True Martial World บทที่ 57 แรงจูงใจอันชั่วร้ายของเหลียนเฉิงอยู่

ณ ที่พักของหัวหน้าเผ่าเหลียน จ้าวเทียจู่วิ่งเข้ามาในห้อง รายงานสถานการณ์อันเดือดพล่านที่บ้านของอี้หยุน ให้เหลียนเฉิงอยู่ทราบ “นายน้อยเหลียน แผนการสุดยอดที่สุด ตอนนี้บ้านของมันตกอยู่ภายใต้มูลสัตว์หมดแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า” จ้าวเทียจู่หัวเราะ เหลียนเฉิงอยู่เพียงตอบรับด้วยความเงียบสงบ เขาโบกมือ แล้วพูดว่า “ออกไป ไปคอยดูที่บ้านเจียงเเสี่ยวโหรว แล้วมารายงานข้า” “ขอรับ ขอรับ ผู้น้อยจะรีบไป” จ้าวเทียจู่รับคำสั่ง โค้งคำนับแล้วถอยหลังออกไปจากบ้าน เขาอารมณ์ดี เขารู้สึกว่าเหลียนเฉิงอยู่เริ่มโปรดปรานเขามากขึ้น เพราะเริ่มให้งานไปทำ หลังจากที่จ้าวเทียจู่ออกไป เหลียนเฉิงอยู่รินน้ำชาลงถ้วยของตัวเองอย่างใจเย็น จากนั้นก็รินลงไปในอีกถ้วยที่ว่างเปล่า ในเวลานั้น ผู้อาวุโสเสื้อคลุมเหลืองเดินออกมาจากด้านในของห้องด้านหลัง เขาหัวเราะ เดินมาหยิบน้ำชาที่เหลียนเฉิงอยู่รินให้เอาไปจิบ อาวุโสผู้นี้คือ หัวหน้าเผ่าเหลียน “เฉิงอยู่ เรื่องนี้เจ้าทำได้ดีมากข้าแก่ไปแล้วจริงๆ” ผู้อาวุโสส่ายศีรษะ ช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่าน เรื่องต่างๆของเผ่าเหลียนถูกจัดการโดยเหลียนเฉิงอยู่ เหลียนเฉิงอยู่ใช้ชายแข็งแรงมาทำการกลั่นกระดูกเดียวดาย นำความวิตกมาให้ผู้อาวุโสเสื้อคลุมเหลือง เนื่องจากจะมีการเสียชีวิตจากการกลั่นกระดูกเดียวดาย และ ความอดอยาก เมื่อเวลานั้นมาถึง จะมีผู้เริ่มก่อการจลาจล แม้ว่าเหลียนเฉิงอยู่จะใช้ยาเม็ดผลาญโลหิต ดึงพลังชีวิตของผู้คนเหล่านั้น ออกมาใช้ และรักษาเสถียรภาพของร่างพวกเขาเอาไว้ แต่มันเป็นวิธีการที่ไม่ยั่งยืน เมื่อมันดึงพลังชีวิตใช้มากเกินไป ในไม่กี่วัน คนเหล่านั้นก็จะเริ่มเจ็บปวยลงอีกครั้ง แล้วตาย เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย เผ่าเหลียนก็จะตกอยู่ภายใต้สภาวะกดดันเป็นประวัติการณ์! หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องก็จะทำให้เกิดการจลาจล นำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตและอาจมีผลต่อการกลั่นกระดูกเดียวดาย ผลที่ติดตามมาจะเป็นหายนะ แต่ผู้อาวุโสเสื้อคลุมเหลืองไม่อยากเชื่อว่า เหลียนเฉิงอยู่จะผลักความผิดทั้งหมดไปที่คนตาย ก่อนที่ความเจ็บป่วยจะปรากฏออกมา หากเป็นเช่นนั้นแม้ว่าผู้ชายที่แข็งแรงที่ทำการกลั่นกระดูกเดียวดายจะเสียชีวิต ก็จะไม่มีผู้ใดสงสัย พวกเขาจะเชื่อว่าทุกอย่างเป็นเพราะอี้หยุนแพร่กระจายไปให้คนอื่นๆที่กลั่นกระดูกเดียวดาย ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยอันแปลกประหลาด หรือการถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง ความเจ็บป่วยเหล่านั้นก็จะกลายมาเป็นการแพร่ระบาดของโรคระบาด นอกจากนี้การที่วิญญาณร้ายเข้าสิงอี้หยุนก็จะเป็นลางร้ายของเผ่า เมื่อจุดนั้น ทุกคนก็จะเชื่อว่า อี้หยุนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิต เมื่อเป็นเช่นนั้น ทุกคนก็จะเกลียดชังอี้หยุน ไม่ใช่เหลียนเฉิงอยู่ และจะมีผู้ชายแข็งแรงรุ่นใหม่ยินดีที่จะเข้ามาทำการกลั่นกระดูกเดียวดาย และทุกอย่างก็จะจบอย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นเหตุผลหลักสำหรับทิศทางของเรื่องราวที่เหลียนเฉิงอยู่ ต้องการ อาจพูดได้ว่า กระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่เพียง เขาจะสามารถยืนยันตัวเองว่าเป็นอัจฉริยะหนึ่งเดียวที่ทรงอำนาจในเผ่า เขายังสามารถทำให้แน่ใจว่าการกลั่นกระดูกเดียวดายราบรื่น “มันแค่ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆ ท่านปู่ชมเชยเกินไป” เหลียนเฉิงอยู่กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “มันขึ้นอยู่กับพิษเยือกแข็งของอสรพิษเยือกแข็ง และผลกระทบของยาผลาญโลหิต ในอีก 3-5 วัน ผู้ที่กลั่นกระดูกเดียวดายก็จะตาย ในเวลานั้นผู้คนจะต้องโกรธ พวกเขาจะไม่เพียงปามูลสัตว์ไปที่บ้าน ของอี้หยุน แต่จะเผามันด้วย” ในขณะที่พูดเช่นนั้น เหลียนเฉิงอยู่ ยกน้ำชาจิบและค่อยๆเช็ดปาก ด้วยผ้าเช็ดหน้าอย่างสุภาพเรียบร้อย การเคลื่อนไหวของเขาสง่างามมาก เขาเป็นเพียงคนเดียวในเผ่าเหลียน ที่รักษาบุคลิกภาพของชนชั้นสูงไว้ เขาเกิดมาในดินแดนรกร้างเมฆา แม้ว่าเหล่านายน้อยของดินแดนรกร้างเมฆาจะมีสถานภาพสูงส่ง แต่ไม่มีใครในหมู่คนเหล่านั้นมีบุคลิกภาพของชนชั้นสูง! เหลียนเฉิงอยู่แตกต่างออกไปเพราะเขาได้เรียนรู้ วิถีชีวิตของชนชั้นสูงมาจากเหยาหยวน และทำให้มั่นใจว่ากระทำทุกอย่างตามวิถีทางเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา เป็นเพราะว่า เขาคิดว่าวันหนึ่งโชคชะตาจะทำให้ตนเป็นบุคคลหนึ่งในสังคมชั้นสูง และมีตำแหน่งสูงส่งในอาณาจักร และได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของอาณาจักร เขาจะได้ไม่ถูกเย้ยหยันโดยชนชั้นสูงว่าเป็นเด็กเหลือขอจากดินแดนรกร้างเมฆา เขาต้องการให้ผู้คนได้รู้ว่า ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดมาในดินแดนรกร้างเมฆา เขาก็ยังสามารถทำทุกอย่างได้ดีเหมือนกัน! “น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เห็นศพของอี้หยุนกับตาตัวเอง...” เหลียนเฉิงอยู่ พูดในสิ่งที่คิดออกมา “ฮ่า ฮ่า เฉิงอยู่ เจ้ากังวลเกินไป เจ้าคิดว่าเจ้าเด็กนั่นจะยังสามารถอยู่รอดได้ภายใต้เงื่อนไขเช่นนั้น? นอกจากพิษเยือกแข็งของอสรพิษเยือกแข็งที่ไม่มีทางรักษา การตกลงไปจากความสูงหลายสิบเมตรจากหน้าผาก็ยังทำให้ร่างกายแตกหักเสียหาย นอกจากนี้ แม่น้ำตะวันออกก็ไหลเชี่ยวมาก แล้วยังมีน้ำตกสูง แม้นักว่ายน้ำที่เก่งฉกาจที่สุดก็ยังอาจตกลงไป หรือจมน้ำตาย” หัวหน้าเผ่าไม่กังวลเลยแม้แต่นิดเดียว เหลียนเฉิงอยู่พยักหน้า “ใช่..