อี้หยุนไม่ได้ใส่ใจในความเห็นของชนเผ่าและบรรดาลูกสมุนของเหลียนเฉิงอยู่ เขารู้สึกประหลาดใจที่เหลียนเฉิงอยู่ไม่ลุกขึ้นมาเล่นงานเขาเหตุอะไรจึงเป็นเช่นนั้น?
อี้หยุนสังเกตเห็นว่าเหลียนเฉิงอยู่ซีดเซียว หรือว่าเขากำลังประสบกับภาวะบางอย่างทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ไม่เพียงแต่เหลียนเฉิงอยู่ไม่เคลื่อนไหว เหยาหยวนก็ยังคงไม่เคลื่อนไหว!
อี้หยุนไม่รู้ถึงเหตุผลว่าทำไมเหลียนเฉิงอยู่จึงไม่เคลื่อนไหวใดๆ และก็ไม่ใส่ใจในข้อสงสัยของผู้คนในความเป็นจริงนับเป็นโอกาสเหมาะสำหรับอี้หยุน ที่เหลียนเฉิงอยู่ไม่เคลื่อนไหวในวันนี้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นในเวลาอันสั้น ดังนั้นในไม่ช้าเขาก็จะเกินหน้าเหลียนเฉิงอยู่เมื่อเวลานั้นมาถึง ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเกรงกลัวเหลียนเฉิงอยู่ อี้หยุนไม่มีข้อสงสัยใดๆเลยเขาต้องชนะแน่แม้ว่าเหยาหยวนจะยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยว เขาก็ไม่กลัว!
การปรากฎตัวในวันนี้ ก็เพียงเพื่อที่ว่างสำหรับการคัดเลือกของอาณาจักรเท่านั้น ซึ่งก็ได้บรรลุจุดมุ่งหมายนั้นแล้ว
“นายน้อยเหลียน ท่านบอกว่าให้ข้าร่วมมือกับท่านทำให้เผ่าเหลียน อยู่ดีกินดี ถ้าเป็น
เช่นนั้น ท่านก็วางแผนให้ข้าได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกของอาณาจักรเช่นนั้นหรือ?”
อี้หยุนถามด้วยรอยยิ้มจางๆ
เหลียนเฉิงอยู่ถึงกับขมวดคิ้ว เขารู้ว่าเขาไร้ซึ่งเหตุผลและมันผิดปกติที่จะปฏิเสธต่อหน้าสาธารณชน จินหลงเหว่ยก็จะมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้และอี้หยุนก็ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาต่อหน้าชนเผ่าแล้ว
วัตถุประสงค์ของจินหลงเหว่ยในการคัดตัวเลือก คือเลือกผู้ที่แข็งแกร่ง ใครก็ตามที่
แข็งแกร่งหรือมีศักยภาพก็จะได้รับเลือก แน่นอนว่าพวกเขาจะยอมรับการมีส่วนร่วมของอี้หยุน
และสิ่งที่ต้องทำก็คือ แสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าราชทูตของจินหลงเหว่ย
เหลียนเฉิงอยู่ ไม่มีอำนาจในการตัดสินว่าจะใครจะมีส่วนร่วมในการคัดเลือกของอาณาจักร เพราะมันไม่ได้จัดขึ้นในเผ่าเหลียน
“แน่นอน! แต่อี้หยุน ระยะเวลาการบ่มเพาะของเจ้ายังสั้นนัก ข้าเพียงแค่จะให้เจ้าเข้ามี
ส่วนร่วมในการคัดเลือกของอาณาจักร เจ้าจะได้มีประสบการณ์ที่จะช่วยให้การเติบโตขึ้นในอนาคต”
“เจ้าอาจไม่รู้ว่าการคัดเลือกของอาณาจักรยากเพียงไร ในดินแดนนี้กว้างไกลนับพันไมล์ของทุกเผ่าชน จะมีผู้ได้รับเลือกเพียงยี่สิบคนเท่านั้น! ในจำนวนยี่สิบคน สามในสี่จะมาจากเผ่าเทาซึ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนแถบนี้!”
