True Martial World บทที่ 31 คัดเลือกรอบแรก

อี้หยุนครุ่นคิด สายตาก็เหลือบเห็นใครบางคน นับตั้งแต่ก้าวผ่านเข้าสู่ขอบเขตชีพจรสัมพันธ์ ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาเฉียบคมอย่างมาก เขาเห็นเจียงเเสี่ยวโหรว เขย่งปลายเท้าชะเง้อมองไปรอบๆ ฝูงชนที่สับสนวุ่นวาย “พี่เเสี่ยวโหรว” อี้หยุนร้องตะโกนออกมา “หยุนเอ๋อร์” เจียงเเสี่ยวโหรว ดีใจที่ได้เห็นอี้หยุน “โอ้ หยุนเอ๋อร์ เจ้า...” นางรู้สึกว่าวันนี้เขาดูแตกต่างไป แต่ก็ไม่อาจชี้ชัดลงไปว่าแตกต่างที่ใด หากจะให้อธิบายที่ผ่านมาอี้หยุน เป็นเด็กอ่อนน้อมไม่เป็นพิษเป็นภัย ตอนนี้เขาดูเป็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลาน่ามองยิ่งนัก แม้เสื้อผ้าที่เหมือนกับผ้าขี้ริ้วที่สวมใส่อยู่ก็ไม่อาจข่มกลิ่นอายของความสง่างาม เพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน... จู่ๆเจียงเเสี่ยวโหรวก็นึกถึงประโยคนี้ ดาบที่ดีย่อมถูกซ่อนไว้ในฝัก รอวันที่มันจะถูกชักออกมา ตอนนี้เจียงเเสี่ยวโหรวรู้สึกถึงอี้หยุนเช่นนั้น อย่างไรก็ตามมีเพียงเจียงเเสี่ยวโหรวที่รู้สึกถึงความแตกต่าง เป็นเพราะนางมีปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่อง และคุ้นเคยกับเขาอย่างมาก สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับอี้หยุนแล้ว พวกเขาอาจพบบางสิ่งที่แตกต่างไป แล้วก็จะปัดมันทิ้งไปจากความสนใจ ด้วยตลอดมา อี้หยุนเป็นเด็กอ่อนแอขี้โรคไม่มีอะไรดีสักอย่าง “พี่เเสี่ยวโหรว ข้าสบายดี” อี้หยุนหัวเราะ เขาเองก็รู้ว่ากลิ่นอายของตนเปลี่ยนแปลงไป หลังจากการก้าวผ่านเข้าสู่ขอบเขตชีพจรสัมพันธ์ “ไปดูกันเถอะ ว่ามีอะไรกัน” เขาคว้ามือของเจียงเเสี่ยวโหรวแล้วผลักดันผ่านฝูงชน เมื่อได้เข้าสู่ขอบเขตชีพจรสัมพันธ์ พลังที่มองไม่เห็นที่แผ่ออกมาจากมือของเขาผลักดันให้ผู้คนผละออกจากกัน ปล่อยให้เขาผ่านไปได้โดยง่าย คนที่อยู่รอบๆมองหาสิ่งที่เกิดขึ้น ก็รับรู้แค่เพียงมีเด็กเดินผ่านไปเท่านั้น พวกเขาก็จะคิดว่าอี้หยุนมีร่างกายเล็ก ช่วยให้แทรกตัวผ่านฝูงชนได้ง่าย ... ตรงกลางลานกว้าง เหล่าชนชั้นสูงของเผ่าเหลียน ยังกำลังต้อนรับชายผู้ถือดาบอย่างเหมาะสมด้วยความระมัดระวัง “เฉิงอยู่ นำคำสั่งข้าไป ฆ่าวัวและจัดงานเลี้ยงรับรอง!” หัวหน้าเผ่าโบกมือด้วยหัวใจอันปวดร้าว ในเผ่ามีวัวอยู่ไม่มาก มันเป็นชะตากรรมทั้งหมดของชนเผ่าเหลียน แม้วัวที่นี่จะดูคล้ายวัวบนโลก แต่ความแข็งแรงของมันมากกว่า ในดินแดนรอบนอก พื้นดินเต็มไปด้วยหิน บางส่วนของหินนั้นคือ หินเหล็กดำ การเปิดหน้าดินเพื่อทำการเกษตรเป็นเรื่องยากมาก หากไร้วัว ชนเผ่าเหลียนจะไม่สามารถผลิตอาหารใดๆได้เลย และเมื่อถึงเวลานั้นชนเผ่าเหลียนทั้งหมดได้แต่ต้องพึ่งพาอาหารจากชนเผ่าเทา