True Martial World บทที่ 36 ต้องกินต้นไม้จริงเหราะ

“โอ้? เจ้าไม่เข้าใจ?” เมื่อเห็นจ้าวเทียจู่ละล้าละลัง สีหน้าของจางอวี๋เซียนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ข้า...” จ้าวเทียจู่ พูดไม่ออก เขารู้สึกว่า จางอวี๋เซียน กลั่นแกล้งเขา หรือว่านายท่านจางได้ยิน เขาเยาะเย้ยถากถางอี้หยุน แล้วจงใจกลั่นแกล้งเขา แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เขาไม่พอใจได้อย่างไร? แต่ก็ไม่กล้าย้อนถามจางอวี๋เซียน ในเวลานี้สมาชิกของเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธมองมาที่จ้าวเทียจู่ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ พวกเขารู้ถึงคำพูดของจ้าวเทียจู่ที่พูดกับอี้หยุนก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่คาดว่ากรรมสนองจะมาเร็วปานนั้น! เมื่อเห็นจ้าวเทียจู่ประสบเคราะห์กรรม ชายสองคนที่ร่วมเรื่อง กินลูกกลิ้งหินใหญ่ กับ ดื่มน้ำจากแม่น้ำตะวันออก เริ่มเกร็งกระตุก พวกเขาอยากจะตบปากตัวเองว่าทำไมเข้าไปร่วมบ้ากับจ้าวเทียจู่? มันเป็นไปได้ว่าพวกเขากำลังจะได้รับผลกรรมนั้นแล้ว เป็นไปได้ว่าจะต้องกัดกินต้นไทรใหญ่ คำสองคำ แต่จะกินลูกกลิ้งหินได้อย่างไร “จ้าวเทียจู่ อยู่เฉยทำอะไร? เจ้าได้รับคำสั่งให้กินต้นไม้ ไม่ได้ยิน?” เหลียนเฉิงอยู่ได้เห็นความไม่เต็มใจของจ้าวเทียจู่ จึงกล่าวตำหนิเขา เหลียนเฉิงอยู่ไม่สนใจว่าเหตุผลคืออะไร เขาตัดสินใจตั้งแต่ได้รับคำสั่งจากจางอวี๋เซียน คำสั่งใดๆจากท่านราชทูตผู้สูงส่งต้องได้รับการปฏิบัติตาม ทั้งหมดนั่น เป็นเพราะโชคร้ายเท่านั้น “ข้า… ข้า ...” จ้าวเทียจู่ ทำใจด้วยใบหน้าขมขื่น เขาพูด “ข้าจะกิน...” เขาหมอบลงและหักเศษไม้ จ้าวเทียจู่มองไปที่เศษไม้ด้วย ความเศร้าที่ไร้น้ำตา เศษไม้นี้สามารถใช้สร้างบ้านได้ ข้าถูกถือว่าเป็นปลวก! เมื่อเห็นใบหน้าไม่เป็นมิตรของเหลียนเฉิงอยู่ จ้าวเทียจู่ได้แต่ไว้อาลัยชะตากรรมของเขา หลับตาแล้วยัดเศษไม้เข้าไปในปาก รสชาติยากเกินกว่าจะบรรยายเป็น “ความสนุกสนานเพลิดเพลิน” จ้าวเทียจู่รู้สึกราวลำคอถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เขากล้ำกลืนมันลงไปด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง เขามองจางอวี๋เซียนอย่างหมดหนทางมันอ่านได้ว่า “พอแล้วหรือไม่?” แต่จางอวี๋เซียน เพียงพูดว่า “ทำต่อไป!” จ้าวเทียจู่เกือบเป็นลม! เขายอดเยี่ยมในเรื่องการยกลูกกลิ้งหิน ตัดต้นไม้ และตอกเสาเข็ม แต่การกินไม้ มันทรมาน! “นายท่านจาง ข้าไม่เข้าใจวิชาลับนี้?” แต่เดิมเหลียนเฉิงอยู่ มีความคิดว่า จางอวี๋เซียนกลั่นแกล้งจ้าวเทียจู่ ให้เขาเข้าใจถึงความสำคัญต่อการทำตามคำสั่ง แต่ตอนนี้มันดูไม่ถูกต้อง ดูเหมือนว่า การที่จ้าวเทียจู่กินต้นไม้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาลับ ถ้าเช่นนั้น แม้แต่เขาก็ต้องกินมันด้วย เขาจึงต้องถามให้แน่ใจ จางอวี๋เซียนมีทัศนคติที่ดีต่อเหลียนเฉิงอยู่ เขาพูดขึ้นว่า “นี่คือวิชาลับที่รู้จักกันชื่อว่า ‘เคล็ดวิชากลืนกินคชสาร’ มันเป็นเคล็ดวิชาที่ใช้ฝึกกระเพาะอาหารและความสามารถในการย่อยอาหาร! คนที่ฝึกสำเร็จ เคล็ดวิชากลืนกินคชสาร จะกินได้มากเท่าที่ต้องการได้ทุกมื้อ มีคำร่ำลือว่า บางคนสามารถกินช้างได้ทั้งตัว จึงเป็นที่มาของชื่อนี้” สมาชิกของเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธต่างแสดงความรู้สึกออกทางสีหน้า พูดง่ายๆ เคล็ดวิชากลืนกินคชสาร เป็นเพียงเคล็ดวิชาการกิน นี่ไม่ใช่ว่าเป็นทักษะการเขมือบ? นี่สามารถบอกว่าเป็นวิชาลับ? เมื่อเห็นสีหน้าของเหล่าสมาชิกเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ จางอวี๋เซียน รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร เขากล่าวอย่างเย้ยหยัน “เจ้าพวกคนรู้น้อยนิดราวกับมด เจ้ากล้าตีราคาทักษะพื้นฐานสำคัญของจินลองเหว่ย! ว่าเป็นแค่เรื่องขบขัน!” “การฝึกกระเพาะอาหารของผู้ฝึกยุทธเป็นสิ่งสำคัญมาก! แม้ว่าจะมีหัวใจและปอดที่ดี ทำให้ทนการต่อสู้อันยากลำบากได้นาน แต่การต่อสู้ที่ดี ไม่อาจดีกว่าการบ่มเพาะ หากกระเพาะอาหารแข็งแรงจะมีประโยชน์ต่อการบ่มเพาะ” “สำหรับเหล่าผู้ฝึกยุทธโลหิตมนุษย์ เจ้าอาจเคลื่อนลูกกลิ้งหินต่อสู้ ปีนขึ้นต้นไม้และบ้าน การทำแบบนั้นได้พลังงานทั้งหมดมาจากที่ไหน? มันมาจากอาหารที่กิน!” “สำหรับผู้ฝึกยุทธที่มีการฝึกกระเพาะอาหารมาอย่างดี จะมีความอยากอาหารอย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขาสามารถกินวัวได้หมดใน 3 วัน ปริมาณสารอาหารที่ดูดซับได้จะมีมากขึ้น กล้ามเนื้อจะเติบโตแข็งแรงขึ้น และเพิ่มความแข็งแกร่งให้โดยธรรมชาติ” เสียงของจางอวี๋เซียนดังขึ้น อี้หยุนหวั่นไหวด้วยคำพูดของเขา อันที่จริงการส่งพลังของผู้ฝึกยุทธนั้นยอดเยี่ยม พลังงานนี้มาจากที่ไหนสักแห่ง และแหล่งพลังงานสำหรับ ผู้ฝึกยุทธโลหิตมนุษย์ได้มาจากอาหาร อาหารคือพลังงาน หากใครกินได้มากขึ้น ก็จะได้รับประโยชน์จากธรรมชาติมากขึ้น พิจารณาจากเด็กที่มีค่าเฉลี่ยความสามารถจากครอบครัวอันมีเกียรติ เวลาส่วนใหญ่ที่พวกเขาไม่ได้ใช้ไปกับแก่นพลังกระดูกเดียวดาย สำหรับการบ่มเพาะ ก็จะอยู่ที่การกินเนื้อสัตว์อสูรรกร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง คนส่วนใหญ่จะกินเนื้อสัตว์อสูรรกร้าง ได้เต็มที่ก็ประมาณ 4 กิโลกรัม เมื่อเป็นเช่นนั้น ความอยากอาหารก็ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเขาก็จะใช้เวลาที่เหลือไปกับการดูแลครอบครัว หากมีคนอื่นๆที่สามารถกินเนื้อสัตว์อสูรรกร้างได้เป็น 100 กิโลกรัม และกระเพาะก็ยังมีประสิทธิภาพย่อย เนื้อสัตว์อสูรรกร้างได้ทั้งหมด ก็จะสามารถได้รับแก่นพลังข้างใน เพื่อทำการบ่มเพาะอย่างหนักได้ พวกเขาก็จะสามารถก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้นไปอีก ดังนั้นการมีกระเพาะที่ดีเป็นหนึ่งในความได้เปรียบ! วิชาที่จางอวี๋เซียนบอกคือ เคล็ดวิชากลืนกินคชสาร มันเป็นเคล็ดวิชาพื้นฐานสำหรับการฝึกยุทธ จางอวี๋เซียนกล่าวต่อไป “ผู้ฝึกยุทธที่มาจากเผ่าใหญ่ จะฝึกเคล็ดวิชากลืนกินคชสาร ด้วยเนื้อสัตว์อสูรรกร้าง ในขณะที่ดินแดนรกร้างเมฆา ขาดแคลนวัตถุดิบ เจ้าไม่สามารถแม้แต่เติมเต็มท้องได้ อย่างไรก็ตาม การฝึกเคล็ดวิชากลืนกินคชสารก็มีประโยชน์!” “การมีกระเพาะอาหารที่แข็งแกร่งจะช่วยให้สามารถดูดซึมสารอาหารที่กินลงไป!” “คนธรรมดาจะเสียแก่นพลังไปเมื่อพวกเขาย่อย ห้าธัญพืชที่กินลงไป ส่วนใหญ่ขับออกมาเป็นอุจจาระ” “ของเสียของมนุษย์ถูกกินโดยสุนัข หนอนเจริญเติบโตในอุจจาระและด้วงมูลสัตว์ปั้นมูลเป็นลูกกลมเก็บไว้เป็นอาหาร! ที่เป็นแบบนั้น เพราะมีสารอาหารจำนวนมากที่ไม่ได้ถูกดูดซับอย่างสมบูรณ์!” “หากเจ้าไม่สามารถแม้แต่จะดูดซับห้าธัญพืช ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ไม่ต้องคิดเรื่องการกินอาหารล้ำค่า!” “ไม่มีกระเพาะที่ดี ก็ไม่สามารถย่อยอาหารล้ำค่าได้!” “หลังจากที่เรียนรู้ เคล็ดวิชากลืนกินคชสาร ก็จะสามารถดูดซับ สิ่งที่กินลงไปได้อย่างสมบูรณ์! เมื่อพบกับความอดอยาก ก็สามารถกินและย่อยเปลือกไม้ได้ หรือกินกวนอิมดินก็จะให้คุณค่าโภชนาการในการดำรงชีวิต!” “จากวันนี้ไป เจ้าต้องกินรากไม้ เปลือกไม้ และกวนอิมดิน เป็นอาหาร หลังจากที่กินแล้ว ก็ฝึกตามวิธี ในเคล็ดวิชากลืนกินคชสาร เพื่อกระตุ้นให้กระเพาะย่อยอาหารที่ยากต่อการย่อยเหล่านี้ ให้เป็นสารอาหาร!” หลังจากได้ยินคำพูดของจางอวี๋เซียนเหล่าสมาชิกในเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ ถึงกับพูดไม่ออก พวกเขาต้องกินไอ้นั่น? พวกเขามีแค่ ไม้ และกวนอิมดิน เป็นอาหารสำหรับ 3 วันนี้! แต่เดิมพวกเขาคิดว่าจะสามารถได้ลิ้มลองเนื้อที่จางอวี๋เซียนได้จากการล่าสัตว์อสูร เป็นความจริงที่โหดร้าย นอกจากไม่ได้กินเนื้อ พวกเขายังไม่ได้รับอนุญาต แม้แต่จะกินโจ๊กข้าว ใบหน้าของเหล่าสมาชิกเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธขมขื่นยิ่งไม่มีผู้ใดอยากกินต้นไม้ พวกเขาต้องการกระบวนการที่ง่ายกว่านี้ ในขณะที่พวกเขามองหน้ากัน อี้หยุนก็เดินออกมาจากกลุ่ม เขาหมอบลงตรงหน้าต้นไทรใหญ่ หักกิ่งก้านออกและกลืนมันลงไป รวมทั้งใบและทุกอย่าง การฝึกวิชายุทธ มิได้หมายความถึงความสนุกสนานเพลิดเพลิน มันทุกข์ทรมาน ยุ่งยากและเสี่ยงต่อชีวิต ไม่เพียงแต่วิชายุทธ อี้หยุนรู้แม้แต่ที่บนโลก เด็กที่ฝึกการแสดงผาดโผน เต้นรำ ยูโด หรือ การฝึกอื่นๆ มีการฝึกที่ยากลำบาก ยกตัวอย่าง ครูจะคุกเข่าลงบนหลังเด็กแล้วออกแรงดัน ความเจ็บปวดที่เด็กเหล่านั้นได้รับไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่ผู้ใหญ่จะสามารถทานทน ในโลกประหลาดใบนี้ เบื้องหลังผู้เยี่ยมยุทธไร้ผู้ใดเทียม ต่างก็มีความพยายามอันไม่สามารถอธิบายได้ การกินไม้หรือกวนอิมดิน จะนับเป็นอะไรได้

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้