True Martial World บทที่ 41 บาดเจ็บ

ในวันนี้ อี้หยุนรวบรวมความแข็งแกร่งเพื่อดูดซับพลังงานจากกระดูกเดียวดาย แต่ไม่ได้คาดว่าพลังงานจะมีความรุนแรงมากมายถึงเพียงนี้ แต่เดิมเขาคิดว่าการดูดซับพลังงานกระดูกเดียวดายจนเกลี้ยงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5-6 วัน แต่ตอนนี้เขาต้องดูดซับพลังงานมากมายนั้นเพียงไม่กี่วินาทีมากกว่าพลังงานที่เขาดูดซับตลอดไม่กี่วันที่ผ่านมา! นี่เป็นผลจากการเปิดของเส้นลมปราณ? เขารู้สึกถึงความอุ่นภายในเส้นลมปราณก็เข้าใจในทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาดูดซับพลังงานกระดูกเดียวดาย หลังจากก้าวผ่านเข้าสู่ระดับสี่ของโลหิตมนุษย์ ขอบเขต ชีพจรสัมพันธ์! ก่อนหน้านี้ตอนที่เส้นลมปราณยังไม่ถูกเปิด เขาดูดซับพลังงานกระดูกเดียวดายโดยการใช้เนื้อหนัง ความสามารถของเนื้อหนังที่จะรับได้มีจำกัด เขาจึงอิ่มอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เส้นลมปราณของเขาเปิดแล้ว มันจึงต่างออกไป เส้นลมปราณในร่างกายเป็นช่องทางผ่านของลมปราณ ดังนั้นความสามารถในการรับของมันจึงสูงกว่าเนื้อหนัง เส้นลมปราณเป็นเหมือนทางด่วนพิเศษของพลังงาน เมื่ออี้หยุนก้าวผ่านเข้าสู่ ขอบเขตชีพจรสัมพันธ์ ก็เท่ากับเปิดช่องทางด่วนพิเศษของพลังงานในร่างกาย แต่เดิม พลังงานกระดูกเดียวดาย ซึมผ่านเข้าสู่ร่างกายของเขา แต่ตอนนี้ พลังงานเข้าสู่ร่างกายของเขาโดยตรงด้วยการใช้ช่องทางด่วนพิเศษ เส้นลมปราณ มันเทียบกันไม่ได้โดยสิ้นเชิง อี้หยุนยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับวิชายุทธ เขาจึงไม่อาจทราบถึงความแตกต่างนี้ เขาเคยทำร้ายตนเองได้รับบาดเจ็บค่อนข้างรุนแรง และเพิ่งเปิดเส้นลมปราณมาได้ไม่กี่วัน จึงไม่สามารถทนต่อพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ เขาดูดซับแก่นพลังกระดูกเดียวดายจากอสรพิษเยือกแข็งมาอย่างเกลี้ยงเกลา! “โชคร้ายจริงๆ นี่เป็นผลของการดูดซับพลังงานมากเกินไป” อี้หยุนรู้สึกโชคร้ายมาก เขารู้สึกว่าเส้นลมปราณทั่วร่างกายกำลังจะแตก มันเหมือนกับว่าเขาจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาอาการอาหารไม่ย่อย หลังจากการกินไม่อั้นกับรายการบุฟเฟต์อาหารทะเล ในความเป็นจริง หากพลังงานที่ได้รับเกินมาเพียงแค่ส่วนเดียวก็อาจทำลายเส้นลมปราณของคนได้ นี่ไม่ใช่สิ่งใหม่ในโลกของวิชายุทธ คนธรรมดาจะตายหากไม่สามารถย่อยสมุนไพรได้ ผู้ฝึกยุทธก็อาจระเบิดตนเองตายจากการไม่สามารถย่อยกระดูกเดียวดายที่กินลงไปได้เช่นกัน เป็นวิธีตายที่น่าอนาถจริงๆ อี้หยุนรู้สึกว่ามันเป็นวิธีตายเดียวกับการกินมากเกินไป