ถูกของท่านปู่ อี้หยุนเพียงเป็นผู้เริ่มฝึกวิชายุทธ และยังไม่ได้ถึงแม้แต่ระดับแรก แข็งแกร่ง ไม่มีทางที่มันจะสามารถรอดไปได้” เหลียนเฉิงอยู่วางถ้วยน้ำชาลง อี้หยุนอาจตายไปแล้ว แต่พี่สาวของเขายังคงอยู่ หลังจากเกิดเรื่องที่ทำให้บ้านของนางเต็มไปด้วยมูลวัว และถ้าเกิดมีการเผาบ้าน นางก็จะไม่มีที่ไป นางจะเป็นที่รังเกียจจากทุกคนในเผ่าเหลียน ยกเว้นตัวเขา ที่ยินดีรับนางเอาไว้ใต้การปกครอง? เมื่อคิดได้ดังนั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนริมฝีปากของเหลียนเฉิงอยู่ ผู้หญิงคนนั้นจะตกอยู่ในอุ้งมือเขาไม่ช้าก็เร็ว ปล่อยให้นางได้รับความทุกข์ยากเล็กน้อยจะได้ทำให้นางเชื่องมากขึ้น ทุกสิ่งจะต้องเป็นไปอย่างที่เขาต้องการ “อี้หยุน...อา.. อี้หยุน เจ้าทำให้ข้าเสียหน้าต่อหน้านายท่านจาง ฆ่าเจ้าแล้วเพลิดเพลินกับพี่สาวของเจ้า เป็นความชอบธรรมอย่างยิ่ง” “เจ้าก็ตายไปแล้ว ข้าจะช่วยเหลือพี่สาวของเจ้า ในอนาคต นางจะต้องเชื่อฟังเพียงข้า เจ้าจะได้พักให้สบายในโลกหน้า และเมื่อสถานะของข้าสูงขึ้น ข้าจะให้นางเป็นหนึ่งในนางบำเรอของข้าและข้าจะไม่ทอดทิ้งนาง” ... ความมืดเข้าปกคลุมบริบูรณ์ แต่เด็ก “กล้าหาญ” ไม่กี่คน ยังคงทุ่มเทอย่างแข็งขัน พวกเขายังไม่เลิกแม้ว่าท้องฟ้าจะมืดมิด จนกองมูลวัวทั้งกองถูกปาหมด ไม่เพียงแต่ประตูบ้าน ผนัง แม้แต่พื้น ก็ยังถูกฝังด้วยมูลวัว “ทำดีมาก!” เหลียนชุยฮวา ปรบมือ ความจริงนางอยากลูบหัวเด็กชายเพื่อเป็นกำลังใจ แต่นางตระหนักว่าพวกเขาสกปรก จึงหดมือกลับ “มากับป้าชุยฮวาพรุ่งนี้ ป้าชุยฮวาจะทำขนมหวานให้เจ้ากิน” การนำขนมหวานหลอกล่อเด็กๆก็เป็นการสอนของเหลียนเฉิงอยู่ ในเผ่าเหลียน ขนมเป็นสิ่งหายาก เมื่อเด็กๆได้ยินคำว่า “ขนม” ดวงตาของพวกเขาก็ลุกโพลง “แล้ว.. แล้ว.. พวกเรามาปามูลวัววันพรุ่งนี้ แล้วจะมีขนมหวาน กินด้วยใช่ไหม?” “มีแน่นอน” เหลียนชุยฮวาหัวเราะ “ไม่เพียงแต่จะมีขนมหวาน การปามูลวัวยังช่วยขับไล่ความชั่วร้ายให้ออกไป ช่วยชีวิตทุกๆคน!” “ใช่...พวกเราช่วยชีวิตทุกคน” เด็กที่อายุมากกว่าพูดขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ “พวกเราเป็นวีรบุรุษ!” เด็กคนอื่นๆร้องสนับสนุน เด็กเหล่านี้อยู่ในวัยที่มีความฝันจะเป็นวีรบุรุษ พวกเขาต้องการที่จะเป็นผู้ฝึกยุทธบินไปบนท้องฟ้า มันเป็นที่น่าประทับใจ ในเวลานี้ มีสายตาดำมืดคู่หนึ่งจับจ้องคนทั้งหมดอยู่ในพงหญ้า นั่นเป็นตาของอี้หยุน! จากบทสนทนาของเด็กกับชาวบ้าน เขาคิดถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเดาได้ว่านี่เป็นแผนการของเหลียนเฉิงอยู่ เขากำหมัดแน่น และมีประกายสังหารอยู่ในดวงตาของเขา! ระดับขั้น ในขอบเขตโลหิตมนุษย์ หรือโลหิตไร้นิรันดร์ ระดับแรก แข็งแกร่ง ไม่ได้แปลตามความหมายภาษาอังกฤษ แต่ตั้งตามความสามารถของผู้ฝึกยุทธที่สามารถ ฉีกร่างม้า หรือเสือ ด้วยมือเปล่า ระดับสอง ประกาศศักดา ก็ไม่ได้แปลตามความหมายภาษาอังกฤษ แต่ตั้งตามความสามารถ ของผู้ฝึกยุทธที่หายใจเป็นศรลมปราณได้ ระดับที่สาม ฟ้าคำราม …. ระดับที่สี่ ชีพจรสัมพันธ์ ใช้คำ ชีพจร ตามหนังสือนิยายกำลังภายในเก่าๆ ที่ใช้คำ ชีพจร แทนที่จะใช้คำว่าเส้นลมปราณ

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้