เผ่าเทามีทั้งผู้คนและทรัพยากร กระดูกเดียวดายอสรพิษเยือกแข็งของเหลียนเฉิงอยู่ก็
ได้มาจากเผ่าเทา! นอกจากทรัพยากรแล้ว การลงทุนเพื่อการศึกษาของเผ่าเทาก็ยังโดดเด่น ผู้มีความสามารถรุ่นใหม่ของเผ่าเทา อยู่ภายใต้การอบรมสั่งสอนของยอดยุทธโลหิตม่วงระดับกลางหรือไม่ก็ระดับสูงสุดในขอบเขตนี้พวกเขายังมีเคล็ดวิชาการบ่มเพาะที่เป็นมรดกตกทอดกันมาเผ่าเล็กๆจะสามารถไปแข่งกับเผ่าเทาได้อย่างไร?
ดังนั้นจากจำนวนเพียงยี่สิบคนนั้น จะเหลือสำหรับเผ่าเล็กๆเพียงสามหรือสี่คนเท่านั้น!
การเลือกสามหรือสี่คนจากหลายๆเผ่าเล็กๆเป็นโหลๆ เป็นอัตราส่วนที่น่าสงสาร!เหลียนเฉิงอยู่ยังพูดต่อไปอีกว่า
“เผ่าเทาเป็นเผ่าใหญ่ (เบฮาโมท) มีประชากรมากเป็นร้อยเท่า ใหญ่กว่าเผ่าเหลียนมาก! ผู้มีความสามารถรุ่นเยาว์บางคนในเผ่าเทาอยู่ถึงระดับโลหิตม่วง! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามคุณชายของเผ่าเทา พวกเขามีชื่อเสียงมาก! การไปแข่งกับพวกเขา สำหรับคนที่เกิดจากเผ่าเล็กๆมันเป็นไปไม่ได้ สำหรับการคัดเลือกของอาณาจักร หากเจ้าไม่ได้อยู่ในระดับห้าของโลหิตมนุษย์ปราณชีวันรวบรวม ก็ลืมมันเสียเถอะ”
แม้แต่เหลียนเฉิงอยู่ ผู้เคยล้มเหลวในการก้าวผ่านไปสู่ขอบเขตโลหิตม่วง ก็กำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดัน โลหิตมนุษย์เป็นไปไม่ได้ที่จะแข่งกับโลหิตม่วง พวกเขาสามารถแข่งกับคนที่อยู่ในขอบเขตโลหิตมนุษย์อย่างเดียวกันเท่านั้น ระดับห้าของโลหิตมนุษย์มันเป็นแค่ใบผ่านระดับกลางๆเท่านั้น
“เมื่อข้าผ่านการคัดเลือก ข้าจะช่วยเหลือเจ้า หากเจ้าสามารถประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นสิ่งดีสำหรับเผ่า”
เหลียนเฉิงอยู่พูดอย่างฝืนใจเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้อี้หยุนมีส่วนร่วมในการคัดเลือกของอาณาจักร เพราะมันหมายถึงว่า ในช่วงการคัดเลือกไม่มีทางใดที่เขาสามารถโจมตีอี้หยุนได้
นอกจากนี้ อี้หยุนยังก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว หากอี้หยุนได้รับความแข็งแกร่งมาจากวัตถุบางอย่างที่ได้มาเพราะโชคดีการก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นสร้างความกังวลใจให้กับเขา เขาไม่ชอบสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุม
เหลียนเฉิงอยู่อยากจะจัดการกับอี้หยุนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะเมื่อ
อี้หยุนยังไม่ได้เตรียมตัวได้อย่างเต็มที่เหลียนเฉิงอยู่ยังคงวิตกกังวลกับสิ่งที่อี้หยุนใช้ปกป้องชีวิต การฆ่าอี้หยุน ก็หมายถึงว่าสมบัตินั่นจะเป็นของเขา!
“ข้าขอบคุณนายน้อยเหลียนสำหรับ ‘คำแนะนำ’!”
อี้หยุนเน้นคำว่า “คำแนะนำ” บอกใบ้ถึงการเหน็บแนม
“แต่นายน้อยเหลียน ท่านดูไม่ดีนัก ท่านรู้สึกไม่ดีใช่ไหม?”
