True Martial World บทที่ 9 การเปลี่ยนแปลงอันแปลกประหลาดของร่างกาย

ความแข็งทื่อกระจายมากขึ้น แขนขาของอี้หยุน ขยับไม่ได้แล้ว ท้องและหัวของเขาเริ่มไร้ความรู้สึก เขาไม่สามารถพูด เห็น หรือได้ยิน

เขารู้สึกเพียงใบหน้าเปียกด้วยน้ำตา

น้ำตาของเจียงเเสี่ยวโหรว นางร้องตะโกนด้วยพลังทั้งหมดในชีวิต แต่อี้หยุนเห็นปากของนางขยับเขยื้อนเพียงรางๆ กับเสียงยืดยานและไม่ชัดเจน!

อี้หยุนไม่อาจทนไหวอีกแล้ว ด้วยความมุ่งมั่น เขาใช้กำลังทั้งหมดที่ยังเหลือพยายามขยับลิ้นที่แข็ง พูดว่า

“เหลียน...เหลียนเฉิงอยู่...”

แม้ว่าเสียงของอี้หยุนจะไม่ชัดเจน เจียงเเสี่ยวโหรวก็ยังสามารถถอดความได้

“เหลียนเฉิงอยู่? เหลียนเฉิงอยู่ทำร้ายเจ้า?”

ทว่าอี้หยุนไม่สามารถพูดได้อีกแล้ว เขารู้สึกเหมือนเป็นศพ

ความแข็งชาแพร่กระจายไปยังหัวใจ หากหัวใจเขาแข็งชาและหยุดเต้น ชีวิตก็จบสิ้น!

อี้หยุนรู้สึกเหมือนปลาถูกตากแห้งทั้งเป็น เขาไม่สามารถเคลื่อนไหว กำลังจะหายใจไม่ได้ ทั้งหมดที่ทำได้คือรอความตาย

โดยไม่คาดคิด เพียงความรู้สึกแข็งชาแพร่กระจายไปที่หัวใจ

เขาก็รู้สึก ถึงความเย็นที่ค่อยๆแผ่ซ่าน ความเย็นที่สวยงามและคุ้นเคย เหมือนน้ำบริสุทธิ์จากฤดูใบไม้ผลิ กำลังชำระล้างร่างกายของเขา!

ผลึกม่วง! อี้หยุนเปรมปรีดิ์ มันเป็นความรู้สึกจากผลึกม่วง ในช่วงเวลาอันเลวร้าย เขามักจะรู้สึกถึงผลึกม่วง! ร่างกายของเขา โดนความแข็งชาเข้าควบคุมไปทั่ว แต่เป็นคราวเคราะห์ของมันที่มาถึงหัวใจของเขา เขาเก็บผลึกม่วงไว้ในอกเสื้อใกล้กับหัวใจเสมอ แค่ผลึกม่วงทำงาน

อี้หยุนรู้สึกเหมือนมีวังวนเล็กๆในหัวใจ นอกจากวังวนเล็กๆนี้ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่…..

“ฟ้าว!” (เสียงรัศมีของแสง)

โดยปราศจากการต่อต้าน เขารู้สึกว่าร่างกายเต็มไปด้วยแสง

ผลึกม่วง ส่งพลังงานทั้งหมดเข้าสู่เส้นลมปราณของเขา ทุกๆความแข็งชาสลายไป

เขารู้ทันทีว่าเขาเป็นปกติแล้ว สามารถเคลื่อนไหวแขนขาและไม่พบว่ามีสิ่งผิดปรกติใดๆ เขาเหงื่อท่วมเนื่องจากความกังวล

หายแล้ว? อี้หยุนไม่อยากเชื่อ แค่ผลึกม่วงทำงาน เขาก็หาย ภายในไม่กี่วินาที!

นี่….

ผลึกม่วง ทำให้ใจของอี้หยุนไร้คำพูด

ผลึกม่วง มันคืออะไรกันแน่?

“หยุนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรบ้าง อย่าทำให้ข้ากลัว!”

เดิมทีเจียงเเสี่ยวโหรว เห็นร่างกายของอี้หยุนแข็งชาและไม่ไหวติง แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาดูงุนงง ทำให้นางวิตกอย่างมาก

“ข้าสบายดี พี่เเสี่ยวโหรว ข้า….หายดีแล้ว….”

