True Martial World บทที่ 53 กำนัลคัมภีร์

อี้หยุนพยายามที่จะลุกขึ้นยืน เขาขยับเสื้อผ้าที่ฉีกขาดแล้ว ยิ้มเจื่อนๆ “พี่นางฟ้า โปรดอย่าล้อข้าเล่นอีกเลย เห็นชัดๆว่าข้าเป็นผู้แพ้ นั่นเป็นการจู่โจมที่ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่ข้ามี แต่ท่านโต้กลับคืน ซัดข้าจนกระเด็น ในชั่วพริบตา มันชัดแจ้งอยู่แล้วว่าใครเป็นผู้แพ้” แต่หญิงสาวกับส่ายศีรษะ แล้วพูดว่า “ระดับของข้าสูงกว่าเจ้า แม้ว่าข้าจะลดระดับพลังลงมา การต่อสู้ครั้งนี้ก็ยังไม่เป็นธรรมอย่างสิ้นเชิง ตอนแรกได้ตกลงกันว่า ข้าจะใช้ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ในการประลองกับเจ้า แต่กับโดนเจ้าบังคับให้ใช้ ‘ปารมิตาหฤทัยสูตร’ ในกระบวนท่าสุดท้าย” หลินซินถงเป็นคนซื่อสัตย์ เมื่อได้ตกลงที่จะใช้ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” แต่นางได้ละเมิดข้อตกลงในตอนท้าย ดังนั้นเป็นธรรมดาที่นางยอมรับความพ่ายแพ้ นอกจากนี้นางก็ไม่ได้อธิบายว่า ทำไมนางจึงเสียสมาธิระหว่างการประลอง ตอนที่ปะทะหมัดกับอี้หยุนครั้งแรก นางรู้สึกถึงพลังประหลาดที่เข้ามาภายในร่างกาย แทรกซึมเข้าไปจนถึงเส้นลมปราณหยินที่เสียหาย แต่ก็ไม่รู้สึกถึงมันอีกในการปะทะครั้งที่สอง นางจึงไม่มั่นใจว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาหรือไม่ หากไม่เสียสมาธิ ไปกับหมัดแรก ก็คงไม่ถูกเขาบังคับให้ใช้ “ปารมิตาหฤทัยสูตร” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินซินถง อี้หยุนรู้สึกประหลาดใจ หญิงสาวนางนี้เป็นคนพิเศษ ผู้เยี่ยมยุทธเช่นนางเป็นบุตรีที่สวรรค์ภาคภูมิใจ และจะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อเด็กจากดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่ มันจึงเป็นเรื่องยากที่ บุคคลที่มีความภาคภูมิใจเช่นนี้จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่นางกับยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ในสายตาของเขานางไม่ได้พ่ายแพ้ เขาหันไปมองผู้อาวุโสร่างอ้วน มองเห็นผู้อาวุโสร่างอ้วน กำลังดึงเคราอยู่ด้วยท่าทางน่ากลัว “มองหาอะไร?” ผู้อาวุโสร่างอ้วนมองกลับไปด้วยความโกรธ เขาตกใจกับพลังของชาวบ้านสามัญจากดินแดนรกร้างเมฆา มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร? นี่เป็นพลังในระดับของ ชีพจรสัมพันธ์ เขาไม่ได้เป็นพวกชนชั้นสูงที่อ่อนแอจากเผ่าใหญ่ เรียนรู้ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ด้วยการลอบเรียน แต่เขากับแสดงเส้นเอ็นดั่งสายศร ฟ้าคำรามในกระดูก ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในแก่นแท้ของ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ไม่ใช่แค่ ‘หนึ่งหรือสองสิ่ง’ นี่มันอะไรกัน? ผู้อาวุโสร่างอ้วนเคยพูดไว้ว่า อี้หยุนจะต้องแพ้ในสามกระบวนท่า แต่จนถึงที่สุด แม้แต่หลินซินถงก็ยอมรับความพ่ายแพ้! ไม่มีทางที่พวกเราจะแพ้ พวกเราชนะชัดๆ! ผู้อาวุโสร่างอ้วนอารมณ์เสียมาก เขาคาดการณ์อะไรผิดไปหรือเปล่า? เจ้าเด็กนี่มีสภาพร่างกายตามเกณฑ์เฉลี่ย