True Martial World บทที่ 61 ข้าอยากเป็นผู้รอบรู้

หลังจากที่ทำให้แน่ใจว่าเจียงเเสี่ยวโหรวหลับไปแล้ว อี้หยุนก็ดึงมือออกอย่างเงียบๆ ถึงแม้ว่าเจียงเเสี่ยวโหรวจะหลับแล้ว เขาก็ไม่ยอมพัก เขาใช้ผลึกม่วงบรรพชนในร่างกายดูดซับพลังงานจากศีรษะสัตว์อสูรกิเลน สัตว์อสูรกิเลนคือ สัตว์อสูรรกร้าง และเมื่อตอนที่ก้าวผ่านเข้าสู่ขอบเขตชีพจรสัมพันธ์ เขาดูดซับพลังงานเดียวดายจากอสรพิษเยือกแข็ง เนื่องจากขาดประสบการณ์ เขาดูดซับมากเกินไปจนก่ออันตราย เส้นลมปราณเกือบรับไม่ไหว คราวนี้ อี้หยุนเรียนรู้ เขาจึงระมัดระวังควบคุมปริมาณพลังงานที่เข้าสู่ร่างกาย จากความเร็วในการดูดซับนี้ เขารู้ได้ว่าศีรษะสัตว์อสูรกิเลนสามารถทำให้เขาอยู่ได้ไปอีก 1 เดือน ในหนึ่งเดือน เขาจะผ่านการคัดเลือกผู้ฝึกยุทธ และได้รับทรัพยากรใหม่ อี้หยุนดูดซับพลังงานจนพอ และออกจากบ้านต้นไม้ไปเงียบๆ ในตอนกลางดึก เขาเป็นเหมือนลิงปราดเปรียวข้ามผ่านป่า มาถึงที่โล่งอย่างรวดเร็ว มีดวงจันทร์กลางท้องฟ้าสดใส เด็กหนุ่มในชุดผ้าลินินนั่งพิงต้นไม้ภายใต้แสงจันทร์ เริ่มพลิกหน้ากระดาษหนังสือโบราณสีเขียวอย่างตั้งใจ ใบไม้สีเหลืองร่วงหล่นจากกิ่งก้านลงมาปิดบนหน้ากระดาษ แต่เด็กหนุ่มปัดมันออกเบาๆ และทุ่มเทสมาธิไปกับการอ่าน แม้ว่าเวลากลางคืนแสงจันทร์จะไม่สว่างมากนัก แต่หลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขต ชีพจรสัมพันธ์ อี้หยุนก็สามารถมองเห็นอย่างชัดเจนราวกับเป็นเวลากลางวัน “ดังนั้น มังกรทะยานเก้าชั้นฟ้า ไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งกระบวนท่า มันมีอีกสาม ทำให้ทั้งชุดมีสี่กระบวนท่า...” จากมุมมองของหลินซินถงที่มีต่อ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” คำถามมากมายของเขาที่เคยถูกเก็บเอาไว้ค่อยๆกระจ่างแจ้ง ตอนที่เหยาหยวนทำการสอนให้แก่สมาชิกในเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ ภายใต้ความสามารถอันน้อยนิดของพวกนั้น เขาจึงสอนแต่กระบวนท่าง่ายๆ ทั้งหมดเป็นเพียงกระบวนท่าง่ายที่สุดที่ทำการสอนให้ แต่ตอนนี้ทุกกระบวนท่าทั้งหมดของ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” อยู่ที่นี่แล้ว “โอ้? แม่นางหลินเขียนว่า แม้ว่า ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ จะตรงไปตรงมา มันคือเคล็ดวิชาหมัดขั้นพื้นฐาน และมีข้อจำกัด ในการปฏิบัติของ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ หากผู้ใดมุ่งเน้นเฉพาะการปฏิบัติ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ ก็จะสามารถถึงขอบเขตสมบูรณ์ที่สุดของ ‘หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์’ แต่จะไม่ได้รับการปรับปรุงใดๆเพิ่มเติมอีก” คำของหลินซินถงทำให้อี้หยุนสะดุ้ง เขามุ่งความสนใจไปที่มันในทันที อะไรคือสิ่งที่หลินซินถงหมายถึง หลินซินถงเขียนด้วยลายมือ เป็นอักษรเล็กๆที่นุ่มนวลสวยงามประณีตและทรงพลัง