เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น สมาชิกเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธก็มาถึงลานกว้าง พวกเขารู้อยู่แล้วว่าจางอวี๋เซียนจากไปแล้ว
ผู้คนทั้งหลายได้ยินเสียงสัตว์อสูรเนียร์ฮอร์น ที่ควบออกไปในคืนที่ผ่านมา แน่นอนว่ารวมอี้หยุนด้วย
“อี้หยุน!”
ที่ลานกว้าง เหลียนเฉิงอยู่เรียกอี้หยุนมาแต่ไกล ท่าทีของเขายังคงอบอุ่น
“นายน้อยเหลียน มีเรื่องอะไร?”
อี้หยุนยิ้ม เขารู้ว่าที่เหลียนเฉิงอยู่ กระทำแบบนี้เป็นการแสดงให้ชาวบ้านดู ที่ลานกว้างมีผู้ชมจำนวนมาก
แม้ว่าเหลียนเฉิงอยู่ ต้องการกำจัดอี้หยุนมานานแล้ว เขาก็ไม่ต้องการจะทำต่อหน้าชาวบ้านที่มีความชื่นชมอี้หยุน
มันเป็นไปได้ที่จางอวี๋เซียนอาจกลับมายังเผ่าเหลียนเพื่ออี้หยุน หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ถึงแม้ว่า จางอวี๋เซียนจะไม่กลับมาเขาก็อาจถามถึงอี้หยุน ที่การคัดเลือกของอาณาจักร
หากเหลียนเฉิงอยู่ ทำร้ายอี้หยุนในที่สาธารณะ อาจทำให้เขารู้สึกดีขึ้น แต่ด้วยผู้ชมมากมายนี้ คำพูดที่จะแพร่กระจายออกไป จะอยู่ในอัตราที่เขาไม่สามารถทำให้ทั้งเผ่าเงียบได้
หากได้รับการตรวจสอบเรื่องราวจากจางอวี๋เซียน ก็จะพัวพันมาถึงเขา
ดังนั้นเหลียนเฉิงอยู่จึงวางแผนใช้วิธีการที่ช้าและให้ผลแน่นอนในการกำจัดอี้หยุน
เมื่อสังเกตเห็นว่าเหลียนเฉิงอยู่ไม่ได้เปลี่ยนตารางการฝึก
อี้หยุนมีความสุขในการเข้าร่วมกับเหลียนเฉิงอยู่ฝึกฝนมวยไท่จี๋(ไท้เก๊ก)
นอกจากนี้ หากพวกเขาขัดแย้งแตกหักกันจริงๆ อี้หยุนก็ยังไม่แข็งแกร่งพอ แล้วเขาก็ยังไม่ได้ดูดซับแก่นพลังกระดูกเดียวดายให้เสร็จสิ้นอีกด้วย
“อี้หยุน นายท่านจางทิ้งข้อความและกล่องยาไว้ ในข้อความบอกไว้ว่าเป็นยาสำหรับเราสองคน ยานี้สำหรับข้าไม่มีผลอะไรนัก คนที่มีการบ่มเพาะต่ำไม่ควรกินมัน แต่สำหรับเจ้า มันเหมาะมากในการสร้างพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น”
เหลียนเฉิงอยู่ให้เหตุผลได้ดี หากอี้หยุนไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร ก็คงจะเชื่ออย่างเต็มที่
“โอ้ ยา!?” ดวงตาของอี้หยุนเป็นประกายตื่นเต้นและคาดหวังมาก
“นายท่านจาง ทิ้งยาไว้ให้ข้า?”
เมื่อเห็น อี้หยุนดูโง่งม เหลียนเฉิงอยู่ยิ้มเยาะในใจ มันเป็นเจ้าโง่ทึ่มอย่างแน่นอน มันคงเชื่อจริงๆว่ามีส้มหล่นลงจากฟ้า
“นายท่านจางเป็นคนใจกว้างจริงๆ ความเมตตาที่เขาให้เราสองคน ต้องจดจำไว้ แม้ว่าพวกเราจะรุ่งเรืองขึ้น!”
