True Martial World บทที่ 51 อี้หยุนปะทะหลินซินถง

ผู้อาวุโสร่างอ้วนดวงตาเป็นประกายด้วยความสนุกสนาน เขาวางแผนที่จะทำให้เจ้าเด็กบ้านนอกผู้นี้รู้ว่า อะไรคือผู้ฝึกยุทธที่แท้จริง และ อะไรคือหมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์! ในขณะที่ผู้อาวุโสร่างอ้วนพูดกับอี้หยุน หญิงสาวชุดขาวกำลังนั่งอยู่ห่างๆบนก้อนหิน แต่อย่างไรก็ตามนางก็ได้ยินการสนทนาทั้งหมด นางไม่อยากเชื่อที่อาจารย์ของนาง จะร้ายกาจขนาดต้องการให้นางต่อสู้กับเด็ก! นางอายุสิบเจ็ดแล้ว แม้ว่าจะมีเส้นลมปราณหยินที่ทำให้ไม่สามารถกรุยเส้นลมปราณได้ทั้งหมด แต่ระดับของนางในปัจจุบัน อยู่ห่างจนอี้หยุนไม่อาจวัดถึง นางเป็นอัจฉริยะที่มีการเรียนรู้และสภาพร่างกาย ดีเยี่ยม ดังนั้นการบ่มเพาะของนางจึงไม่ได้มีผลกระทบจริงจัง จากการลดพลังลงมาอยู่ในระดับสาม ฟ้าคำราม ของขอบเขต โลหิตมนุษย์ นั่นจึงเป็นการข่มขู่! นางรู้ว่าอาจารย์ของนางตั้งใจจะกลั่นแกล้ง และโอ้อวดคน จากดินแดนรกร้างเมฆา มันทำให้นางไม่แน่ใจว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี สำหรับบุคคลที่น่านับถืออย่างปรมาจารย์สวรรค์เดียวดาย ที่ต้องการโอ้อวดเด็กน้อยอดโซจากดินแดนรกร้างเมฆา เขาทำตัวราวกับเป็นเฒ่าทารก นอกจากนั้นเขายังพูดด้วยคำเช่น... “สอน ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ให้ข้า ‘คร่าวๆ’” “ข้า ‘ตั้งใจ’ ฝึกมันมา ‘ประมาณครึ่งเดือน’” “ ‘ไม่ได้ฝึกหนัก’ แต่ก็ต้องมีความสำเร็จบ้างเล็กน้อย” คำพูดเหล่านั้นเต็มไปด้วยการชี้นำ เหลวไหล? หลินซินถง มองอาจารย์ อย่างช่วยไม่ได้ แล้วพูดว่า “อาจารย์ แม้ว่า ข้าจะไม่มุ่งฝึก ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ตอนที่เราผ่านอาณาจักรไทอา ปีที่ผ่านมา ข้าก็ได้ฝึกฝน ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ มาเกือบครึ่งปี ในครึ่งปีนี้นอกจากมุ่งฝึก 'ปารมิตาหฤทัยสูตร' ข้ายังฝึก ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ อย่างจริงจัง ไม่ใช่ ‘ประมาณครึ่งเดือน’ และ ‘ไม่ได้ฝึกหนัก’ เหมือนที่ท่านพูด” หลินซินถง เน้นคำ “ครึ่งปี” และ “จริงจัง” เปิดเผยการโกหกของผู้อาวุโสร่างอ้วนอย่างไร้ปราณี นางเป็นหญิงสาวที่จริงจังและละเอียดถี่ถ้วน นางจึงไม่ผ่อนปรนเป็นดังเช่น “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ที่ไม่มีสองมาตรฐาน ไม่ว่าผิวหน้าของชายชราจะหนาสักเพียงใด ใบหน้าของเขาแดงก่ำ แล้วกระแอมไอหัวเราะออกมา “โอ้ อะไรกัน ครึ่งปีหรือ? เอ๋ ข้าคงแก่ไปแล้ว แค่เวลาข้าก็ยังจำไม่ได้ ยังคิดว่า เพียงแค่ครึ่งเดือน...” คำพูดของผู้อาวุโสร่างอ้วนทำเอาอี้หยุนถึงกับกลอกตา จะให้พูดว่าอย่างไร กับความไร้ยางอายอย่างไร้ที่ตินี้ จากความจำครึ่งปีเปลี่ยนเป็นสิบวัน หากความทรงจำเป็นแบบนี้ ยังจะจำวิธีเดินด้วยขากับการกินด้วยปากได้อยู่อีก? “เอาล่ะ อย่าให้เสียเวลา” “เจ้าบอกว่า เจ้าฝึก ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ งั้นก็แสดงให้เราดู! หากเจ้ารับได้ สามกระบวนท่า ข้าก็จะเชื่อว่าเจ้า รู้หนึ่งหรือสองสิ่ง ของ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ แล้วข้าจะให้ยาวิเศษบางอย่างแก่เจ้า” ผู้อาวุโสร่างอ้วนเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว แม้การโอ้อวดของเขาจะถูกเปิดเผย แต่ด้วยผิวหน้าที่หนา จึงฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำท่าทางราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น เขาไม่คิดว่าอี้หยุนจะสามารถเอาชนะหลินซินถงได้ แม้ว่านางจะลดพลังลงมาอยู่ที่ระดับ ฟ้าคำราม ซึ่งนั่นไม่จำเป็นต้องใช้เกินกว่าสามกระบวนท่า นี่คือผลสำเร็จจากการต่อสู้ ของ เคล็ดวิชาบ่มเพาะ เคล็ดวิชาการต่อสู้ และประสบการณ์การต่อสู้ ซึ่งผู้โชคดีได้รับสมบัติบางอย่างทำให้ได้มาซึ่งร่างกายแสดงอารมณ์ ไม่อาจมีได้ “ดี! ข้าไร้ซึ่งความสามารถ จำเป็นต้องขอคำชี้แนะจากพี่นางฟ้า!” อี้หยุนหายใจลึกๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาประลองกับผู้เยี่ยมยุทธ! เขาเพียงแค่วางแผนเพื่อช่วยย่อยอาหารอร่อยลิ้นที่เพิ่งกินลงไป นอกจากนี้เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมาก! อย่างไม่น่าเชื่อ แม้เขาจะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่า หัวใจของเขาก็ยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง เขาเกิดมาเพื่อเป็นผู้ฝึกยุทธมิใช่หรือ? “ได้ทุกเมื่อ ที่เจ้าพร้อม” หลินซินถงก้าวออกจากหินใหญ่ เสื้อผ้าของนางโชยพลิ้วตามลม เท้าของนางแตะลงบนพื้นแผ่วเบาราวกับผีเสื้อ ไม่เกิดละอองฝุ่นฟุ้งกระจายเลยแม้แต่นิดเดียว “ข้าชื่อหลินซินถง” หลินซินถงออกเดินไปหาอี้หยุนพร้อมกับแนะนำตัว “อี้หยุน!” เขาบอกชื่อตัวเอง ป้องกันไม่ให้ผู้อาวุโสร่างอ้วนเรียกว่า “เจ้าหนู” อีก เขาเดินอย่างปลอดโปร่งออกไปประมาณ 10 หลา จากหลินซินถง เผชิญหน้ากับนาง! ในภูเขาสีเขียวขจี มีป่าสนโบราณอันอุดมสมบูรณ์ เมื่อมีลมพัดผ่านจะเกิดเสียงเสียดสีกันของต้นสน ไม่ไกลจากทั้งสองนักมีกองก้อนหินประหลาด และน้ำตกสูงนับพันฟุต! สายน้ำสีเงินไหลลงมาตามหุบเขาเกิดแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยเมื่อมันปะทะเข้ากับโขดหินใหญ่ นี่เป็นการประลองครั้งแรกนับแต่มาถึงโลกใบนี้ของอี้หยุนและเป็นครั้งแรกนับแต่เขาเริ่มฝึกวิชายุทธ! ฝ่ายตรงข้ามเป็นหญิงสาว นางยืนอยู่ท่ามกลางภูเขาเขียวขจี มองดูบอบบางอ่อนแอ อี้หยุนคิดถึงวลีว่า บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนน้ำค้างกลางหาว หญิงสาวนางนี้ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือหัวใจ ดูสงบนิ่งมาก แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมออมมือให้ และก็รู้ดีว่าเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะออมมือ หลินซินถงกุมมือยืนอยู่ตรงนั้น ชายกระโปรงของนางสะบัดไปมาตามลม นางพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าจะลดพลังลงให้อยู่ในระดับสามของโลหิตมนุษย์ ดังนั้นเชิญเจ้าก่อน!” หลินซินถง ถ่อมตนมาก แต่อี้หยุนเลียริมฝีปากที่แห้ง แล้วพูดว่า “เชิญท่านก่อน …. จะดีกว่าถ้าท่านเริ่มก่อน!” มันไม่ได้เป็นเพราะเขาอ่อนน้อมถ่อมตน แต่เป็นเพราะเขาไม่เคยประลองมาก่อน จึงไม่รู้ว่าผู้เยี่ยมยุทธทำอย่างไรในการประลอง ดังนั้นเขาจึงต้องป้องกันไม่ให้ตัวเองกระทำสิ่งโง่เขลา ไม่ให้ชายชราหัวเราะในใจได้อีกครั้ง อี้หยุนวางแผนจะดูการเคลื่อนไหวของหลินซินถงอย่างเชื่อมั่น เมื่อเกิดขึ้น เขาจะสามารถวาดแมวตามอย่างเสือ “งั้นข้าจะลงมือก่อน ระวัง!” หลินซินถงลงมืออย่างฉับพลัน ร่างของนางราวกับประกายแสงสีขาว ส่งฝ่ามือไปที่หน้าอกของอี้หยุน! “หวิ๊ว” เสียงดังชัดเจนออกมาจากร่างของหลินซินถง นี่คือเสียงที่เกิดจากการฝึกกระดูกของ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” เสียงนี้ ไม่เหมือนเสียงฟ้าคำรามจากท้องฟ้า แต่เป็นเสียงที่เกิดจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของนาง เป็นเสียงที่น่าทึ่งมาก! รูม่านตาของเขาบีบแคบลง หญิงสาวชุดขาวเคลื่อนไหวเร็วมากจากระยะสิบหลามาตรงหน้าของอี้หยุนได้เพียงพริบตาเดียว นิ้วขาวเรียวงามทั้งห้าบนฝ่ามือ สำหรับเขามันเหมือนดาบคมห้าเล่ม! เข้าใกล้จนเขาสามารถเห็นผิวอันอ่อนนุ่มบนนิ้วมือของนาง! เขาคิดว่าเขาไม่อาจหลบการจู่โจมอันรวดเร็วนี้ได้ แต่ในขณะนั้น จิตใจเขาสงบอย่างมาก ราวกับว่าสภาพรอบตัวเคลื่อนไหวช้าลงอย่างกะทันหัน ปราณเคลื่อนผ่านเส้นลมปราณเริ่นตูไปหนึ่งรอบ ช่องทางที่ไปสู่สมองของเขาปลอดโปร่ง ประสาทสัมผัส และความคิด ปราดเปรียวเฉียบคม เป็นเหตุให้ปฏิกิริยาโต้ตอบของเขาเร็วขึ้นกว่าเดิมสิบเท่า! ในช่วงขณะจิต เขาจำท่วงท่า มังกรทะยานเก้าชั้นฟ้า ของ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ได้ เขากู่ก้องกระโดดขึ้นไปราว มังกรเหิน มีน้ำตกพันฟุตเป็นฉากหลัง! “ย๊ากกก!” ก้อนหินที่ของอี้หยุนยืนอยู่ระเบิดส่งเศษหินกระจายออกไป! มันถูกทำลายโดยหลินซินถง ว้าว! รูม่านตาของเขาบีบแคบลง หินเหล็กดำใต้ฝ่าเท้าเขาไม่อาจทนการตบฟาดจากหลินซินถงได้! มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มืออันอ่อนแอของนางจะฟาดหินแตกได้อย่างง่ายดาย “เอ๋?” เมื่อเห็นอี้หยุนกระโดดขึ้นสูงราวกับกางปีกบิน ผู้อาวุโสร่างอ้วนรู้สึกประหลาดใจ เด็กนี่มีปฎิกิริยาโต้ตอบดี! “ข้าไม่คิดว่าเขาจะอยู่ถึงกระบวนท่าสุดท้าย เขาหลบพ้นกระบวนท่าแรกได้ ก็ไม่น่าจะรอดกระบวนท่าที่สอง ในสภาพไร้ที่หยั่งเท้า เขาไม่มีทางหลบการจู่โจมครั้งต่อไปได้ และนี่ก็เป็นเพียงแค่กระบวนท่าแรก ยังเหลืออีกสอง ดูไม่เป็นปัญหาที่ทุกสิ่งจะจบภายในสามกระบวนท่า!”

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้

avatar

ขอบคุณนะครับ ยิ้มให้1ที

ปล.วันนี้วันศุกร์