เขารู้สึกร่างกายกำลังถูกเผาไหม้ มีบางสิ่งในลำคอ แล้วกระอักโลหิตคำหนึ่งออกมา “เฮ้ ลิงน้อย ไปนอนทำอะไรอยู่ที่พื้น? จะแกล้งตายเพื่ออู้งาน?” ชายหน้าดำดุด่าอย่างอารมณ์เสีย ชายผู้นี้มีลูกชายชื่อ “ต้าโทว” เขาเคยใช้ “ต้าโทว” มาเปรียบเทียบกับอี้หยุนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา “บัดซบ เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูด” บิดาของต้าโทว เดือดดาลขึ้นเมื่อเห็นอี้หยุนยังคงนอนอยู่บนพื้น เขาโยนขวานลง พร้อมกับเตะอี้หยุนไปอีกไม่กี่ครั้ง แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นใบหน้าขาวซีดและร่างกายสั่นเทาของอี้หยุน จมูกและหู ที่กำลังมีเลือดสดๆไหลออกมา บิดาของต้าโทวถึงกับตกตะลึง! มีบางสิ่งเกิดขึ้น! ถึงแม้ว่าบิดาของต้าโทวจะไม่ใช่คนดีอะไร เขาปากจัดและรักจะยึดครองของๆคนอื่น เขาลุกลี้ลุกรนเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่กำลังจะตาย “เร็วๆ รีบไปรายงานหัวหน้า บอกว่าที่นี่มีคนกำลังจะตาย” บิดาของต้าโทวร้องบอกพวกพ้อง นี่ไม่ใช่ว่าบิดาของต้าโทวจะแช่งอี้หยุน แต่เมื่อเห็นว่าอี้หยุนมีเลือดออกทั้งเจ็ดทวาร เขาจะไม่ตายได้อย่างไร? ในเผ่าเหลียนจริงๆแล้วไม่มีการรักษาทางการแพทย์ เนื่องจากการขาดแคลนทรัพยากร และเผ่าก็ไม่ได้ให้การดูแล ดังนั้นแม้เพียงไข้หวัดก็อาจตายได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมีเลือดออกเจ็ดทวาร บิดาของต้าโทวจึงมั่นใจว่าอี้หยุนต้องตายแน่! “ฟังข้าพูดเจ้าลิงน้อย โปรดอย่าตายที่นี่ หากเจ้าต้องการตายได้โปรดไปที่อื่น...” ว่าแล้วบิดาของต้าโทวก็คว้าอี้หยุน แต่ทันทีที่มือของเขาสัมผัสอี้หยุน เขาก็รู้สึกปวดแสบราวถูกไฟเผา บิดาของต้าโทวร้องลั่น แล้วล้มลงด้วยความเจ็บปวด ชนเข้ากับกองฟืน เกือบเอาหัวชนเข้ากับหม้อน้ำที่ร้อนแดง หากเขาทำเช่นนั้น ชีวิตก็คงถึงจุดจบ ดังนั้น บิดาของต้าโทวจึงเอามือกุมหัว ยอมให้มือถูกเผา เขาซีดเผือดด้วยความกลัว เมื่อเขาสัมผัสอี้หยุนมันเหมือนมีบางสิ่งเข้ามาในร่างกายของเขา “อะไรกัน?” บิดาของต้าโทวตกใจ นี่เป็นเรื่องแปลกมาก มันเหมือนกับว่าโดนงูกัด มือที่ใช้สัมผัสอี้หยุนยังคงสั่น “มีอะไร? เกิดอะไรขึ้น?” ชายหลายคนรีบวิ่งมา บิดาของต้าโทวยังไม่หายจากอาการตื่นตระหนก แต่ก็พูดออกไปว่า “ข้าไม่แน่ใจเด็กนี่อาจโดนผีเข้า รีบแจ้งนายน้อยเหลียนด่วน!” ชายคนหนึ่งรีบวิ่งไปรายงานหลังจากบิดาของต้าโทวพูดจบ บิดาของต้าโทวเริ่มคิดและพูดกับอี้หยุนด้วยความหวาดกลัว “ฟังข้าพูดเจ้าลิงน้อย...