True Martial World บทที่ 56 ล้อมกรอบ

หลังดวงอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าก็ยังไม่ได้มืดมิดนัก ในเผ่าเหลียน เด็กประมาณ 7 คน กับพวกผู้หญิงจำนวนหนึ่ง ยืนอยู่รอบๆบ้านของเจียงเเสี่ยวโหรว เด็กพวกนี้อายุราวๆ 8 ปี คนที่โตที่สุด อายุใกล้เคียงกับอี้หยุน ทุกคนใส่เสื้อผ้าเก่าขาด ไว้บนร่างกายอันสกปรก ในมือของทุกคนถือมูลวัว พวกเขาปามันไปที่ประตูบ้านของเจียวเเสี่ยวโหรว มูลวัวสกปรกกระจายเมื่อสัมผัสเข้ากับประตูบ้าน ทำให้กลิ่นเหม็นของมันกระจายออกมากขึ้น ด้านหลังเด็กๆเป็นหญิงแก่ในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำ ดูราวกับแม่มด นางเริ่มเต้นราวกับเป็นโรคลมชักและสวดมนต์ด้วยวลีแปลกๆ “เทพเจ้าทั้งมวลเป็นพี่ชายของข้า พระโพธิสัตว์ทั้งมวลเป็นน้องสาวของข้า โรคร้ายและภัยพิบัติทั้งมวลจงไปห่างไกลข้า! ปีศาจ และภูติผี จงเร่งออกไป วิญญาณชั่วร้ายทำให้ลุ่มหลง จงแสดงตัว ออกมา! อา อา อา….วู วู วู … อา อา อา ...” ปากที่มีฟันเหลืออยู่น้อย ร่ำร้องเหมือนภูติผี ส่งเสียงราวกับว่านางกำลังสำเร็จความใคร่ ในขณะที่เสียงหญิงแก่กำลังเข้าถึงจุดสุดยอด เด็กๆที่อยู่รอบๆตื่นเต้นมากขึ้นและเริ่มปามูลวัว มูลวัวพวกนี้เป็นมูลจากวัวของเผ่าเหลียน พวกมันมีเป็นกองใหญ่ในที่เพาะปลูกของเผ่า พวกเขาจึงได้รับมาเป็นจำนวนมาก เมื่อพวกชาวบ้านต้องการมูลวัวเพื่อขับไล่ปีศาจชั่วร้าย ข่าวที่อี้หยุนเลือดออกเจ็ดทวารได้แพร่กระจายออกไปทั่วเผ่าเหลียน ความตายในเผ่าเหลียนไม่มีอะไรใหม่ แต่การตายที่น่ากลัวเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ ในตอนเที่ยง จู่ๆเผ่าเหลียนก็มีข่าวว่าอี้หยุน เสียชีวิตจากโรคลึกลับ! มันเป็นโรคระบาดชนิดหนึ่ง! ทันใดนั้นทั้งชนเผ่าก็ปั่นป่วน! หลายคนเริ่มแพร่กระจายข่าว ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเผ่า! โรคระบาด! มันคำที่น่าหวาดกลัวมากในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่ โรคระบาดน่าสพึงกลัว มันฆ่าได้มากกว่าทุพภิกขภัย(สภาพขาดแคลนอาหาร) โดยปกติ โรคระบาดสามารถกวาดล้างออกจากเผ่าได้อย่างง่ายดาย ในประเทศจีนสมัยโบราณ มีความเป็นไปได้ที่จะหลบหนีจากโรคระบาด แต่ในดินแดนรกร้างเมฆา หากมีโรคระบาดก็เท่ากับว่ามันเป็นการตัดสินประหารชีวิต ไม่มีที่ไหนจะให้หลบหนี การหลบหนีไปในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่ ผลที่ได้มีเพียงการถูกกินโดยสัตว์อสูรดุร้าย