True Martial World บทที่ 7 กระดูกอสูร

“หนาวมากเลย” เหล่าผู้รายล้อมตัวสั่นเทา หีบใบนั้นปลดปล่อยหมอกสีขาวออกมา ที่พวกเขาได้เห็นหลังจากหมอกจากลง คือโครงกระดูกใหญ่โตเป็นเงาวับอยู่ในหีบ ความเย็นกัดกร่อนออกมาจากกระดูกเหล่านี้!

“อะไรกันล่ะนั่น?”

พวกเขาต่างตกใจ ด้วยไม่เคยเห็นของเหล่านี้มาก่อน แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่า สิ่งนั้นคืออะไร แต่ก็คาดเดาได้ว่า มันต้องเป็นสมบัติสุดพิเศษ

“เหล่านี้ คือ กระดูกเดียวดาย!” เหลียนเฉิงอยู่ พูดด้วยความรู้สึกพึงพอใจ

“แสงประหลาดที่ได้เห็นก่อนหน้าใช้ปิดผนึกความเย็นของกระดูกเหล่านี้”

“กระดูกเดียวดาย? เหล่านี้คือ กระดูกเดียวดาย?”

คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อของ กระดูกเดียวดาย แต่อี้หยุนได้ทราบจาก คำอธิบายของเจียงเเสี่ยวโหรวแล้ว

ในดินแดนรอบนอกนี้ มีสัตว์อสูรรกร้างอันแข็งแกร่งอาศัยอยู่ บรรดาสัตว์อสูรรกร้างมีความสามารถทำลายเผ่าเล็กๆอย่างเผ่าตระกูลเหลียนได้อย่างง่ายดาย

สัตว์อสูรรกร้างแม้จะน่าสพึงกลัว แต่ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า สัตว์อสูรรกร้างเป็นสิ่งเสริมพลังอันยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามที ความอยากของผู้คนก็มีขีดจำกัด จะสามารถกินสัตว์อสูรรกร้างขนาดเล็กกว่าภูเขาเล็กน้อยนี้ ได้มากแค่ไหน?

หากโชคดี พวกเขาอาจรวบรวมกระดูกของพวกมัน นำไปผ่านกระบวนการพิเศษกลั่นให้เป็นแก่นพลังชิ้นเล็กๆ โครงกระดูกของสัตว์อสูรรกร้าง ถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุด ในร่างกายของมัน

เมื่อมองกระดูกเดียวดายภายในหีบ แม้จะเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนเล็กๆของซี่โครงสัตว์อสูรรกร้าง แต่ก็นับเป็นสิ่งล้ำค่า!

“นี่คือเหตุผลว่าทำไมของปันส่วนวันนี้จึงมีน้อยนัก เพราะว่า อาวุธและชุดเกราะที่นำไปแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ ใช้แลกกับกระดูกเดียวดายในหีบนี้! ความจริงแล้ว ลูกศรและชุดเกราะที่พวกเจ้าส่งมอบมานั้น แทบไม่เพียงพอที่จะแลกกับมันด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากประสบการณ์ภายนอกในวัยเยาว์ของข้า ที่ซึ่งข้าได้รับเคล็ดวิชาการบ่มเพาะ การแลกเปลี่ยนกับสิ่งนั้น ทำให้พวกเรา พอที่จะแลกเปลี่ยนกระดูกเดียวดายเหล่านี้ได้!”

ในระหว่างการพูดของเหลียนเฉิงอยู่ ผู้อาวุโสที่ยืนของข้างๆเขาได้ อธิบายคุณประโยชน์อันเลิศล้ำของกระดูกเดียวดายให้ทุกคนทราบ

ถึงแม้ว่าอาวุโสผู้นั้นจะอธิบายอย่างละเอียด แต่คนเหล่านั้นก็ไม่อาจยอมรับได้ กระดูกเดียวดายอาจยอดเยี่ยม แต่จะมีประโยชน์อะไรกับพวกเขา? พวกเขาไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าพวกเขาไม่มีส่วนร่วมอันใดในสิ่งที่กลั่นได้จากกระดูกเดียวดาย