และใช้สมบัติบางอย่าง เข้าถึงสภาพร่างกายแสดงอารมณ์ เขาฝึกเคล็ดวิชาบ่มเพาะอย่างไรจึงเข้าถึงระดับนี้? บางทีเขาอาจจะมีการรับรู้ที่ดี? การฝึกเคล็ดวิชาบ่มเพาะ นอกเหนือจากสภาพร่างกายของบุคคลแล้วจะต้องมี ความสามารถในการรับรู้ ความสำคัญของการรับรู้ จึงเป็นเงื่อนไขที่สอง คนที่มีการรับรู้ไม่ดีจะมีการเรียนรู้ได้ช้า ดังนั้นแม้ว่าเขาจะมีสภาพร่างกายที่ดี พวกเขาก็ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าไม่มีทางก้าวผ่านไปสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นได้ เนื่องจากมีสิ่งมากมายในโลกของวิชายุทธ ที่ไม่อาจเข้าใจได้ และไม่มีการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องคอขวด ซึ่งจะต้องเอาชนะด้วยตัวเองเท่านั้น ในแง่ของการรับรู้ของอี้หยุนความจริงก็ไม่ได้เลวร้าย บนโลก อี้หยุนได้รับการศึกษาและมีพัฒนาการทางปัญญาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเด็กยากไร้ในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่จึงไม่อาจเทียบกับเขาได้ เมื่อทะลุอุโมงค์มิติเข้ามาสู่โลกประหลาดใบนี้ อี้หยุนได้มีชีวิตที่สอง ทำให้จิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และด้วยผลึกม่วงในหัวใจส่งความเย็นให้พลังงานและบำรุงจิตวิญญาณของเขาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเขาบ่มเพาะ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” เขาก็ได้ เพิ่มความเข้าใจในส่วนของเขาเป็นพิเศษ สร้างสถานการณ์ที่จำเป็นของความสำเร็จได้อย่างเต็มที่ เมื่อเห็นใบหน้าของชายชรายับยู่ยี่ อี้หยุนแทบไม่อาจกลั้นเสียงหัวเราะได้ แต่เขาไม่กล้าแสดงออกบนใบหน้า เพื่อไม่ให้ชายชราระเบิดอารมณ์ “นี่ให้เจ้า!” หลินซินถงหยิบอะไรบางอย่างจาก กำไลข้อมือมิติ แล้ว โยนสิ่งของสีเขียวมาให้อี้หยุน เมื่อจับดูเขาก็รู้ว่ามันเป็นคัมภีร์ ปกของมันทำจากผ้าไหมทองสีเขียว คุณภาพของเนื้อกระดาษดีมาก ผลิตอย่างดีมีเนื้อสัมผัสที่ดีมาก ที่หน้าปก มีอักษรห้าคำ “หมัด-ซี่โครง-มังกร-กระดูก-พยัคฆ์”! เป็นอักษรที่ดูสง่างามมีรสนิยม นี่คือคัมภีร์เคล็ดวิชา “หมัดซี่โครงมังกระกระดูกพยัคฆ์”! อี้หยุนชื่นชมยินดี การที่เขาแอบเรียน “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ก็เป็นไปตามที่ผู้อาวุโสร่างอ้วนพูดไว้ ว่ามันจะเกิดอุปสรรคในกระบวนการเรียนรู้ นอกจากนี้สมาชิกของเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ ผู้ฝึกยุทธในค่ายก็เป็นพวกไร้ความสามารถในการรับรู้ ดังนั้นเหยาหยวนจึงไม่ได้สอนทุกสิ่งเกี่ยวกับ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” เพียงสอนเก้ากระบวนท่าแรกเท่านั้น สำหรับกระบวนท่าที่เหลืออี้หยุนก็ไม่รู้อะไรอีกเลย ดังนั้นเมื่อหลินซินถงให้คัมภีร์ฉบับนี้มาจึงเป็นความช่วยเหลือที่มาทันเวลาพอดี! อี้หยุนไม่อาจหยุดตัวเองไม่ให้สัมผัสปกสีเขียวของคัมภีร์ได้ เขาพบว่าคัมภีร์เล่มนี้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกน่าหลงใหล “เอ๋?” อี้หยุนพลิกดูคัมภีร์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น และพบว่า ในคัมภีร์ประกอบไปด้วยภาพคนในท่วงท่าต่างๆกัน นอกจากนั้นยังมีคำอธิบายบันทึกอยู่ด้านข้าง ตัวอักษรที่บันทึกไว้เขียนด้วยสีอื่นและมีขนาดเล็กเขียนด้วยลายมือเป็นตัวอักษรที่งดงามและมีกลิ่นหอมประหลาด เป็นไปได้มากที่สุดที่จะเป็นลายมือของนาง อักษรถูกบันทึกเพิ่มเข้ามาภายหลังอย่างชัดเจน และเป็นของเจ้าของคัมภีร์นี้ อี้หยุนตกใจที่ตระหนักว่านี่เป็นลายมือของหลินซินถง ด้วยระดับของการฝึกของหลินซินถง และความเข้าใจต่อวิชายุทธ นางจึงบันทึก “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” เป็นพิเศษ หากเขาอ่านทำความเข้าใจมันได้ทั้งหมด จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่ดี สิ่งนี้คือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่หลินซินถงได้รับจากการอ่านคัมภีร์อย่างจริงจังมาประมาณครึ่งปีของนาง คัมภีร์เล่มนี้ต้องอยู่ใกล้ชิดกับนางตลอดเวลา อี้หยุนตระหนักคุณค่าของคัมภีร์เล่มนี้ทันที ถึงแม้ว่า “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” จะได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณะชนโดยอาณาจักรไทอา แต่คัมภีร์เหล่านั้นไม่มีคุณค่าเทียบเท่ากับบันทึกของหลินซินถง “พี่นางฟ้า คัมภีร์เล่มนี้มีค่ามากเกินไป ข้าไม่อาจรับได้ คัมภีร์นี้มีบันทึก ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของท่าน...” “ไม่เป็นไร ข้าจำมันได้ทั้งหมด ข้าอ่านทำความเข้าใจ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ทั้งหมดแล้ว ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์สำหรับข้า แต่เจ้าอาจจะได้แรงบันดาลใจบางอย่างจากมัน” “นี่...” อี้หยุนได้แต่ยอมรับเมื่อหลินซินถงแสดงเจตจำนง เขาอยากได้มันจริงๆ มันไม่เพียงแต่จะให้แรงบันดาลใจ แต่มันยังช่วยรักษาชีวิต คัมภีร์เล่มนี้เป็นต้นแบบของ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ทั้งชุด อี้หยุนรู้สึกผิดที่ยอมรับคัมภีร์ แล้วผู้อาวุโสร่างอ้วนก็ส่งเสียงสอดแทรกขึ้นมา “ บ๊ะ หากเจ้าต้องการมันก็แค่พูด เลิกวางท่าได้แล้ว” อี้หยุนสะอึกเมื่อได้ยิน ชายชราคนนี้มีคำพูดช่างแดกดันเหลือเกิน นี่ต้องเป็นการล้างแค้นแน่ๆ ผู้อาวุโสร่างอ้วนกับศิษย์หลินซินถง มีบุคลิกภาพต่างกันสุดขั้ว ไม่รู้ว่า พวกเขาทำอย่างไรจึงอยู่ร่วมกันได้อย่างดี “เอาล่ะ เลิกมองข้าได้แล้ว เจ้าได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว ข้ายอมรับว่า เจ้ารู้ ‘หนึ่งหรือสองสิ่ง’ ของ หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ชายชราลูบเคราขณะที่พูด มันเป็นการรับรองความแข็งแกร่งของอี้หยุน “ก่อนหน้านี้ข้าเคยพูดว่าหากเจ้าสามารถรับได้สามกระบวนท่า ข้าจะให้ยาวิเศษแก่เจ้า ข้าเป็นคนรักษาคำพูด...” ในขณะที่พูดชายชราสัมผัสแหวนและเอาบางสิ่งออกมา มันไม่ใช่กระดูกเดียวดาย หรือ ธาตุกระดูกเดียวดาย แต่เป็นศีรษะดำเมี่ยม!

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้