ผู้คนในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่เกรงกลัวโรคระบาดจนถึงแก่นกระดูก! สิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่อยู่ในสภาพล้าหลัง ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหรือหมอ มันมีจำนวนน้อยมาก หากต้องเผชิญหน้ากับโรคระบาด พวกเขาจะไม่อาจทำอะไรได้นอกจากนั่งรอความตาย เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้คนในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่จึงได้ “สร้างสรรค์” วิธีการหลายอย่าง ในการต่อต้านโรคระบาด ที่พบมากที่สุดคือ “พ่อ(แม่)มดหมอผี” แม่มด “จะเต้นรำบวงสรวงเทพเจ้า” เพื่อขับไล่โรคระบาด แต่ผลที่ได้ ไม่เป็นที่ล่วงรู้ นี่อาจเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ แต่ในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความไม่รู้ ปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาและได้รับการยอมรับว่าเป็นความจริง ในโลกสมัยโบราณทุกมุมโลกล้วนมีพ่อมดหมอผี และพวกเขาก็เหมือนกันเปี๊ยบ นอกจากนี้ ผู้คนในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่เชื่อกันว่า มูลวัว หรือ เลือดสุนัขสามารถนำมาใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้าย เลือดสุนัขหายากเกินไป เนื่องจากเมื่อนานมาแล้วพวกมันถูกดื่มกินเพื่อบรรเทาความหิวโหย แต่มูลวัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงใช้มูลวัวปาใส่บ้านของเจียงเเสี่ยวโหรว พวกเขาปามันมาที่กำแพงและประตูเพื่อผนึกปิดกั้นโรคระบาด ป้องกันไม่ให้มันแพร่กระจายออกมา ด้วยเหตุนี้ จึงมีเด็กที่ประกาศตัวว่า “กล้าหาญ” มาร่วมปากันอย่างแข็งขัน พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นนักสู้ของเผ่าเหลียน กำลังต่อสู้ในสงครามกับโรคระบาดและสิ่งชั่วร้าย “ตรงนี้ยังไม่ทั่ว!” ผู้นำหมู่เด็กๆชี้และพูดขึ้นมา จากนั้นมูลวัวกองใหญ่ก็ถูกปาออกไป มูลวัวกระจัดกระจาย กำแพงด้านนี้อยู่ใกล้หน้าต่างที่เจียงเเสี่ยวโหรวติดกระดาษเอาไว้ ในเผ่าเหลียนกระดาษมีราคาแพง แต่ก็ไม่อาจเปิดหน้าต่างทิ้งไว้มันจะหนาวเย็นเกินไปในช่วงฤดูหนาว หากไม่ปิดกระดาษไว้ที่หน้าต่าง ก็ไม่อาจกั้นลมที่พัดเข้ามาได้ เจียงเเสี่ยวโหรวใช้เวลาทั้งวันติดกระดาษไว้ที่หน้าต่างให้หนาขึ้น ทีละน้อย เพื่อให้แน่ใจว่านางกับน้องชายจะสามารถเพลิดเพลิน กับความอบอุ่นในฤดูหนาว แต่ตอนนี้... “ปัง!” เสียงกระทบมาจากมูลวัวที่ผ่านกระดาษหน้าต่างเข้ามาในบ้านของเจียงเเสี่ยวโหรว มูลวัวกระทบพื้นกระเด็นกระจัดกระจาย ทำให้สกปรกไปทั่ว เจียงเเสี่ยวโหรว นั่งอยู่ที่ข้างเตียง