ขณะที่พูดอี้หยุนก้าวออกไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว เหลียนเฉิงอยู่ตื่นตระหนก อี้หยุนสงสัยว่า
เขาได้รับบาดเจ็บ!
“ครูฝึกเหยา!”
เหลียนเฉิงอยู่ตะโกนด้วยความโกรธ เหยาหยวนถอนหายใจแล้ว ส่งผ่านคำพูดไปถึงหูของอี้หยุนอย่างเงียบกริบ
“น้องชาย วันนี้ข้าจะไม่ประมือกับเจ้า นั่นเป็นเพราะข้านับถือเจ้าที่เป็นผู้ฝึกยุทธรุ่นเยาว์เจ้าก็คงจะไม่ต้องการทำเรื่องให้ยากใช่ไหม?”
คำพูดของเหยาหยวนทำให้อี้หยุนหยุดชะงัก เขาไม่รู้ว่าการส่งผ่านคำพูดอย่างเงียบกริบนี้ทำอย่างไร ดังนั้นเขาจึงมองไปที่เหยาหยวนเท่านั้นและประสานมือป้องหมัด
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเหยาหยวนจึงไม่เคลื่อนไหวใดๆ ถึงแม้ว่าเหยาหยวนจะเป็นหนึ่งในชนชั้นปกครองในเผ่าเหลียน เขาก็ให้ความรู้สึกของความกล้าหาญและมีเกียรติอย่างเข้มข้นและไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำอันเลวทรามที่ผ่านมาของเหลียนเฉิงอยู่
“ถูกของครูฝึกเหยา ข้าน้อยขอขอบคุณ ข้าน้อยชื่นชมท่านมาก ท่านนับเป็นคนแรกที่ทำให้ข้าสามารถก้าวไปข้างหน้าได้พบกันใหม่พรุ่งนี้เที่ยง ขออำลา!”
อี้หยุนพูดอย่างสุภาพต่อเหยาหยวน ความจริงแล้ว เหยาหยวนนับเป็นครูคนแรกของ
อี้หยุน เขาได้สอนเคล็ดวิชาการบ่มเพาะขั้นพื้นฐาน “หมัดซี่โครงมังกรกระดูกพยัคฆ์” ให้แม้ว่านั่นอี้หยุนจะแอบเรียนมันก็ตามที
อี้หยุนแทรกตัวผ่านฝูงชน มุ่งหน้าไปทางภูเขาสมุนไพรเผ่าเหลียน
หลังจากจบพูดคำเหล่านั้น เขาวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจียงเสี่ยวโหรว จึงไม่
ต้องการเปิดเผยสถานที่ตั้งของบ้านต้นไม้
เขาจึงกระโดดจากช่องเขาของภูเขาสมุนไพรลงไปในแม่น้ำตะวันออก และไหลตามกระแสน้ำไปทางน้ำตก เมื่อทำเช่นนี้ก็จะไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
——————–
เช้าวันรุ่งขึ้น อี้หยุนเปิดตาขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการนั่งสมาธิ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันนี้
ราชทูตของจินหลงเหว่ยจะมาที่เผ่าเหลียน นำพวกเขาไปสู่การคัดเลือกของอาณาจักร!