อี้หยุนรู้สึกได้ถึงพลังของมัน! ในบันทึกของหลินซินถงบอกว่า ขอบเขตสูงสุดที่จะสามารถเข้าถึงได้ด้วย “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” คือจุดสูงสุดของขอบเขตโลหิตม่วงจึงเรียกจุดนี้ว่าจุด “สมบูรณ์ที่สุด” แต่ต่อไปจากนั้นจะสามารถปฎิบัติต่อไปได้หรือไม่? ไม่มีผู้ใดบอกได้! ณ จุดนั้น ไม่ว่าผู้ใดก็ต้องการเคล็ดวิชาที่มีคุณภาพสูงกว่า เพื่อจะก้าวผ่านไปสู่ขอบเขตที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น “เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ไทอา” ซึ่งไม่ว่าผู้ใดที่ได้มันมาก็ต้องปรารถนาที่จะใช้มัน แต่ปัญหาจะเกิดขึ้น “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ที่เรียนรู้ก่อนหน้ามีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง จาก “เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ไทอา” ระหว่างมรดกจากอาณาจักรไทอาทั้งสองสิ่ง “เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ไทอา” สร้างโดยจักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักร ขณะที่ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” เป็นสิ่งที่ได้รับโดยไม่คาดคิดจากหนึ่งในจักรพรรดิที่สืบทอดราชวงศ์ พวกมันไม่ได้มาจากแหล่งเดียวกัน หากสิ่งที่แตกต่างกันถูกนำมาใช้ร่วมกัน พวกมันก็จะไม่อาจรวมกันได้อย่างสมบูรณ์ บนโลก มันก็เหมือนนักเรียนชั้นมัธยมปลายสายคณิตศาสตร์ เลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในสายวิชาประวัติศาสตร์ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สามารถเรียนรู้อะไรได้ คนที่มีความสามารถก็จะกลายเป็นนักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงได้อย่างง่ายดาย และก็ไม่ได้หมายความว่าความรู้วิชาคณิตศาสตร์จะสูญเปล่า เมื่อต้องการค้นคว้าช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ อีกความรู้ที่แตกต่างนั้นจะไม่สามารถใช้? เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเคล็ดวิชาบ่มเพาะ มันก็จะเกิดปัญหา หลังจากที่ได้ฝึก “เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ไทอา” แล้ว “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ก็จะไร้ประโยชน์ มันจึงถูกใช้เพียงเพื่อก้าวผ่านขอบเขตโลหิตมนุษย์ และผลักดันไปสู่จุดสูงสุดของโลหิตม่วง! เป็นเช่นเดียวกับนักเรียนมัธยมปลายที่เรียนสายคณิตศาสตร์ เพียงเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย นั่นจึงเป็นการเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์ เวลาของผู้ฝึกยุทธมีค่ามาก การฝึกวิชายุทธ คือการต่อสู้กับลิขิตสวรรค์ การก้าวผ่านสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นจำเป็นต้องมุ่งมั่นเพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลา! หลินซินถงก็เป็นบุคคลที่ต้องการต่อสู้กับลิขิตสวรรค์ นางต้องการปาฏิหาริย์ที่เป็นไปไม่ได้ แล้วที่นางทำไปเป็นสิ่งเปล่าประโยชน์? วิธีของหลินซินถงไปไกลกว่าการปฏิบัติ มันเป็นการปฏิบัติจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งสำหรับตอบสนองการใช้งานเฉพาะตน! เป็นการลืมเลือนการปฏิบัติ ในแบบที่เรียกว่า “ไร้การยึดติด” อันเป็นขั้นตอนสำคัญในการแสวงหาเส้นทางวิชายุทธของตัวเอง! มันขึ้นอยู่กับความสามารถในวิชายุทธของแต่ละคน คนผู้หนึ่งอาจหาเส้นทางไปสู่ระดับสูงของวิชายุทธ ด้วยเคล็ดวิชาที่เรียนรู้ ไม่ว่ามันจะเป็นวิชาระดับพื้นฐาน ระดับกลาง หรือระดับสูง ด้วยความเข้าใจอย่างที่สุด และผสานเข้ากับความเข้าใจส่วนบุคคลในวิชายุทธ เมื่อเป็นเช่นนั้น มันก็จะไม่เสียเปล่า เมื่อเห็นบันทึกอี้หยุนก็ได้สติ ถูกต้อง การปฏิบัติมีข้อจำกัด แต่วิชายุทธไร้ข้อจำกัด! ในประเทศจีนโบราณ เม่งจื๊อ ได้กล่าวว่า “เชื่อทุกสิ่งที่อ่าน ดีกว่าไม่ได้อ่าน” ผู้รอบรู้ที่แท้จริงจะอ่านพื้นฐาน “คัมภีร์สามอักษร” “ทำเนียบร้อยแซ่” หรือ สี่คัมภีร์ชั้นสูง แม้กระทั่ง ร้อยสำนักความคิด ทั้งหมดทั้งมวลที่ไม่อาจนับได้ถูกรวบรวมเข้ากับความรู้ของพวกเขา เรียงร้อยออกมาเป็นบทประพันธ์อันงดงามของพวกเขา! ข้าต้องการเป็นผู้รอบรู้ ข้าต้องการเป็นผู้รอบรู้ในวิชายุทธ! อี้หยุนสาบาน และตั้งต้นเรียนส่วนที่ยากของ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ที่หลินซินถงได้บันทึกเอาไว้ สิ่งนี้เป็นข้อได้เปรียบของสถานะการเกิด นางเกิดในครอบครัวตระกูลใหญ่ มีทัศนคติและปฏิสัมพันธ์มาก ดังนั้นจึงมีความเห็นเกินธรรมดา อี้หยุนฝึกวิชายุทธมาเพียงสองเดือน แม้ว่าการรับรู้จะอยู่ในระดับสูง ก็ไม่อาจเทียบกับหลินซินถงได้ ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ได้รับจากการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด แม้แต่ผู้รอบรู้ก็ต้องเริ่มจากเด็กแบเบาะ อี้หยุนใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการอ่าน “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” จนจบครอบคลุมทั้งหมด เขาครุ่นคิดอย่างละเอียดลึกซึ้งและได้รับการรู้แจ้งอันยิ่งใหญ่ “ข้าไม่อาจพึ่งพาความเข้าใจของแม่นางหลิน ในแต่ละสิ่งทุกคนมีความเข้าใจที่แตกต่างกัน หลายสิ่งอาจเข้าใจตรงกันได้ แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ ข้าจำเป็นต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง” มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเข้าใจในความคิดเห็นของคนอื่น แต่ก็ไม่อาจพึ่งพาเพียงความคิดเหล่านั้น อี้หยุนเก็บคัมภีร์อย่างระมัดระวังแล้วกระโดดขึ้นไปบนก้อนหินใหญ่ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงานธาตุไฟของสัตว์อสูรกิเลน นับตั้งแต่เขาก้าวผ่านเข้าสู่ขอบเขต ชีพจรสัมพันธ์ ความยืดหยุ่นในการควบคุมพลังงานของร่างกายคือข้อได้เปรียบสูงสุด พลังงานของสัตว์อสูรกิเลนที่ดูดซับมาจากบ้านต้นไม้ ผนึกอยู่ภายในจุดตันเถียนของเขา