เหลียนเฉิงอยู่ตบเบาๆและให้คำแนะนำอี้หยุน ในดวงตาของเขามีประกายสังหาร
ตอนนี้จางอวี๋เซียนจากไปแล้ว เหลียนเฉิงอยู่ไม่สามารถปกปิดความตั้งใจที่จะฆ่าอี้หยุนได้
“นายน้อยเหลียนเฉลียวฉลาดนัก ข้าผู้น้อยจะไม่ลืม”
อี้หยุนตอบด้วยความต้องการที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง
“อี้หยุน ความสามารถของเจ้า อยู่ห่างไกลจากข้ามาก เมื่อกลั่นแก่นพลังกระดูกเดียวดายได้ ข้าตั้งใจจะให้เจ้าบางส่วน แก่นพลังกระดูกเดียวดายนี้ ไม่เพียงแต่เป็นความกังวลของอนาคตพวกเรา แต่ยังเกี่ยวข้องกับอนาคตของหลายพันชีวิตในเผ่าเหลียน ข้าไม่สามารถไว้ใจใครได้ นอกจากเจ้า น้องอี้ ข้าจะมั่นใจมากขึ้นหากเจ้าไปดูแลการกลั่น”
“งั้นก็ทำตามนี้ ในวันนี้ เจ้าก็ดูแลเรื่องการกลั่นกระดูกเดียวดาย เมื่อกลั่นได้ เราพี่น้องก็จะกินมันด้วยกัน ข้าจะช่วยเจ้าให้เจ้า ก้าวผ่านเข้าสู่ระดับสองของโลหิตมนุษย์ ประกาศศักดา แล้วข้าจะให้ยาของนายท่านจาง ช่วยให้การบ่มเพาะของเจ้าก้าวไปอีกขั้น”
เหลียนเฉิงอยู่ แสร้งยิ้มในขณะที่กล่าวคำพูดเหล่านั้น
อี้หยุนรู้ว่ามันเป็นยิ้มเย้ยหยัน
เมื่อไม่มีจางอวี๋เซียน สำหรับเหลียนเฉิงอยู่ อี้หยุนเป็นเพียงเด็กที่อาจบดขยี้ได้อย่างง่ายดายในฝ่ามือเขา
ถึงแม้ว่าเหลียนเฉิงอยู่ เตรียมยาให้เขาจริงๆ มันก็น่าจะเป็นยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้าที่จะทำให้เขาเป็นอัมพาตและค่อยๆตายอย่างเจ็บปวดทรมาน
แต่จากมุมมองของเหลียนเฉิงอยู่แล้ว ไม่มีพิษใดดีกว่าพิษเยือกแข็งของอสรพิษเยือกแข็ง มันไม่มียารักษา การใช้พิษเยือกแข็งของอสรพิษเยือกแข็งฆ่าอี้หยุนเหมาะมากที่สุด!
“ข้าจะทำตามที่นายน้อยเหลียนมอบหมาย”
อี้หยุนกล่าวรับรองพร้อมกับตบลงบนหน้าอกของตนเอง เขาให้คำมั่นราวกับหนุ่มเลือดร้อน
ตอนที่จางอวี๋เซียนมาถึงเผ่าเหลียน การกลั่นกระดูกเดียวดายไม่ได้หยุดชะงัก เพียงแต่ย้ายไปที่ภูเขาสมุนไพรเผ่าเหลียน หม้อน้ำใบใหญ่ยังคงถูกเผาไหม้ทั้งกลางวันและกลางคืน
เหลียนเฉิงอยู่ต้องการใช้พิษเยือกแข็งทำร้ายอี้หยุนต่อไป ใช้มันทำให้อี้หยุนตายอย่างช้าๆและทรมาน นอกจากจะไม่มีผู้ใดสงสัยเขาแล้ว คนตายก็ไม่อาจบอกเล่าสิ่งใด
แต่สำหรับอี้หยุนวางแผนที่จะดูดซับพลังงานทั้งหมดของกระดูกเดียวดาย ก่อนที่เขาจะสลัดเหลียนเฉิงอยู่ทิ้ง เขาต้องการที่จะก้าวผ่านเข้าสู่ขอบเขตของลมปราณรวบรวม เพื่อเพิ่มแต้มต่อในมือ
ดังนั้นพวกเขาสองคนล้วนแต่มีแผนการของตนเอง
อี้หยุนก็มีความสุขที่จะไปกลั่นกระดูกเดียวดาย
แน่นอนสำหรับเหลียนเฉิงอยู่ ท่าทางร่าเริงของอี้หยุนคล้ายกับเด็กน้อยที่ยังไม่โต
“เจ้าโง่ ข้าส่งมันไปตายแล้วมันก็ยังมีความสุขมาก ความสามารถของข้าสูญเสียไปเพราะเจ้าโง่นี่ได้อย่างไร? มันน่าขายหน้า!”
