Coiling Dragon บทที่ 7 แหวนมังกรขด (2)

แหวนกลิ้งไปข้างหน้าแล้วหยุดลงตรงประตูทางเดินพอดี เมื่อลินลี่ย์ก้าวไปได้สามก้าวก็ถึงประตูทางเดินเขาเริ่มชะงักทันที่ เนื่องจากเขารู้สึกชัดว่าได้เหยียบของแข็งบางอย่าง “เราเพิ่งสำรวจดูพื้นเองและไม่เห็นพบหินสักก้อน นี่คงตกลงมาจากตู้ลิ้นชักที่พังแน่”พอคิดถึงตู้ลิ้นชัก ลินลี่ย์รู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เขาย่ำใส่เศษชิ้นไม้ที่แตกใต้เท้าเขาเต็มแรง ตามความคิดของลินลี่ย์ถ้ามันเป็นชิ้นส่วนไม้แตกหัก ก็น่าจะถูกย่ำจนแตกหัก แต่ความจริง.. “โหว.. มันแข็ง!มีอะไรอยู่ใต้เท้าเรา?” ลินลี่ย์รู้สึกว่าของที่อยู่ใต้เท้าเขาทนผิดปกติเขารีบชักเท้ากลับและดูใกล้ๆ ทันที เขาเห็นของสีดำเขาคล้ายแหวนวางสงบอยู่บนพื้นมันมีฝุ่นหนาปกคลุมไว้และไม่สะดุดตาแม้แต่น้อย “โอว..แหวนหรอกหรือ?”นัยน์ตาลินลี่ย์หรี่เหมือนตาโจร เขาดีใจหยิบแหวนขึ้นมาจากนั้นใช้แขนเสื้อเปื้อนฝุ่นของเขาเช็ดแหวนอย่างขะมักเขม้นจากนั้นเองจึงทำให้ลินลี่ย์รู้ว่าแหวนนั้นดูเหมือนอะไร แหวนดำวงนี้ดูเหมือนทำมาจากทั้งไม้และหิน บนตัวแหวนมีการแกะสลักรูปบางอย่างไว้อย่างเลือนลางไม่ชัดเจน “หนอนดินหรือ?”ลินลี่ย์ดูรูปสลักบนแหวนอย่างสงสัย ชั่วแว่บหนึ่งลินลี่ย์รู้สึกว่ารูปที่ถูกแกะสลักอยู่บนแหวนนั้นดูเหมือนกับเป็นหนอกดิน ลินลี่ย์หัวเราะให้ตัวเอง“รูปสลักบนแหวนนี้ย่ำแย่จริงๆเราพนันได้เลยว่านักแกะสลักทั่วไปยังทำได้ดีกว่านี้อีก เฮ้อ เสียเวลาจริงๆเจ้าแหวนดำนี้ไม่มีเพชรประดับสักเม็ด ไม่มีผลึกเวทที่มีค่าใดๆ ด้วย แหวนส่วนใหญ่จะประดับด้วยเพชรหรือไม่ก็ผลึกเวท โชคไม่ดีที่แหวนสีดำนี้ดูเหมือนสร้างมาจากไม้และหินไม่มีแม้แต่เงาของอัญมณีให้เห็น เป็นของไร้ประโยชน์แน่นอน แต่เพราะเหตุผลบางประการพอเห็นแหวนนี้ ลินลี่ย์รู้สึกว่าเขาชอบมัน เขาสงสัว่ามันใกล้เคียงที่สุดแล้ว นี่คือสิ่งเขาพบหลังจากพยายามค้นดูในคฤหาสน์อย่างหนัก “ฮืม..แหวนวงนี้หนาจริงๆไม่มีทางที่จะสวมเข้ากับนิ้วเราโดยไม่ลื่นหลุด เราจะใช้ไหมร้อยไว้แล้วแขวนคอไว้” นัยน์ของลินลี่ย์เป็นประกาย ยังไงก็เป็นแค่มือของเด็กแปดปีที่สำคัญ มันเล็กกว่ามือของผุ้ใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะสวมแหวนนี้กับนิ้วเขาได้ “ตอนนี้ เราจะตั้งชื่อให้แหวนดำวงนี้ว่าไงดี? แหวนหนอนดิน? ไม่มีทาง ฟังดูเชยมาก” ลินลี่ย์พึมพำอยู่ชั่วครู่ จากนั้นนัยต์เป็นประกาย “ฮ่าฮ่า บางทีไอ้ตัวที่ขดอยู่อาจเป็นมังกรก็ได้กระมัง?มังกรพันรอบแหวน อย่างนั้นเรียกว่าแหวนมังกรขนดดีกว่า”แม้แต่ในใจของเขาลินลี่ย์รู้สึกเหมือนว่ารูปแกะสลักนี้ดูเหมือนหนอนดินก็ตาม แต่เขาก็ยังตั้งชื่อแหวนว่า “แหวนมังกรขนด” “แหวนมังกรขนด!” พอยกขึ้นดูแหวนที่ไม่มีการตกแต่งอะไรในที่มืด ลินลี่ย์รู้สึกยินดี “เดี๋ยวก่อน แย่แล้ว!เกือบได้เวลาฝึกแล้ว” ลินลี่ย์นึกได้ทันที เขาอดไม่ได้ที่จะจ้องดูเสื้อผ้าเปื้อนฝุ่น ตอนนี้เขาดูเหมือนขอทานจริงๆ“โอวไม่นะ...” ลินลีย์ไม่มีเวลาคิด เขารีบวิ่งออกไปจากพื้นที่เก่าแก่และวิ่งตรงเข้าไปอาบน้ำ เสียงน้ำไหล ลินลี่ย์ตักน้ำราดตัวเขาผิวของเขาสดใสและแข็งแรงและแนวกล้ามเนื้อเริ่มปรากฏชัดแล้วนี่คือผลของการฝึกของลินลี่ย์ ภายใต้สายน้ำที่ไหลผ่านตัวฝุ่นถูกชะล้างไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ลินลี่ย์ทำความสะอาดตนเอง และรีบสวมชุดฝึกทันที “ด้าย..