True Martial World บทที่ 55 ซูเจ๋

ขณะที่อี้หยุนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็เห็นผู้อาวุโสร่างอ้วน เอากระดาษสีเหลืองขาดรุ่งริ่งออกมา กระดาษสีเหลืองนี้คล้ายกับกระดาษที่ใช้ในประเทศจีนยุค 80 ซึ่งชาวบ้านจะใช้เป็นกระดาษชำระ พลังป้องกันที่ว่ามันคือกระดาษชำระขาดรุ่งริ่งนี้ คุณภาพของกระดาษยันต์ เป็นคนละโลกกับ กระดาษของคัมภีร์เคล็ดวิชา ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ที่ได้รับจากหลินซินถง ภายใต้สายตาตั้งคำถามของอี้หยุน ผู้อาวุโสร่างอ้วนเอานิ้วติดไขมันเขาไปในปากแล้วเลียมันเขาใช้นิ้วแทนปากกาและเริ่มวาดยันต์ลงบนกระดาษด้วยน้ำลาย “เสร็จแล้ว!” ผู้อาวุโสร่างอ้วนให้กระดาษยันต์แก่อี้หยุนแล้วพูดว่า “เก็บให้ดี ยันต์ของข้าให้โชคลาภ เจ้าโชคดี ทำไมทำหน้าแบบนั้น? ไม่ต้องร้องไห้ซาบซึ้งขนาดนั้น” อี้หยุนยอมรับยันต์อย่างพูดไม่ออก น้ำลายที่อยู่บนนั้นสกปรกและยุ่งเหยิง ดูจากลักษณะแล้วคงแห้งในเวลาไม่นาน อี้หยุนทำหน้าราวคนท้องผูก แม้ว่าเขาไม่สงสัยในความแข็งแกร่งของชายชรา แต่กลัวว่านี่เป็นเพียงการเล่นตลก วัตถุประสงค์ของยันต์นี้คือปกป้องชีวิตของเขา! หากในขณะที่เขากำลังจะสูญเสียชีวิตจากการจนมุมต่อสัตว์อสูรรกร้าง เขาดึงยันต์ออกมา แล้วมันไม่อาจทำอะไรได้… นั่นคงเป็นฉากที่สมบูรณ์แบบเกินไป อี้หยุนไม่อาจคิดอะไรได้อีก คาดได้ว่า สัตว์อสูรรกร้างที่มีปัญญาคงจะคิดว่า เขามีน้ำใจ มอบกระดาษชำระให้ใช้ตอนถ่ายอุจจาระ หลังจากย่อยเขาเรียบร้อย มันจะได้ใช้กระดาษนี่เช็ดก้น! “เอาล่ะ สิ่งที่ควรให้ก็ให้แล้ว ตอนนี้ก็มาทำอาหารให้ข้าได้แล้ว เร็ว! ” ผู้อาวุโสร่างอ้วนนำหม้อจำนวนมาก และกระทะออกมาจากแหวนแล้วกองไว้หน้าเขาดังโครมคราม มันทำให้อี้หยุนถึงกับทอดถอนหายใจ คนที่มีสถานะภาพสูงส่งนี่สามารถทำอะไรได้หลายอย่างแล้วยังมีพื้นที่คลังเก็บของส่วนตัว แม้ในขณะออกเดินทาง ก็ยังนำหม้อ กระทะมาด้วยตั้ง 7-8 ใบ เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะทำไก่อบเกลือให้ ดังนั้นเขาจึงป้องหมัดแล้วถามขึ้นว่า “ข้าขอทราบนามสูงส่งของผู้อาวุโสได้หรือไม่?” ได้รู้จักและได้รับความกรุณาจากเขา แต่อี้หยุนก็ยังไม่รู้ว่า ชายชรามีนามว่าอะไร “ฮึ ชื่อของข้า...” ชายชราหยุดชะงักไปชั่วครู่แล้วทำเหมือนกำลังระลึกถึง “นานแล้วที่มีคนเรียกชื่อข้า หากเจ้าต้องการรู้ ข้าก็จะประทับตราให้” ชายชราพูดขึ้นแล้วหยิบเอาตราประทับ ออกมาจากแหวนทันที แล้วประทับบนกระดาษชำระนั่นแสงเลือนรางถูกปล่อยออกมา ประทับตราสีแดงไว้บนกระดาษ รอยประทับนั่นเขียนไว้ สองคำ : ซู - เจ๋ “ซูเจ๋?” อี้หยุนงุนงง ชื่อนี้พิเศษมาก “เจ๋” หมายถึงหายนะหรือเภทภัย สำหรับผู้ปกครองที่จะตั้งชื่อให้เด็ก ส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกชื่อที่มีความหมายดีๆ และแทบจะไม่เลือกคำว่า “เจ๋” “สำหรับความกรุณาในวันนี้ผู้เยาว์จะจดจำไว้” อี้หยุนกล่าวแสดงความนับถือ เพราะเขารู้ว่า แม้ว่าชายชราแซ่ซู จะปากร้าย โลภและตระหนี่ ก็ยังให้ความช่วยเหลือเขา แม้ว่าจะต้องแลกด้วยการทำไก่อบเกลืออีกไม่กี่รอบ อี้หยุนแยกทางกับชายชราแซ่ซู ก่อนจากกันเขาได้เขียนสูตรไก่อบเกลือ และวิธีปรุงอาหารที่ใช้เหล้าให้กับชายชราแซ่ซู หากมีพ่อครัวดีๆในโลกที่ทำตามสูตรได้ ชายชราแซ่ซูก็จะได้เพลิดเพลินกับอาหารจานอร่อย นี่เป็นวิธีเดียวที่อี้หยุนจะตอบแทนความโปรดปรานที่ได้รับและก่อนที่ชายชราจะจากไปก็ได้มอบส่วนผสมบางอย่างแก่เขา หลังจากทุกสิ่งทุกอย่าง ชีวิตในดินแดนรอบนอกก็ยังยากลำบากเกินไป และมันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดินอย่างช้าๆ ชายชราและหลินซินถง ก็เริ่มการเดินทางเพื่อการฝึกของพวกเขาต่อไป เมื่อพวกเขาหันกลับไปดู อี้หยุนก็ได้หายเข้าไปในภูเขาแล้ว ตอนที่ทั้งหมดจากกันเป็นยามสนธยาหมู่เมฆบนท้องฟ้าได้กลายเป็นสีแดง “อาจารย์ ท่านให้ค่าเขามาก?” หลินซินถงถามขึ้น หลังจากอี้หยุนกินไก่อบเกลือของเขาหมด นางได้ประลองกับเขา ในเวลาสั้นๆ ความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นกับเส้นลมปราณที่เหือดแห้ง ก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีก มันทำให้นางผิดหวัง มันก็น่าจะเป็นเพียงภาพลวงตา ชายชราแซ่ซูพยักหน้า “ข้าไม่ได้คิดถึงค่าของเขา ข้าเพียงแค่ชื่นชม” “ความสามารถในการรับรู้ของเขามันทำให้ข้าตกใจ และเขาก็โชคดี แต่...ข้าไม่สามารถคิดหาหนทางที่จะแก้ไขจุดอ่อนของสภาพร่างกายที่ไม่ดีของเขาได้ หากเขาต้องการบ่มเพาะให้ไปสู่ขอบเขตที่สูงขึ้น ก็จะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล มันยากเกินไป!” ในโลกนี้ มีหลายคนที่มีแรงบันดาลใจที่จะเป็นผู้ฝึกยุทธ มีจำนวนมากราวเม็ดทรายจากแม่น้ำทั้งห้า แต่มีจำนวนเท่าใดที่ประสบความสำเร็จ? “บางที โลกนี้อาจจะมีปาฏิหาริย์...” หลินซินถงพึมพำกับตัวเอง มันดูเหมือน นางหมายถึงอี้หยุน แต่ก็ดูเหมือนหมายถึงตัวเอง ชายชราอึ้งเมื่อได้ยิน แล้วก็เงียบไป ใช่ ปาฏิหาริย์... เขาเป็นปรมาจารย์สวรรค์เดียวดาย และมีเงื่อนไขในการรับศิษย์อย่างมาก เขาอยากได้คนที่มีสภาพร่างกายดีเยี่ยม และมีความสามารถพิเศษในศาสตร์ของกระดูกเดียวดาย ซึ่งหาได้ยากมากเหลือเกิน เขาเฝ้าค้นหามานับร้อยปี จากจำนวนลูกหลานของครอบครัวตระกูลใหญ่ นับไม่ถ้วน ก่อนจะยอมรับหลินซินถงเป็นศิษย์ แม้ว่าเขาจะพอใจอย่างยิ่งกับศิษย์คนนี้ แต่นางต้องสาปด้วยเส้นลมปราณหยิน ทำให้สูญเสียสภาพอันมีศักยภาพยอดเยี่ยม สำหรับการฝึกวิชายุทธ มันช่างน่าเย้ยหยันนัก “ไปกันเถอะ...