True Martial World บทที่ 84 ดูดซับพลังงานอีกครั้ง

“ดูเหมือนว่าเขาสัตว์นี้จะถูกปิดผนึก และตอนนี้ผู้ทดสอบกำลังจะเปิดมันแล้ว!” เมื่อเห็นเส้นแสงของอักขร อี้หยุนก็เข้าใจ เมื่อตอนที่เขาได้รับศีรษะกิเลนจากผู้เฒ่าซู ผู้เฒ่าซูก็ทำสิ่งที่คล้ายแบบนี้ หลังจากได้กระดูกเดียวดาย เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงาน ผู้คนจึงได้ปิดผนึกมันไว้ ด้วยเคล็ดวิชาลับ พวกเขาเท่านั้นที่จะเปิดผนึกมันได้เมื่อต้องการเอาไปกลั่นหรือใช้มัน “เขาสัตว์นั่นต้องเป็นเขาของสัตว์อสูรเดียวดายแน่ๆ!” อี้หยุนคิดเช่นนั้น หากมันเป็นเขาของสัตว์อสูรเดียวดาย มันคงจะต้องเป็นอะไรบางอย่างที่น่าทึ่ง เพราะตอนนำผนึกออก มีจุดแสงที่มีสีสันปรากฏขึ้นจากเขาสัตว์นั่น! จุดแสงเหล่านี้สามารถเห็นผ่านการจับคู่ระหว่างอี้หยุนกับผลึกม่วงเท่านั้น พลังงานที่มีอยู่ภายในเขาสัตว์ ทำให้กระดูกเดียวดายอสรพิษเยือกแข็งของเหลียนเฉิงอยู่ดูด้อยไปเลย “พลังงานอันแข็งแกร่งนี่ข้าสงสัยว่าต้องเป็นของเขาสัตว์อสูรเดียวดายนั่นเป็นแน่” แล้วอี้หยุนก็ต้องสะดุ้งและเรรวน เมื่อตระหนักได้ว่าผู้เข้าร่วมที่อยู่ข้างๆเขากำลังประสาทเสีย พวกเขาบางคนกำลังอยู่ในสภาพเลวร้ายและซีดเผือด ความกลัวปรากฏให้เห็นในดวงตา ราวกับว่าพวกเขาเห็นอะไรบางอย่างที่น่าสพึงกลัว เมื่อผนึกถูกเปิดออกอีกอันแล้วก็อีกอัน โดยนิ้วมืออันรวดเร็วของจางตัน! สิ่งที่อยู่ในวิสัยทัศน์ของอี้หยุนก็คือจุดแสงสีนั้นมีมากขึ้นและมากขึ้น ผู้เข้าร่วมจำนวนมากขึ้นและมากขึ้นเริ่มตัวสั่นเทา! ทันใดนั้นจางตันก็หยุดแล้วกวาดสายตามองผ่านผู้คนรอบๆตัว แล้วพูดด้วยเสียงที่ทำให้ทุกคนเงียบกริบ “เริ่มการทดสอบ – การทดสอบแรก – ทดสอบวิญญาณ!” แล้วจางตันก็เปิดผนึกอันสุดท้ายด้วยการโบกมือ ขณะที่ผนึกอันสุดท้ายถูกเปิดออก อี้หยุนมองเห็นเสาแสงสว่างจ้าพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับดาบเสียบแทงทะลุเมฆ! “นี่มัน?” การแสดงออกของอี้หยุนเปลี่ยนแปลง และใช้เวลาหลายขั้นตอนกว่าจะกลับคืนมา! สำหรับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆรอบตัวอี้หยุน ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดและเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเยียบเย็น เข่าพวกเขาอ่อนลงไปจนต้องคุกเข่าอยู่กับพื้นดิน! มีแม้กระทั่งบางคนที่มีปัญหาเรื่องการหายใจ ฟันของพวกเขากระทบกันดังกึกๆ พวกเขารู้สึกเพียงพลังอันยิ่งใหญ่ที่มองไม่เห็นห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้ ทำให้พวกเขาจนหนทางที่จะออกมาจากความหวาดกลัว ส่วนผู้คนที่ยังยืนอยู่ได้ก็เริ่มถอยหลังด้วยร่างกายที่สั่นเทา หลังจากที่ถอยออกมาประ- มาณสิบเมตร พวกเขาก็หันไปรอบๆและออกวิ่ง! “มันเป็นสัตว์อสูรเดียวดายที่แข็งแกร่ง!” อี้หยุนตกใจ ในเวลานี้เขาตระหนักได้ว่าเสาแสงทำให้เกิดภาพหลอน! ภาพหลอนนี้ไม่ได้เห็นเฉพาะอี้หยุน แต่เป็นผู้เข้าร่วมทั้งหมด มันตัวใหญ่และมีแขนขาที่แข็งแรง ร่างกายของมันเผาไหม้ด้วยเปลวไฟสีน้ำเงิน