ด้าย...” ลินลี่ย์รีบมองหาด้ายที่เขาสามารถจะร้อยแหวนมังกรขนดและห้อยคอได้ ทันใดนั้น สายตายของลินลีย์มองเห็นผ้าเช็ดตัวเก่าคร่ำคร่า นัยน์เขาเป็นประกายเยารีบดึงเส้นด้ายในผ้าเช็ดตัวออกมา แม้ว่าผ้าเช็ดตัวจะเป็นของธรรมดาๆ แต่มันก็ยืดหยุ่นและทนทานมาก ด้ายก็เช่นกันมันมีความยืดหยุ่นมาก เขารีบร้อยมันเข้ากับแหวนมังกรขนด จากนั้นทำเป็นสร้อยคอชั่วคราวทันที “เราสายแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เราสาย!” ลินลี่ย์ร้อนลนเหมือนเปลวไป ขณะที่เขาวิ่งออกไปเขาซุกแหวนมังกรขนดไว้ในชุดของเขา รู้สึกได้ถึงไอเย็นของแหวนที่อยู่ตรงหน้าอกเขา ลินลี่ย์รู้สึกมีความสุขอย่างช่วยไม่ได้ แลกกับการมาสายแต่เขาได้รับแหวนมังกรขนดแทน ลินลี่ย์รู้สึกมีความสุขมาก ชั่วแว่บเดียวลินลี่ย์ก็วิ่งออกไปจากคฤหาส์ตระกูลบาลุคจากนั้นก็วิ่งออกไปยังสนามฝึกฝนด้านตะวันออกของเมืองอู่ซันทันที ในเวลานี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่กลับมาบ้านแล้ว พอแยกจากถนนว่างขณะที่พวกเขาเห็นลินลี่ย์วิ่ง พวกเขาก็เดาเหตุผลได้ “คุณชายลินลี่ย์ ระวังด้วยนะอย่าให้ตัวเองเจ็บเสียล่ะ” “อาจารย์ฮิลแมนเข้มงวดมาก ข้าเกรงว่าคุณชายลินลี่ย์คงจะถูกลงโทษ” ….. ความดีที่ตระกูลบาลุคแสดงออกต่อชาวบ้านโดยทั่วไปทำให้พวกเขาพลอยรักและปรารถนาดีต่อลินลี่ย์ไปด้วย “ลุงฮิลแมนจะลงโทษข้ายังไงดีนะ?”แม้ขณะที่เขาวิ่งตะบึงไป ลินลี่ย์ก็ยังคิดถึงคำถามนี้ ถึงตอนนี้ลินลี่ย์ไม่มีเวลาคุยหรือทำความเคารพใดๆกับลุงป้าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ในช่วงเวลาสั้น ลินลี่ย์ก็มาถึงสนามฝึกของมืองอู่ซัน เวลานี้ทั้งสามทีมเข้าแถวเรียบร้อยแล้ว ฮิลแมนพูด แต่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าลินลี่ย์ สายตาของฮิลแมนก็จ้องไปที่เขาอย่างช่วยไม่ได้ ลินลี่ย์วิ่งตรงไปที่กลุ่มฝึกประจำตำแหน่งอยู่ท้ายทีม เขารอฟังคำแนะนำของฮิลแมนอย่างใจจดใจจ่อ “การฝึกวันนี้สำหรับเจ้า จะเพิ่มขึ้นไปสองเท่ากลับเข้าทีมไปซะ” ฮิลแมนพูดอย่างสงบ “ขอรับ!” ลินลี่ย์เชิดหน้าและตอบด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยคำ พวกเด็กๆที่อยู่ใกล้ๆ อดไม่ได้ถึงกับแลบลิ้นออกมาอย่างไม่สบายใจ วันนี้บางทีลินลี่ย์คงกลับบ้านไปกินมื้อค่ำไม่ทันแน่ ขณะที่ลินลี่ย์วิ่งเหยาะๆกลับไปประจำตำแหน่งในทีม ทันใดนั้น... ตูม! พื้นดินทั้งหมดดูเหมือนจะสั่นไหวเล็กน้อย แต่สม่ำเสมอดูเหมือนจะเป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่กำลังเดินอยู่บนพื้นทำให้พื้นสั่นไหวตามจำหวะก้าวเดิน “ตะวันออก ดังมาจากตะวันออก” ลินลี่ย์เหลียวมองไปยังทิศนั้นทันที ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์เท่านั้นฮิลแมน, โรเจอร์และลอร์รี่หันไปทางทิศตะวันออกกันทุกคน สีหน้าของพวกเขายิ่งจริงจังมากขึ้น แรงสั่นสะเทือนเริ่มดังขึ้นและชัดเจนขึ้น เด็กๆทุกคนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่มุ่งหน้ามาทางพวกเขา แต่ละย่างก้าวดังเหมือนฟ้าผ่าดังสั่นสะเทือนพอจะทำให้ลินลี่ย์จิตใจสะท้านหวั่นหไหว สัตว์ประหลาดยักษ์ที่ทำอย่างนี้ได้คือตัวอะไรกันแน่? ลินลี่ย์เบิกตาค้างจ้องไปทางทิศตะวันออก
◀ บทที่เเล้ว หน้าหลัก บทต่อไป ▶

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้