“ข้ารู้ว่าทุกคน กังวลต่อชีวิตในอนาคต กังวลว่าจะต้องอดตาย ข้าเข้าใจ ในสถานการณ์ของทุกคน แต่คิดซิ หากว่าวันคืนเหล่านั้น สามารถสิ้นสุดลง ในดินแดนรอบนอกนี้มีชนเผ่าเล็กๆ มากมาย พอๆ กับทรายในทะเลทราย พวกเขาไม่มีแม้แต่กำลังที่จะปกป้องตัวเอง และอาจถูกทำลายได้ทุกเวลา!”

“ชนเผ่าตระกูลเหลียนก็เป็นหนึ่งในพวกเขา!”

“ทุกคนต้องการที่จะอยู่ในสภาวะล่อแหลมอย่างนี้ตลอดไป? กังวลถึงอาหารมื้อต่อไป กังวลว่าจะโดนสัตว์อสูรฆ่าระหว่างนอนหลับในยามค่ำคืน!?"

“ทุกคนต้องการชีวิตแบบนั้นจริง?”

คำพูดของเหลียนเฉิงอยู่ เต็มไปด้วยรูปแบบของการยั่วยุ หลายคนในเผ่ากำหมัดแน่น! ชีวิตที่ถูกบั่นทอน ถ้านรกมีจริง ก็คงต้องเป็นแบบนี้!

“ข้าทนพอแล้ว” ผู้คนต่างร้องตะโกน

“งั้นก็ดี! ข้าก็ไม่ต้องการชีวิตในรูปแบบนี้เช่นกัน! ตอนนี้มีโอกาสแล้ว จากนี้ไปอีกสามเดือน จักรวรรดิแห่งมนุษย์ อาณาจักรไทอาอันศักดิ์สิทธิ์ จะมีการคัดเลือกผู้ฝึกยุทธ! หากผ่านด่านทั้งหลายในการคัดเลือกได้ ก็จะกลายเป็น ยอดยุทธของอาณาจักรไทอาอันศักดิ์สิทธิ์!”

“นี่เป็นเกียรติและมันเป็นโอกาสดี!”

เมื่อกำลังพูดสิ่งเหล่านี้ ดวงตาของเหลียนเฉิงอยู่ ครุโชนด้วยเปลวไฟ!

อี้หยุนเข้าใจความหมายในดวงตานั้น มันคือความปรารถนาอันรุนแรงและความทะเยอทะยาน!

เหลียนเฉิงอยู่เป็นบุรุษผู้มีความทะเยอทะยาน เขาไม่ต้องการถูกกักขังไว้ในชนเผ่าเล็กๆ เขาต้องการออกสู่โลกกว้างไปสร้างชื่อให้ตัวเอง!

“ไม่แปลกใจเลย ที่เขาเต็มใจสละผู้คนในเผ่า เพียงเพื่อกระดูกเดียวดาย...เขาต้องการจะเข้าร่วมการคัดเลือกของอาณาจักรในอีกสามเดือน!”

อี้หยุนรู้แจ้งอย่างกระทันหัน เดิมทีเขาคิดว่า เหลียนเฉิงอยู่ อาจมีการสะสมสิ่งที่นำไปแลกเปลี่ยนกระดูกเดียวดายมาแล้วสักพัก แต่การณ์กับไม่เป็นเช่นนั้น เขาทำมันในครั้งเดียว “เขาฆ่าห่านทองคำ” เขาต้องการใช้กระดูกเดียวดาย ก้าวกระโดดสู่ความแข็งแกร่ง! แล้วคำพูดของเหลียนเฉิงอยู่ก็ยืนยันสมมติฐานของอี้หยุนได้อย่างรวดเร็ว

“ข้า เหลียนเฉิงอยู่ เกิดและโตมาในชนเผ่าตระกูลเหลียน เป็นบุตรหลานชนเผ่าเหลียน ข้าจะให้ทุกอย่างที่ข้ามีเพื่อชนเผ่าตระกูลเหลียน! เป็นโชคดี ที่ได้กระดูกเดียวดายเหล่านี้มา มันจะทำให้ข้าสามารถก้าวผ่านขีดจำกัด สู่การเป็น ยอดยุทธโลหิตม่วง ภายในสามเดือน เมื่อข้ากลายเป็นยอดยุทธโลหิตม่วง ข้าจะผ่านการคัดเลือกของอาณาจักรไทอาอันศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างง่ายดายกลายเป็น ยอดยุทธของอาณาจักร!”

“เมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจะสามารถป้องกันชนเผ่าเหลียนทั้งหมดได้และ เมื่อกลายเป็น ยอดยุทธของอาณาจักรไทอาอันศักดิ์สิทธิ์ ข้าสามารถนำชนเผ่าตระกูลเหลียน เข้าสู่ในเมืองของอาณาจักรไทอาอันศักดิ์สิทธิ์ และหากข้ามีผลงาน ในอนาคต ข้าอาจได้เป็นเจ้าของส่วนใดส่วนหนึ่งของเมือง และเมื่อมันเกิดขึ้น ทุกคนก็จะเข้าไปอยู่ในเมืองของข้า และมีชีวิตที่สะดวกสบาย!”

“ภายในสามเดือน ถูกต้อง เพียงอดทนเป็นเวลาสามเดือน เมื่อการคัดเลือกผ่านไป ข้าสัญญาว่า ทุกคนจะไม่ต้องกังวลกับชีวิตอีก! วันนี้ สำหรับทุกคนในเผ่าที่ยอมอดทนเพื่อข้า ข้าจะกลับมาตอบแทนให้เป็นร้อยเป็นพันเท่า!”

คำพูดของ เหลียนเฉิงอยู่ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สำหรับคนธรรมดาสามัญที่ยากแค้น ไม่สามารถมองทะลุเห็นถึงความทะเยอทะยานของเขาได้ พวกเขาจมอยู่กับสัญญาของอนาคตที่ดีกว่า และเริ่มฝันถึงวันนั้น

สามเดือน แค่เพียงสามเดือน พวกเขาก็จะได้เข้าไปอยู่ในเมือง? นี่เป็นความจริง?

“คนๆนี้ อาจจะเป็นนักการเมืองในโลกโน้นได้”

อี้หยุนเริ่มครุ่นคิด เขารู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่มีใครจะถามถึง ของปันส่วนอีกต่อไป สัญญาของเหลียนเฉิงอยู่ สร้างวิมานในอากาศ ทุกคนเงียบงัน

ไม่มีคำถามใดๆที่มีต่อ เหลียงเฉิงอยู่อีกแล้ว ผู้ยากไร้ผู้น่าสงสาร ชีวิตราคาถูก ถุงของปันส่วนสำหรับหลายชีวิต ถูกทดแทนด้วย คำสัญญาของเหลียนเฉิงอยู่ เป็นธรรมดาอยู่เองที่ต้องแลกมาด้วยหลายชีวิต

เหล่าผู้คนที่ทุกข์ยากและต่ำต้อย พวกเขาต้องการความหวัง เป็นหลักให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แม้จะเป็นเศษเสี้ยวแห่งความหวัง พวกเขาก็พร้อมที่จะเชื่อ ทุกคนก้มหน้ายอมรับชะตากรรม

เมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่ในสภาวะสับสน เหล่าสมุน ต่างกระโดด ตะโกนขึ้น ด้วยเสียงอันดัง

“นายน้อยเหลียนเฉิงอยู่จงเจริญ!”