ดังนั้นค่าของวัวในชนเผ่าเหลียน มีค่าเท่ากับชีวิตคน 10 ชีวิต ฟังดูน่าสงสาร แต่นั่นเป็นความจริง เมื่อจินลองเหว่ยมาถึงเผ่าเหลียน เผ่าก็ต้องสร้างความเพลิดเพลินให้แก่แขกผู้มาเยือน แต่ชนเผ่าต้องรัดเข็มขัดสำหรับการกลั่นกระดูกเดียวดาย จึงไม่มีอาหารเหลือ พวกเขาจึงต้องหันไปฆ่าวัว ชายผู้ถือดาบรู้อยู่ว่า ในชนเผ่าเล็กๆ ในดินแดนรอบนอก มีชีวิตอยู่ในความแร้นแค้น เขาพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “ท่านไม่จำเป็นต้องฆ่าวัว ข้าเจอสัตว์อสูรเข้าจู่โจมตอนที่ผ่านมาที่นี่ ข้าฆ่ามันแล้วเก็บเนื้อไว้ที่สัตว์อสูรเนียร์ฮอร์นของข้าตัวนั้น เพื่อเป็นเสบียง ท่านแค่ให้คนมาเอามันไปปรุงเป็นอาหาร” ชายผู้นั้นเพียงพูดออกมาอย่างเรียบง่าย แต่ผู้คนในเผ่าถึงกับตกตะลึง ในดินแดนรกร้างเมฆา มีสัตว์ 3 ประเภทที่จะทำร้ายมนุษย์ ก็คือ สัตว์ป่าดุร้าย สัตว์อสูรดุร้าย และสัตว์อสูรรกร้าง! สัตว์ป่าดุร้ายพวกที่พบมากที่สุด พวกมันมีความคล้ายคลึงกับเสือและเสือดาวบนโลก นักล่าที่มีประสบการณ์แม้ไม่มีวิชายุทธ ก็สามารถล่าได้โดยใช้กับดัก สำหรับสัตว์อสูรพวกมันมีพลังในตัวเองเมื่อเทียบความแข็งแกร่งแล้วจะเทียบได้กับยอดยุทธโลหิตม่วง! มีสัตว์อสูรอยู่มากมายในดินแดนรกร้างเมฆา ภัยคุกคามอันยิ่งใหญ่ของเหล่านักล่าในเผ่าที่ออกไปล่า คือ สัตว์อสูรเหล่านี้ ถึงแม้ว่า สัตว์อสูรรกร้างจะแข็งแกร่ง แต่พวกมันก็อยู่อย่างสงบในพื้นที่ที่เรียกกันว่า “ดินเเดนรกร้าง” เป็นที่ซึ่งมีปริมาณพลังเดียวดายอยู่หนาแน่น ตราบเท่าที่หลีกเลี่ยง “ดินเเดนรกร้าง” พวกเขาก็จะปลอดภัย อย่างไรก็ตามการแพร่กระจายของสัตว์อสูรกว้างไกลเกินไป มันจึงยากที่จะหลีกเลี่ยง ยอดยุทธโลหิตม่วงมีความสามารถในการล่าไม่เพียงเพราะพวกเขาสามารถฆ่าสัตว์อสูรได้ แต่เป็นเพราะว่าหากเขาไม่สามารถเอาชนะมันได้ เขาก็สามารถหลบหนีได้ ชายผู้ถือดาบผู้นี้ข้ามดินแดนรอบนอกและฆ่าสัตว์อสูรได้อย่างง่ายดาย ความแข็งแกร่งของเขาเป็นที่น่าริษยามาก! เหลียนเฉิงอยู่ สูดลมหายใจลึกและกำหมัดแน่น เนื้อจากการล่าสัตว์อสูร อยู่ในถุงใหญ่โป่งพองบนสัตว์อสูรเนียร์ฮอร์นตัวนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจน “วันหนึ่ง ข้าจะต้องแข็งแกร่งขนาดนั้น และไปไกลยิ่งกว่านั้น!” เหลียนเฉิงอยู่ ตั้งใจอย่างแน่วแน่ เมื่อได้ยินว่าไม่จำเป็นต้องฆ่าวัว หัวหน้าเผ่ายินดียิ่งแต่ยังกล่าวอย่างสุภาพว่า “นั่นจะทำได้อย่างไร? พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ผู้มาเยือนเตรียมอาหารเอง เผ่าของพวกเราอาจยากจน แต่...” “พอได้แล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น