“หวินเอ๋อร์ ทำแค่ดีที่สุดก็พอ ไม่ต้องดึงดันให้มากไปกว่านั้น เจ้ายังเด็ก มีเวลาที่สมบูรณ์พร้อมรออยู่ข้างหน้า วันเวลาของพวกเราจะต้องดีขึ้นและดีขึ้น ดังนั้นต้องไม่ทำสิ่งใดๆออกไปด้วยอารมณ์…”
“ข้าทราบแล้ว พี่เซียวโยรว”
เมื่อรู้ว่าวันนี้เป็นวันที่อี้หยุนจะออกเดินทาง เจียงเสี่ยวโหรวจึงให้คำแนะนำแก่อี้หยุน เมื่อได้ยินคำพูดอันอบอุ่นเหล่านี้เขาก็พูดขึ้นว่า
“พี่เซียวโยรว ท่านต้องอยู่คนเดียวในอีกไม่กี่วันนี้ ข้าได้เตรียมอาหารไว้สำหรับท่านแล้วท่านอย่าได้ออกไปเดินข้างนอก”
อี้หยุนเดาว่า เขาคงจะไม่สามารถนำเจียงเสี่ยวโหรวไปด้วยได้ การเดินทางไปเผ่าเทาในครั้งนี้ก็เพื่อการคัดเลือกของอาณาจักร และ เขาก็เป็นเพียงผู้เข้าคัดเลือกที่ไม่สลักสำคัญ และคงต้องนั่งบนหลังพาหนะที่จินหลงเหว่ยมีให้มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะนำผู้ติดตามไปด้วย
โชคดีที่หลังภูเขาเผ่าเหลียนกว้างใหญ่มาก การซ่อนเจียงเสี่ยวโหรวไว้จึงเป็นเรื่องง่ายนอกจากนี้เหลียนเฉิงอยู่ก็ออกจากเผ่าเหลียน เพื่อมีส่วนร่วมในการคัดเลือกของอาณาจักรด้วยอี้หยุนจึงผ่อนคลายลง ตราบใดที่เจียงเสี่ยวโหรวยังซ่อนตัวอยู่ที่หลังภูเขา ที่นี่ปลอดภัยมากไม่มีสัตว์อสูรใดๆอยู่เลย และมาตรการป้องกันสุดท้าย อี้หยุนได้มอบยันต์ของผู้เฒ่าซูให้กับเจียงเสี่ยวโหรว
ยันต์ที่ทำจากกระดาษสีเหลืองขาดรุ่งริ่ง ราวกับกระดาษชำระ ที่อี้หยุนเก็บเอาไว้
ในตอนนี้ความหวังเดียวของเขาก็คือ ผู้เฒ่าซูเจ้าแก่โง่ชั่วร้ายนั่น คงไม่ได้เล่นตลกอะไร
กับยันต์นี้แล้วอี้หยุนก็จากมา เขาเป็นราวละมั่งเปรียวมุ่งตรงไปเผ่าเหลียนด้วยความรวดเร็ว!
เมื่ออี้หยุนมาถึงเผ่าเหลียน เหล่าชนชั้นสูงของเผ่าเหลียนทั้งหมด ได้ออกมาต้อนรับราชทูตของจินหลงเหว่ยราชทูตของจินหลงเหว่ยมาถึงเวลาเที่ยงตรงตามนัดหมาย เขาเป็นคนร่างกายสูงใหญ่ผิวสีคล้ำเปี่ยมด้วยพลังบัญชาการ ขับขี่พาหนะขนาดมาตรฐานของจินหลงเหว่ยมาถึงเผ่าเหลียน
“ผู้ใดที่จะเข้าร่วมในการคัดเลือกของอาณาจักร?”
ราชทูตกล่าวคำสั้นๆแฝงไปด้วยน้ำหนักในโทนเสียง คนทั้งสิบ รวมทั้งอี้หยุนกับ
เหลียนเฉิงอยู่ก้าวไปข้างหน้า
“ขึ้นมา!”
ราชทูตโบกมือเร่งรัด พาหนะของผู้เข้าร่วมทั้งสิบก็คือพาหนะของราชทูต แม้ว่ามันจะตัวสูง แต่มีผู้คนถึงสิบคน มันก็กลายเป็นที่แออัดมาก
ราชทูตของจินหลงเหว่ยนั่งอยู่บนหลังกว้างใหญ่ของสัตว์อสูร ในขณะที่ส่วนที่เหลือนั่งอยู่ด้านข้าง จริงๆก็คือที่บ่าทั้งสองข้าง แน่นอนว่าเหลียนเฉิงอยู่ได้เนื้อที่มากขึ้นจากสมาชิกทั้งแปดของค่ายฝึกยุทธ
เหล่าลูกสมุนทำให้แน่ใจว่าเจ้านายของพวกเขาได้รับความสะดวกสบาย เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของลูกสมุน สำหรับเนื้อที่อันจำกัด เหลียนเฉิงอยู่ยังได้รับความเพลิดเพลินกับพื้นที่ที่กว้างมาก อี้หยุนแทบจะไม่ได้รับเนื้อที่มากพอ เขาถูกบีบอยู่ตรงกลางระหว่างชายสองคน แต่อี้หยุนไม่ได้ใส่ใจกับมัน
ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้