เราคงไม่ได้พบเขาอีก เราไม่ได้อยู่ที่อาณาจักรไทอานาน ตอนที่เราออกมาจากอาณาจักรไทอา เด็กคนนั้นก็อาจยังไม่ได้ก้าวออกมาจากดินแดนรกร้างเมฆา แม้ว่าเขาจะก้าวออกมาจากดินแดนรกร้างเมฆาได้ มันก็เป็นเรื่องยาก สำหรับเขาที่จะก้าวออกจากอาณาจักรไทอา ในตลอดชั่วชีวิตของเขา อาณาจักรไทอากว้างใหญ่เกินไป” ชายชราแซ่ซู รู้สึกเสียดาย เด็กที่มีความทะเยอทะยานสูง แต่เกิดในสถานที่ที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสภาพร่างกายที่จำเป็นสำหรับการฝึกวิชายุทธ มันทำให้หดหู่ หลินซินถง เดินเหมือนตกอยู่ในภวังค์ นางยังจำความรู้สึกแปลกๆ ตอนที่ประมือกับอี้หยุนครั้งแรกได้ เส้นลมปราณที่แห้งเหือดของนางดูเหมือนได้รับการเปิดออก อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มีโอกาสถึง 99% ที่จะเป็นเพียงภาพลวงตา แต่หลินซินถงไม่เต็มใจที่จะทอดทิ้งแม้เพียงเสี้ยวเล็กๆของความหวัง บางทีอาจารย์ของนางอาจให้คำอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้? “อาจารย์ ข้ามีบางอย่างที่ต้องบอกท่าน...” จู่ๆ หลินซินถงก็โพล่งออกมา “โอ้? มีเรื่องอะไร?” ชายชราแซ่ซู พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมขณะที่ชะลอฝีเท้าลง หลินซินถงอธิบายความรู้สึกที่นางได้รับอย่างละเอียดมาก เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นของนาง ชายชราแซ่ซูรู้สึกประหลาดใจเส้นลมปราณที่แห้งเหือดถูกเปิดออก? มีเหตุจากอะไร? เขาลูบเคราขณะจมดิ่งลงสู่ห้วงความคิด ชายชราแซ่ซูได้ใช้เวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาศึกษาค้นคว้าเส้นลมปราณหยิน เพื่อทำการรักษามัน แต่เขาก็ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่การศึกษาค้นคว้าก็ยังไม่สามารถทำให้เขาทำความเข้าใจเส้นลมปราณหยินได้ เส้นลมปราณหยินคือจุดจบของเส้นลมปราณ ไม่สามารถส่งผ่านพลังงานใดๆ มันเพียงแห้งเหือดไม่อาจผลิตสิ่งใดได้ แต่จากสิ่งที่หลินซินถงเพิ่งกล่าวว่า นางมีการไหลของพลังงานอ่อนๆภายในเส้นลมปราณเมื่อตอนประลองกับอี้หยุน! แม้จะเป็นเพียงภาพลวงตาของหลินซินถง แต่ชายชราแซ่ซูจริงจังกับมัน “ไปที่เผ่าเทากันก่อน ข้ามีนัดกับผู้นำของหลิงหลงเหว่ยและจะถามเขาถึงข้อมูลที่รวบรวมได้เกี่ยวกับ ‘กำเนิดเมฆาม่วง’ หลังจากได้รับข้อมูลแล้ว เราจะพูดถึงรายละเอียดเรื่องนี้กัน!” ชายชราแซ่ซู มีเหตุผลหลักที่มาดินแดนรกร้างเมฆาคือ “กำเนิดเมฆาม่วง” เขาต้องการรู้ว่ามีสมบัติใดปรากฏในดินแดนรกร้างเมฆา และถ้าเขาจะสามารถใช้มันเชื่อมเส้นลมปราณของหลินซินถงได้ ประสบการณ์ที่ได้รับจากอี้หยุนก็จะเป็นเพียงภาพลวงตาของนาง ชายชราแซ่ซูไม่ได้มีความหวังเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาก็จะไม่ปล่อยผ่านโอกาสใดๆ ดังนั้นจึงเขาวางแผนที่จะตรวจสอบเรื่องราว

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้