True Martial World บทที่ 58 กลับบ้าน

โรคระบาดเป็นเพียงข้ออ้างที่จะผลักความผิดทั้งหมดมาให้เขาอย่างเลวทรามมาก และด้วยสติปัญญาของชาวบ้าน ไม่มีทางที่จะมองเห็นข้อเท็จจริงนี้! เขาจะรู้ได้อย่างไรว่ายาที่เขากินได้ใช้พลังชีวิตของพวกเขาไปจนหมดสิ้น? และจะรู้ได้อย่างไรว่าการกลั่นกระดูกเดียวดายจะทำให้ได้รับสารพิษที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้? สองเดือนก่อนหน้านี้หลายคนในหมู่พวกเขาไม่เคยได้ยิน เรื่องของกระดูกเดียวดายแม้แต่น้อย ผู้ยากไร้มีชีวิตที่ยากลำบากจากความอดอยากและหนาวเย็น นอกจากเรื่องอาหาร ในสมองก็ไม่อาจรับสิ่งใดๆได้อีก แม้ว่าจะอธิบายชนิดคำต่อคำ พวกเขาก็ไม่อาจเข้าใจ นัยน์ตาของอี้หยุนเย็นเฉียบ หากเขาแสดงตน ก็จะเป็นการประกาศสงครามกับเหลียนเฉิงอยู่! เขารู้ตัวว่าระดับการบ่มเพาะของเขายังคงอยู่ในระดับชีพจรสัมพันธ์ แม้ว่จะมีร่างกายแสดงอารมณ์ ชีพจรมังกร แต่เหลียนเฉิงอยู่กำลังจะก้าวผ่านเข้าสู่ขอบเขต โลหิตม่วง และอยู่ในจุดสูงสุดของระดับ ลมปราณรวบรวม หากไม่ใช่เพราะเขา เหลียนเฉิงอยู่คงก้าวผ่านไปสู่ขอบเขตโลหิตม่วง แล้วแน่นอน อี้หยุนไม่มั่นใจในการต่อสู้ด้วยร่างกายแสดงอารมณ์ ในระดับชีพจรสัมพันธ์ กับเหลียนเฉิงอยู่ที่อยู่ในระดับเกือบเข้าสู่ขอบเขตโลหิตม่วง ในเผ่าเหลียน นอกจากเหลียนเฉิงอยู่แล้ว ก็ยังมีผู้ดูแลกับครูฝึกเหยาหยวน! พวกเขาทั้งสามอยู่ในระดับห้าของขอบเขตโลหิตมนุษย์ ลมปราณรวบรวม หากต้องต่อสู้คู่ต่อสู้จะมีถึงสาม! เขาไม่ได้กังวลกับหัวหน้าเผ่า แต่สำหรับเหยาหยวน... อี้หยุนไม่รู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเหยาหยวน ก่อนหน้านี้เหยาหยวนอยู่ในขอบเขตโลหิตม่วง แต่เกิดเหตุทำให้ขอบเขตลดลง ไม่เพียงแต่ระดับของเหยาหยวนจะสูงมากกว่า แต่ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาก็มากกว่าอี้หยุน สำหรับอี้หยุน นอกจาก ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ก็ไม่เคยเรียนทักษะการต่อสู้อื่นใดอีก และ ไม่รู้กระบวนท่าใดๆ เขาขาดทักษะในด้านการต่อสู้ และอยู่ในระยะเริ่มต้นของวิชายุทธ ดังนั้น อี้หยุนจึงทำใจให้สงบแล้วเริ่มวางแผนการ “เหลียนเฉิงอยู่ ข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน!” อี้หยุนกำหมัดแน่น เขาเป็นคนจากโลกอื่นที่ทะลุมิติเขามาในโลกประหลาดที่อำนาจคือกฎสูงสุด ก่อนหน้านี้อี้หยุนไม่ปรารถนาจะฆ่าใคร แต่วันนี้ เขาตัดสินใจจะฆ่าเหลียนเฉิงอยู่! เหลียนเฉิงอยู่เคยลอบสังหารอี้หยุนมาสองครั้ง แต่อี้หยุนก็ไม่เคยบ้าคลั่งเท่าครั้งนี้ เหลียนเฉิงอยู่ไม่ควรบังอาจกระทำเช่นนี้ต่อเจียงเเสี่ยวโหรว พี่สาวของเขาอยู่เพียงคนเดียวไร้ความช่วยเหลือ เป็นหญิงสาวอายุเพียงสิบห้าปี กับต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาของคนทั้งเผ่า! เมื่อพวกผู้ชายที่แข็งแรงพวกนั้นเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย เหลียนเฉิงอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องผลักความผิดไปให้อี้หยุนอีก ถึงตอนนั้น ครอบครัวผู้เสียชีวิตจะทำอะไรกับเจียงเเสี่ยวโหรว? มันเป็นเรื่องที่ไม่อาจคิด! หากในเวลานั้น เหลียนเฉิงอยู่ ปรากฏตัวและต้องการทำอะไร กับเจียงเเสี่ยวโหรว นางจะไม่มีทางขัดขืนได้! อี้หยุนหยิบหินก้อนเล็กๆ ปาใส่หน้าเหลียนชุยฮวาจากพงหญ้า ก้อนหินถูกหน้าด้านขวาของนาง “โอ๊ย!” เหลียนชุยฮวา ร้องลั่น ตัวงอ นางเจ็บปวดที่ใบหน้า ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปด้วยความเจ็บปวดและความโกรธ “ใครบังอาจทำร้ายข้า?” เหลียนชุยฮวา ส่งเสียงด้วยความโกรธ เด็กๆที่อยู่รอบๆส่ายศีรษะทันที เพื่อบอกว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไร อี้หยุนไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า แม้ว่าจะมีแรงกระตุ้นให้ฆ่าหญิงร้ายกาจผู้นี้ เขารู้ว่าหากเขาทำอะไรเหลียนชุยฮวา มันจะสร้างความสงสัยให้แก่เหลียนเฉิงอยู่ เขาจะจดจำหนี้ครั้งนี้ของเหลียนชุยฮวาไว้ แค่เดือนหรือเดือนกว่า เขาจะเรียกเก็บหนี้รายนี้ หญิงร้ายกาจผู้นี้ต้องจ่ายหนี้ครั้งนี้อย่างสาสม! “อา!” ในตอนนี้เด็กที่อยู่ข้างเหลียนชุยฮวา สะดุ้งโหยง พร้อมกับกุมก้นเขาไว้ “ใครตีข้า?” เด็กคนนี้เป็นหัวโจก ของพวกเด็กๆ “ไม่ใช่ข้า!” “แล้วก็ไม่ใช่ข้า!” เด็กๆอีกหลายคนรีบแก้ตัว แต่ตอนนี้เสียงร้องเริ่มจากคนหนึ่งไปอีกคน มือของอี้หยุนทำงานได้รวดเร็วมาก ก้อนหินที่เขาดีดออกไป ตรงเป้าหมายและควบคุมได้อย่างถูกต้อง ในขณะที่ก้อนหินปาถูกเด็กๆ มันก็กระเด็นออก หายไปในความมืดของค่ำคืน เป็นการป้องกันไม่ให้มีใครรู้ว่าพวกเขาถูกทำร้ายจากอะไร หรือรู้ว่าก้อนหินมาจากไหน “มันคืออะไร!?” เด็กๆรู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตอนนี้มันดึกมากแล้ว และพวกเขาก็กำลังทำงานที่กล้าหาญ ในการ “ขจัดวิญญาณชั่วร้าย” เหงื่อเย็นๆไหลออกมาหลังจากโดนจู่โจมด้วยวัตถุลึกลับ “ผี...มีภูติผี!” ไม่รู้ว่าเด็กคนไหนตะโกนออกมา เด็กๆกลัวจนซีดขาว ชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็หนีหายกระจัดกระจายไป เหลียนชุยฮวา กลัวมากยิ่งขึ้น นางวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานออกไป ชาวบ้านจะกลัวสิ่งเหนือธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งปีศาจและภูตผี หลังจากเด็กๆหนีกระจัดกระจายไป อี้หยุนสำรวจให้แน่ใจว่า ไม่มีใครอยู่อีก ก่อนที่จะมุ่งไปที่บ้านราวกับภูติพราย แล้วกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในบ้าน ที่ลานบ้านเต็มไปด้วยมูลวัว แต่ตอนนี้อี้หยุนอยู่ในระดับชีพจรสัมพันธ์ และมีร่างกายแสดงอารมณ์ ดังนั้นเขาจึงเป็นเหมือนกับปรมาจารย์วิชากังฟู เพียงกระบวนท่าเดียว เขาก็ข้ามทะเลมูลสัตว์ ข้ามลานบ้านไป โดยไม่ทำให้รองเท้าสกปรก เขาผลักมือออกไปในความว่างเปล่า มีลมกระโชกแรงพัดไปข้างหน้าดันประตูเปิด