การมาที่นี่ของข้าเป็นธุระของทางการ” ชายผู้ถือดาบพูดด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ เขาไม่สนใจในความสุภาพจอมปลอมที่ชนเผ่าเหลียนแสดง “ท่านราชทูต ได้โปรดกล่าว! แม้ว่าชนเผ่าเหลียนของข้าจะไม่มีอะไร แต่ก็มีคนหลายพันคน หากท่านราชทูตมีข้อเรียกร้องใดๆที่ต้องการจากเรา กรุณากล่าวมาเถอะ!” หัวหน้าเผ่ากล่าวอย่างนอบน้อมโดยไม่เดือดร้อนใดๆกับการถูกขัดจังหวะคำพูด เขารู้ว่านี่คือสมาชิกของจินลองเหว่ย ย่อมไม่มาถึงสถานที่ไร้ค่าเหมือนเผ่าเหลียน ชายผู้นั้นพูดขึ้นว่า “เมื่อเร็วๆนี้ที่ดินแดนรกร้างเมฆามีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้น และที่ตั้งของชนเผ่าเหลียนอยู่ในบริเวณของเหตุการณ์นั้น! นี่คือเหตุผลที่จินลองเหว่ยมาที่นี่” ขณะชายผู้นั้นลดเสียงลง ท่าทีของหัวหน้าเผ่าก็เปลี่ยนไป มีบางสิ่งเกิดขึ้นที่ดินแดนรกร้างเมฆา? นอกจากนี้จากน้ำเสียงที่เขาพูด เขาเป็นเพียงหนึ่งในสมาชิกจินลองเหว่ยหลายคนที่มา เหตุการณ์นี้ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษโดยจินลองเหว่ย และ เป็นบางสิ่งที่ชนเผ่าเหลียนไม่สามารถที่จะเข้าใจ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นคำพรหรือคำสาปสำหรับชนเผ่าเหลียนที่ต้องอยู่ภายในบริเวณของเหตุการณ์นั้น หากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องใหญ่ การดำรงอยู่ราวมดปลวกของชนเผ่าเหลียนจะดับสูญไปโดยเงียบงัน เมื่อเห็นท่าทางของหัวหน้าเผ่า ชายผู้นั้นพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับท่าน แต่จะมีคนจำนวนมากผ่านมาในอาณาบริเวณเผ่าของท่าน อาจเป็นหมู่คนจำนวนมากจะให้ดีที่สุดก็อย่าไปขัดใจพวกเขา” “ขอรับ ข้าผู้ชราขอรับสิ่งที่ท่านราชทูตกล่าวไว้ในใจ” หัวหน้าเผ่าพยักหน้ารับ ชายผู้นั้นพูดต่อไป “การมาเยือนเผ่าเหลียนของข้าไม่ใช่เรื่องมารบกวน หัวหน้าของข้าได้มีคำสั่ง ให้ข้ามาให้คำชี้แนะบางอย่างในการเตรียมการ เพื่อการคัดเลือกของอาณาจักรในเร็วๆนี้!” ตอนที่พูดประโยคนี้ ชายผู้นั้นหันไปทางชนเผ่าเสียงของเขา ดังและชัดเจนแม้จะห่างไปเป็นสิบไมล์ ฝูงชนเงียบกริบไปชั่วขณะ “ข้าชื่อ จางอวี๋เซียน จำไว้ให้ดี ข้ามาเยือนที่เผ่าเหลียนนี่เพื่อเลือกชายหนุ่มอายุต่ำกว่า 28 ปี 30 คน เป็นศิษย์ชั่วคราวของข้า ข้าจะให้คำชี้แนะเจ้าเรื่องทักษะและเคล็ดวิชา” “ข้าจะอยู่ที่นี่แค่ 3-5 วัน เจ้าต้องพยายามอย่างหนัก หากเข้าใจในสิ่งที่ข้าสอน เจ้าจะผ่านการคัดเลือกของอาณาจักรได้อย่างแน่นอน!” ชนเผ่าเหลียนกลั้นหายใจในขณะที่จางอวี๋เซียนกล่าวคำพูดเหล่านั้น การคัดเลือกของอาณาจักร! อนาคตพวกเขาผูกติดไว้กับมัน ทั้งเผ่าได้เผาสะพานของพวกเขาแล้วเพื่อให้มั่นใจว่า เหลียนเฉิงอยู่ ผ่านการคัดเลือก! สมาชิกเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นจนพวกเขารู้สึกมีปัญหาในการหายใจ ผู้เยี่ยมยุทธจากจินลองเหว่ย มาที่เผ่าตระกูลเหลียนเพื่อให้คำชี้แนะเกี่ยวกับทักษะและเคล็ดวิชากับพวกเขาจริงๆ นี่เป็นสิ่งดี! พวกเขาไม่มีความหวังใดๆที่จะผ่านการคัดเลือกของอาณาจักร แต่หากได้รับการชี้แนะจาก จางอวี๋เซียน ได้เรียนรู้ทักษะชั้นสูงจากจินลองเหว่ย มันจะช่วยในความก้าวหน้าในอนาคตของพวกเขา! เมื่อเหลียนเฉิงอยู่ผ่านการคัดเลือกของอาณาจักรและเข้าไปอยู่ในเมือง ผู้ที่แข็งแกร่งย่อมมีชัยในความร่ำรวยด้วยตนเอง! “ ข้าจะเลือก 30 คน อาจพูดได้อีกอย่างว่า ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกของอาณาจักรจะเป็นหนึ่งในสามสิบคนนี้! ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกจากข้า จะไม่มีสิทธิที่จะเข้าร่วมการคัดเลือกของอาณาจักร!” หลังจากได้ยินคำพูดของ จางอวี๋เซียน อี้หยุนเข้าใจได้ทันที จางอวี๋เซียนผู้นี้เป็นตัวแทนของอาณาจักรในการคัดเลือกรอบแรก การคัดเลือกของอาณาจักรไม่เคยถูกจัดขึ้นที่ดินแดนรกร้างเมฆา ดินแดนรกร้างเมฆาขาดแคลนทรัพยากร ความแข็งแกร่งเฉลี่ยของผู้ฝึกยุทธอยู่ในระดับต่ำ ทั้งอยู่กระจัดกระจาย จึงเป็นเรื่องยากที่จะทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกเผ่าสามารถมีส่วนร่วมในการทดสอบ จึงเกี่ยวข้องกับกำลังคนและทรัพยากรจำนวนมาก ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมของจินลองเหว่ย เช่น จางอวี๋เซียน จึงทำการเลือกเบื้องต้นเพื่อประหยัดเวลา! “ตอนนี้ คนที่ต้องการเป็นศิษย์ชั่วคราวของข้า เข้าร่วมการฝึกเป็นเวลา 3 วัน และต้องการมีส่วนร่วมในการคัดเลือกของอาณาจักร จงก้าวออกมาข้างหน้า ข้าจะเลือก 30 คน!” ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันทีที่จางอวี๋เซียนพูดจบประโยคสมาชิกเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธเป็นพวกแรกที่พุ่งไปข้างหน้าด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ผู้ที่รู้วิธีอ่านลักษณะท่าทางเช่น จ้าวเทียจู่ มองไปที่ เหลียนเฉิงอยู่ เพื่อขออนุญาตก่อนเป็นอันดับแรกก่อนจะเบียดตัวไปข้างหน้าจางอวี๋เซียน ในช่วงเวลาสั้นๆ สมาชิกในเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธทั้งหมดก็มายืนอยู่ข้างหน้า มีคนประมาณ 60 คนในเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ มีอายุในช่วงที่ต้องการอยู่ 40 คน จางอวี๋เซียน ต้องการเพียง 30 คน ซึ่งหมายความว่ามีประมาณ หนึ่งโหลที่จะถูกคัดออก! สมาชิกที่อ่อนแอของเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธเริ่มจะเป็นประสาท กลัวว่าจะถูกคัดออกโดย จางอวี๋เซียน

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้