ดูเหมือนเสือขาวที่มีขนาดใหญ่มาก และมีความน่าสพึงกลัวมากมายมหาศาล ทุกคนกลั้นหายใจ เมื่อเห็นภาพหลอนของสัตว์อสูรขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น สัตว์อสูรไม่ได้ขยับ แต่จ้องมองมาที่ทุกคนด้วยประกายสังหารอันแรงกล้า! ราวกับว่ามันจะออกจู่โจมได้ทุกเวลา เพื่อเริ่มต้นการเข่นฆ่าทำลายล้างของมัน! ในบรรดาผู้ไม่สามารถทนทานได้ เหมือนกับเหล่าสมาชิกค่ายฝึกยุทธที่กลัวอย่างน่า เวทนา ชายผู้มีความแข็งแรงยกหินน้ำหนักได้500 ปอนด์ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเย้ยหยันอี้หยุน ทรุดลงกับพื้น และปัสสาวะเรี่ยราดรดกางเกงจนมีกลิ่นเหม็น “อย่า… อย่ากิน…ข้า” ดูเหมือนว่าเขาหลงเข้าไปในภาพลวงตา และกลัวจนตัวสั่นไม่สามารถแม้แต่จะคลาน ออกไปได้จางตันพูดไว้ว่า การทดสอบนี้จะทำลายความเชื่อมั่นของผู้คน ในการฝึกวิชายุทธและทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ว่าพวกเขาจะหลบหนีออกจากความกลัวนี้ไปได้พวกเขาก็ไม่อาจไปได้ไกลเพราะพวกเขาไร้ซึ่งความสามารถ อี้หยุนยืนนิ่งและรู้สึกเย็น เขาสูดลมหายใจและมองไปที่จุดแสงพลังงานจากภาพหลอนที่ลอยมาหาเขา! แม้ว่ากระดูกจะดุร้ายน่าสพึงกลัว พลังงานของมันก็ถูกดูดซับโดยผลึกม่วงหลังจากผนึกถูกเปิดออก! เมื่อสังเกตเห็นว่าผลึกม่วงกำลังจะดูดซับพลังงานทั้งหมดมาจากเขาสัตว์ ใบหน้าของ อี้หยุนก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาเริ่มเชื่อมต่อกับผลึกม่วงทันทีเพื่อชะลอความเร็วในการดูดซับเมื่อไม่นานมานี้ อี้หยุนได้ดูดซับพลังงานภายในกระดูกเดียวดายอสรพิษเยือกแข็งจนทำให้เส้นลมปราณเกือบเสียหาย ดังนั้นมันจึงเป็นบทเรียนในการดูดซับพลังงาน เขารู้สึกว่าการดูดซับพลังงานทั้งหมดจากเขาสัตว์อะไรไม่รู้นี้ มันจะเหมือนกับหลายครั้งที่พลังงานของกระดูกเดียวดายอสรพิษเยือกแข็งระเบิดภายในร่างกายของเขาอี้หยุนจึงมุ่งเน้นไปที่การจัดการการไหลของพลังงาน ผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่อยู่รอบๆตัวจึงไม่ได้อยู่ในความสนใจอีก จางตันพูดไว้ว่า พวกที่ขาดวิญญาณ พวกเขาก็จะไม่อาจทนต่อกลิ่นอายอันน่าสพึงกลัวนี้ได้ บุคคลพวกนี้จะไม่อาจแสดงความแข็งแกร่งเต็มรูปแบบ เมื่อต้องเข้าสู่ดินแดนลึกลับ หรือในขณะที่ต่อสู้กับสัตว์อสูรเดียวดายหรืออะไรก็ตามทีเป็นแค่พวกสวะไร้ค่า แน่นอนว่า นอกจากพวกไร้ค่า ก็ยังมีพวกที่แข็งแกร่ง! ประมาณสี่ร้อยคนที่สามารถรับมือกับความกดดันนี้ได้และนอกจากพวกนี้ก็ยังมีอีก 100 คนที่รับมือได้อย่างสบาย ในกลุ่มนี้มีหลายสิบคนรวมทั้งเหลียนเฉิงอยู่ และเทาอวิ๋นเซียว ที่หัวเราะกับการเผชิญหน้ากับอุปสรรคดังกล่าว เทาอวิ๋นเซียวมองผ่านผู้คนที่อยู่รอบๆตัว ด้วยความรู้สึกเหยียดหยาม มันน่าเกลียดมากที่ได้เห็น บรรดาพวกไร้ประโยชน์แสดงท่าทางน่าเกลียดออกมา ต่อหน้ากลิ่นอายของสัตว์อสูรเดียวดาย เขาไม่แปลกใจที่ได้เห็นเหลียนเฉิงอยู่ยังยืนอยู่ด้วยความเชื่อมั่น แต่… โอ้? เทาอวิ๋นเซียวสังเกตเห็นว่าไม่ไกลจากเหลียนเฉิงอยู่ อี้หยุนก็กำลังยืนอยู่ สำหรับเด็กอายุสิบสองปีเป็นที่สังเกตได้ง่ายในฝูงชน อี้หยุนจึงดูน่าแปลกใจมากที่เขายังคงยืนอยู่ได้นอกจากเขาอยู่ในอาการงุนงง แต่ไม่มีสัญญาณของความรู้สึกไม่สบายใดๆ เทาอวิ๋นเซียวรู้สึกประหลาดใจ เหลียนเฉิงอยู่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า เจ้าเด็กคนนี้เพียงแค่เพิ่มความแข็งแกร่งโดยการกินสมบัติบางอย่างไม่ใช่หรือ? แล้วเขาสามารถทนต่อแรงกดดันรุนแรงของกลิ่นอายสัตว์อสูรเดียวดายได้อย่างไร? “น่าสนใจ!” เทาอวิ๋นเซียวแค่ยิ้ม เขารู้ว่านี่แค่เริ่มต้น แม้ว่าอี้หยุนจะดึงดูดความสนใจของเขา มันก็แค่การสังเกตคร่าวๆ เทาอวิ๋นเซียวไม่เห็นอี้หยุนเป็นคู่แข่ง ความจริงแล้วเทาอวิ๋นเซียว ไม่คิดว่าทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตโลหิตม่วงเป็นคู่แข่ง เขากำลังคิดจะแสดงโอ้อวดในการคัดเลือกของอาณาจักรได้อย่างไร และจะดึงดูดความ สนใจของบุคคลระดับบนของจินหลงเหว่ยได้อย่างไร ทันใดนั้น เขาสังเกตเห็นที่สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า แม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนนัก แต่มันคือเรือสีขาวที่ลอยได้เรือเหาะงั้นรึ? เทาอวิ๋นเซียวตะลึงงันเล็กน้อย เขาเคยอ่านเกี่ยวกับเรือที่บินได้นี้ในหนังสือ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมัน เรือเหาะนั้นเร็วมาก นอกจากนี้มันยังสามารถบรรทุกสินค้าและผู้โดยสารการมีเรือเหาะทำให้ง่ายต่อการเดินทางในดินแดนรอบนอก แต่คนทั้งเผ่าเทานับแสนครัวเรือน ไม่มีความสามารถที่จะซื้อมันได้ แม้มันจะถูกมอบให้เผ่าเทา พวกเขาก็ไม่มีความสามารถที่จะใช้ เพราะแหล่งพลังงานของเรือเหาะมาจากแก่นพลังกระดูกเดียวดาย! หากพวกเขามีแก่นพลังกระดูกเดียวดาย เผ่าเทาก็คงให้อัจฉริยะรุ่นเยาว์กินแล้ว พวกเขาจะซื้อมันเพื่อเป็นพลังงานให้เรือเหาะได้อย่างไร? บุคคลที่สามารถนั่งอยู่บนเรือเหาะที่มีราคาแพงมากได้ เจ้าของมันคงเป็นคนที่เข้ามา อาศัยอยู่ในเผ่าเทา… และบุคคลผู้นั้นเป็นที่คาดเดาได้ง่ายดาย ว่าคือหญิงสาวลึกลับชุดขาวคนนั้น! เทาอวิ๋นเซียวไม่รู้แม้แต่ชื่อของนาง แต่ได้เคยเห็นเพียงด้านข้างของนางจากระยะไกล แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้เทาอวิ๋นเซียว ไม่คิดเรื่องความรักและการพิชิตนาง หญิงสาวที่แข็งแกร่ง ที่มีภูมิหลังอันลึกลับ ผู้ซึ่งผู้บังคับบัญชาพันครัวเรือนจาง ให้ความเคารพนบนอบ แน่นอนอยู่แล้วที่จะกระตุ้นความสนใจ ของความหยิ่งผยอง ของเทาอวิ๋นเซียวหากเขาสามารถพิชิตนางได้มันก็จะเป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา และประการที่สอง มันเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบที่จะตอบสนองอัตตาของเขา ในฐานะบุคคลผู้มีจุดมุ่งหมายพิเศษที่จะออกจากอาณาจักรไทอา เขาจะไม่มีความคิด ซับซ้อนในการที่จะได้หญิงสาวที่ไม่ธรรมดาผู้นี้เป็นภรรยาไปได้อย่างไร?

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้