แล้วเขาก็ก้าวเข้าไปในบ้าน ทางด้านหน้าของบ้านด้านขวาเป็นเตาสำหรับทำอาหาร มันไม่มีไฟ จึงทำให้มืดสนิท แต่ในห้องนอน หน้าต่างถูกทำลายไปด้วยมูลวัว ทำให้มีแสงจันทร์ลอดผ่านเข้ามา อี้หยุนมองเห็นร่างบอบบางของเจียงเเสี่ยวโหรวได้อย่างชัดเจนภายใต้แสงจันทร์ “ใคร!?” แม้เจียงเเสี่ยวโหรวกำลังเศร้าโศกและวิตกกังวลจากการหายไปของอี้หยุน แต่นางก็ยังระวังตัวอย่างมาก ในทันทีที่ได้ยินเสียง นางคว้าลูกศรที่อยู่ข้างกายทันที! เจียงเเสี่ยวโหรวเป็นหญิงสาวที่เด็ดเดี่ยว การต่อสู้ดิ้นรนตลอดมาทำให้นางแข็งแกร่ง แต่นางอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้นางคิดถึงวลีที่ว่า “ไม่มีผู้ชายในบ้าน ชีวิตพลันโศกเศร้า” ตอนที่น้องชายของนางยังอยู่ ชีวิตของนางหมุนไปรอบๆเขา ตอนนี้น้องชายของนางไม่อยู่แล้ว นางสูญเสียจิตวิญญาณที่คอยค้ำชู และหญิงสาวที่อยู่คนเดียวในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่ ก็จะถูกรังแก นอกจากนี้อี้หยุนเคยเตือนนางว่า เหลียนเฉิงอยู่ต้องการตัวนาง ตั้งแต่นั้นมาเจียงเเสี่ยวโหรวก็ไม่ยอมให้ลูกศรออกห่างตัว “พี่ ข้าเอง...หยุนเอ๋อร์..” อี้หยุนพูดด้วยเสียงสั่น ขณะที่มองไปรอบบ้านที่เต็มไปด้วยมูลสัตว์ เห็นเจียงเเสี่ยวโหรวอยู่ท่ามกลางสิ่งสกปรกเหล่านี้ เขารู้สึกมีก้อนขึ้นที่ลำคอกระตุ้นให้ เขาร้องไห้ เจียงเเสี่ยวโหรวตะลึงงัน ในความมืด นางใช้แสงจันทร์มองหน้าของอี้หยุน แม้จะไม่ชัดเจน แต่นางจะไม่ยอมรับได้อย่างไรว่า นี่เป็นร่างอันคุ้นเคย? “หยุนเอ๋อร์!” เจียงเเสี่ยวโหรววิ่งไปข้างหน้าด้วยน้ำตาคลอ นางกอดอี้หยุนไว้แน่น! “หยุนเอ๋อร์ เจ้าสบายดี ตลอดมาเจ้าไม่เป็นไร เจ้าไม่เป็นไร!” เจียงเเสี่ยวโหรว พูดอย่างเร่งร้อน นางใช้แรงทั้งหมดกอดอี้หยุนไว้ในอ้อมแขน กลัวว่าหากปล่อยเขาจะหายไป เจียงเเสี่ยวโหรวกอดเขาแน่นจนอี้หยุนสามารถรู้สึกถึงร่างกายอันสั่นเทาและหัวใจเต้นรัวของนาง อี้หยุนรู้สึกอุ่นที่คอ มันเป็นน้ำตาของเจียงเเสี่ยวโหรว “พี่ ข้าสบายดี...” “ข้ารู้...ข้ารู้ตั้งแต่ต้น” เจียงเเสี่ยวโหรวร้องไห้พลางพูดขึ้น แม้ว่านางจะบอกว่านางรู้ แต่นางก็ไม่มั่นใจ นางไม่ได้ใส่ใจต่อการกระทำอันหยาบคายด้วยการปาผนังด้วยมูลวัว และนางก็ไม่ได้ใส่ใจในคำสาปแช่งของหญิงร้ายกาจคนนั้น สิ่งเดียวที่สำคัญกับนางคือ การกลับมาของน้องชายของนาง ตอนนี้ มันก็เกิดขึ้นแล้วหลังจากรอคอยมานาน! “ไปกันเถอะ พี่ เราจำเป็นต้องออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เราไม่สามารถอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้อีกแล้ว!” คำพูดฉับพลันของอี้หยุนทำให้เจียงเเสี่ยวโหรวที่ยังไม่ทันตั้งตัว ปรับอารมณ์ไม่ทัน “หากเราอยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วเราจะไปที่ไหนได้? เจ้าพูดว่าจะออกไปสู่ดินแดนรกร้างเมฆา?”

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้