มองดูอย่างเคร่งเครียด ตอนแรกนางได้ข่าวว่าน้องชายได้รับบาดเจ็บ สำหรับน้องชายของนางที่สามารถรอดจากเภทภัยหลายครั้งมาได้โดยไม่ตาย นางไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ พวกเขาบอกว่าน้องชายของนางตายไปแล้ว และมีชายสองคนอ้างว่า อี้หยุนกระโดดลงจากหน้าผาสูง 10 เมตรในช่วงลมหายใจสุดท้ายของเขา ตกลงไปแบบที่สามารถฆ่าแมวตายได้! น้องชาย...กระโดดลงไปในแม่น้ำ….เขาตายแล้ว คำเหล่านี้วนเวียนอยู่ในใจของเจียงเเสี่ยวโหรวราวกับคำสาปแช่ง นางงงงันไม่รู้จะทำประการใดโดยสิ้นเชิง นางไม่สามารถเชื่อว่าน้องชายของนางได้ตายไปแล้ว นางรู้ว่าอี้หยุนเปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา เขามีความสามารถมากขึ้น และแข็งแกร่ง หลังจากที่ฝึกวิชายุทธ เขากลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง น้องชายที่แข็งแกร่งจะตายได้อย่างไร? เจียงเเสี่ยวโหรวไม่อาจเชื่อได้ นางยังคงยึดมั่นความหวังทั้งมวลเกี่ยวกับอี้หยุน! แต่ไม่ว่าเจียงเเสี่ยวโหรวจะเชื่อในอี้หยุนเท่าไร การหายตัวไปของอี้หยุนก็เป็นเรื่องจริง... โดยเฉพาะข่าวลือเรื่องอี้หยุนเป็นโรคระบาด เจียงเเสี่ยวโหรวกลัว กลัวว่าอี้หยุนติดเชื้อโรคระบาดจริงๆ แล้ว กลัวว่าจะแพร่เชื้อให้นางจึงกระโดดน้ำตาย “ปัง!” มูลวัวก้อนหนึ่งชนเข้ากับโต๊ะอาหาร ชามเพียงสองใบในบ้านจมอยู่ใต้มูลวัว ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก อย่างไรก็ตาม เจียงเเสี่ยวโหรวไม่แม้แต่เหลือบมอง การล้อมกรอบบ้านของนางด้วยมูลวัวกินเวลาตลอดช่วงบ่าย แม้ตอนนี้ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็ยังไม่เสร็จสิ้น “ปาให้เยอะกว่านี้! ผู้หญิงคนนี้กับเจ้าปีศาจน้อย คือคนที่นำสิ่งชั่วร้ายมา พวกเราไม่ควรยอมรับพวกมันเขามาในเผ่าของเรา!” ภายนอกหน้าต่างหักๆ มีเสียงร้ายกาจของผู้หญิง ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสูงใบหน้ายาวโหนกแก้มสูง ม้วนแขนเสื้อขึ้น ดูราวกับหญิงปากร้าย แม้ในหมู่ผู้ยากไร้ก็มีการแบ่งชั้นวรรณะ บรรดาพวกที่มีแซ่เหลียน เผ่าเหลียนจะให้การดูแลดีกว่า บางครั้งพวกเขาก็สนุกกับสิทธิพิเศษนั้น ในบรรดาพวกที่ร่วมแซ่เดียวกับผู้นำเผ่าเหลียน ก็คือผู้หญิงคนนี้ ชื่อของนางคือ เหลียนชุยฮวา เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ป้าชุยฮวา ความจริงแล้ว ท่าทางก้าวร้าวและเป็นการผู้นำกลุ่มคนมาปามูลวัวในครั้งนี้ เป็นคำสั่งที่ได้รับมาจากเหลียนเฉิงอยู่ เหลียนเฉิงอยู่ต้องการก่อความปั่นป่วน และเขาพบคนที่ “มีเด็กอยู่ในการดูแล” ในหมู่คน