อา ไม่ใช่ ข้าจะบอกว่า น้องชาย เจ้าเป็นอะไรไป? เจ้าต้องอดทนไว้ ข้าให้คนไปรายงานแล้ว เดี๋ยวหมอก็คงจะมา” บิดาของ ”ต้าโทว” พูดไปอย่างงั้น แต่ก็รู้ว่าหมอในเผ่าจะมารักษาให้อี้หยุนนั้นเป็นไปได้ยาก ด้วยว่าหมอจะรักษาให้เฉพาะกับชนชั้นสูงในเผ่าเท่านั้น ไม่อย่างนั้น หากคนนับพันในเผ่า เกิดเจ็บป่วย แล้วเขาต้องจัดการรักษาทุกคน มันก็อาจทำได้ แต่ก็จะมียาไม่เพียงพอ ยาสำหรับเผ่าเหลียนมีค่ามาก ดังนั้นเมื่อคนยากไร้เกิดเจ็บป่วยเขาต้องพึ่งพาตนเอง หากทนไม่ไหวก็ต้องตาย ชีวิตของพวกเขาไร้ค่า “ฟังข้าพูด น้องชาย ข้าเคยละโมบขโมยโจ๊กของเจ้า โปรดอย่าตำหนิข้าเลย” บิดาของต้าโทว ไม่รู้ว่าอี้หยุนได้รับความชื่นชมจากจางอวี๋เซียน แต่เห็นว่า อี้หยุนใกล้ตายแล้ว เขาตัดสินใจจะญาติดี “ก่อนอี้หยุนตาย” เขากังวลว่าอี้หยุนจะกลายเป็นผีมาหลอกหลอนเขาเพื่อแก้แค้น คนที่อยู่ในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่เชื่อเรื่องงมงาย มันอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาจำเป็นต้องมีสิ่งค้ำจุนในชีวิตที่ยากลำบากนั้น พวกเขาเชื่อว่าความชั่วร้ายต้องไปนรก และความดีต้องไปสวรรค์ คนยากไร้มีโอกาสกลับชาติมาเกิดในครอบครัวที่ดี อี้หยุนได้ยินคำพูดทั้งหมดนั้นด้วยความรู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ข้ายังไม่ตาย กลับถูกสาปแช่งไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามนี่เป็นบทเรียนอันเจ็บปวด หากเขาดูดซับแก่นพลังกระดูกเดียวดายมากเกินไป เขาต้องตายจริงๆ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นโชคไม่ดี วลีที่ว่า ความสุขที่มีมากเกินไปจะนำมาซึ่งความโศกเศร้า นั้นถูกต้อง มันสามารถอธิบายสภาพปัจจุบันของเขา ... อี้หยุนกำลังทุกข์ทรมานจากเส้นลมปราณได้รับความเสียหายและมีเลือดออกมาจากเจ็ดทวาร เหลียนเฉิงอยู่ก็ได้รับรายงานจากจ้าวเทียจู่เรียบร้อยแล้ว “นายน้อยเหลียน ฮี่ ฮี่ ฮี่ เจ้าอี้หยุนมันกำลังจะไปแล้ว ข้าได้ยินว่ามันถูกผีเข้า มีเลือดออกปากออกจมูก!” จ้าวเทียจู่มีความสุขมากเมื่อได้ยินว่าอี้หยุนกำลังมีปัญหา เจ้าเด็กที่ได้รับความชื่นชมจากนายท่านจางต้องตายแน่นอน เหลียนเฉิงอยู่กำลังฝึกยุทธอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวเทียจู่ ท่วงท่าของเขาช้าลง มีประกายปิติยินดีอยู่ภายในดวงตาของเขา โดนผีเข้า เหลียนเฉิงอยู่รู้สึกว่านั่นเป็นเพียงการรับรู้ของชาวบ้านโง่เขลา เขาแน่ใจว่าสถานการณ์ของอี้หยุนเป็นผลจากพลังงานกระดูกเดียวดายของอสรพิษเยือกแข็งและยาเม็ดผลาญโลหิต ได้เวลาตายของเด็กนั่นแล้ว!

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้