อี้หยุนกล่าวเพียงแค่นั้น เขาก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปรกติ เพียงจบประโยคสุดท้าย เขารู้สึกปั่นป่วนในท้อง

“อ๊อก!” โดยไม่มีคำเตือน อาการคลื่นไส้อย่างมาก ทำให้เขาอาเจียนออกมา ก่อนหน้านี้ เนื่องจากกระเพาะว่างเปล่า เขาอาเจียน เพียงน้ำย่อยในกระเพาะเท่านั้น

แต่เวลานี้ มันไม่ใช่อย่างนั้น เขาอาเจียนออกมาเป็นลิ่มเลือด สีดำกลิ่นเหม็นหืน!

สิ่งนี้ทำเจียงเเสี่ยวโหรวตื่นตระหนก ในโลกแห่งนี้การอาเจียน แบบนี้ เท่ากับการประกาศโทษประหาร

อี้หยุนอาเจียนไม่หยุด นอกจากอาเจียนเขาหลั่งเหงื่อที่ทั้งเหม็นและเหนียวออกมาด้วย มันคล้ายโคลนสีดำ

เมื่อเห็นอี้หยุนทั้งหลั่งเหงื่อและอาเจียน เจียงเเสี่ยวโหรวก็มิได้ สะทกสะท้านกับกลิ่นเหม็นที่เต็มบ้านไปหมด นางตะเกียกตะกาย เช็ดปากและลูบหลังของเขา

“หยุนเอ๋อร์ หยุนเอ๋อร์ อย่าทำให้ข้ากลัว เจ้าเป็นอะไรไป? เจ้าเป็นอะไรไป?”

เสียงของเจียงเเสี่ยวโหรวสั่นด้วยความกลัว

อี้หยุนไม่มีโอกาสตอบ จนเมื่อเขาอาเจียนเลือดสีดำออกมาหมด

ก็แปลกที่เขา ไม่ได้รู้สึกอ่อนเพลีย แต่กลับรู้สึกดีขึ้นมาก

นอกจากท้องว่างและหิวมาก เขารู้สึกสดชื่น อี้หยุนรู้สึกหิวราวกับจะกินแกะ และหมูย่างทั้งตัวได้หมด ถ้ามันวางไว้ตรงหน้า

“พี่ ข้าสบายดีแล้ว ข้าเพียงแค่หิว และ... ข้าอยากอาบน้ำ”

เหงื่อทั้งเหนียวทั้งเหม็นยึดติดร่างเหมือนเปลือกโคลนเหนียว ให้ความรู้สึกตะครั่นตะครอ

“หยุนเอ๋อร์ เจ้าหิวหรือ?”

เมื่อได้ยินอี้หยุนพูด เจียงเเสี่ยวโหรว ยินดีเป็นที่สุด

ในยุคโบราณสุขภาพวัดได้จากความสามารถที่จะกิน มันไม่สำคัญว่า “เหลียนปอ(หนึ่งในสี่ขุนพลยุคชุนชิว)จะแก่ ความอยากอาหารจะแก่ตามหรือไม่?” หรือ เป้าหมายของจูกัดเหลียง ที่ยับยั้งศัตรู ด้วยท่าทางเจริญอาหาร ทั้งสองอย่างให้ความหมายอย่างเดียวคือ ความอยากอาหาร เป็นเครื่องหมายของสุขภาพ เกณฑ์นี้ถูกนำมาอ้างอิง

เจียงเเสี่ยวโหรว เช็ดน้ำตา และรีบวิ่งไปเตรียมอาหาร ระหว่างกำลังต้มโจ๊ก นางเตรียมน้ำอาบ และทำความสะอาดอาเจียนของอี้หยุน

อี้หยุนอาบน้ำอย่างสบายเหมือนไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน มีสิ่งแปลกเกิดขึ้น หลังจากอาบน้ำ เขารู้สึกว่าสายตาดีขึ้น มองเห็นหยดน้ำบนต้นไม้ที่ห่างออกไปเกือบ 8 เมตรได้ถนัดชัดเจน

โอ้? อี้หยุนตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก่อนที่เขาจะคิดถึงมัน เขาได้ยินเสียง เจียงเเสี่ยวโหรวตะโกน

“โจ๊กเรียบร้อยแล้ว หยุนเอ๋อร์ มากินเถอะ!”