และเห็นว่านางสามารถก่อให้เกิดความบ้าคลั่งได้ “ข้าคิดว่าเราควรเผาบ้านซะ จะได้ป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้ายออกมาได้ เจ้ารู้ไหม พ่อของต้าโทวเห็นเจ้าเด็กนั่นป่วยด้วยตาตัวเอง เขาไม่เพียงบอกว่ามันติดโรคระบาด แต่ยังบอกว่ามันถูกวิญญาณชั่วร้ายสิง!” “ตอนที่พ่อของต้าโทวจับตัวเด็กนั่น ก็รู้สึกเหมือนถูกงูกัด นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา! คิดเรื่องนี้ให้ดีๆ เจ้าสารเลวน้อยนั่น มีชีวิตราคาถูก ถูกเสียยิ่งกว่าสุนัข แล้วนายท่านจางจะคัดเลือกมันได้อย่างไร? แล้วคิดซิ ที่บอกว่ามันเป็นอัจฉริยะในวิชายุทธ จะเป็นไปได้อย่างไร? นายท่านจางอาจยังไม่รู้ และ เจ้าอาจยังไม่รู้! เจ้าเด็กนั่นเป็นคนไม่มี-อะไร-ดี ไม่ต่างอะไรกับขอทาน มันอ่อนแอเสียยิ่งกว่าหญิงโสเภณี อัจฉริยะในวิชายุทธ ส้น(ตีน)ซิ! เพียงแค่นั้นก็จะอธิบายได้ว่า ทำไมจู่ๆ จากคนที่ไม่มีอะไรดีกลายเป็น คนที่เก่งกาจ ก็ต้องเป็นเพราะ มันถูกสิง! เมื่อภูติผีเข้าสิงมันจึงกลายเป็นคนแข็งแรง แต่เมื่อภูติผีออกไปแล้ว มันก็เลยตาย!” เหลียนชุยฮวา พูดด้วยซุ่มเสียงแปลกประหลาด แต่งเรื่องในวันเวลาที่ผ่านมาของอี้หยุน ราวกับว่าเขาเป็นผีดิบเดินได้ ตลอดวันที่ผ่านมา เหลียนชุยฮวา จะพ่นเรื่องเหล่านี้ทุกครั้งที่นางพบกับผู้คน เรื่องเหล่านี้นางได้รับการสอนมาจากเหลียนเฉิงอยู่ เพราะว่าเหลียนเฉิงอยู่ไม่สามารถจะทำมันได้ด้วยตัวเอง เขาจึงใช้ให้เหลียนชุยฮวาแพร่กระจายข่าวลือ เพื่อใช้อธิบายความสามารถที่อี้หยุนมี และหลายคนก็เต็มใจจะเชื่อมัน ทุกคนจะได้รู้ว่าอี้หยุนไม่ใช่อัจฉริยะในวิชายุทธ ด้วยการทำเช่นนี้ เหลียนเฉิงอยู่ก็จะรักษาอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของเขาไว้ได้ เขาก็จะเป็นคนที่มีความสามารถที่สุดในเผ่าเหลียนและไม่มีใครเทียบเขาได้! นี่จะให้ชนเผ่าเชื่อว่ามีเพียงเขา เหลียนเฉิงอยู่ที่สามารถนำพาพวกเขาไปสู่ความรุ่งโรจน์ “สิ่งที่ป้าชุยฮวาพูดน่าจะจริง” “เขาถูกสิง ข้าว่าแล้วคนอ่อนแออย่างอี้หยุนไม่อาจจะมีความสามารถมากกว่า เอ้อร์ตันของข้า” ผู้หญิงไม่กี่คนสนับสนุน ด้วยว่าพวกนางต่างแซ่เหลียน และเป็นฐานรากของชนเผ่าเหลียน อย่างไรก็ตาม เจียงเเสี่ยวโหรวที่อยู่ในห้องก็ไม่ได้ฟังสิ่งเหล่านั้น หยุนเอ๋อร์ เจ้าไปอยู่ที่ไหน? ทำไมเจ้าไม่กลับมา? เจียงเเสี่ยวโหรวตกอยู่ในอาการงุนงง แม้ว่านางจะรู้ว่าความหวังเหลือน้อยมาก นางก็ยังคงปฏิเสธที่จะเชื่อว่าอี้หยุนเสียชีวิต

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้