:พระเอกชื่อคามิโจว ทาคุมะไม่ใช่ คามิโจว โทมะ โลลิคอนหัวแม่นแดกแม่ชีนะ)
ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้