“ขอรับ!” อี้หยุนได้กลิ่นหอมๆของโจ๊กข้าว

มหัศจรรย์!

โจ๊กข้าวที่เขากลืนอย่างยากลำบากในอดีต หวานและรสชาติดีมาก

อี้หยุนจัดการโจ๊กข้าวไปสองชามใหญ่ และเขารู้สึกได้ถึงมันขณะกำลังถูกย่อยอยู่ในกระเพาะ เขายังคงหิว หลังจากจัดการโจ๊กไปแล้วสองชามใหญ่ แต่เขาก็รู้สึกสดชื่นและมีพลัง

“หยุนเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”

ข้างๆอี้หยุน เจียงเเสี่ยวโหรว มองดูเขากิน โดยไม่ได้กินด้วย นางคาดหวังว่า หยุนเอ๋อร์ของนางจะดีขึ้นจริงๆ!

ถึงเจียงเเสี่ยวโหรวจะไม่ใช่หมอ แต่นางก็รู้ว่าการรักษาเป็นเรื่อง เกี่ยวกับการระบายเลือดลม

เมื่อคิดอย่างรอบคอบ การที่อี้หยุนอาเจียนอาจเป็นสภาพที่น่ากลัว แต่เขาไม่ได้อาเจียนเป็นเลือดสดๆ แต่เป็นเลือดสีดำ ที่คั่งอยู่ในกระเพาะของเขา อาจจะดีที่เขาอาเจียนเลือดที่คั่งนั้นออกมา

นอกจากนี้เหงื่อที่ออกจากร่างกายของอี้หยุนก็สกปรกมาก อาเจียนเลือดคั่งค้าง หลั่งเหงื่อสกปรกออกมา

สวรรค์คงไม่หลอกหยุนเอ๋อร์นะ?

“พี่ ข้าสบายดี ไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อน….”

ก่อนอี้หยุนจะพูดจบประโยค เขาก็รู้สึกถึงร่างกายอันอ่อนนุ่ม กอดเขาไว้

“ดีจริงๆ ที่เจ้าหายแล้ว เจ้าทำข้ากลัว….” เจียงเเสี่ยวโหรว พูดเบาๆ

ในดินแดนรอบนอก ที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟัน การละเมิด และความตาย พวกเขามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้องเท่านั้น นางกอดอี้หยุนไว้แน่น ราวกับกลัวว่าหากปล่อยนางจะสูญเสียเขาไป

หลังจากกอดเขาอย่างยาวนาน เจียงเเสี่ยวโหรว เช็ดน้ำตาและ ตรวจอี้หยุนอย่างละเอียดละออ หลังจากเป็นที่พอใจแล้วว่า เขาไม่เป็นไร นางก็พูดว่า

“ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถึงชื่อ เหลียนเฉิงอยู่ เป็นเหลียงเฉิงอยู่ ทำร้ายเจ้า?”

อี้หยุนลังเลชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้า

“พี่เเสี่ยวโหรว ข้าคิดว่า เหลียนเฉิงอยู่ สนใจท่าน!”

คำพูดของอี้หยุนทำ เจียงเเสี่ยวโหรว อาย

“เจ้ายังเด็ก อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”

มันแปลก สำหรับเด็กอายุ 12 ปี ที่จะพูดแบบนั้น

“เหลียนเฉิงอยู่ ชั่วร้ายเกินไปแล้ว!”

เจียงเเสี่ยวโหรวขบกราม ขณะพูดขึ้นมา แต่นางไร้อำนาจต่อต้าน เขาแข็งแกร่งเกินไป เขาควบคุมผู้ฝึกยุทธทั้งหมดในเหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ

“ปัง!”

ทันใด มีเสียงดังเกิดขึ้น

เจียงเเสี่ยวโหรว ผุดลุกขึ้น หันไปมองประตูบ้านที่ถูกเตะ เปิดออก

บุรุษร่างกายกำยำก้าวเข้ามา…...

◀ บทที่เเล้ว หน้าหลัก บทต่อไป ▶

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้