ผู้คนผู้ทุกข์ทน พวกเขายินดีที่จะยอมสละชีวิตเพื่อให้แน่ใจว่าชีวิตลูกหลานของเขาต้องดีขึ้น

“นายน้อยเหลียนเฉิงอยู่จงเจริญ”

ไม่กี่คนตะโกนอย่างอ่อนแรง แต่ในขณะนั้นเอง ผู้คนก็เริ่มตะโกน และตะโกนมากขึ้น แม้กระทั่ง ผู้กังวลต่ออาหารมื้อต่อไปของพวกเขา ก็ร่วมตะโกนไปกับฝูงชน

นี่เป็นความเศร้าโศกของผู้อ่อนแอ พวกเขาไม่มีทางเลือก เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฝูงชน เหลียนเฉิงอยู่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

ตราบใดที่เขายังต้องการ ชนเผ่าเหลียนทั้งหมดจะต้องเป็นบันไดหินให้เขา และเขาก็ต้องการข้ามก้อนหินนี้ไปและสร้างตำนานของตัวเอง!

“เฉิงอยู่ ทำได้ดีมาก” บุรุษชุดเหลือง กล่าวขึ้นเมื่อเดินมาถึงด้านหลังของ เหลียนเฉิงอยู่

“ท่านปู่ ท่านไม่ต้องชมเชยข้า สำหรับเรื่องแค่นี้ หากไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ปวงชนเรื่องต่อไปก็ยากที่จะทำได้ การกลั่นกระดูกจะฆ่าหลายคน”

“ใช่แล้ว….” บุรุษเสื้อเหลืองถอนหายใจ เขารู้ดี เพื่อการกลั่นกระดูกจำต้องสละหลายชีวิต แต่ก็ไม่อาจคำนึงถึงจำนวนของผู้สูญเสีย โอกาสเช่นนี้จะสูญเสียไปไม่ได้!

“หนึ่งความสำเร็จ เกิดจากพันกระดูก ท่านปู่ทำไมต้องถอนหายใจ เผ่าจะจดจำการเสียสละของพวกเขา นอกจากนี้…...เมื่อมีคนตาย อาหารก็จะเหลือมากขึ้น ทนอีกสามเดือน ก็จะหมดปัญหาแล้ว”

การเสียสละ จะมีผู้คนมากเท่าใดที่ต้องเสียชีวิต ในแดนดินรอบนอกนี้? มดปลวกต้องสละชีวิตเพื่อสร้างวีรบุรุษ มันคุ้มค่าแน่นอน เพราะหนึ่งวีรบุรุษ สามารถคุ้มครองหลายมดปลวก โดยเฉพาะเมื่อวีรบุรุษ คือตัวเขาเอง!

คำเหล่านี้ของเหลียนเฉิงอยู่ จะไม่มีใครได้ยินนอกจากบุรุษชุดเหลือง

“หยุนเอ๋อร์ มีอะไรผิดปรกติหรือ?”

เจียงเเสี่ยวโหรว จับเขาเขย่า เมื่อสังเกตเห็นว่า อี้หยุนไม่ให้ความสนใจ

“เจ้ากำลังคิดกำลังคิดอะไรอยู่?”

“ไม่มีอะไร...”

อี้หยุนส่ายศีรษะ เขาตกอยู่ในภวังค์ ไม่ได้เป็นเพราะคำปราศรัยของ เหลียงเฉิงอยู่ หรือเพราะชะตากรรมของชนเผ่าเหลียน แต่เป็นเพราะเขาสังเกต เห็นจุดเล็กๆจางๆ ลอยไปมาคล้ายหิ่งห้อย ในยามค่ำคืนแสงเหล่านั้น เข้าไปในปากของเขาแล้วหายไป

หลังจากนั้นไม่นาน ความเย็นจากผลึกม่วงก็ชัดเจนมากขึ้น แน่ชัดว่า ผลึกม่วงกำลังดูดซับแสง เช่นเดียวกับ ผลึกม่วงดูดซับแสงดาวในยามค่ำคืน!

เมื่อมองหาแหล่งที่มาของแสง แท้จริงแล้วมัน…….

อี้หยุนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มันไม่ควรจะ…...
◀ บทที่เเล้ว หน้าหลัก บทต่อไป ▶

ไฟล์เสียหรือถูกลบบอกด้วยนะครับ เดียวจะเเก้ให้ สวนมีความเห็นอะไรหรืออย่าดูเรื่องไรก็โพทย์บอกได้