อี้หยุนเริ่มเปิด เส้นลมปราณเริ่นตู เขารู้สึกถึงคลื่นความร้อนภายในร่างกาย ความร้อนนี้ไหลผ่านเส้นลมปราณเริ่นตู รอบแล้วรอบเล่า อย่างช้าๆ ร่างกายของเขาร้อนราวถูกเผา เหมือนกับว่าเขาดื่มเหล้าไหใหญ่ในฤดูร้อน! ด้วยความแข็งแกร่งนี้ อี้หยุนเริ่มแสดงกระบวนท่าของ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์”! พลังงานของกิเลนวิ่งไปสู่ศีรษะ เขารู้สึกว่าจิตวิญญาณผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ร่างกายเริ่มเคลื่อนย้ายอย่างเป็นอิสระไร้ซึ่งความคิดราวกับเป็นสัญชาตญาณ นี่เป็นสภาวะสำหรับการเรียนรู้วิชายุทธที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าสภาพร่างกายของอี้หยุนไม่ดีนัก แต่ความรับรู้และเชาว์ปัญญาของเขาห่างไกลจากเด็กวัยเดียวกันมาก แม้แต่ผู้มีความสามารถในเผ่าใหญ่ก็ไม่อาจเทียบได้ เพราะอี้หยุนเป็นผู้มีชีวิตสองชาติภพ จากระดับที่สี่ของ โลหิตมนุษย์ ก้าวสู่ ระดับที่ห้า นอกจากต้องกินทรัพยากรอันมีค่า ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือ การรวบรวมลมปราณ เข้าสู่ร่างกาย! และนี่จึงเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด! ผู้ฝึกยุทธในดินแดนรอบนอกอันกว้างใหญ่สามารถเหินบิน ยกน้ำหนักได้เป็นสิบ เป็นร้อย หม้อน้ำ ทะลายภูผา พลังงานเหล่านี้มาจากไหน? การกินโจ๊กข้าว ผัก และ น้ำชาจะให้พลังงานได้ถึงระดับนั้น? แน่นอน มันเป็นไปไม่ได้! ด้วยความรู้จากโลก พลังงานได้รับการเก็บรักษาไว้ การทำให้ม้าวิ่งได้ ก็ต้องให้หญ้าม้ากิน ก็เป็นเช่นเดียวกันสำหรับผู้ฝึกยุทธ หากผู้ฝึกยุทธต้องการจะเคลื่อนภูผา ก็ต้องให้เขามีพลังงานในการเคลื่อนภูผา! เมื่อผู้ฝึกยุทธฝึกร่างกายของพวกเขา เขาก็ต้องกิน ทรัพยากรล้ำค่าบางอย่าง เนื้อสัตว์อสูร หรือกระดูกเดียวดาย อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการใช้พลังงานของผู้ฝึกยุทธจึงขึ้นอยู่กับอาหาร แต่เมื่อมาถึงขอบเขตของ ลมปราณรวบรวม ผู้ฝึกยุทธไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาหารเป็นแหล่งพลังงาน พวกเขาสามารถดูดซับพลังงานจากสภาพแวดล้อม เมื่อการบ่มเพาะสูงยิ่งขึ้น พวกเขาก็จะสามารถทะลายภูผา พลิกพื้นสมุทร ในเวลานั้น แหล่งพลังงานก็จะไม่ได้มาจากอาหาร แต่เป็นพลังงานที่มาจาก ลมปราณสวรรค์พิภพ หลังจากการปฏิบัติ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ไปสองรอบ เขารู้สึกร่างกายร้อนขึ้นและชุ่มด้วยเหงื่อ ราวกับกรรมกรใช้แรงงานหนักผู้หนึ่ง ในรอบที่สองของการปฏิบัติ “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” พลังงานของสัตว์อสูรกิเลนที่ดูดซับไว้ก็ถูกใช้ไปจนหมด พลังงานนี้ได้เข้าไปในร่างกายและบำรุงร่างกายของเขา…

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้

avatar
ไม่ระบุชื่อ 7 กรกฎาคม 2560 เวลา 07:55

หยุดแปลแล้วหรือครับ

avatar

ตอน62รอตอนติดตามยุนะคับ

avatar

อัพหน่อย อยากอ่าน