เหลียนเฉิงอยู่ เยาะหยัน เขากำหมัดแน่นจนนิ้วมือเกิดเสียงดังเบาๆ
หลังจากที่ไม่ได้ดูดซับพลังงานจากกระดูกเดียวดายมาสามวัน เมื่อไม่มีพลังงานจากกระดูกเดียวดายมาเสริมพลังให้เขา การบ่มเพาะของอี้หยุนจึงเป็นอย่างเชื่องช้า ยังเป็นผลให้เขารู้สึกหิว
“ไอ้เด็กบ้า ไปตายที่ไหนมา?”
ชายหน้าดำที่ดูแลการกลั่นกระดูกเดียวดายตะคอกอี้หยุน คนพวกนี้พักอยู่ที่ภูเขาสมุนไพรเผ่าเหลียน พวกเขาไม่รู้เรื่องราวใดๆที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับจางอวี๋เซียน การรับรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับอี้หยุนยังคงเป็นเจ้าเด็กขี้โรค ดังนั้นพวกเขายังคงความไม่เป็นมิตร
อี้หยุนก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาเดินไปที่จุดอันคุ้นเคยและเริ่มตัดไม้ วันนี้ เขาเตรียมจะดูดซับพลังงานทั้งหมดจากกระดูกเดียวดาย เพราะเขารู้ว่ามีเวลาเหลือไม่มาก ความอดทนของเหลียนเฉิงอยู่ใกล้ถึงขีดจำกัดในอีกไม่กี่วันนี้ เขาต้องก้าวผ่านเข้าสู่ระดับห้าของโลหิตมนุษย์ลมปราณรวบรวม ให้ได้
อี้หยุนสูดลมหายใจลึกๆ หันหน้าไปทางหม้อน้ำที่ถูกเผาไหม้ ในสายตาของเขาเห็นจุดแสงไร้ที่สิ้นสุด จุดแสงเหล่านี้เหมือนอาหารอันโอชะ
อี้หยุนน้ำลายไหลแล้ว
มาซิ มาให้ข้ากินให้เกลี้ยง! เขานึกในใจ วังวนสีม่วงเกิดขึ้นในหัวใจเขาราวกับตาของพายุ ในเสี้ยววินาทีนั้น อี้หยุนรู้สึกว่าร่างกายของเขาร้อนขึ้น การไหลของความร้อนแล่นผ่านเส้นลมปราณ เริ่น ตู ที่เพิ่งเปิดของเขา
แล้วอี้หยุนก็ได้เห็น จุดสีม่วงแดงมากมายออกมาจากปากหม้อน้ำจุดแสงนับไม่ถ้วนเริ่มโผล่ออกมาจาก ”น้ำหลีฮั่ว” และบินเข้าหาเขาราวกับฝูงนก!
“นี่...” อี้หยุนตกตะลึงไปชั่วขณะจำนวนจุดแสงมากมายเกินกว่าที่เขาคาดไว้ กว่าเขาจะพบก็สายไปเสียแล้ว!
แสงตกมาที่ร่างกายอี้หยุนราวกับฝนเข้าสู่เส้นลมปราณของเขาอย่างไม่อาจต้านได้
อี้หยุนรู้สึกร่างกายสั่นสะเทือนในทันที เขารู้สึกว่าเส้นลมปราณของเขากำลังจะระเบิด!
เจ็บ!
มันเจ็บปวดรุนแรงมากจนอี้หยุนล้มลงไป นอนอยู่กับพื้น และพลังงานยังคงเข้าสู่ร่างกายของเขาโดยไม่หยุดชะงัก
หากผู้คนที่ดูแลการกลั่นกระดูกเดียวดายสามารถมองเห็น ก็จะเห็นว่าร่างกายของอี้หยุนถูกปกคลุมด้วยรัศมี
ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้